สภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดูมีส่วนสำคัญต่อนิสัยของแต่ละคน ต่อให้เป็นฝาแฝด แต่โตมานิสัยต่างกันคนละขั้วก็มีค่ะ ถึงอย่างนั้น นิสัยมีผลในระยะยาวกับชีวิตเรามาก จะทำให้อนาคตเรา “ปัง” หรือ “พัง” ก็อยู่ที่ตัวเราเองนะ

เค้าว่ากันว่า สิ่งแรกที่เห็นคือ “หน้าตา” ไม่ใช่ “นิสัย” แต่ สิ่งที่อยู่ตลอดไปคือ “นิสัย” ไม่ใช่ “หน้าตา

จริงๆ แล้ว การสร้างนิสัยที่ดี ถือเป็นน้ำหอมเสน่ห์อย่างหนึ่งเลยนะ ไม่ต้องเสียเงินซื้อด้วย แค่ฝึกบ่อยๆ จนเคยชิน และเมื่อเราสร้างนิสัยให้ออกมาดี มันจะอยู่ติดตัวเรา 24 ชั่วโมง ไม่สิ ตลอดชีวิตเลย แล้วใครบ้างหล่ะจะไม่ชอบกลิ่นหอมๆ อยู่ใกล้ๆ ตัว ฟังแบบนี้แล้ว อยากเริ่มปรับปรุงนิสัยตัวเองด้านไหนก่อนดีน้า เนื้อหาในบทความนี้ จะมาแนะเตือน 12 นิสัยที่ไม่ดี ที่เราไม่ควรทำ โดยเฉพาะนิสัยที่ส่งผลต่อเรื่องเงินเงินเป็นหลัก ซึ่งถ้าใครยังมีนิสัยเหล่านี้อยู่ ไม่สายที่จะเปลี่ยนแปลงนะคะ เพื่อให้ชีวิตปังขึ้น มาดูกันค่ะ

นิสัยทั่วไป

bad habits

Elena Stepanova/shutterstock.com

1.ห้องพักรก

สั้นๆ เลย ห้องพักรก คือจุดเริ่มต้นของคำว่า “จน” และชีวิต “วุ่นวาย” จ้า จะไม่ให้จนได้ยังไงกัน โดยเฉพาะคุณผู้หญิงทั้งหลาย มักจะเป็นคนใจอ่อน ชอบแล้วก็ซื้อ (คนนึงอาจมีหมวกซัก 5 ใบ =.=) ซื้อแล้วก็ซื้ออีก (บางชิ้นยังไม่เคยใช้เลย0.O) ซื้อเสร็จพาขึ้นห้อง ตรึมค่ะ 555 (บางคนนะที่ยืนแทบไม่มี!) พอพื้นที่ห้องแคบลง เวลารีบๆ จะใช้ของก็หายาก หาไม่เจอไม่ทันใจ ก็ซื้อใหม่ เงิน เงิน เงิน ทั้งนั้นนะจ้า! อย่าเพิ่งด่วนปฏิเสธว่าตัวเองไม่ใช่แบบนี้นะฮะ ให้ลองเหลียวตาไปดูรอบๆ ห้องนิดนึง แล้วลองตอบตัวเองในใจนะคะว่าตอนนี้ความรกอยู่ระดับไหนกันน้า

ห้องพักถือเป็นที่ปลอดภัย เป็นโซนปลดปล่อยตัวเอง จะวางของที่ไหนก็ได้ สบายๆ ก็นี่มันห้องฉัน .. (ถูกจ้า) จะวางกระจัดกระจาย ฉันว่ามันคือศิลปะ 555 ... (ไม่เถียงจ้า) แต่อย่าลืมนะว่าห้องมันไม่ได้ขยายไปตามปริมาณของ ถ้ามีของมากเกินไป ก็จะมีฝุ่นเยอะ อาจทำให้เป็นภูมิแพ้ได้ ก็ต้องเสียเงินไปหาคุณหมออีก การทำงานในที่แคบๆ ก็อาจเป็นผลให้ผลงานมีประสิทธิภาพด้อยลงได้ด้วย ดังนั้น ถ้าห้องพักรกไปนานๆ แบบนี้ รู้คำตอบแล้วใช่มั้ยคะ ว่าชีวิตจะพังหรือปังกันแน่? เอาเป็นว่า ลองจัดระเบียบ เคลียร์พื้นที่ห้องดูนะคะ เผื่อจะมีสิ่งดีดี สิ่งใหม่ใหม่ เข้ามาในชีวิตกับเค้าบ้าง

2.มีแต้มสะสมจำนวนมาก

ถ้าคุณมีแต้มสะสมจำนวนมาก แต่ไม่ได้แลกของรางวัล การครอบครองบัตรนั้นก็ไม่มีประโยชน์อันใด อาจเป็นเพราะของนั้นยังไม่โดนใจคุณ หรือบัตรที่ถืออยู่ยังเลือกประเภทได้ไม่ตรงไลฟ์สไตล์ของคุณ เพื่อให้ใช้สิทธิในบัตรได้เต็มที่ จำเป็นต้องทบทวนประเภทบัตร อาจเปลี่ยนประเภทมาเป็น “รับเงินคืน (Cash Back)” หรือถ้าเน้นเดินทาง อาจเลือกประเภทบัตรเป็น “แอร์ไมล์ (Air Miles)” แทนน่าจะดีกว่า เพื่อความคุ้มค่า ยังไงลองวิเคราะห์ตัวเองดูนะคะ

3.กระเป๋าสตางค์ไม่ถูกจัดระเบียบ

เชื่อไหมคะ เปิดกระเป๋าสตางค์ทายนิสัยเจ้าของได้ ถ้าข้างในกระเป๋าสตางค์เรียบร้อย แสดงว่าเจ้าของกระเป๋าใบนั้นบริหารจัดการเรื่องเงินได้ดีด้วย และไม่อายเพื่อนด้วยค่ะเวลาต้องควักเงินหารค่าใช้จ่าย วันนี้จะมาแบ่งปันวิธีจัดกระเป๋าสตางค์แบบที่เศรษฐีเค้าใช้กันนะคะ เพื่อจะได้ปังปังรับทรัพย์แบบเค้าบ้างเนอะ อ้างอิงบทความของมิสแซฟไฟร์ผู้มีประสบการณ์ทำงานใกล้ชิดผู้บริหารเก่งๆ และนักธุรกิจรวยๆ สังเกตเห็นว่าในกระเป๋าสตางค์ของกลุ่มคนเหล่านั้น โดยรวมจะแค่มีเงินสด (ธนบัตรจะถูกเรียงอย่างเป็นระเบียบ), บัตรเครดิต & บัตร ATM อย่างละใบ และของที่ใช้เฉพาะวันนี้เท่านั้น ไม่มีการเผื่อพื้นที่สำหรับของที่อาจจะใช้ หรือ แค่พกไว้ให้อุ่นใจ ส่วนกระเป๋าใส่เหรียญจะแยกไว้ต่างหากอีกใบ นอกจากนั้น สลิปใบเสร็จเมื่อจดบันทึกรายการเสร็จแล้วก็แยกทิ้งได้เลย ถ้ากระเป๋าสตางค์ถูกจัดการดี การควบคุมเงินเข้าออกก็จะทำได้ดี ลองไปใช้กันดู เคล็ดลับนี้อาจทำให้ชีวิตคุณทั้งรวยทั้งปังขึ้นก็ได้นะ

4.ไม่รู้จำนวนเงินในกระเป๋าของตัวเอง

ไม่ได้เลยนะคะ ไม่งั้นไม่ต่างอะไรกับการเข้าร้านอาหารเพื่อทานข้าว แต่ไม่รู้ว่าตัวเองมีเงินพอจะจ่ายไหม เกิดความกังวลสิค่ะ ถ้าสตางค์ไม่พอจ่ายยิ่งอายเลยค่ะ ดังนั้น แต่ละวันก่อนออกจากบ้านควรตรวจเช็คเงินในกระเป๋าสักหน่อยก็ดีนะคะ เมื่อเรารู้เงินเข้า-ออก ก็เหมือนเรากำลังทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายผ่านกระเป๋าเงินทุกวัน นั่นยังช่วยควบคุมนิสัยการใช้จ่ายของคุณได้ด้วยนะคะ แล้วชีวิตคุณจะค่อยๆ ปังขึ้นค่ะ

5.เงินส่วนใหญ่อยู่ในบัญชีออมทรัพย์

บัญชีออมทรัพย์ให้ดอกเบี้ยน้อย ประมาณ 0.5% แม้จะมีความเสี่ยงน้อย แต่เงินในบัญชีก็จะงอกเงยช้า ถ้ามีเงินก้อนแนะนำฝากประจำ ตอนนี้ดอกเบี้ยประมาณ 1.5% (แต่ละสถาบันการเงินจะแตกต่างกันนิดหน่อย ขึ้นอยู่กับนโยบายผลิตภัณฑ์) หรือถ้ายอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้นระดับหนึ่ง นำเงินไปลงทุนในกองทุนหรือหุ้นเป็นอีกทางเลือกหนึ่งเพื่อรับเงินปันผลหรือส่วนแบ่งกำไร ซึ่งผลตอบแทนมากกว่าฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์แน่นอน แต่ความเสี่ยงคือมักจะไม่คุ้มครองเงินต้นเพราะราคาจะแปรผันไปตามราคาตลาด

6.แนวคิดที่จะเริ่มเก็บเงินหลังจากที่รายได้เพิ่มขึ้น

ทุกครั้งที่ก้าวออกจากบ้าน ต้องใช้เงิน! ถ้าเราไม่เริ่มเก็บออม เงินก็จะมีเหตุผลของมันที่ต้องวิ่งออกจากกระเป๋าเราทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นค่ากับข้าว ค่าเทอมลูก ค่าน้ำมัน ค่าไฟ ค่าน้ำ คุณอาจบอกว่ารอมีรายได้มากกว่านี้ก่อน แล้วจะออม คิดว่าจะสายไปไหม? คิดดูนะ เราไม่สามารถคาดเดาเศรษฐกิจในอนาคตได้เลยว่าจะดีขึ้นเมื่อไหร่ เราไม่รู้ว่าจะเราจะป่วยเป็นโรคร้ายต้องใช้เงินเยอะแค่ไหน หรือถ้าเกิดอุบัติเหตุอะไรกับคนที่เรารักหล่ะ จะวางแผนจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร ถ้าคุณรู้ตัวว่ายังไม่มีเงินก้อนโตไว้ ดีกว่ามานั่งกังวลอย่างเดียว อยากแนะนำให้ลงมือทำ เปลี่ยนนิสัย และเก็บออมจริงจัง ตั้งแต่ตอนนี้ เก็บออมวันละนิด จะรวมเป็นก้อนใหญ่ในเวลาข้างหน้าได้ และเมื่อถึงเหตุการณ์ฉุกเฉินนั้น คุณจะได้ไม่เสียใจ

นิสัยที่เกี่ยวกับเงิน

money habits

MiniStocker/shutterstock.com

1. ประหยัดเงินเพื่อที่จะใช้จ่าย

ทุกคนรู้ว่าการประหยัดเงินเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่หลายคนขาดแรงบันดาลใจที่จะลงมือกระทำ และมักใช้เงินเกินตัว วันนี้จึงขอนำเสนอเรื่องราวของพระมหากษัตริย์นักออมเงิน รัชกาลที่ 9 แนวคิดเรื่องการเงินของพระองค์ท่าน คือ “การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ – ความเรียบง่าย - การใช้ของให้คุ้มค่าที่สุด” ขอยกบางตัวอย่างดังนี้

  • ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พระองค์ทรงปั่นจักรยานไปโรงเรียนแทนรถพระที่นั่ง
  • ของใช้ส่วนพระองค์ไม่จำเป็นต้องแพงหรือแบรนด์เนม สิ่งที่พระองค์ท่านทรงติดตัวเป็นประจำ คือ นาฬิกา แผนที่ กล้องถ่ายรูป และวิทยุสื่อสาร
  • พระองค์ท่านก็ทรงบีบใช้ยาสีฟันและม้วนหลอดจนถึงที่สุด รวมถึงสบู่เหลวก็ทรงใช้จนหยดสุดท้าย และแม้แต่รองเท้าที่ชำรุดพระองค์ท่านก็ทรงให้ไปซ่อมเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่
  • ที่สำคัญพระองค์ท่านได้รับการปลูกฝังจากสมเด็จย่าให้รู้จักประหยัดและเก็บออมตั้งแต่เล็กๆ

พวกเราจะเลียนแบบพระองค์ท่านได้อย่างไรบ้าง สิ่งที่เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ เช่น

  • ลดค่าใช้จ่ายด้านการกิน : อาจทำอาหารทานเอง แทนการซื้อกินข้างนอก
  • ลดรายจ่ายฟุ่มเฟือย สิ่งที่ไม่จำเป็น
  • วางแผนเส้นทางก่อนออกจากบ้าน ช่วยประหยัดค่าน้ำมัน
  • ฝึกที่จะเป็นคนเรียบง่ายและพอเพียง
  • ใช้ของให้หมด ให้คุ้มค่าก่อนทิ้ง

อ้างอิง: https://aommoney.com/stories/pajaree/พระมหากษัตริย์นักออม-เดอะซีรีย์-ตอนที่-4-การประหยัด/22802#jxb8vql190

2. แยกความแตกต่างระหว่างสิ่งที่ต้องการกับสิ่งจำเป็นไม่ออก

ยุคนี้เป็นยุค IT มีสิ่งยั่วยวนล่อใจเยอะและใกล้ตัวมากขึ้น โดยเฉพาะทางสื่อ Social media ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจให้เราคิดน้อยลง ควักเงินซื้อเร็วขึ้น เพียงเพราะอารมณ์ความอยากหรือต้องการ มีแล้วชีวิตสบายขึ้น หรูหราขึ้น ส่วนใหญ่จึงมักจะเป็นสินค้าที่ฟุ่มเฟือย มีราคาแพง นิยามสิ่งจำเป็น พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าเราไม่มีสิ่งของนี้ เราก็มีชีวิตอยู่ปกติได้

ดังนั้น ถ้าเราแยกแยะ สิ่งที่ต้องการ (Want) กับสิ่งที่จำเป็น (Need) ได้ เราจะออมเงินได้มากโขเลยค่ะ เราจึงควรใช้ เหตุผล ในการตัดสินใจซื้อของมากกว่าการใช้ อารมณ์ความรู้สึก นะคะ

เลื่อนการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต

postpone payment by credit card

rangizzz/shutterstock.com

3. ช้อปปิ้งบ่อยเพื่อสะสมคะแนน

ถ้าคุณกำลังทำสิ่งนี้ พูดเลย ตกหลุมพราง โฆษณาการตลาดละฮะ ถ้าคุณแค่จะซื้อของสิ่งนั้นๆ เพื่อได้คะแนน แต่คุณกลับไม่มีความจำเป็นต้องใช้ของนั้นเลย พลาดค่ะ พลาดมาก!** เพราะบางครั้งของที่คุณอยากเอาคะแนนไปแลก มักจะราคาถูกกว่าเงินที่คุณจ่ายเพื่อสะสมคะแนน กลับมาที่จุดเดิมค่ะ ช็อปปิ้งอย่างพอเพียงกันนะคะ

4. การถอนเงินบ่อยๆ

การออมเงินก็เหมือนการใส่น้ำลงโอ่ง ส่วนการถอนเงินคือการตักน้ำไปใช้ประโยชน์ แต่ถ้าถอนเงินบ่อยๆ ทุกวัน และไม่มีการเติมน้ำลงโอ่งเพิ่ม วันนึงจะเกิดเป็นความเคยชินจนอาจจะเปรียบได้กับรูรั่วที่โอ่ง เก็บน้ำไม่อยู่ สุดท้ายในโอ่งก็จะไม่มีน้ำให้ใช้ คุณอยากเป็นอย่างนั้นไหม? เมื่อฉุกเฉินจะไม่มีน้ำให้ใช้นะ

วิธีหนึ่งที่จะช่วยได้ อาจแยกเก็บเงินไว้หลายบัญชี เช่น บัญชี A สำหรับค่าใช้คงที่ที่ต้องจ่ายทุกเดือน, บัญชี B สำหรับเก็บออมโดยเฉพาะ ห้ามถอน, บัญชี C ไว้ใช้จ่ายจิปาถะ พักผ่อนหย่อนใจ หากทำเช่นนี้จะช่วยให้เรามีนิสัยบริหารจัดการที่ดีได้

5. การผัดวันประกันพรุ่ง

นิสัยนี้ไม่มีประโยชน์ใดใดเลย เลิกได้ขอให้เลิกนะคะ ถ้ามีลักษณะนิสัยนี้อยู่ ชีวิตไม่มีทางปังแน่นอนค่ะ เพราะจะผลัดเลื่อนเป้าหมายงานออกไปเรื่อยๆ ส่งผลเสียต่อชีวิตครอบครัวหรือการงานได้ หรือถ้าเป็นหนี้แล้วผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ ปัญหาก็จะค้างคาอยู่อย่างนั้น เป็นหนี้ไม่จบไม่สิ้น ถ้าให้ดีขอให้แทนที่ด้วยนิสัยมัธยัสถ์ อดทน ขยัน อดออม ดีกว่านะคะ ปัง ปัง ปัง! แน่นอน ไม่จนชัวร์ค่ะ

6. ชอบขอความช่วยเหลือจากคนอื่น

บางคนชอบเล่นการพนัน กู้นอกระบบ วิธีเหล่านี้ได้เงินเร็วก็จริง แต่ดอกเบี้ยค่อนข้างแพง วิธีทวงเงินก็แสนโหด ถ้าคุณโป่ะหนี้ไม่ทัน ชีวิตต่อจากนี้จะอยู่บนความกังวล แต่ถ้าคุณไม่เคยเล่นพนันหรือกู้นอกระบบ ดีแล้วค่ะ อย่าลองเลย ให้เราทำงานหาเงินด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเองดีที่สุด เราจะได้รู้คุณค่าเงิน และใช้จ่ายอย่างประหยัด อย่าหวังแต่จะยืมแขนขาคนอื่นมาทำงานให้เราเลยนะคะ วิธีนี้ไม่จีรังยั่งยืนค่ะ เริ่มฝึกที่ตัวเราเองดีที่สุด

เราทุกคนมีต้นทุนชีวิตที่ต่างกัน แต่ทุกคนอยากมีอนาคตที่ดี อยากมีอิสระทางการเงิน ในโลกนี้ไม่มีใครสักคนสมบูรณ์แบบ แต่โลกก็ไม่ได้ใจร้ายเกินไปยังเปิดโอกาสให้เราพยายาม จุดเริ่มต้นอยู่ที่ตัวเราเอง ลองสลัด 12 นิสัยที่ไม่ดีข้างต้น แล้วสวมใส่นิสัยที่ดี (เคล็ดลับการสร้างนิสัยใหม่ คือ ต้องทำให้ต่อเนื่องเกิน 21 วัน) เท่านี้เราก็จะโบกมือสวยๆ ลานิสัยแย่ๆ นั้นไปได้ ขอย้ำนะคะ อย่าอายที่จะประหยัดเงิน แต่ควรอายที่ใช้เงินเกินตัว สุดท้ายนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนด้วยข้อความนี้นะคะ

“ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ไม่ว่าคุณจะทำอะไรมา และไม่ว่าคุณจะมาจากที่ไหน คุณย่อมสามารถกลายเป็นคุณในแบบที่ดีกว่าเดิมได้เสมอ”