วิธีการใช้ Google Pay

Google Pay บริการจ่ายเงินแบบออนไลน์ ซึ่งเป็นบริการที่ให้เราสามารถนำบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตมาผูกกับ Google Account และเมื่อต้องการจ่ายเงินซื้อของไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้งผ่าน Google Chrome หรือ Google Assistant รวมทั้งร้านค้าต่าง ๆ ที่รองรับ Google Pay ก็สามารถเลือกจ่ายด้วย Google Pay ได้ทันที (คล้ายๆ พวก PayPal กับ LINE Pay) ซึ่งมีข้อดีคือความสะดวกเพราะไม่ต้องกรอกข้อมูลและเลขบัตรเครดิต และยังมีความปลอดภัยกว่า เพราะ Google Pay จะไม่เปิดเผยเลขบัตรเครดิตให้ร้านค้าที่เราจ่ายเงินรู้ และยังมีการเข้ารหัสข้อมูลของผู้ใช้ไว้อย่างแน่นหนานั่นเองค่ะ

และในส่วนของแอป Google Pay นั้นเราจะสามารถดูประวัติการชำระเงินได้ว่าเคยจ่ายเงินซื้ออะไรไว้ที่ไหนเมื่อไหร่บ้าง รวมทั้งสามารถดูรายชื่อร้านค้าในละแวกนั้นที่รองรับ Google Pay สามารถดู Reward โปรโมชั่นส่วนต่าง ๆ รวมทั้งจัดการบัตรเครดิตที่ผูกไว้กับ Google Account ได้ด้วย

นอกจากนี้ในอนาคตกูเกิลจะเปิดให้สามารถโอนเงินให้คนอื่นผ่านแอป Google Pay Send ซึ่งเป็นแอปที่จะมาแทนที่ Google Wallet อีกด้วยค่ะ

วิธีการลงทะเบียนใช้ Google Pay

https://dl1.cbsistatic.com/i/2018/08/29/e65b3127-5ae7-4bc3-939f-f49bc78476fe/a728ec838aaf882cd49af334ec238308/googlepay.png

คุณใช้ Google Pay เพื่อดำเนินการดังต่อไปนี้ค่ะ

ชำระเงินค่าผลิตภัณฑ์ของ Google เช่น Photos และ Play ชำระเงินซื้อสินค้าอย่างรวดเร็วและง่ายดายด้วยโทรศัพท์ในร้านค้า (เฉพาะ Android) ในแอป หรือบนเว็บไซต์ต่างๆ ส่งหรือรับเงินจากเพื่อนและครอบครัว (สหรัฐอเมริกา/สหราชอาณาจักรเท่านั้น)

ตั้งค่าแอป Google Pay

ตั้งค่าแอป Google Pay ตามขั้นตอนต่อไปนี้

ตรวจสอบว่าโทรศัพท์ของคุณใช้ Android Lollipop เวอร์ชัน (5.0) ขึ้นไป

ดาวน์โหลดGoogle Pay

เปิดแอป Google Pay และทำตามวิธีการตั้งค่า เพิ่มบัตรเมื่อระบบขอข้อมูล ระบบอาจขอให้คุณตั้งค่าการล็อกหน้าจอบนอุปกรณ์ Android โดย Google Pay ใช้งานได้กับการล็อกหน้าจอด้วย PIN, รูปแบบ, รหัสผ่าน ลายนิ้วมือ หรือการปลดล็อกหน้าจอด้วยการสแกนม่านตา แต่จะใช้งานไม่ได้กับการล็อกหน้าจอแบบ Smart Unlock หรือ Knock to Unlock หากต้องการซื้อสินค้าในร้านค้า โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ของคุณมี NFC และเปิด NFC อยู่ นอกจากนี้โทรศัพท์เครื่องดังกล่าวยังต้องมี HCE ด้วย สำหรับผู้ใช้ E-Money ในญี่ปุ่น:อุปกรณ์ของคุณต้องใช้ร่วมกับ Osaifu-Keitai ได้ ส่วนผู้ใช้ QUICPay ต้องมี Osaifu-Keitai เวอร์ชัน 6.1.5 หรือสูงกว่า หากคุณมีแอปชำระเงินในร้านค้าอื่นๆ ในโทรศัพท์: ให้ตั้งค่า Google Pay เป็นแอปชำระเงินเริ่มต้นในแอปการตั้งค่าของโทรศัพท์ หากแอป Google Pay หายไปหลังจากที่เปิดแอปครั้งแรกอาจเป็นเพราะแอปไม่ได้อยู่ในหน้าจอหลัก หากต้องการให้หน้าจอแสดงแอป ให้ไปที่การตั้งค่าอุปกรณ์และเปลี่ยนการตั้งค่าหน้าจอหลักเป็นลิ้นชักหรือแสดงแอปทั้งหมด

วิธีการใช้ Google Pay

คุณเพิ่มบัตร บัญชีธนาคาร และวิธีการชำระเงินอื่นๆ ลงใน Google Pay ได้ บางฟีเจอร์ใช้งานได้กับ วิธีการชำระเงินบางวิธี เท่านั้น

ฟีเจอร์บางอย่างของ Google Pay

อาจยังใช้ในประเทศของคุณไม่ได้ มีให้บริการในอุปกรณ์บางชนิดเท่านั้น บัตรเครดิตและบัตรเดบิต

• American Express
• MasterCard
• Visa
• Discover (เฉพาะในสหรัฐอเมริกา)
• JCB (เฉพาะในญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา)
• Visa Electron (นอกสหรัฐอเมริกาเท่านั้น)
• บัตรเครดิต Elo (เฉพาะบราซิลเท่านั้น และไม่ยอมรับบัตรเดบิต Elo)

ประเภทบัตรที่บริการของ Google ยอมรับจะแตกต่างกันไปตามสถานที่และผลิตภัณฑและ คุณอาจสังเกตเห็นการเรียกเก็บเงินชั่วคราวจากบัตรของคุณเมื่อใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต. คุณเพิ่มวิธีการชำระเงินเหล่านี้ลงใน Google Pay ไม่ได้

• การโอนเงินระหว่างประเทศผ่านธนาคาร
• การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
• Western Union, Moneygram
• บัตรเครดิตเสมือน (VCC)
• บัญชีออมทรัพย์สุขภาพ (HSA)
• ระบบชำระเงินแบบเอสโครว์

ใช้ Google Pay ทำอะไรได้บ้าง

http://smartecky.com/wp-content/uploads/2018/07/28c494450ea931e05f6049b6144aa781.jpeg

Google Pay ใหม่นี้ได้ดึงเอาจุดเด่นจากทั้ง Android Pay เดิมคือเรื่องการชำระเงิน และเรื่องการจัดการบัตรต่างๆของ Google Wallet มาไว้ในแอพเดียว โดยข้อมูลของบัตรและบัญชีผู้ใช้จะถูกจัดเก็บไว้ใน Google Account และสามารถใช้ชำระเงินผ่าน Google products ต่างได้ไม่ว่าจะเป็น Chrome for web purchases, จ่ายค่าสมาชิกรายเดือนบน YouTube for renewing your subscriptions, ซื้อของผ่านแอพ Android for in-app purchases, และร้านค้าต่างๆที่มีเครื่องอ่านบัตรชนิดNFC payments เนื่องจากทาง Google Pay ใช้เทคโนโลยี Tokenization ที่เป็นมาตฐานตาม Visa, Mastercard, EMVCo

นอกจากจะรองรับการชำระเงินทั้งทางออฟไลน์และออนไลน์แล้ว ในอนาคตผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google ก็จะเชื่อมต่อและรองรับ Google Pay ด้วยอาทิ Chrome และ Google Assistant ขณะที่บริการเรียกเก็บเงินแบบ peer-to-peer Google Pay สามารถโอนเงินให้เพื่อนได้ผ่านแอพ Google Pay Send รอบนี้ Google ได้รวมฟีเจอร์นี้เข้าไว้ในแอพ Google Pay ดังนั้นผู้ใช้สามารถโอนหรือเรียกเก็บเงินจากตัวแอพ Google Pay ได้ทันที รวมถึงการแยกบิลจ่ายก็ง่ายขึ้นด้วย โดยเมื่อแตะที่รายการใช้จ่ายล่าสุดก็สามารถเลือกแยกบิลเก็บเงินจากเพื่อนได้สูงสุดถึง 5 คน (ฟีเจอร์นี้ยังคงใช้ได้เฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น)บันทึกบัตรเข้างานและบอร์ดดิ้งพาส มี Ticketmaster และสายการบิน Southwest ที่พร้อมให้บริการบัตรในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์บน Google Pay แล้ว และยังมี Eventbrite, Singapore Airlines และ Vueling ที่พร้อมรองรับในอนาคต ซึ่งเมื่อบันทึกบัตรเข้าชมงานต่าง ๆ ไว้แล้วก็สามารถใช้มือถือเป็นบัตรเข้าชมงานได้เลย โดยบัตรเหล่านี้จะอยู่ในแท็บ Passes รวมกับบัตรสะสมแต้ม, บัตรของขวัญ และบัตรอื่น ๆ บนแอพ Google Pay Google ได้รวมระบบจัดการ Google Pay ไว้ด้วยกัน โดยต่อไปนี้ไม่ว่าผู้ใช้จะเพิ่มหรือลบบัตรออกจาก Google Pay ก็สามารถทำได้ทั้งผ่านแอพหรือเว็บ pay.google.com ข้อมูลทุกอย่างจะถูกซิงค์ผ่าน Google Account ทันที และ Google Pay สามารถใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลของ Google ทำการจ่ายเงินบนแพลตฟอร์มได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการใด ๆ ก็ตาม ซึ่ง eBay ระบุว่ากลุ่ม Millennials และ Generation Z นั้นเป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายผ่านอุปกรณ์พกพาและเทคโนโลยีอย่างกระเป๋าเงินดิจิทัลซึ่งเติบโตไวมาก

สำหรับระบบจ่ายเงิน Google Pay นี้ eBay ระบุว่าจะเริ่มใช้ได้จริงช่วงต้นเดือนเมษายน ซึ่ง eBay เคยประกาศรับ Apple Pay ไปก่อนหน้านี้แล้ว และระบบจ่ายเงินทั้งสองแบบจะใช้งานได้เฉพาะผู้ขายที่ลงทะเบียนระบบจ่ายเงินแบบใหม่ของ eBay เท่านั้น

Google Pay สามารถใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลของ Google ทำการจ่ายเงินบนแพลตฟอร์มได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการใด ๆ ก็ตาม ซึ่ง eBay ระบุว่ากลุ่ม Millennials และ Generation Z นั้นเป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายผ่านอุปกรณ์พกพาและเทคโนโลยีอย่างกระเป๋าเงินดิจิทัลซึ่งเติบโตไวมาก

สำหรับระบบจ่ายเงิน Google Pay นี้ eBay ระบุว่าจะเริ่มใช้ได้จริงช่วงต้นเดือนเมษายน ซึ่ง eBay เคยประกาศรับ Apple Pay ไปก่อนหน้านี้แล้ว และระบบจ่ายเงินทั้งสองแบบจะใช้งานได้เฉพาะผู้ขายที่ลงทะเบียนระบบจ่ายเงินแบบใหม่ของ eBay เท่านั้น Google ประกาศเปิดตัวแบรนด์ออนไลน์และโมบายล์เพย์เมนท์ใหม่ในชื่อ Google Pay ซึ่งรวมเอาบริการของ Android Pay และ Google Wallet เข้าไว้ด้วยกัน

Google ระบุว่า Google Pay จะมีฟีเจอร์โอนเงินแบบ peer-to-peer ด้วย ขณะที่ผู้ให้บริการที่รับรอง Google Pay ตอนนี้มีอาทิ Airbnb, Dice, Fandango, HungryHouse ตัวแอปค่อนข้างเรียบง่าย แบ่งเป็น 2 แท็บหลักๆ คือ Home ซึ่งมีรายการใช้จ่ายล่าสุด, ร้านค้าที่รองรับ Google Pay ใกล้ๆ และระบบ Rewards ส่วนอีกแท็บคือบัตรเครดิตที่ลงทะเบียนไว้กับแอป ขณะที่ความปลอดภัยในการใช้งาน Google บอกว่าตัวแอปจะไม่แสดงเลขหน้าบัตรเมื่อใช้งานและข้อมูลที่ส่งให้ EDC จะถูกเข้ารหัสไว้ด้วย และหากมือถือหาย ก็สามารถล็อคและลบข้อมูลในเครื่องได้ผ่าน Find My Device และGoogle Pay เพิ่มฟีเจอร์ transit ticket หรือบัตรโดยสารสำหรับใช้กับการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะแล้ว ซึ่ง Google ได้เริ่มต้นให้บริการกับ Las Vegas Monorail ที่ตัวเครื่องอ่านบัตรแบบ contactless นั้นใช้เทคโนโลยี MIFARE ของ NXP

ผู้ใช้ Google Pay สามารถซื้อตั๋วโดยสารออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของ Las Vegas Monorail และบันทึกเข้า Google Pay ได้ทันที เมื่อต้องการเดินทางก็ใช้มือถือแตะกับเครื่องอ่าน contactless โดยไม่ต้องเปิดแอพ ก็สามารถเข้าใช้ระบบ Las Vegas Monorail ได้ และใน Google Pay จะแสดงข้อมูลต่าง ๆ ผู้ใช้สามารถดูธุรกรรมหรือการเดินทางย้อนหลังได้ รวมถึงหาสถานีโมโนเรลที่ใกล้ที่สุดได้ด้วยเช่นกันนั่นเองค่ะ

แถมยังมีStarbucks ให้บริการจ่ายเงินผ่านแอพมาตั้งแต่ปี 2011 แล้ว ซึ่งนอกจากระบบการจ่ายเงินด้วยบาร์โค้ดของ Starbucks จะสะดวกและรวดเร็วแล้ว ในตัวแอพยังมีสิทธิพิเศษต่าง ๆ ให้พร้อมแสดงข้อมูลการใช้จ่าย รวมถึงจัดการยอดเงินคงเหลือในบัตรและ star rewards ในแอพก็สะดวกและรวดเร็วจึงทำให้เป็นที่นิยมมาก โดยในปี 2017 มีผู้ใช้งานกว่า 20.7 ล้านคนทั่วสหรัฐฯด้วยนั่นเอง

อีกอย่างคือ Google Pay เพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับประเทศญี่ปุ่น คือรองรับบัตรเติมเงิน Suica ของ JR East และ WAON ของ AEON เพื่อใช้ระบบจ่ายเงินด้วยโทรศัพท์มือถือ เพิ่มเติมจาก nanaco และ RakutenEdy ที่รองรับไปก่อนหน้านี้แล้ว

การเพิ่มบัตรจ่ายเงินของญี่ปุ่นนี้ มีข้อจำกัดว่าโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้จะต้องรองรับ Osaifu-Keitai ซึ่งเป็นมาตรฐาน mobile payment ของญี่ปุ่นด้วย ส่วนวิธีการตั้งค่าตอนเพิ่มบัตรนั้น ข้อมูลจากบัญชีของ Google จะ autocomplete ให้อัตโนมัติ ผู้ใช้เพียงเติมข้อมูลที่เหลือเข้าไป บัตรเหล่านี้ก็พร้อมใช้งานได้ทันที ซึ่งในกรณีของ Suica สามารถใช้เดินทางได้กับขนส่งมวลชนเกือบทุกประเภทในญี่ปุ่น

สุดท้าย PayPal ประกาศร่วมมือกับ Google เพิ่มเติม จากเดิมที่เปิดให้ใช้งานผ่าน Google Pay มาตั้งแต่สมัยยังเป็น Android Pay รอบนี้ Google จะนำ PayPal มาเป็นระบบจ่ายเงินที่ผู้ใช้สามารถผูกกับบัญชีเพียงครั้งเดียวแล้วใช้งานได้กับบริการต่าง ๆ จาก Google

วิธีใช้งานคือผู้ใช้เพิ่ม PayPal เข้าไปในบัญชี Google Play จากนั้นก็สามารถใช้ PayPal จ่ายเงินกับบริการต่าง ๆ ของ Google รวมถึงการโอนเงินแบบ peer-to-peer ได้เลย ไม่ว่าจะเป็น Gmail, YouTube, Google Pay หรือ Google Store โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องล็อกอิน PayPal อีกครั้ง เพื่อให้ผู้ใช้สะดวกรวดเร็วในการจ่ายเงิน

สรุป ดังนั้นเราจะเห็นว่า google มีประโยชน์มากมายและเป็นความรู้ที่เราก็ควรรู้ไว้เช่นกัน ทั้งวิธีการใช้งานกูเกิลเพย์ และ วิธีการลงทะเบียนกูเกิลเพย์ อีกอย่างคือ กูเกิลเพย์สามารถทำอะไรได้บ้างซึ่งมีมากมายเลยทีเดียว หวังว่าทุกท้านจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากบทความนี้นะคะ