การที่บัตรเครดิตจะสร้างประโยชน์หรือสร้างโทษนั้น ก็คือขึ้นอยู่กับวิธีใช้งานของเราผู้ถือบัตร ซึ่งหากเราใช้อย่างมีสติและรู้จักวางแผนการใช้งานให้ดี ก็จะช่วยให้เราได้รับประโยชน์จากบัตรเครดิตได้ไม่ยาก แต่ตรงกันข้ามหากว่าเรานั้นใช้บัตรเครดิตตามอารมณ์ อยากได้อะไรก็รูดจ่ายเลย โดยไม่มีการวางแผนล่วงหน้า แบบนี้เราก็มีโอกาสที่จะได้รับโทษจากบัตรเครดิตมากกว่า ซึ่งโทษที่ว่านั่นก็คือ การเป็นหนี้บัตรเครดิตนั่นเอง ทุกวันนี้หลายคนคงต้องพบเจอกับปรากฏการณ์ที่มีคนจำนวนมากพอเงินเดือนออกปุ๊ปก็ต้องรอต่อแถวจ่ายหนี้บัตรเครดิตทั้งหลายกันจนแน่นขนัดไปหมด หลายคนต้องเคร่งเครียด วิตกกังวล และกลุ้มใจกับปัญหาหนี้สินจำนวนมาก จนรายได้ และเงินเดือนที่ได้ต่อเดือนไม่สามารถผ่อนชำระอะไรได้อีกแล้ว จนทำให้มีหนี้เต็มไปหมด บัตรเครดิตตอนใช้มันช่างสะดวกสบาย เดี๋ยวก็รูด เดี๋ยวก็รูด แป๊ปเดียวซื้อของมาเต็มไม้เต็มมือ แต่พอถึงวันจ่ายเงินคืนนี้แสนจะปวดใจ เพราะยอดหนี้บัตเครดิตสูงทะลุเพดาน แล้วจะหาที่ไหนมาจ่าย นี้แหละที่เค้าว่าตอนใช้ไม่คิด มาคิดเมื่อสายไปเสียแล้ว สุดท้ายก็ต้องจ่ายยอดขั้นทำพอให้เอาตัวรอดในเดือนนั้นไปได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยดอกเบี้ยแสนแพงมหาโหด ยิ่งเป็นหนี้นานดอกเบี้ยก็ยิ่งบาน ดังนั้นเราจะมาดูกันดีกว่า ว่าวิธีใช้บัตรเครดิตไม่ให้เกิดหนี้นั้นมีวิธีข่วยอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย!!

credit card debt

Kite_rin/shutterstock.com

เลือกใช้บัตรเครดิตให้ตรงกับความต้องการ และรูปแบบการใช้งาน

เลือกใช้บัตรเครดิตให้ตรงกับความต้องการ และรูปแบบการใช้งาน

เมื่อเรามีความจำเป็นที่ต้องใช้บัตรเครดิตแล้ว อยากจะแนะนำว่าให้ตรวจสอบการใช้งานของบัตรเครดิตนั้นเป็นหลักว่า ส่วนใหญ่ใช้งานรูปแบบไหน ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่าไฟค่าน้ำหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรทำนองนั้น เพราะในแต่ละบัตร และแต่ละธนาคารจะมีสิทธิพิเศษที่แตกต่างกันนั่นเอง ดังนั้นบางบัตรอาจให้เราสามารถผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ 0%หรือตามที่บอกไปนั้น และบางบัตรยังอาจให้เงินเราเมื่อเติมน้ำมันผ่านบัตรเครดิต ก็ให้เลือกบัตรที่ตรงกับความต้องการของเรา และค่าใช้จ่ายด้วย และนอกเหนือจากนี้ โปรโมชั่นของบัตรเครดิต ก็ยังเป็นเรื่องที่เราควรที่จะนำมาคิดอย่างรอบคอบในการตัดสินใจด้วย ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดต่างๆ เครดิตเงินคืน และการผ่อน 0% และบางบัตรยังให้สิทธิพิเศษต่างอีกด้วยเช่น จอดรถในห้าง ฟิตเนสฟรี โยคะฟรี สะสมไมล์สายการบิน ช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือ มีประกันอุบัติเหตุฟรี นี่จะได้ประหยัดและไม่เสียประโยชน์เลยด้วย ซึ่งเราก็จะเลือกบัตรที่เหมาะกับตัวเองให้มากที่สุดด้วย เช่น บัตรเครดิตดอกเบี้ยต่ำ ก็จะเหมาะสำหรับคนที่คิดว่าตัวเองไม่สามารถจ่ายเงินได้เต็มจำนวนในทุกรอบบิล หรือบัตรเครดิตแบบสะสมแต้ม ก็จะเหมาะสมสำหรับคนที่ชอบ ซื้อของเพราะสามารถใช้แต้มที่สะสมสมที่ได้จากการรูดบัตร ไปแลกของขวัญรางวัลหรือรับเงินสดคืนเข้าบัญชีหลังจากใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตนั้นนั่นเอง และต้องรู้เข้าใจการใช้บัตรเครดิตอย่างถูกต้องยกตัวอย่างเช่นกรณีการเบิกถอนเงินสด ผ่านบัตรเครดิตนั้นเราสามารถทำได้แต่ให้รู้ไว้เลยว่าธนาคารต้นสังกัดของบัตรเครดิตนั้นจะคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการกดเงินสดทันทีที่ ถ้าเรากดเงินสดออกจากเครื่องเอทีเอ็มแล้วยังมีวิธีการคิดดอกเบี้ยที่ซับซ้อนกว่าการใช้บัตรเครดิตรูดซื้อสินค้าทั่วไปอีกด้วยเราควรใช้บริการเบิกเงินสด ในกรณี ฉุกเฉินเท่านั้น เพราะถ้าเรากดเงินสดล่วงหน้าบ่อยครั้งโดยที่ไม่จำเป็นเลยก็จะทำให้เรามีหนี้สินมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว

วางแผนการใช้จ่าย

วางแผนการใช้จ่าย

เราต้องทำความรู้จักกับการทำบัญชีรายรับรายจ่ายด้วยเราต้องทำความรู้จักกับการทำบัญชีควบคุมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ควบคุมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตไม่ให้เกินเงินที่มีอยู่ หรือไม่เกินกำลังซื้อของตัวเอง เราขอแนะนำว่าเมื่อไหร่ ที่สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ที่เราจะต้องผ่อนจ่ายนั้นเกินจำนวนเงินที่กันไว้เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ขอให้ ลองถามตัวเองว่าสิ่งที่เราต้องผ่อนจ่ายนั้นมันเป็นความต้องการของตัวเองหรือว่าจำเป็นจริง? เพราะบางทีเราเองก็มีความต้องการที่จะอยากซื้อนั่นซื้อนี่และไม่ได้คิดว่าใช้เงินเกินที่กันเอาไว้และทำให้เรารูดบัตรอย่างพร่ำเพรื่อ เพื่อ สนองความต้องการของตัวเองเราควรเก็บบัตรไว้ใช้สำหรับของที่จำเป็นและต้องคำนึงอยู่เสมอว่าการใช้บัตรเครดิตเหมือนกับการใช้เงินสดเลยพยายามห้ามใช้จ่ายเงินเกินไปกว่าที่เราจะหามาได้ในแต่ละวัน ดังนั้น เมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตควรที่จะกันเงินสดหรือวางแผนการการเงินสดไว้สำหรับจ่ายหนี้บัตรเครดิต เมื่อถึงกำหนดชำระเราจะต้องสามารถวางแผนการชำระหนี้บัตรเครดิตของเราได้ตรงเวลาและหมดปัญหากับเรื่องการไม่มีเงินพอสำหรับการใช้จ่ายนี่บัตรเครดิตอีกต่อไปนั่นเอง และมีอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญด้วยคือเราควรตั้งกฎให้ตัวเองว่าต้องจ่ายเงินสดลองตั้งกฎให้ตัวเองว่าจะมีการใช้จ่ายบัตรเครดิตเท่าไหร่ในแต่ละเดือนและสำรองเงินสดไว้หรือจะดีที่สุดก็คือการใช้จ่ายต่างๆด้วยเงินสดของเราเพราะเมื่อเราใช้จ่ายหรือคุณสุดเราจะไม่ต้องกังวลกับดอกเบี้ยบัตรเครดิต เงินสดนั้น จ่ายครบจบทันทีแต่ถ้าทำแบบนี้เราอาจจะต้องยอมตัดใจเรื่องแต้มสะสมที่อาจจะได้จากบัตรเครดิตแต่การจ่ายเงินสดนั้นจะสร้างความสบายใจและประโยชน์ให้เรามากกว่าแน่นอน บริหารเงินสดที่มีอยู่ รู้ทันบัตรเครดิต เกี่ยวกับการจัดการบริหารเงินในกระเป๋า เพราะการที่เราใช้บัตรเครดิตจ่ายชำระค่าสินค้าค่าอาหารไปก่อนนั้น เท่ากับว่าเรายังมีเงินสดที่จะต้องเอามาจ่ายตรงนี้เก็บไว้ ดังนั้นเมื่อถึงกำหนดที่ต้องชำระเราควรจะเอาเงินส่วนนี้ไปจ่ายคืนบัตรให้หมด แนะนำว่าต้องชำระให้เต็มยอดใช้จ่ายจริงและต้องตรงตามกำหนดจ่ายด้วย ถ้าหากเราจ่ายไม่ครบก็จะโดนคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงินนั้นตั้งแต่เริ่มไปจนกว่าจะผ่อนหมด และถ้าหากชำระเงินเกินระยะเวลาที่กำหนดก็ถูกเก็บเบี้ยปรับเพิ่มไปอีก

มีบัตรเครดิตเท่าที่จำเป็นเท่านั้นไม่ใช้บัตรเครดิตหลายใบ

มีบัตรเครดิตเท่าที่จำเป็นเท่านั้นไม่ใช้บัตรเครดิตหลายใบ

บางคนมีบัตรเครดิตหลายใบมากและเกินความจำเป็นจึงทำให้เกิดหนี้ในบัตรเครดิตมากมาย เพราะส่วนมากจะจำไม่ได้ใช้บัตรเครดิตใบไหนไปบ้าง บัตรไหนชำระไปแล้ว ลัวบัตรไหนที่เราชำระไปแล้ว คิดตามแล้วคงวุ่นวายใช่ไหม? นี่เป็นผลทำให้โดนเรียกเก็บดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมในแต่ละปีมากมากแน่นอน ดังนั้น เราควรมาคิดพิจารณาดูว่าควรเลือกบัตรแบบไหนที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี หรือดอกเบี้ยต่ำหรือมีการคืนเงินกลับเข้าบัญชีให้เมื่อใช้เยอะๆ จะดีที่สุด แล้วรู้หรือไม่ ? การมีบัตรเครดิตหลายใบนั้น ถือเป็นการเพิ่มโอกาสการเป็นหนี้สูงมากกว่ามีใบเพียงแค่ 1 – 2 ใบ เพราะหลายกรณีที่ผู้ใช้ไม่สามารถจ่ายเงินได้ทัน ก็จะเริ่มมองหาการกดเงินสดจากบัตรเครดิตใบอื่นเพื่อมาจ่ายยอดหนี้ของบัตรอีกใบ หรือเมื่อยอดวงเงินของบัตรเครดิตเต็มจำนวน ก็จะรูดใบใหม่ กลายเป็นการหมุนวนไปอย่างไม่สิ้นสุด มองเผินๆ เหมือนจะเป็นวิธีที่ดี แต่หลังจากถูกดอกเบี้ยทบไปเรื่อยๆ แล้ว ในที่สุด เราจะไม่สามารถหาวงเงินที่ไหนมาจ่ายได้อีก ทำให้กลายเป็นหนี้ที่ใหญ่โตเลยทีเดียว

เลือกใช้บัตรเครดิตที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี รู้ทันและวางแผนก่อนถึงรอบตัดบัตรเครดิต

เลือกใช้บัตรเครดิตที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี รู้ทันและวางแผนก่อนถึงรอบตัดบัตรเครดิต

บัตรเครดิตแต่ละใบแต่ละเจ้านั้นก็มีโปรโมชั่นและเงื่อนไขบัตรที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นก่อนที่เราจะเลือกใช้บริการบัตรเครดิตของเจ้าไหนก็ควรที่จะใส่ใจเรื่องของค่าธรรมเนียมรายปีด้วย ซึ่งค่าธรรมเนียมรายปีนี้เป็นค่าธรรมเนียมที่บัตรเครดิตจะคิดจากเราเมื่อเรามีการใช้จ่ายผ่านบัตรไม่ถึงหรือเป็นจำนวนเท่าไหร่ๆตามที่เงื่อนไขกำหนด แต่โดยส่วนใหญ่บางบัตรเครดิตก็จะบอกว่าเราสามารถแจ้งขอยกเว้นชำระค่าธรรมเนียมรายปีได้ แต่เราจะต้องคอยดูเวลาที่ตัดบัตรครบรอบปีแล้วติดต่อเอง ซึ่งถ้าเราลืมแจ้ง บางนาเผลอๆไปรู้ตัวอีกทีก็โดนตัดค่าธรรมเนียมรายปีไปเสียแล้ว ดังนั้นการที่เราเลือกใช้บัตรเครดิตที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีก็ช่วยให้เราไม่ต้องมานั่งเสียเวลากับเรื่องนี้ วงเงินของบัตรเครดิตแต่ละใบที่เรามีอาจจะไม่เท่ากัน และวันที่บัตรเครดิตตัดรอบบิลก็ไม่เหมือนกันด้วยเช่นกัน ดังนั้นเราจึงควรจดวันครบกำหนดรอบบิลของบัตรทุกใบ เพื่อเป็นการวางแผนการใช้งานบัตรเครดิตที่เรามีให้คุ้มค่า เพราะถ้ารอบตัดบัตรของเราเป็นช่วงต้นเดือน กลางเดือน หรือปลายเดือนที่ไม่ตรงกัน ก็จะทำให้เราสามารถมีเครดิตวงเงินที่ใช้ได้ต่อไปตามระยะห่างของบัตรแต่ละใบ และเราก็จะสามารถบริหารการใช้เงินในการชำระค่าบัตรเครดิตได้ ไม่ต้องมานั่งจ่ายทีเดียวพร้อมกันเป็นก้อนใหญ่แล้วก็กินแกลบไปทั้งเดือนยังไงล่ะ

ตั้งกฎกับตัวเองและสร้างวินัยทางการเงินของตัวเอง

ตั้งกฎกับตัวเองและสร้างวินัยทางการเงินของตัวเอง

มาถึงขั้นตอนสุดท้าย และสำคัญสุดๆเรื่องวินัยการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทุกครั้งนั้น เราควรที่จะพิจารณาถึงความจำเป็นให้ดีเสียก่อน เพราะทุกครั้งที่เราใช้บัตรเครดิตนั่นแปลว่าเราได้เอาเงินในอนาคตมาใช้และจะต้องเอาเงินไปจ่ายทีหลัง ซึ่งก็เหมือนกันการเป็นหนี้ล่วงหน้า แต่ถ้าเรารู้ทันบัตรว่ามีรอบการใช้งานอย่างไร เราสามารถนำเงินที่เหลือมาจ่ายยอดที่ใช้ไปอย่างไรให้ทัน ก็จะเป็นข้อดีแทน แต่ก็ยังย้ำว่าต้องมีวินัยในการใช้เงินแบะคิดให้รอบคอบก่อนเท่านั้นจึงจะเห็นประโยชน์นั่นเอง และต้องจ่ายบิลตรงเวลา หากเราต้องการขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่ใช้บัตรเครดิตอย่างมีวินัย เราต้องชำระเงินก่อนครบกำหนดเสมอ อย่างน้อยคือจ่ายขั้นต่ำ แต่ยิ่งดีไปกว่านั้นคือการจ่ายบิล "เต็มจำนวน" ตลอด ที่จะทำให้เราทั้งเครดิตสกอร์ดี และเป็นลูกหนี้ชั้นดีของธนาคารอีกด้วย การมีวินัยในการจ่ายชำระคืนก็ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การใช้บัตรเครดิตของเรานั่น ห่างไกลจากหนี้ และนอกจากนี้การจ่ายคืนครบตามจำนวนและไม่เกินกำหนดเวลาจ่ายก็จะส่งผลให้ประวัติการเงินของเราดีอีกด้วย ประวัติการเงินที่ดีส่วนนี้จะถูกบันทึกไว้ที่ เครดิตบูโร ซึ่งจะส่งผลดีแก่ตัวเราเมื่อเราต้องทำธุรกรรมการเงินกับทางธนาคาร เช่น การขอสินเชื่อ การกู้ เป็นต้น เพราะจะเป็นการเพิ่มความมั่นใจในความรับผิดชอบต่อหนี้ของเรามากขึ้น อันอาจจะส่งผลให้ทางธนาคารอนุมัติธุรกรรมที่เรายื่นขอไปอย่างไม่ยากเลย

สรุป การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทุกครั้งเราควรจะนึกถึงสิทธิประโยชน์ที่เราจะได้รับเสมอ เพื่อที่จะเพิ่มมูลค่าการจ่ายเงินของเราให้มากขึ้นจากเงินจำนวนเท่าเดิม ดังนั้นเราควรหมั่นเช็คว่าบัตรเครดิตของเรานั้นมีสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นมาใหม่อยู่เสมอ เพื่อที่เราจะได้ไม่พลาดสิทธิประโยชน์ที่เราควรได้รับนั่นเอง และหวังว่าทุกคนจะตั้งใจที่จะพยายามตามขั้นตอนทั้ง 5 ขั้นตอนนี้ได้ พวกเราทำได้แน่นอน ดังนั้นเราต้อ คิดและมีวินัยเสมอ ขอให้ทุกคนลองทำตามขั้นตอนดังกล่าว ได้ประโยชน์แบะได้ผลแน่นอน!!