ถ้าจะให้พูดถึงบัตรสวัสดิการรัฐเชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนมี แต่ถึงเพื่อนๆบางคนอาจจะไม่มีบัตรสวัสดิการรัฐแต่ก็สามารถรับรู้ข่าวสารได้เพื่อจะเอาไปบอกต่อคนในครอบครัว เพื่อนบ้าน หรือเพื่อนๆ เพราะสิทธิประโยชน์ของบัตรสวัสดิการรัฐนั้นมีการปรับเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ  ยิ่งโดยเฉพาะช่วงนี้ที่มีสถานการณ์โรคระบาดแล้วหลายคนเดือนร้อนเรื่องเงิน

ทางภาครัฐก็ได้มีการปรับเปลี่ยนสิทธิประโยชน์หลายอย่างให้กับผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการรัฐให้ได้มีค่าจ่ายเพื่อซื้อสิ่งของที่จำเป็นทั้งอุปโภค และบริโภคค่ะ เพื่อนคงทราบว่าก่อนหน้านี้บัตรสวัสดิการรัฐอาจจะสามารถนำมาใช้งานได้เดือนละหนึ่งครั้งเท่านั้นในจำนวนเงิน 300 บาท และใช้ได้ตามร้านค้าที่รัฐบาลกำหนดเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะใช้บัตรสวัสดิการรัฐเพื่อจับจ่ายใช้สอยแทนเงินสดได้ แต่ด้วยความที่มีจำนวนเงินจำกัดอยู่ที่เดือนละ 300 บาท ต่อบัตรหนึ่งใบก็ทำให้เพื่อนๆคงต้องวางแผนและบริหารจัดการอยู่เหมือนกันว่าแต่ละเดือนจะซื้อสิ่งของจำเป็นอะไรบ้าง

บทความนี้มีข่าวใหม่ล่าสุดของเดือนมิถุนายน 2020 มาฝากเพื่อนได้รู้กันค่ะว่าบัตรสวัสดิการรัฐนั้นมีสิทธิประโยชน์อะไรเพิ่มให้อีกในเดือนนี้ หวังว่าเพื่อนๆคงจะตื่นเต้นน่าดูเพราะเป็นอะไรที่แปลกใหม่ และน่าจะช่วยให้เพื่อนๆแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายไปได้มากขึ้นในเดือนนี้ค่ะ บอกก่อนเลยว่าบัตรสวัสดิการรัฐที่จะใช้ได้เดือนนี้นั้นจะให้เพื่อนๆได้มากกว่าการซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น กับค่าเดินทางแน่นอนค่ะ มาดูกันเลยว่าจะมีอะไรใหม่ๆบ้างที่เพื่อนๆจะรับสิทธิ์ได้ค่ะ

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐคืออะไรและช่วยในเรื่องอะไรบ้าง ที่นี่

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คืออะไร

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คืออะไร

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คือสวัสดิการที่มีการใช้งานที่เข้าใจง่าย เพียงแค่เราไปร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมกับแสดงบัตรให้ร้านค้าดู หรือให้เจ้าหน้าที่ดู ก็สามารถใช้สิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้แล้ว ดังนั้น จะเห็นได้ว่าความสำคัญของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คือเงินช่วยเหลือสำหรับคนที่มีรายได้น้อย ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในช่วงสถานการณ์ที่หลาย ๆ คนกำลังเจอวิกฤติอยู่

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ใช้ทำอะไรได้บ้าง

  1. ทุกวันที่ 1 ของเดือน (ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
  • วงเงินซื้อสินค้า 200/300 บาทต่อเดือน
  • ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อ 3 เดือน (เม.ย. – มิ.ย. 65)- -ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือนค่าโดยสารรถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) และ ขสมก. 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)
  1. ทุกวันที่ 15 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)

เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 50/100 บาทต่อเดือน (ผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิตั้งแต่ ต.ค. 64 – ก.ค. 65 จะได้รับเงินเข้าบัตรฯ ในเดือน เม.ย. – ก.ย. 65)

  1. ทุกวันที่ 18 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)

เงินคืนค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน(สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน) เงินคืนค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง)

  1. ทุกวันที่ 22 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)

  2. เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ)

บัตรสวัสดิการรัฐ ค่าใช้จ่ายที่เริ่มวันที่ 1 มิถุนายน 2566

บัตรสวัสดิการรัฐ ค่าใช้จ่ายที่เริ่มวันที่ 1 มิถุนายน 2566

มาเริ่มดูสิทธิ์ตอนต้นเดือนกันเลยค่ะ ซึ่งดูเหมือนว่าสิทธิ์ของผู้ถือบัตรสวัสดิการรัฐที่เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2020 นั้นจะเหมือนเดิม เหมือนทุกๆเดือนที่ผู้ถือบัตรได้รับนั้นก็คือ วงเงิน 300 บาทเพื่อซื้อสิ่งของจำเป็นที่ร้านค้าที่รัฐบาลกำหนดให้ แล้วก็ยังได้วงเงิน 500 บาทสำหรับซื้อตั๋วรถสำหรับเดินทาง ทั้งรถไฟ รถทัวร์ แล้วถ้าอาศัยอยู่ที่กรุงเทพ และปริมณฑลก็สามารถใช้บัตรสวัสดิการรัฐเพื่อชำระตั๋วรถเมล์ และ รถไฟฟ้า BTS ได้ค่ะ ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปยังคงเหมือนเดิมในตอนต้นเดือนนี้ ถ้าเพื่อนๆมีบัตรสวัสดิการรัฐก็ไปใช้สิทธิ์ได้เลยค่ะตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2020 เป็นต้นไป ส่วนใครที่ไม่มีก็สามารถอัพเดตข่าวสารให้คนรอบข้างรับรู้ได้นะคะ

บัตรสวัสดิการรัฐ ค่าใช้จ่ายที่เริ่มวันที่ 15 มิถุนายน 2566

บัตรสวัสดิการรัฐ ค่าใช้จ่ายที่เริ่มวันที่ 15 มิถุนายน 2566

มาถึงสิทธิ์ของผู้ถือบัตรสวัสดิการรัฐที่จะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2020 กันบ้างค่ะ สิทธิ์ที่จะได้ก็เกี่ยวข้องกับเรื่องของภาษีค่ะ ไม่ว่าเพื่อนๆจะใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการรัฐไปจำนวนเงินเท่าไหร่ก็ตามเพื่อนๆจะได้รับเงินคืนมา 5% และจะได้รับเงินคืนโอนเข้าในเดือนต่อไปในรูปแบบของเงินดิจิทัล E-Payment ค่ะ ซึ่งเพื่อนๆสามารถกดออกมาเป็นเงินสดได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกแต่ดีจริงๆเพราะปกติแล้ววงเงินที่อยู่ในบัตรสวัสดิการรัฐนั้นไม่สามารถกดออกมาเป็นเงินสดได้เลยค่ะ แล้วมีเงื่อนไขว่าเงินภาษีที่เพื่อนๆจะได้รับคืน 5% นั้นจะไม่เกิน 500 บาทค่ะ อาจจะเป็นเงินไม่มากที่ได้คืนมาจากการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มแต่ก็ช่วยได้ในยามวิกฤติแบบนี้นะคะ ช่วงโควิดระบาดแบบนี้ไม่ว่าความช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆก็มีค่าสำหรับคนที่เดือดร้อนเพื่อนๆคงเห็นด้วยนะคะ

สิทธิ์อีกอย่างหนึ่งที่ภาครัฐจัดเตรียมให้และไม่ละเลยก็คือเงินเยียวยาสำหรับผู้สูงอายุค่ะ บ้านใครมีผู้สูงอายุและถือบัตรสวัสดิการรัฐอยู่ก็ติดต่อรับสิทธิ์ได้นะคะ ซึ่งเงินเยียวยาสำหรับผู้สูงอายุแต่ละคนจะได้ไม่เท่ากันจะกำหนดตามรายได้ของคนคนนั้นค่ะ แต่ในจำนวนเงินไม่เกิน 50 - 100 บาท/เดือนค่ะ แล้วเงินส่วนนี้ก็เช่นกันกับเงินภาษีที่ได้รับคืนมานะคะคือสามารถกดออกมาเป็นเงินสดได้ที่ธนาคารนะคะ ไม่ได้รับมาเป็นรูปแบบเงินดิจิทัลค่ะ

บัตรสวัสดิการรัฐ ค่าใช้จ่ายที่เริ่มวันที่ 18 มิถุนายน 2566

บัตรสวัสดิการรัฐ ค่าใช้จ่ายที่เริ่มวันที่ 18 มิถุนายน 2566

สิทธิ์ต่อไปที่เพื่อนผู้ถือบัตรสวัสดิการรัฐจะได้รับในช่วงใกล้สิ้นเดือนเริ่มตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายนเป็นต้นไปก็คือ ความช่วยเหลือในการลดภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าน้ำ ค่าไฟค่ะ โดยภาครัฐมีกฎเกณฑ์เงื่อนไขว่าถ้าบ้านไหนใช้น้ำใช้ไฟไม่เกินที่กำหนด หรือไม่มากจนเกินไปจะได้รับส่วนลดค่าน้ำ และ ค่าไฟค่ะ แต่เพื่อจะได้รับสิทธิ์นี้ต้องไปติดต่อลงทะเบียนไว้ด้วยนะคะ

ซึ่งค่าน้ำค่าไฟที่จะได้รับส่วนลดนั้นไม่เท่ากันค่ะ ค่าน้ำจะลดให้เดือนละ 100 บาท ส่วนค่าไฟจะลดให้เดือนละ 230 บาทค่ะ นี่ก็เป็นเงินไม่มากเท่าไหร่แต่ก็เป็นการสนับสนุนให้ทุกคนช่วยกันประหยัดไฟประหยัดน้ำเหมือนกันนะคะ เมื่อประหยัดน้ำประหยัดไฟแล้วก็ยังได้ประหยัดเงินด้วยค่ะ เรียกได้ว่าได้สิทธิ์สองต่อ สามต่อเลยนะคะ

สิทธิประโยชน์มากมายที่ภาครับปรับเปลี่ยนเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการรัฐนั้นคงจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของหลายๆคนได้ไม่มากก็น้อยนะคะ แต่เพื่อจะได้รับสิทธิ์ต่างๆก็ต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดจะได้ไม่พลาดโอกาสเพราะแต่ละสิทธิประโยชน์นั้นก็มีเงื่อนไขด้วยเหมือนกัน

และสิ่งที่ต้องเตรียมใจเอาไว้คือการล่าช้าของการดำเนินการด้วยนะคะ เพราะผู้ถือบัตรนั้นมีหลายคนการรับสิทธิ์อาจจะล่าช้าได้ หรือกำหนดการณ์ที่ตั้งเอาไว้อาจจะล่าช้าได้ด้วยเนื่องจากเหตุขัดข้องต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เช่น เกี่ยวกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ค่ะ เพราะบางคนสามารถใช้สิทธิ์ได้ทันทีเมื่อถึงเวลากำหนดแต่บางอาจจะยังไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้ต้องรออีกหลายวัน

แต่ขอให้ใจเย็นๆและทำตามขั้นตอนนะคะ หรือเพื่อความแน่ใจก็สามารถเข้าไปตรวจสอบสิทธิ์ของเพื่อนๆได้ที่ธนาคารกรุงไทยค่ะ ไม่ว่าจะไปติดต่อที่เคาน์เตอร์ธนาคาร หรือจัดการข้อมูลเองที่ตู้ ATM ก็ทำได้ค่ะแล้วแต่สะดวก ยังไงก็ไปใช้สิทธิ์กันนะคะจะได้ไม่เดือดร้อนจนเกินไปในช่วงเวลานี้ค่ะ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามผู้เชี่ยวชาญจาก MoneyDuck ได้ฟรี ที่ลิงก์ด้านล่าง