ข้อดีข้อเสียของการใช้ Apple Pay

Apple Pay ก็เป็น Application ช่วยเหมือนเป็นกระเป๋าตังค์ที่อยู่บนอุปกรณ์ iOS เช่น iPhone, iPad, Apple Watch, Mac ช่วยให้เรามีความสะดวกสบายไม่ต้องพกบัตรหลายๆใบทั้งบัตรเครดิต ทำนองนี้ เพราะใน Apple pay รวมทุกบัตรไว้ที่เดียวกันช่วยเราสามารถใช้จ่ายซื้อสินค้าบริการได้อย่างง่ายดายผ่านทาง App นี้ เราสามารถซื้อสินค้าได้อย่างปลอดภัยผ่านทาง App นี้บนเว็บไซต์ได้ ถ้ามีเงินเข้ามาจะมีการเพิ่มลงในบัตรกดเงินสด Apple Pay Cash สามารถกดเงินสดได้ทันที สามารถโอนยอดเงินคงเหลือในบัญชีตัวอย่างธนาคารได้อีกด้วย มีการใช้งานและมีความปลอดภัยมากขึ้น ทำให้การใช้จ่ายง่ายและรวดเร็วขึ้นปลอดภัยมากขึ้นด้วย สำหรับอุปกรณ์ iOSก็ใช้ในการยืนยันการชำระเงินได้ง่ายเช่นกัน สำหรับในประเทศไทยนั้น ถึงแม้ตอนนี้ยังไม่มีการประกาศแบบเป็นทางการจาก Apple ว่า Apple Pay จะใช้ได้เมื่อไหร่ แต่ทาง siampod ก็ได้นำเอา iPhone 6 ไปทดลองจ่ายเงินกับเครื่องที่รองรับการจ่ายเงินแบบ Tap&Go อย่าง Visa PayWave และ Mastercard PayPass ผลปรากฏว่าสามารถใช้งานได้

ข้อดีของการใช้ Apple Pay

https://fortunedotcom.files.wordpress.com/2017/07/480662252.jpg

เนื่องจากว่า Apple Pay เป็นสิ่งที่ใช้งานได้สะดวกคุณสามารถใช้ได้ทุกวัน สามารถซื้อสินค้าหรือยังคะภายในร้านค้าในแอปและบนเว็บ ซึ่งมันใช้งานได้เร็วกว่าบัตรเครดิต การใช้จ่ายไม่ควรหมายถึงการใช้เวลามากขึ้นในการลงทะเบียน แอปนี้สามารถใช้เพื่อซื้อสินค้าในแอปทุกประเภท ชำระเงินสำหรับการนั่งสั่งพิซซ่าหรือรองเท้าผ้าใบคู่ใหม่ แค่คุณสัมผัสมันก็จะเช็คเอาท์รวดเร็วง่ายและปลอดภัย ส่วนในเว็บไซต์คุณสามารถใช้ Apple Pay ได้โดยไม่ต้องสร้างบัญชีหรือกรอกแบบฟอร์มที่มีความยาว คุณสามารถใช้ Apple Pay เพื่อชำระเงินและรับเงินได้ทันทีใน Messages หรือโดยขอให้ Siri ไม่มีแอพให้ดาวน์โหลดและคุณสามารถใช้การ์ดที่คุณมีอยู่ใน Wallet ส่งเงินหนังสือให้ลูกชายของคุณในวิทยาลัย แบ่งบิล ชิปสำหรับเป็นของขวัญ ส่งและรับจากทั่วตาราง - หรือทั่วประเทศ ก็ง่ายเหมือนกับว่าคุณส่งข้อความ

ต่อผู้ใช้

ผู้ชายงานที่ใช้เทคโนโลยีและ Application ใหม่ๆ พวกเขาจะมีความสามารถในการเก็บข้อมูล ส่งข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าที่นักการตลาดควรให้ความสนใจ ซึ่งง่ายและสะดวกต่อผู้ใช้เพราะการเอาใจใส่ของผู้ขาย และเนื่องจากการเพิ่มลูกเล่นเพื่อกระตุ้นการใช้งาน ก็ทำให้ลูกค้าสามารถสะสม Point ซึ่งผู้ใช้รู้สึกสนุกกับการใช้จ่าย

ต่อผู้ประกอบการที่รองรับการใช้ Apple Pay

มันดีมากต่อลูกค้าเพราะมันสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น เพราะว่าเมื่อคุณพยายามทำให้ลูกค้าดาวน์โหลด App มาใช้งานและกระตุ้นให้เขาเปิดมาใช้งานบ่อยๆ นั่นก็ทำให้คุณมีโอกาสที่จะสื่อสารกับพวกเขาได้มากขึ้น คนไม่ต้องการ Application เลยด้วยซ้ำ เพราะ Apple Pay มีประโยชน์ที่ต่างออกไป ดังนั้นผลดีต่อพนักงานก็คือลูกค้าควรดาวน์โหลดแอปของคุณมาใช้และด้วยความง่ายดาย งั้นก็แสดงว่าคุณมีโอกาสมากขึ้นพี่จะชวนหลายคนเข้ามาใช้งานโดยดาวน์โหลด App มาใช้

ข้อเสียของการใช้ Apple Pay

ต่อลูกค้า

มันอาจจะยุ่งยากและมีหลายขั้นตอนนิดหน่อยแต่ก็เป็นเพื่อประโยชน์ของคุณและความปลอดภัยค่อนข้างสูง แล้ว Apple Pay ก็ยังต้องตัดส่วนแบ่งของค่าธรรมเนียมจากธนาคาร ช่วยเป็นตัวกลางให้ลูกค้าใช้จ่ายมากขึ้น

ต่อผู้ประกอบการที่รองรับได้การใช้ Apple Pay

ยังไม่เข้ามาไทย และยังไม่มีร้านค้าในไทยรับ Apple Pay ร้านค้าออนไลน์ก็เช่นเดียวกัน ยังคงจำกัดจำนวนอยู่, ธนาคารที่ร่วมรายการยังคงจำกัดอยู่, ไม่สามารถเติมเงินได้ด้วยเงิน, ไม่สามารถโอนเงินได้ถ้าไม่เชื่อมกับระบบออนไลน์

เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Apple Pay ไม่ได้รับการยอมรับแพร่หลายเท่าที่ควรในร้านค้าทั่วไป คือข้อเสียเรื่องระยะเวลาดำเนินการของระบบชำระเงินด้วยโทรศัพท์ที่ต้องรอนานเกินไป เมื่อเทียบกับระบบบัตรเครดิตที่ผู้ใช้สามารถรูดการ์ดได้เลย การจ่ายเงินด้วยโทรศัพท์ต้องผ่านการกดปุ่มหลายปุ่ม จุดนี้ทำให้หลายคนลืมไปว่าบริการ Apple Pay มีตัวตนอยู่ แต่ในธุรกิจออนไลน์นั้นไม่เหมือนกัน ทุกครั้งที่ผู้ใช้ต้องการซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ใด ลูกค้าจะต้องพยายามกรอกหมายเลขบัตรเครดิตด้วยตัวเอง รวมถึงที่อยู่สำหรับจัดส่งใบเสร็จรับเงิน จุดนี้ถือเป็นความไม่สะดวกที่ลูกค้าทั่วโลกต้องเผชิญ

พูดกันตามจริงแล้ว จากที่ผ่านมาเราจะเห็นว่า Apple คือหนึ่งในบริษัทที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงสำคัญๆ ได้ ในกรณีของ Apple Pay เราก็จะเห็นว่ามีร้านค้าปลีกจำนวนมากที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Apple ไปแล้วตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

นี่คือ 5 เรื่องที่นักการตลาดควรจะให้สนใจเกี่ยวกับ iPhone 6, iOS และ Apple Pay

1. เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น

จริงๆ แล้วต้องพูดว่าเข้าถึงกระเป๋าสตางค์ของลูกค้าได้ง่ายขึ้นมากกว่าด้วย ลองนึกดูว่าเมื่อคุณพยายามทำให้ลูกค้าดาวน์โหลดแอปมาใช้งานและกระตุ้นให้พวกเขาเปิดขึ้นมาใช้บ่อยๆ ได้สำเร็จ นั่นก็แปลว่าคุณมีโอกาสที่จะสื่อสารกับพวกเขาได้มากขึ้น แต่ในกรณีของ Apple Pay คุณไม่ต้องการแอปพลิเคชั่นเลยด้วยซ้ำ แต่อย่างไรก็ตาม คุณสามารถฝัง Apple Pay ลงไปในแอปพลิเคชั่นได้ด้วย หน้าที่ของคุณคือบอกเหตุผลดีๆ ที่ลูกค้าควรจะดาวน์โหลดแอปของคุณมาใช้ และด้วยความง่ายดายที่ Apple Pay มอบให้ คุณจะมีโอกาสมากขึ้น

2. ไร้รอยต่อระหว่างออฟไลน์กับออนไลน์

Apple Pay จะเป็นนำเอาประสบการณ์ใช้จ่ายทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์มารวมกัน คือใช้ได้ทั้ง NFC และ pay now เมื่อซื้อในระบบออนไลน์

3. การเพิ่มลูกเล่นเพื่อกระตุ้นการใช้งาน Mobile Payment

นักการตลาดอาจจะทำให้มันเป็นมากกว่าระบบการชำระเงินได้ด้วยการเพิ่มเอาโปรโมชั่นต่างๆ ใส่เข้าไปเพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้งาน หรืออาจจะมีการสะสม Point ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วมันน่าจะเป็นความสนุกอย่างหนึ่งของผู้ใช้งาน

4. ความปลอดภัย

จริงอยู่ที่ว่านักการตลาดไม่ใช่คนที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง แต่ในยุคนี้คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้า

5. ข้อมูลผู้ใช้งาน

เทคโนโลยีและแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ จะพ่วงมาด้วยความสามารถในการเก็บข้อมูล ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้านี่แหละที่นักการตลาดควรให้ความใส่ใจ

เนื่องจาก Apple Pay รองรับการจ่ายแบบ NFC เท่านั้น เครื่องรับชำระบัตรก็จะต้องรองรับการจ่ายแบบ Contactless เช่น Visa Paywave และ MasterCard Paypass ซึ่งมีร้านค้ารองรับน้อยมาก ยิ่งไปกว่านั้นในบางร้านที่รองรับ พนักงานกลับใช้ไม่เป็นและขอให้ลูกค้าชำระโดยการเสียบหรือรูดบัตรแทน สำหรับประเทศไทยในปัจจุบัน ไปซื้อ Samsung ติดไว้สักเครื่องมาใช้ Samsung Pay ที่รองรับ MST ด้วยจะดีกว่าครับ อย่างน้อยในทางเทคนิคมันก็ใช้ได้ทุกร้านค้า แค่ในทางปฎิบัติอาจจะต้องคอยสอนพนักงานแคชเชียร์ที่ไม่เคยรับชำระแบบนี้ครับ

ตั้งค่า Apple Pay

เริ่มต้นด้วยการเพิ่มบัตรเครดิตบัตรเดบิตหรือบัตรเติมเงินของคุณลงใน iPhone, iPad, Apple Watch หรือ Mac

นี่คือสิ่งที่คุณต้องใช้ Apple Pay ในภูมิภาคที่รองรับ :

• อุปกรณ์ที่มีสิทธิ์ของคุณ1
• บัตรที่รองรับจากผู้ออกบัตรที่เข้าร่วม
• iOS, watchOSหรือ macOSเวอร์ชันล่าสุด
• Apple ID ลงชื่อเข้าใช้ iCloud 2

หากคุณต้องการใช้ Apple Pay กับอุปกรณ์มากกว่าหนึ่งเครื่องคุณต้องเพิ่มการ์ดของคุณในแต่ละอุปกรณ์ ในการเริ่มต้นให้เลือกอุปกรณ์ของคุณด้านล่าง หลังจากที่คุณตั้งค่า Apple Pay บน iPhone หรือ Apple Watch คุณสามารถใช้การ์ดของคุณบนเว็บใน Safari 3ในMac บางรุ่นในขณะที่ลงชื่อเข้าใช้ iCloud ใน Apple Watch Series 3 และใหม่กว่าและ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus และใหม่กว่าคุณสามารถเพิ่มการ์ดได้สูงสุด 12 ใบในอุปกรณ์ คุณสามารถเพิ่มการ์ดได้สูงสุดแปดการ์ดในอุปกรณ์

ในสหรัฐอเมริกาคุณสามารถส่งและรับเงินกับเพื่อนและครอบครัวโดยใช้ Apple Pay และใช้ Apple Pay Cash บน iPhone, iPad หรือ Apple Watch ของคุณ 6 และคุณสามารถชำระเงินให้กับธุรกิจที่เข้าร่วมใน Business Chat บน iPhone, iPad หรือ iPod touch ของคุณ ในบางประเทศและภูมิภาคคุณยังสามารถเพิ่ม บัตรร้านค้าบัตรผ่านขึ้นเครื่องตั๋วภาพยนตร์คูปองบัตรรางวัลและบัตรประจำตัวนักเรียน ไปยังกระเป๋าเงินได้ ได้รับความช่วยเหลือ ในการเพิ่มบัตรของคุณเพื่อ Wallet

เพิ่มการ์ดบน iPhone ของคุณ

https://9to5mac.com/wp-content/uploads/sites/6/2017/12/how-to-set-up-apple-pay-cash-lead.jpg?quality=82&strip=all&w=1600

1. เพิ่มไอคอนไปที่กระเป๋าสตางค์และแตะ 2. ทำตามขั้นตอนเพื่อเพิ่มการ์ดใหม่ ชมการสาธิต เพื่อดูว่ามันทำงานอย่างไร หากคุณถูกขอให้เพิ่มการ์ดที่คุณใช้กับ iTunes การ์ดในอุปกรณ์อื่น ๆ หรือการ์ดที่คุณเพิ่งลบออกให้เลือกการ์ดเหล่านั้นจากนั้นป้อนรหัสความปลอดภัยการ์ด คุณอาจต้องดาวน์โหลดแอพจากธนาคารหรือผู้ออกบัตรของคุณเพื่อเพิ่มการ์ดลงใน Wallet 3. แตะถัดไป ธนาคารหรือผู้ออกบัตรของคุณจะตรวจสอบข้อมูลของคุณและตัดสินใจว่าคุณสามารถใช้บัตรของคุณกับ Apple Pay ได้หรือไม่ หากธนาคารหรือผู้ออกบัตรของคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อ ยืนยันบัตรของคุณพวกเขาจะขอให้คุณ เมื่อคุณมีข้อมูลให้กลับไปที่ Wallet แล้วแตะบัตรของคุณ 4. หลังจากธนาคารหรือผู้ออกบัตรยืนยันบัตรของคุณแล้วให้แตะถัดไป จากนั้นเริ่มใช้แอปเปิ้ลจ่าย

เพิ่มการ์ดบน iPad ของคุณ

1. ไปที่การตั้งค่า> Wallet & Apple Pay 2. แตะเพิ่มการ์ด 4 3. ทำตามขั้นตอนเพื่อเพิ่มการ์ดใหม่ หากคุณถูกขอให้เพิ่มการ์ดที่คุณใช้กับ iTunes การ์ดในอุปกรณ์อื่น ๆ หรือการ์ดที่คุณเพิ่งลบออกให้เลือกการ์ดเหล่านั้นจากนั้นป้อนรหัสความปลอดภัยการ์ด 4. แตะถัดไป ธนาคารหรือผู้ออกบัตรของคุณจะตรวจสอบข้อมูลของคุณและตัดสินใจว่าคุณสามารถใช้บัตรของคุณกับ Apple Pay ได้หรือไม่ หากธนาคารหรือผู้ออกบัตรของคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อยืนยันบัตรของคุณพวกเขาจะขอให้คุณ เมื่อคุณมีข้อมูลให้กลับไปที่การตั้งค่า> Wallet & Apple Pay แล้วแตะบัตรของคุณ 5. หลังจากธนาคารหรือผู้ออกบัตรยืนยันบัตรของคุณแล้วให้แตะถัดไป จากนั้นเริ่มใช้แอปเปิ้ลจ่าย

อ่านมาทั้งหมด เหมือนจะมีแต่เรื่องดี ข้อเสียของมันก็น่าจะมีเหมือนกันแต่ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงข้อเสียของมันในตอนนี้เพราะยังไม่ได้ทดลองใช้งานจริง ซึ่งประเด็นที่น่ากังวลก็มีเรื่องความปลอดภัยและ Apple Pay อาจจะเข้ากันไม่ได้กับทุกระบบการชำระเงินในช่วงแรก แต่ถึงอย่างไร Apple Pay ก็เป็นบริการที่มีประโยชน์ดังนั้นอยากให้เปรียบเทียบข้อดีข้อดีกันก่อนที่จะตัดสินใจใช้