ส่วนลดจากการระบุคนขับซึ่งส่วนลดเฉพาะการระบุคนขับขี่ก็จะมีไว้สำหรับเฉพาะประกันภัยชั้น 1 เท่านั้น ซึ่งสำหรับประกันภัยชั้น 1 แล้วผู้ที่เอาประกันสามารถรับส่วนลดได้ 5 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์จากการระบุชื่อของผู้ขับขี่นั้นก็จะระบุได้สูงสุด 2 คน ซึ่งจะได้รับส่วนลดและจะต้องดูจากอายุของผู้ขับขี่ซึ่งจะอายุไม่น้อยกว่าดังนี้ก็คืออายุ 18 ปีถึง 24 ปีจะได้ส่วนลด 5%, แต่ถ้าอายุ 25 ปีถึง 35 ปีก็จะได้ส่วนลด 10%, แล้วถ้าอายุ 36 ปีถึง 50 ปีก็จะได้ส่วนลด 15% และถ้าอายุ 50 ปีขึ้นไปก็จะได้ส่วนลด 20% นั่นเองซึ่งเงื่อนไขของแต่ละบริษัทจะไม่เหมือนกันเลยซึ่งคุณจะต้องลองคุยกับเจ้าหน้าที่ของแต่ละบริษัทประกันภัยนั่นเอง แต่เนื่องจากว่าเงื่อนไขอย่างนึงซึ่งบางบริษัทมีก็คือหากรถเกิดอุบัติเหตุและถ้าคุณเป็นฝ่ายผิดแล้วถ้าสมมุติว่าผู้ขับขี่นั้นไม่ใช่บุคคลที่ระบุไว้ในชื่อตอนที่คุณทำประกันภัยคุณจะต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกแต่ในกรณีซ่อมรถอาจจะมีการออกให้ซึ่งกันแล้วแต่คดีหรือแต่ละบุคคล

ส่วนลดจากการมีประวัติการขับขี่ที่ดี

ส่วนลดจากการมีประวัติการขับขี่ที่ดี

อันนี้เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทางบริษัทประกันภัยนั้นก็จะต้องดูก็คือถ้าคุณมีประวัติที่ดีในการขับขี่คนก็จะมีส่วนลดเพราะเนื่องจากคุณมีประวัติที่ดีส่วนลดที่บริษัทประกันภัยจะให้กับผู้ประกันภัยนั้นก็จะไม่ผ่านการเรียกร้องหรือความเสียหายต่อบริษัทซึ่งถ้าปีแรกไม่มีการเครมเลยในปีถัดไปก็ไม่มีการเครมอีกก็จะลดเพิ่มเป็น 30 เปอร์เซ็นต์หรือ 40 เปอร์เซ็นต์สูงสุดก็จะ 50% ถ้าไม่มีเครมเลย 4 ปีติดต่อกัน แต่ในกรณีที่คุณมีเครมรถส่วนลดของประวัตินั้นก็จะถูกลดลง 1 ขั้นหรือสองข้างทางมีความเสียหายที่คิดเป็นเงินมากกว่า 200 เปอร์เซ็นต์ของเบี้ยประกัน ซึ่งอันที่จริงแล้วในแต่ละบริษัทประกันภัยรถยนต์ก็จะไม่เหมือนกันเพราะพวกเขาจะมีโปรโมชั่นที่ต่างกันและส่วนการเครมรถต่างๆก็แต่งกันด้วยแต่ในกรณีมาตรฐานก็จะเป็นแบบนั้น แต่ถ้าสมมุติว่ารถของคุณมีการเคลมแล้วคุณเป็นฝ่ายถูกบริษัทสามารถเรียกร้องความเสียหายจากคู่กรณีได้นั่นก็คือถ้าคุณประสบอุบัติเหตุคู่กรณีก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งซึ่งกรณีนี้ผู้ประกันก็ยังจะได้รับส่วนลดประวัติดีอยู่ซึ่งจะไม่ถูกลบประวัติลง บริษัทประกันภัยจะไม่สามารถดำเนินคดีหรือติดตามค่าเสียหายจากคู่กรณีได้แต่ผู้ประกันเสียส่วนลดประวัติดีถ้าคุณไม่อยากให้คู่กรณีเสียเงิน

ส่วนลดจากการกำหนดค่าเสียหายส่วนแรก

ส่วนลดจากการกำหนดค่าเสียหายส่วนแรก

ในเรื่องของประกันภัยรถยนต์แล้วหลายคนคงจะได้ยินคำว่าค่าเสียหายส่วนแรกซึ่งค่าเสียหายส่วนแรกก็คือการรับผิดชอบส่วนแรกอาจจะไม่มีในประกันภัยสำหรับทุกคันเเต่ประกันภัยรถทุกคันอาจจะมีซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนั้นซึ่งค่าเสียหายส่วนแรกมันจะเป็นแบบสมัครใจทำและอีกแบบนึงก็คือค่าเสียหายส่วนแรกแตะภาคบังคับ ค่าเสียหายส่วนแรกนั้นผู้ประกันภัยก็จะต้องทำข้อตกลงกับทางประกันภัยว่าจะยินยอมจ่ายค่ารับผิดชอบส่วนแรกที่เกิดขึ้นไหมไม่ว่าจะเป็นเรื่องเคลมรถหรือปัญหาเรื่องอุบัติเหตุต่างๆผู้รับผิดชอบค่าเสียหายก็จะต้องให้จำนวนเงินส่วนหนึ่งและทางประกันภัยก็จะรับผิดชอบในส่วนที่เกินจากนั้น ซึ่งการกำหนดค่าเสียหายส่วนแรกก็เป็นวิธีที่สามารถช่วยคุณประหยัดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ลงได้ซึ่งเหมาะกับผู้ขับรถยนต์ไม่บ่อยนักหรือมีการขับขี่รถยนต์พอสมควรและมีวินัยการขับขี่รถยนต์ซึ่งมีโอกาสเจอผู้คนได้น้อยก็สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของประกันภัยได้

มีอยู่หลายกรณีกรณีที่จะไม่เก็บค่าเสียหายส่วนแรกก็คือคุณอาจจะเอารถไปชนกับภาชนะอื่นๆหรือพาหนะที่อาจจะไม่มีคู่กรณีหรือมีคู่กรณี ไม่ว่าจะเป็นการขับรถชนกำแพงชนเสาชนประตูอะไรต่างๆทำนองนี้ แต่ถ้าเป็นในกรณีที่จะเรียกเก็บค่าเสียหายส่วนแรก นั่นก็คือรถถูกขีดข่วนกลั่นแกล้งหรือรถตกหลุมเหยียบตะปูกระจกรถแตกน้ำท่วมรถหรือกรณีอื่นๆที่แจ้งสาเหตุไม่ชัดเจนอะไรประมาณนี้

ส่วนลดกลุ่ม

ส่วนลดกลุ่ม

พูดถึงส่วนลดกลุ่มนั้นก็จะได้จากการทำประกันพร้อมกับหลายคันถ้าคุณทำประกันรถยนต์หลายคันโดยปกติคุณก็จะต้องทำอย่างไร 3 คันแล้วถ้าทุกคันมีชื่อผู้ประกันคนเดียวกันหรือนามสกุลเดียวกันการลดหนี้ก็จะเหมาะสำหรับผู้ทำประกันนิติบุคคลมากกว่าคนทั่วไป เพราะถ้าเป็นแบบนั้นก็จะเป็นการสร้างรายได้ให้กับบริษัทประกันภัยนั้นๆซึ่งแน่นอนว่าเขาจะมีส่วนลดให้อย่างแน่นอน

การตัดความคุ้มครองที่ไม่จำเป็นออก

การตัดความคุ้มครองที่ไม่จำเป็นออก

ประกันแบบนี้เป็นประกันแนวคิดใหม่ซึ่งจะปรับลดความคุ้มครองให้เหมาะกับความต้องการหรือให้มีงบประมาณในวงเงินที่คุ้มครองในแต่ละอย่างซึ่งส่วนลดการคุ้มครองต่างๆนั้นก็จะไม่จำเป็นต้องตัดออกไปเช่นบ้านอยู่ในบริเวณน้ำที่ไม่ค่อยท่วม หรือไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิตมีบริการช่วยเหลือในการลากรถ ซึ่งในส่วนนี้ก็จะช่วยประหยัดเบี้ยประกันภัยได้อีกเพราะไม่จำเป็นต้องให้บริษัทประกันภัยมาช่วยเหลือคุณในด้านนี้ คุณสามารถสบายใจได้ถ้าคุณมีความช่วยเหลือนอกจากนั้นเพื่อไม่ให้เบี้ยประกันภัยหรือชื่อเสียงที่ดีทางประกันภัยลดลง

ติดกล้องหน้ารถ

ติดกล้องหน้ารถ

เพราะเนื่องจากปัจจุบันนี้การขับรถก็จะมีความอันตรายมากขึ้นเพราะมีหลายอย่างที่ไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลาซึ่งถ้าคนติดกล้องหน้ารถก็จะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะช่วยทั้งพวกคุณและครอบครัวคุณและยังเป็นอีกหนึ่งกฎหมายซึ่งทาง คปภได้กำหนดไว้ว่าได้หลายกรณีที่เกิดขึ้นบนท้องถนนก็จะมีหลักฐานชัดเจนมากขึ้นว่าใครถูกใครผิดถ้าคุณติดกล้องติดรถยนต์ไว้เป็นหลักฐานที่มีวีดีโอชัดเจนทำให้คนขับมีความระมัดระวังมากขึ้นเพราะวีดีโอนี้จะบันทึกภาพทั้งตนเองและคู่กรณีอีกด้วย ได้สั่งให้บริษัทประกันภัยหรือผู้ที่ทำประกันภัยนั้นสบายใจมากขึ้นเนื่องจากบริษัทประกันภัยจะลดดอกเบี้ยประกันภัยร้อยละ 5-10 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่พ. ศ. 2560 จนถึงณปัจจุบันนี้ผู้ประกันภัยก็สามารถขอรับส่วนลดเบี้ยประกันภัยภายหลังได้ คุณสามารถติดกล้องติดรถยนต์ทุกประเภทซึ่งบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้ซึ่งไม่กำหนดมาตรฐานหรือไม่กำหนดคุณภาพของวิดีโอและไม่กำหนดราคาขั้นต่ำอีกด้วย แต่ก็ไม่แนะนำหรือไม่สามารถนำอุปกรณ์อย่างอื่นมาดัดแปลงเพื่อใช้งานให้เหมือนกล้องติดรถยนต์เช่นคุณไม่สามารถใช้โทรศัพท์มือถือแท็บเล็ตหรืออุปกรณ์ต่างๆที่มีกล้องมาถ่ายทำวีดีโอขณะที่คุณขับรถ ซึ่งการติดกล้องรถยนต์นี้สามารถบันทึกวีดีโอได้และเพื่อประโยชน์ของผู้มาทำประกันแต่ถ้าผู้ทำประกันได้ปฏิบัติตามโดยไม่ติดตั้งกล้องไว้ตลอดเวลาหรือกล้องไม่สามารถบันทึกภาพหรือใช้งานได้เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ต้องเครมรถเกิดขึ้นทางบริษัทประกันภัยจะทำการเรียกเก็บค่าส่วนลดคืนทันที ดังนั้นคุณจำเป็นที่ต้องติดกล้องติดรถยนต์เพื่อเป็นการลดการเกิดอุบัติเหตุและสร้างวินัยจราจรของผู้ขับขี่รถปัญหาการทะเลาะหรือโต้เถียงกันระหว่างคู่กรณี ซึ่งจำเป็นอย่างมากที่คุณจะต้องติดกล้องหน้ารถไว้เพื่อป้องกัน

ลดทุนประกันลง

ลดทุนประกันลง

อันที่จริงทุนประกันภัยรถยนต์เป็นจำนวนเงินที่บริษัทประกันภัยจะชดเชยให้ในเมื่อรถของคุณมีความเสียหายอย่างสิ้นเชิงหรือตัวอย่างเช่นรถสูญเสียเนื่องจากไฟไหม้หรือในกรณีที่รถเสียหายมากๆ จนที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้เลย ไม่สามารถแม้แต่ซ่อมแซมให้มันมาอยู่ในสภาพเดินได้ซึ่งบริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าสินไหมให้เต็มจำนวนตามทุนประกันภัยที่ระบุไว้ก่อนที่คุณสมัครประกันภัยรถยนต์กับทางบริษัท ซึ่งการลดทุนประกันภัยก็จะมีความยุ่งยากนิดนึงในการขอลดทุนประกันเพราะว่าอาจจะมีเรื่องเงินปันผลด้วยหรือรายได้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยซึ่งของการลดทุนประกันลงนั้น 1 ทุนประกันที่จะขอลดจะต้องน้อยกว่าขั้นต่ำของประกันภัย ซึ่งส่วนลดจากทุนประกันก็จะมีข้อดีข้อเสียต่างกันซึ่งข้อดีก็คือถ้าคุณจ่ายเบี้ยประกันภัยน้อยลงหรือเงินไม่พอจากการลดเบี้ยประกันภัยให้อยู่ในระดับที่จ่ายได้ไหว ย่อมดีกว่าการที่คุณจะปล่อยให้ประกันภัยนั้นขาดสภาพการคุ้มครองไปการลดประกันภัยอาจจะได้เงินกลับมาแค่บางส่วนเท่านั้น

แต่ก็มีข้อเสียด้วยถ้าคุณต้องการที่จะขอเคลมรถหรือขอสินไหมทดแทนอาจจะได้เงินไม่เท่าเดิมเพราะเงินนั้นอาจจะไม่พอสำหรับการใช้หนี้หรือเงินตรงนั้นก็ไม่พอสำหรับการคุ้มครองลูกของคุณ

ซึ่งแน่นอนว่าการได้ส่วนลดจากเบี้ยประกันภัยก็เป็นที่ต้องการของหลายๆคนซึ่งกำลังมองหาวิธีที่จะเลือกประกันภัยรถยนต์หรือต่อประกันภัยรถยนต์ ซึ่งแน่นอนว่าทุกอย่างก็จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ซึ่งสำหรับการทำประกันภัยรถยนต์แล้วถ้าสมมุติว่าคุณเครมรถบ่อยๆมันก็ทำให้ลดส่วนลดที่จะนำมาใช้กับรถคุณในครั้งหน้าน้อยลงซึ่งคุณอาจจะต้องจ่ายเอง

แต่เพื่อที่จะป้องกันคุณไว้การทำประกันภัยรถยนต์นับว่ามีข้อดีมากกว่าข้อเสียจริงๆไม่ว่าจะเป็นการลดทุนประกันลงหรือข้อดีต่างๆที่มีอยู่ข้างบนตามที่อ่านไปแล้วนั้นซึ่งแน่นอนว่าถ้าคุณทำประกันภัยรถยนต์คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดอุบัติเหตุในการช่วยค่าเสียหายด้วยตัวของคุณเองถึงแม้จะต้องจ่ายอยู่บ้างแต่ก็ดีกว่าที่คุณจะจ่ายทั้งหมดด้วยตัวเองซึ่งไม่ง่ายเสมอไปหรือไม่แน่เสมอไปคุณอาจจะไม่มีเงินจำนวนนั้นเมื่อคุณเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน และในปัจจุบันแล้วกฎหมายก็กำหนดให้เจ้าของรถยนต์จะต้องทำประกันภัยรถยนต์ด้วยมีเป็นภาคบังคับตามประเภทของรถเพื่อลดความเสี่ยงและการคุ้มครองต่อการสูญเสียของชีวิตนี้เป็นสิ่งที่สำคัญหลักๆของกระบวนการคุ้มครองที่เขาพยายามแนะนำมา แล้วการคุ้มครองดังกล่าวก็ไม่เพียงแต่ส่วนผมต่อผู้ขับขี่เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อผู้โดยสารและคู่กรณีอีกด้วยและยังครอบคลุมไปถึงบุคคลอื่นๆที่ใช้ถนนหรือประสบภัยทางรถยนต์ด้วยเช่นกัน

ซึ่งหากคุณมีข้อสงสัยใดๆที่อยากจะติดต่อพนักงานโดยตรงก็จะมีการรับบริการตลอด 24 ชั่วโมงทั้งบริษัทประกันภัยรถยนต์ต่างๆจะมีความคุ้มครองที่คุ้มค่ามากๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ต่างจังหวัดหรือที่อื่นที่ไม่ใช่ในจังหวัดที่คุณอยู่คุณสามารถอุ่นใจได้เพราะพวกเขาจะไปหาคุณไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนและพร้อมจะช่วยคุณเสมอ ขอให้ลองศึกษาหาข้อมูลและรายละเอียดการดูให้ลึกซึ้งและลองคิดดูว่าประกันภัยแบบไหนหรือแบบใดที่เหมาะสำหรับคุณมากที่สุด