เชื่อกันว่าในขณะที่ทุกๆคนต้องเผชิญกับปัญหาโรคระบาดอย่างโควิด 19 กันอยู่นี้ คงทำให้ต้องเกิดความวิตกกังวลกันหลายๆเรื่องเลยใช่ไหมคะ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องความน่ากลัวของการแพร่เชื้อที่รวดเร็ว ติดต่อได้ง่าย มีอันตรายถึงชีวิต และที่สำคัญคือในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน หรือยารักษาเพื่อหายขาด การใช้ชีวิตประจำวันของทุกคนในทุกวันนี้ต่างก็กังวลถึงความปลอดภัยของตัวเอง และคนรอบข้าง ส่งผลให้การดำเนินชีวิตในแต่ละวันของแต่ละคนจำต้องเปลี่ยนแปลงไป ยิ่งรัฐบาลออกมาตรการพรก.ฉุกเฉินมา ส่งผลให้หลายๆคนต้องตกงาน ถูกพักงาน รายได้ลดลง บางกิจการต้องปิดตัวลงไปตามๆกันจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในครั้งนี้
คำกล่าวยอดฮิตที่เป็นเรื่องจริงแต่ปนความฮาในโลกออนไลน์ช่วงนี้ว่า “โควิด 19 โอกาสตาย 1% โอกาสติด 50% โอกาสประสาทเสีย 100% โอกาสอดตาย 1000%” ข้อความดังกล่าวบ่งบอกได้ถึงความกังวลของผู้คนในทุกวันนี้นั้นไม่ได้แพ้เรื่องการติดเชื้อเลย คือเรื่องการเงินค่ะ ในวันนี้เราจึงขอนำบทความ “4 วิธีรับมือเรื่องเงินในช่วงวิกฤติโควิด” เพื่อช่วยให้ทุกคนได้คลายกังวลกับเรื่องการเงินในช่วงวิกฤติของโรคระบาดในครั้งนี้ จะเป็นอย่างไรนั้น เรามาติดตามไปพร้อมกันได้เลยค่ะ
จัดการหนี้เก่า
หากเราเป็นผู้หนึ่งที่มีภาระหนี้สินที่จำต้องชำระหนี้สินในทุกๆเดือนไม่ว่าจะเป็นผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนบัตรเครดิต ฯลฯ การจัดการหนี้เก่าที่มีอยู่นี้จึงถือเป็นเรื่องแรกที่ต้องจัดการในการรับมือเรื่องการเงิน ก่อนที่จะเกิดเป็นหนี้เสียตามมาค่ะ เพราะในช่วงที่เกิดวิกฤติของโรคระบาดกันอยู่นี้เป็นเหตุทำให้รายได้ของเราลดลง ขาดรายได้ หรือไม่ได้อยู่สภาวะที่ผ่อนชำระได้ตามปกติเหมือนกับที่ผ่านมา การวางแผนจัดการหนี้เก่าด้วยการเจรจาต่อรองกับทางเจ้าหนี้จึงนับเป็นทางออกที่ดีและตรงจุดที่สุดในตอนนี้ค่ะ
การเจรจาต่อรองพักชำระหนี้ หรือการขอลดยอดการชำระเป็นอีกนโยบายของทางธนาคารแห่งประเทศไทยที่ได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเยียวยาประชาชนในช่วงวิกฤติโควิด 19 นี้ ซึ่งเราสามารถไปติดต่อขอทราบรายละเอียด และยื่นเรื่องเพื่อขอพักชำระหนี้ หรือขอลดยอดการชำระได้จากทุกๆธนาคารทั่วประเทศกันได้เลยค่ะ และเพื่อความสะดวก ปลอดภัยจากภาวะแพร่ระบาดจากเชื้อโควิด 19 นี้ เราสามารถยื่นเรื่องได้ทางออนไลน์กับธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้อยู่ได้ตลอดเลยค่ะ นับเป็นวิธีรับมือที่ช่วยลดความตึงเครียดด้านการเงินในช่วงนี้ให้กับพวกเราหลายๆคนได้ไม่น้อยเลยล่ะค่ะ
ชะลอการก่อหนี้ใหม่
สำหรับคนที่กำลังคิดจะเข้าไปพัวพันกับการเป็นหนี้ก้อนใหญ่ๆ อย่างเช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือสินเชื่อส่วนบุคคลต่างๆ อาจคงต้องพิจารณากันใหม่ก่อนนะคะ หรือชะลอการก่อหนี้ใหม่ออกไปกันก่อนดีกว่าค่ะ ยิ่งหากพิจารณาแล้วว่าสิ่งที่จะนำไปสู่ภาวะของการเป็นหนี้นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ได้มีความจำเป็นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสมควรเลื่อน หรือระงับไปก่อนในช่วงที่อะไรๆก็ไม่แน่นอนอย่างนี้ค่ะ เพราะบางทีเราอาจต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของรายได้ในวันข้างหน้าก็เป็นได้หากสถานการณ์โควิด 19 นั้นไม่จบลงง่ายๆค่ะ เป็นการเซฟตัวเองอีกทางหนึ่ง เพื่อที่เราเองจะได้ไม่ตึงเครียดด้านการเงินไปมากกว่านี้ในวันข้างหน้าค่ะ
ควบคุมรายจ่าย
ในสภาพการณ์ที่ตึงเครียดจากภาวะของโรคระบาดโควิด 19 ที่เกิดขึ้นนี้ ผลกระทบจากการขาดรายได้ที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะตกงาน ถูกพักงาน หรือรายได้ลดลง อาจช่วยให้หลายๆคนมีความรอบคอบ และมีวินัยในการใช้จ่ายกันมากขึ้น รู้จักควบคุมรายจ่าย และพิจารณาว่าสิ่งไหนจำเป็น หรือสิ่งไหนไม่มีความจำเป็นแต่แค่อยากได้กันได้เยอะมากขึ้นเลยล่ะค่ะ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผู้คนเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตในวันข้างหน้าทางด้านการเงินไปในทางที่ดีขึ้น รู้จักมีความรอบคอบในการใช้จ่ายถึงแม้วิกฤติโรคระบาดนี้จะจบลงแล้วก็ตามค่ะ
อีกสิ่งที่ขอแนะนำเพื่อที่จะสามารถควบคุมรายจ่ายในช่วงวิกฤติเช่นนี้ไม่ให้สะดุดก็คือ คุณควรจัดการกับรายจ่ายที่จำเป็น และที่ต้องให้ความสำคัญก่อน อย่างค่าใช้จ่ายเพื่อการดำรงชีพ ค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษาของบุตร ฯลฯ ซึ่งควรทำโดยการแยกออกไว้ก่อนในทันทีที่เราเกิดรายได้ค่ะ นอกจากนี้ก็ต้องพยายามปรับลดค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆลงตามลำดับความสำคัญที่จำเป็นของแต่ละคนแต่ละบ้านกันด้วยค่ะ การรู้จักแยกรายจ่ายที่ควรให้ความสำคัญก่อน และการปรับลดค่าใช้จ่ายตามลำดับความสำคัญนี้จะช่วยเราสามารถดำเนินชีวิตในช่วงวิกฤติของโรคระบาดแบบนี้ไปได้ทั้งในตอนนี้และระยะยาวอย่างไม่สะดุดค่ะ
ลงทุนอย่างระมัดระวัง เพื่อเปิดรับโอกาสในอนาคต
การลงทุนอย่างระมัดระวังเป็นสิ่งที่ต้องให้สำคัญอย่างมากในช่วงที่เกิดวิกฤติของโรคระบาดอยู่แบบนี้ หากการลงทุนของคุณเป็นการลงทุนเพื่อการเพิ่มทุน หรือเพื่อเปิดกิจการค้าขายต่างๆ ขอคุณชะลอการดำเนินการต่างๆในช่วงนี้ไว้ก่อนจะเป็นการดีที่สุดค่ะ รอให้สถานการณ์นิ่งและสงบลงมากกว่านี้ เพื่อที่คุณจะได้คาดการณ์สภาพของตลาดได้แม่นยำมากขึ้น ไม่เกิดภาวะเสี่ยงขาดทุน หรือภาวะหนี้สินที่อาจตามมา ที่จะพาให้ต้องเครียดเพิ่มกันเข้าไปอีกค่ะ
หากคุณเป็นนักลงทุนอยู่ในตลาดหุ้น ก็ควรหยุดการลงทุน หรือหยุดการเพิ่มทุนไว้ก่อนเช่นกันค่ะ เนื่องจากความผันผวนในตลาดตอนนี้ที่สูงมาก ความเสี่ยงที่จะประสบกับภาวะขาดทุนก็จะมีสูงค่ะ คุณควรรอให้สถานการณ์นิ่งและสงบลงเสียก่อน ถึงตอนนั้นก็จะเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุนของคุณค่ะ เพราะจะมีหุ้นพื้นดีแต่ราคาถูกมาให้เลือกลงทุนกันอีกมากมายเลยทีเดียว ในส่วนของผู้ที่ลงทุนกับกองทุนต่างๆในระยะยาวอย่างก็ยังสามารถทำต่อไปได้เรื่อยๆค่ะ เพราะกองทุนระยะยาวมักมีความเสี่ยงต่ำอยู่แล้ว จึงไม่ต้องมีความกังวลใดๆมากนัก เพียงแค่ในช่วงนี้คุณควรใช้หลักการทะยอยการลงทุนทีละน้อย ก็จะช่วยให้คุณได้รับผลประโยชน์ไปได้อย่างต่อเนื่องค่ะ นับว่าเป็นการลงทุนอย่างระมัดระวัง เพื่อเปิดรับโอกาสในอนาคตอย่างแท้จริงค่ะ
รับมือได้แน่ แม้เกิดวิกฤติ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ “4 วิธีรับมือเรื่องเงินในช่วงวิกฤติโควิด” วิธีแนะนำดีๆที่เรามาฝากกันในวันนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหากได้นำข้อแนะนำต่างๆไปใช้กัน ก็คงจะช่วยลดความกังวลด้านการเงินในช่วงวิกฤติของโรคระบาดโควิด 19 ลงไปได้นะคะ แม้เราจะไม่สามารถบอกได้ว่าวิกฤติของโควิด 19 ที่เกิดขึ้นอยู่นี้จะจบลงเมื่อไหร่ หรือจะยืดเยื้อไปได้นานเพียงไร การทำใจให้พร้อมที่จะรับมือกับทุกๆเรื่อง และปรับสภาพตัวเองให้อยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้นับเป็นสิ่งสำคัญที่สุด สุดท้ายที่อยากจะฝากไว้เป็นกำลังใจให้กับทุกๆคนที่กำลังเผชิญกับทุกๆผลกระทบที่ได้รับกันถ้วนหน้าจากโรคระบาดครั้งใหญ่ในครั้งนี้นั่นคือ “ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอฉันใด โอกาสดีๆใหม่ๆก็มักจะเกิดขึ้นในช่วงวิกฤติฉันนั้น” ขอเพียงอดทน อย่าสิ้นหวัง และพร้อมที่จะฝ่ามันให้ผ่านพ้นไปด้วยกันค่ะ
พายุ
อีกเรื่องนึงที่เกิดปัญหาขึ้นและรับมือกันได้ยากมากในช่วงนี้ค่ะ บางคนตกงานบางคนรายได้ลดลง บางคนมีปัญหาการเงิน เนื่องจากสภาวะโรคระบาดไวรัสโคโรน่าในช่วงนี้ บางคนหาทางออกโดยการใหม่พึ่งสินเชื่อส่วนบุคคล หรือเงินกู้นอกระบบ บทความนี้ช่วยอธิบาย 4 วิธีที่จะรับมือกับสภาพการณ์ดังกล่าวได้ค่ะ โดยที่จะช่วยให้เราเซฟเงินไปได้อีกด้วย
กาญ
น่าเห็นใจสำหรับคนมีหนี้สินแล้วจำเป็นต้องทำการผ่อนชำระคืนอยู่ในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโคโรน่านะคะ เพราะว่าผลกระทบที่มีต่อการทำงานมีวงกว้างมากเลยค่ะ บางคนถึงขนาดตกงาน บางคนก็มีรายได้ลดลง บทความนี้ช่วยให้เราเห็นถึง 4 วิธีที่จะช่วยให้เราใช้จ่ายอย่างที่ เชฟตัวเอง และทำให้กระเป๋าเงินของเรา มีเงินเพียงพอสำหรับการใช้จ่ายค่ะ
บงกชธร
เป็นวิธีที่ดีสำหรับการรับมือเรื่องเงินๆทองๆในช่วงโดวิด เอาจริงก็ใช้ได้ทุกช่วงเลยนะ ถ้าใครมีหนี้ต้องรีบจัดการมันให้จบโดยเร็วที่สุดเลย ไม่งั้นจะรู้สึกเหมือนหายใจติดขัด ไม่ค่อยคล่องค่ะ การควบคุมค่าใช้จ่ายนี่ใช้ได้ตลอดทุกสถานการณ์ค่ะ ถ้าใครทำได้สม่ำเสมอนะไม่ว่าวิกฤติอะไรก็ผ่านได้หมด ใครที่ทำอยู่แล้วทำต่อไปเรื่อยๆเลยค่ะ
วารียา
ช่วงหนักที่สุด ของโควิด-19 ในช่วง เดือน เมษา / พฤษภาคม ถือว่าหนักสุดแล้ว เรื่องาน ของหลายๆคนต้องหยุดชะงักลงเลยก็ว่าได้ แล้ว เรื่องการ พักชำระหนี้ จนถึงเดือนนี้ ก็ไม่สามารถขอได้แล้วใช่ไหมเพราะว่าหมดเขตไปแล้ว เพราะเขาให้ แค่ สามเดือน เราว่าน่าเห็นใจนะ เจอปัญหาหนักสุดสองเดือน แล้วให้พักชำระหนี้แค่3เดือน เราว่า หนักนะแบบนี้
ดาวหาง
เห็นด้วยมากๆเลยค่ะ น่าเห็นใจหลายๆคนจริงๆ เพราะถึงแม้ว่าการระบาดของcovid19ในบ้านเราจะเบาลงแล้วแต่หลายๆคนก็ยังเจอปัญหาหนักเรื่องงานกันอยู่ดี ซึ่งนี้ก็ทำให้การทำตามวิธีแรกของบทความนี้ก็ยังเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับหลายๆคน เราว่านะถ้าจะให้ดีคนที่เป็นเจ้าของหนี้ก็ควรจะเห็นใจลูกหนี้บ้างนะ อาจจะลดดอกเบี้ยให้พวกเขาบ้างก็ได้
ข้างหลังภาพ
เห็นข่าวออกบ่อยๆว่าช่วงโควิดคนฆ่าตัวตายกันเยอะเนื่องจากตกงาน ไม่มีเงินพอเลี้ยงดูครอบครัว น่าสงสารมากคนพวกนี้ และถ้าใครกำลังรู้สึกมืดแปดด้านหาวิธีรับมือไม่ได้ตอนนี้ขอให้อ่านบทความนี้นะครับ บทความนี้ช่วยเราให้รู้วิธีที่จะรับมือเรื่องเงินในช่วงโควิดได้มั่นใจว่าทุกครอบครัว ทุกคนสามารถทำได้แน่นอน อย่างการควบคุมรายจ่ายนี่ทำได้ไม่ยาก แต่บางคนอาจรู้สึกว่ายากเพราะทำให้การใช้ชีวิตเปลี่ยนไป แต่ถ้าเราพยายามทำมันจะเป็นผลดีต่อเราทั้งในตอนนี้และในอนาคตครับ
น้อย
เราเห็นลูกค้าว่าช่วง covid จะทำอะไรก็ต้องระวังตัว หมายถึงว่าการลงทุนนะคะไม่ใช่อย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นคือการลงทุนอะไรในช่วงนี้ก็ไม่สู้ดีเท่าไหร่ ถ้าเรามีเงินเย็นอยู่ในตัวเราไม่จำเป็นต้องรีบร้อนที่จะลงทุนในช่วงนี้ก็ได้ค่ะ รอให้เวลาผ่านไปแล้วรอให้ช่วงเวลานี้ดีขึ้นก่อนค่อยทำการลงทุนอีกครั้งก็ได้หลังโควิด เพราะยังไงเงินก็อยู่กับเรา
พลอยนภัส
ตอนนี้ บ้านเราไม่มีคนติดเชื้อแล้ว แต่ก็ยังได้รับผลกระทบจากเพื่อนบ้านอยู่ อย่างวันนี้ก็มีการออกจดหมายถึง ผู้ว่าราชการจังหวัด ที่จังหวัดมีเขตแดนติดต่อกับเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะใกล้กับพม่า ให้จับตามองและป้องกันมากกว่าปกติ เพราะตอนนี้ ในพม่ามีมารอบสองแล้ว นี้ถ้าเข้ามาบ้านเรา มันคงสร้างความเสียหายกว่าครั้งแรกๆแน่ เตรียมตุนอาการกันไว้เลยตอนนี้
ดาว
ช่วงโควิดระบาดที่ผ่านมาเราต้องบอกเลยว่าเรื่องการควบคุมค่าใช้จ่ายเนี่ยต้องรัดเข็มขัดให้แน่นๆมากๆ เพราะไม่อย่างนั้นเราจะเครียดที่บ้านมีหนี้อยู่แล้วถ้าเกิดไม่ควบคุมค่าใช้จ่ายดีๆการก่อหนี้ก้อนใหม่เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ไม่ค่อยฉลาด เฉพาะเศรษฐกิจช่วงนี้ดีขึ้นทำให้เราคิดว่าต้องวางแผนการเงินสมัย อย่างตอนนี้เรื่องที่มองมากขึ้นก็คือเรื่องของการลงทุน น่าจะเอาเงินเก็บไปลงทุนในกองทุนรวมสักกอง
ชูวี่
เพราะว่าช่วงที่คุยกับระบาดเนี่ยอย่าเพิ่งลงทุนเลยจะดีกว่าค่ะ ขนาดหลังโควิชระบาดไปมันเริ่มซาลงแล้วเรายังรู้สึกว่าการลงทุนก็ยังต้องระมัดระวังอยู่ดีไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องให้คอยดูว่าหุ้นตัวไหนที่เริ่มขึ้นเพราะช่วงชีวิตที่ผ่านมาหุ้นหลายตัวตกนะ ธุรกิจบางอันก็ล้มละลายไปเลยด้วยซ้ำปิดตัวไปเยอะก็มี ตอนนี้ต้องเลือกลงทุนแบบที่เข้ากับ New Normal ด้วย
แมวน้อย
เราว่าวิธีรับมือกับเรื่องเงินของแต่ละคนต่างกันนะเมื่อมีปัญหาอย่างช่วง covid ระบาดที่ผ่านมาบางคนก็เลือกที่จะไปกู้ยืมเงินมาเพิ่มถ้าขอสินเชื่อที่ได้ดอกเบี้ยต่ำและขอสินเชื่อตัวนั้นผ่านก็ดีไปแต่หลายคนต้องไปกู้หนี้นอกระบบขายบ้านขายรถ น่าสงสารมาก บางคนก็ตกงาน แต่ไม่ว่าจะสภาพการณ์แบบไหนแต่ละคนต้องวางแผนแล้วก็คิดเรื่องเงินอย่างรอบคอบ ตอนนี้สภาพโควิตเริ่มดีขึ้นแล้วว่าต้องเริ่มมีเงินเก็บกันแล้วล่ะ
เจนนี่
เห็นด้วยกับการหลีกเลี่ยงก่อสร้างหนี้ใหม่ค่ะ เพราะว่าในอนาคตเราไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อจากนี้ มันอาจจะแย่ลงมากกว่านี้ก็ได้ ดังนั้นถ้าเราไม่ระวังและสร้างหนี้สินมากขึ้นเรื่อยๆเราอาจจะลำบากเอาก็ได้ ถึงแม้ช่วงนี้จะอยู่ลำบาก แต่ก็ดีกว่ามีหนี้ก้อนใหม่ขึ้นมากนะค่ะ ส่วนตัวเองก็ลำบากเหมือนกันช่วงนี้งานก็ลดลง แต่พยายามที่สุดว่าจะไม่มีหนี้เพิ่มมากขึ้น ต้องประหยัดมากๆเลยละค่ะ
อดุลย์
ถ้าเป็นในรอบแรกเรื่องการจ่ายหนี้ที่ค้างอยู่ มันสามารถทำได้ครับ แต่นี้ มารอบ3แล้วก็ยังไม่มีทางที่จะดีขึ้นเรื่อง การจ่ายเงินให้กับเจ้าหนี้ไปก่อน ไม่สามารถทำได้จริงๆครับ เพราะถ้าใช้คืนเขาเราก็อดตายครับ ถ้าจะบอกว่าเราเป็นคนเห็นแก่ตัว เราก็ต้องยอมโดนว่าแล้วละครับ ทราบครับว่าเจ้าหนี้ก็ลำบากไม่แพ้กันครับ แต่ทำไงได้ครับ เหตุการณ์แบบนี้ ลำบากจริงๆ