จะมีสักกี่คนที่ไปทำงานอย่างมีความสุขทุกๆวันไม่มีปัญหาไม่อุปสรรคคงจะไม่มีทางเป็นไปได้เพราะการทำงานไม่ว่างานอะไรล้วนแล้วแต่มีปัญหาเกิดขึ้นได้เสมอไม่เว้นแม้แต่เจ้านาย หรือเจ้าของธุรกิจก็ยังประสบพบเจอปัญหาและอุปสรรคในการทำงานอยู่เรื่อยๆ แล้วพนักงานอย่างเราเราจะไปเหลืออะไร แต่เพื่อนๆทราบไหมว่าอุปสรรคในการทำงานนั้นไม่ได้มาจากเนื้องานเท่านั้นแต่มาจากเพื่อนร่วมงานหรือคนที่เราทำงานด้วย และนั่นอาจจะทำให้การทำงานของเพื่อนๆนั้นกลายเป็นความกดดันควาทุกข์แทนที่จะมีความสุข เพราะการทำงานนั้นก็เหนื่อยและเครียดอยู่แล้วยิ่งถ้ามีเพื่อนร่วมงานที่มีปัญหากันเข้าไปอีกแบบนั้นก็แย่เลยสิ เพราะสิ่งนี้จะส่งผลเสียต่อเนื้องานและต่อหลายๆสิ่งรอบตัวการใช้ชีวิตในที่ทำงานจะไม่สนุกอีกต่อไป เพื่อนๆก็คงรู้สึกว่าไม่อยากจะไปทำงานเลย หรือเมื่องานเกิดปัญหาก็ไม่สามารถหวังพึ่งใครมาช่วยได้ เห็นมั้ยคะว่าเพื่อนร่วมงานที่ไม่ดีจะเป็นอุปสรรคมากขนาดไหนแล้วเพื่อนร่วมงานของเพื่อนๆตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ?
เพื่อนร่วมงานของเพื่อนๆตอนนี้เป็นอย่างไร? บทความนี้จะมาอธิบายให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นว่าเพื่อนร่วมงานแบบไหนที่ดี และไม่ดี ที่เพื่อนๆต้องเลือกอย่างดี และหลีกเลี่ยงเพื่อนร่วมงานที่ไม่ดีที่จะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของเพื่อนๆได้ บทความนี้จะมาอธิบายสองลักษณะของเพื่อนร่วมงานนี้ค่ะ อุปสรรคจากเพื่อนร่วมงาน / เพื่อนร่วมงานที่ไม่เป็นอุปสรรค การทราบข้อมูลนี้ช่วยให้เพื่อนๆมองให้ออกว่าเพื่อนร่วมงานแบบไหนที่ควรเลือกและหลีกเลี่ยงเพื่อการทำงานที่มีความสุขมากยิ่งขึ้นนะคะ
อุปสรรคจากเพื่อนร่วมงาน
การทำงานที่ดีต้องมีการพูดคุยที่ดีดังนั้นนี้เป็นสิ่งสำคัญสิ่งแรกที่เพื่อนร่วมงานดีๆควรมีแต่ถ้าเพื่อนร่วมงานของคุณไม่มีสิ่งนี้แล้วละก็จบกัน เพราะการทำงานจะไม่ราบรื่นเลยเพราะไม่มีการพูดคุยที่ดีงานก็จะไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ เพราะการทำงานต้องมีการประสานงานกันร่วมมือกันให้ข้อมูลซึ่งกันและกันไม่สามารถมีใครที่จะทำงานคนเดียวได้ต้องช่วยกันแต่ถ้าไม่มีการพูดคุยที่ดีแล้วงานจะเดินได้อย่างไรจริงไหมคะ? เนื่องจากการทำงานส่วนใหญ่ต้องมีการทำงานเป็นทีมไม่ใช่ทำงานคนเดียวค่ะนี่ก็คืออุปสรรคแรกที่จะเกิดขึ้นจาเพื่อนร่วมงานที่ไม่มีการพูดคุยสื่อสารที่ดีค่ะ
การทำงานที่ดีเพื่อนร่วมงานต้องพูดคุยให้ข้อมมูลกันและกันแบบที่เป็นความจริงด้วยเพื่อให้งานออกมาดีมีคุณภาพแต่ถ้าเพื่อนร่วมงานกลับบอกข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงก็จะเกิดการผิดพลาดในการทำงานแน่นอนผลงานที่ออกมาคงไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้าและเจ้านายจึงเป็นปัญหาใหญ่และเป็นอุปสรรคอย่างมากในชีวิตการทำงานของเพื่อนๆค่ะ โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับตัวเลขการคำนวณต่างๆถ้าข้อมูลที่ได้มาไม่ถูกต้องทั้งหมดก็เป็นปัญหาใหญ่แน่ๆเพื่อนคงนึกภาพออกนะคะ เพื่อนๆอาจจะถูกมองว่าทำความผิดได้เมื่อตัวเลขในเอกสารขาดหายไปค่ะซึ่งสาเหตุก็มาจากเพื่อนร่วมงานที่ไม่ให้ความสำคัญในการให้ข้อมูลที่ชัดเจนผลเสียก็จะมาตกอยู่ที่ตัวเพื่อนๆเองได้นะคะต้องระวังค่ะ
ในเมื่อการทำงานที่ดีต้องมีการร่วมมือกันไม่มีใครทำงานคนเดียวได้ดังนั้นเมื่องานออกมาดีมีคุณภาพก็เป็นเพราะความช่วยเหลือซึ่งกันแลกันไม่มีใครที่เหนือกว่าใครได้ แต่เพื่อนร่วมงานบางคนก็พยายามจะได้รับความสำเร็จคนเดียวหรือพูดง่ายๆคือมีความเห็นแก่ตัวว่าผลงานชิ้นนี้เป็นของฉันทั้งๆที่ก็ช่วยกันทำ สิ่งนี้เป็นอุปสรรคต่อการทำงานและความสามารถของเพื่อนๆมากเลยแทนที่จะได้รับเงินเพิ่มหรือตำแหน่งเหมือนกันแต่กลับโดนกดดันและกดหัวในหน้าที่การงานจากเพื่อนร่วมงานแบบนี้ หรือถ้าเหตุหารณ์เลวร้ายกว่านี้ก็คือเมื่อรับงานมาเพื่อนร่วมงานที่เห็นแก่ตัวจะไม่เอางานมาทำร่วมกับทีมแต่เก็ยไว้ทำคนเดียวซึ่งอาจจะทำให้งานออกมาไม่ดีพอแล้วเกิดปัญหาขึ้นแต่ผลเสียจะตามถึงพนักงานทุกคนในทีมด้วยไม่ว่าจะโดนหักเงินหรือรับผิดชอบความเสียร่วมกันเป็นต้นค่ะดังนั้นถ้าเกิดเจอเพื่อนร่วมงานแบบนี้คงไม่ไหวแน่ๆ
การทำงานที่ดีควรมีการปรึกษาหารือกันโดยเฉพาะยอมรับความจริงในความสามารถของคนในทีมว่าสามารถทำได้ดีมากแค่ไหนไม่ฝืนถ้าทำไม่ได้จริงๆ แต่ถ้าเพื่อนร่วมงานของคุณชอบผืนความสามารถของลูกทีมโดยเฉพาะถ้าคนนั้นคือหัวหน้าทีมอย่างนั้นก็คงออกความคิดเห็นยากมากเลยแล้วผลเสียก็จะตกอยู่ที่ผลงานที่ออกมานั่นเองค่ะ และที่สำคัญถ้าหัวหน้าทีมของเพื่อนๆเป็นคนไม่มียุติธรรมหรือไม่ยอมรับความจริงก็อาจจะทำให้เกิดปัญหากับทีมอื่นๆในบริษัทได้ซึ่งผลเสียนี้จะขยายไปในวงกว้างมากขึ้นซึ่งนั่นเป็นอุปสรรคต่อการทำงานอย่างมากและถึงกับก่อผลเสียหายร้ายแรงถึงกับตกงานกันก็ได้ค่ะ แล้วเพื่อร่วมงาที่ดีๆต้องมีลักษณะอย่างไรบ้าง? มาดูกันต่อค่ะ
เพื่อนร่วมงานที่ไม่เป็นอุปสรรค
การหาเพื่อนร่วมงานที่ดีก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้วก็คงไม่ใช่เรื่องยากเกินไป อาจจะเริ่มจากตัวของเพื่อนๆเองก่อนเลยก็ได้นะคะ ถ้าเพื่อนๆเริ่มลงมือทำตัวเองให้เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีก่อนคนอื่นก็จะสังเกตเห็นและเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีเช่นกันได้ค่ะ เมื่อนึกถึงตอนที่เพื่อนๆเข้ามาทำงานใหม่เพื่อร่วมงานที่ดีจะคอยช่วยแนะนำวิธีการทำงานอย่างดีกับเรานั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของการมองหาเพื่อนร่วมงานที่ดีค่ะ ซึ่งเพื่อนร่วมงานที่ดีแบบนั้นมักจะมีนิสัยที่ กรุณา เอื้อเฟื้อ เห็นใจ ให้กำลังใจ คอยให้ความช่วยเหลือด้วยค่ะ เพื่อที่งานจะออกมาดีโดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวเลยแต่มองว่าประโยชน์ขององค์กรหรือบริษัทนั้นสำคัญที่สุดให้เพื่อนๆพยายามมองหาเพื่อนร่วมงานที่ดีแบบนี้นะคะแล้วเชื่อว่าการทำงานของเพื่อนๆจะมีความสุขและมีความหมายมากขึ้นแน่นอน
เพื่อนร่วมงานที่ดีต้องมีการพูดคุยที่ดีต่อกันด้วย คือพูดจาต่อกันอย่างดีไม่ออกคำสั่งหรือใช้เสียงแข็งๆมากเกินไปสิ่งสำคัญคือสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงานให้กันและกันการทำอย่างนั้นส่งผลดีต่อผลงานที่ทำออกมาด้วยค่ะ โดยเฉพาะเมื่อมีการอธิบายงานเพื่อที่ลูกน้องหรือคนในทีมจะเข้าใจข้อมูลได้ดีการเรียบเรียงคำพูดที่ดีการเตรียมตัวที่ก่อนนำเสนอจึงสำคัญมาก เพื่อนร่วมงานที่เอาใจใส่การทำงานแบบนี้จะช่วยให้งานเดินไปอย่างราบรื่นมากขึ้นส่งผลต่องานที่คุณภาพส่งผลต่อเงินที่บริษัทจะได้รับจากลูกค้าและเงินเดือนหรือโบนัสของเพื่อนๆด้วยค่ะ คือผลประโยชน์ก็จะติ่เนื่องเป็นลูกโซ่แบบนี้แต่ถ้าเพื่อนร่วมงานทำตรงกันข้ามกันนิสัยดีๆที่บอกไปผลเสียก็จะตามมาเป็นลูกโซ่แบบนั้นด้วยค่ะ
เพื่อนร่วมงานที่ดีจะรับฟังความคิดเห็นของกันและกัน มีความยุติธรรมไม่เข้าข้าวใครไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก ถ้ามีการทำผิดพลาดก็จะมีการให้คำแนะนำที่ดีต่อกันช่วยแนะนำวิธีคิดที่ดีแก่กันและมองว่าผลงานที่ดีสำคัญมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อร่วมงานที่เข้ามาใหม่หรืออยู่นานแล้ว และไม่ว่าจะตำแหน่งสูงต่ำกว่ากันยังไงการรับฟังความคิดเห็นของหลายๆฝ่ายก็จะช่วยให้ผลงานออกมาดีมากเท่านั้นค่ะ การที่เพื่อนร่วมงานทุกคนในบริษัทเป็นแบบนี้ช่วยให้บริษัทมีผลงานที่ดีออกไปสู่ลูกค้าช่วยเพิ่มพูนกำไรให้บริษัทผลดีก็ตกอยู่ที่ทุกคนนั่นแหละค่ะ ถ้ามีเพื่อนร่วมงานที่ดีแบบนี้บอกมานี้การทำงานของเพื่อนๆคงมีความสุขมากขึ้นแน่ๆและมีแรงกระตุ้นให้อยากไปทำงานมากขึ้นด้วยส่งผลต่อรายได้ของเพื่อนๆเองด้วยค่ะ
เพื่อนร่วมงานเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้การทำงานราบรื่น
ตอนนี้เพื่อนๆคงเห็นความสำคัญของการมีเพื่อนร่วมงานที่ดีแล้วนะคะ แต่การมีเพื่อนร่วมงานที่ดีนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะเราไปบังคับความคิดและนิสัยของคนอื่นๆได้แต่ให้พยายามเริ่มที่ตัวเราเองก่อนถ้าเพื่อนๆเองเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีแล้วคนอื่นๆก็อยากจะทำดีกับเพื่อนตอบกลับมา แต่สำหรับเพื่อนๆบางคนอาจจะโชคร้ายมาไม่ว่าจะทำดีแค่ไหนเพื่อนๆที่ทำงานก็ไม่ได้ดีขึ้นมาเลยการทำงานจึงเกิดปัญหามากมายถ้าเป็นแบบนั้นแล้วรับไม่ไหวก็ลองมองหาโอกาสที่จะเปลี่ยนงานดูก็ได้ค่ะ เพราะการทำงานหาเงินนอกจากจะเป็นเรื่องที่จำเป็นแล้วการทำงานอย่างมีความสุขก็สำคัญไม่แพ้กันเพราะมันจะส่งผลต่อสุขภาพ และสุขภาพจิตของเพื่อนๆด้วยสิ่งนี้มีผต่อการเงินด้วยนะคะ ถ้าเพื่อนๆเครียดมาจนไปทำงานไม่ได้ก็ไม่ได้เงินขาดรายได้ แต่ดีกว่าไหมที่จะทำงานอย่างมีความสุขไปทำงานอย่างสม่ำเสมอไม่ขาด แล้วทำผลงานออกมาดีได้เงินพิเศษอีกด้วยแบบไหนที่ควรเลือก? เพื่อนๆคงตอบคำถามนี้ได้แล้วในใจตัวเองนะคะ
น้ำตาล
เพื่อนร่วมงานก็เป็นอุปสรรคอย่างในการทำงานเหมือนกันนะคะ ถ้าเราเข้าไม่ได้กับเพื่อนร่วมงานโดยที่เราทำตัวขวางโลก หรือว่ามุ่งแต่ทำงานอย่างเดียวโดยที่ไม่สนใจเพื่อนร่วมงานแล้วแล้วก็ ได้รับผลกระทบมากจากการทำงานแน่นอนค่ะ ยิ่งเป็นงานที่ต้องทำงานเป็นทีมแล้วแล้วก็ บอกเลยว่าอยู่ยากมากค่ะ ดังนั้นบทความนี้จึงบอกวิธีที่จะช่วยให้เราสามารถทำงานและคิดถึงเพื่อนร่วมงานไปด้วยได้ค่ะ
สมศักดิ์
เห็นด้วยเลยครับที่บอกว่าเพื่อนร่วมงานก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่มีผลกระทบต่อการทำงานของเรา เพราะถ้าเราเจอเพื่อนร่วมงานที่อยู่แบบสันติสุข ไม่ค่อยยุ่งวุ่นวายกับเราเท่าไหร่ก็จะเป็นเรื่องดี แต่ถ้าเราเจอเพื่อนร่วมงานที่เอารัดเอาเปรียบและอยู่ไม่นิ่ง ก็ยากเหมือนกันที่จะทำงานไปด้วยกันได้ บทความนี้ช่วยให้เราสามารถรับมือกับปัญหาดังกล่าวได้ด้วยครับ
นันทภพ
คำถามนี้น่าสนใจนะครับ "เพื่อนร่วมงานคืออุปสรรคใหญ่ในการทำงานของคุณไหม?" สำหรับผมมันก็ไม่ถึงกับเป็นอุปสรรคนะ แต่มันเป็นส่วนนึงที่ทำให้เราจะมีความสุขหรือมีความทุกข์เมื่อมาทำงานน่ะครับ งานของผมผมก็ทำอย่างเต็มที่แหละ แต่ถ้าเจอเพื่อนร่วมงานที่ไม่ค่อยให้ความร่วมมือมันจะเซ็งๆหน่อยอะครับ บางทีเจอแบบขัดแข้งขัดขากันมันเสียเวลาเปล่าน่ะ
@Napawan11
การที่คนทำงานประจำหรือที่เรียกว่า มนุษย์เงินเดือน นั้นอยากจะลาออกจากงานที่ทำอยู่แล้วเปลี่ยนไปทำงานที่อื่นแทน นอกจากเรื่องเงินเดือนก็มีเรื่องเพื่อนร่วมงานนี่แหละค่ะ แต่สำหรับเรานะ ถ้างานที่เราทำอยู่มันโอเคเราก็ทำต่อ ไม่ใช่ว่าไม่แคร์เพื่อนร่วมงานหรือรับมือได้กับทุกคนหรอกนะ แต่ต่อให้เปลี่ยนที่ทำงานเราก็ต้องเจอกับคนประเภทเดิมอีกอยู่ดี ทำใจอย่างเดียวค่ะ
วีนัท
พออ่านบทความนี้ก็ทำให้คิดขึ้นมาเลยค่ะว่า เพื่อนร่วมงานเป็นอุปสรรคในการทำงานของฉันหรือเปล่า แต่พอมาคิดๆดูแล้วดีนะคะที่เพื่อนร่วมงานของฉันไม่เป็นอุปสรรคสำหรับฉันเลยค่ะ แต่ฉันมีความคิดว่าตัวฉ้ันเองมากกว่าค่ะที่อาจเป็นอุปสรรคของเพื่อนร่วมงาน ฉันว่าก็คงมีหลายคนคิดแบบนี้เหมือนกันใช่ไหมค่ะ แต่ฉันอยากจะบอกคุณว่าคิดแบบนั้นได้นะคะแต่อย่างให้ความคิดนี้มาทำร้ายเราค่ะ แต่ให้มันมาเป็นแรงผลักดันให้เราดีกว่าค่ะ
ฟันเฟือง
เป็นผมจะทนกับเพื่อนร่วมงานที่นิสัยไม่ดีนะถ้างานที่ทำเป็นงานที่ผมชอบ และค่าตอบแทนสูง เรื่องอะไรจะปล่อยงานแบบนี้ไป เรื่องเพื่อนร่วมงานที่นิสัยไม่ดีเราก็ไม่ต้องไปใส่ใจกับเขามากเขาก็อยู่ส่วนเขา เราก็อยู่ส่วนเรา เบนความสนใจไปที่งานที่เราทำอยู่ดีกว่า และก็เชื่อว่าในบริษัทต้องมีเพื่อนร่วมงานที่เข้ากับเราได้ ไม่มีคนนิสัยแย่ๆทั้งบริษัทหรอก
น้ำตาล
เพื่อนร่วมงานจะเป็นอุปสรรคต่อเหล้าหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับนิสัยส่วนตัวของเราค่ะ นิสัยส่วนตัวของเราจะเป็นตัวบอกว่าจะได้รับความยอมรับจากเพื่อนร่วมงานหรือว่า จะถูกเพื่อนร่วมงานไม่ยอมดีด้วย ถ้าเราเป็นคนคิดถึงคนอื่นพยายามทำอะไรเพื่อคนอื่นไม่เห็นแต่ประโยชน์ตัวเองคนอื่นๆก็จะทำงานร่วมกันกับเรารักเรา ถึงบอกมาสิครับว่าขึ้นอยู่กับนิสัยส่วนตัว
ธีรเมธ
ต้องย้อนกลับมาถามตัวเราเองก่อนแล้วละครับ ว่าเราเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีของเพื่อนๆที่ทำงานของเราไหม วิธีเชคง่ายคือเลาพักเที่ยงเรามักอยู่คนเดียวขณะที่เพื่อนๆจับกลุ่มคุยกันไหม แบบนี้ก็พอจะรู้ได้แล้วละครับว่าเรากับเพื่อนร่วมงานเป็นยังไงบ้าง เราต้องดูแล้วละครับว่าเราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อจะปรับตัวเราเองเข้ากลับเพื่อนๆที่ทำงานได้บ้าง
ศุภกิตติ์
มัปัญหา หรือว่าทำงานไม่เข้ากับเพื่อนร่วมงาน นี่ จบเลยนะครับ ทำอะไรต่อไม่ได้แล้วครับ เพื่อนในที่ทำงานถือว่าสำคัญมากจริงๆนะครับ สามารถช่วยเราได้หลายเรื่องนะครับ เราอย่าคิดว่าแค่ที่ทำงานนะครับ เพื่อนในที่ทำงานดีไม่ไดี เราอาจจะใช้ชีวิตร่วมกับเขา เป็น สิบๆปีเลยนะครับ แต่ผมทำงานคนเดียวครับ เลยไม่ค่อยมีเพื่อนมากเท่าไร