เมื่อโควิดระบาดคงทำให้สายเที่ยวคงอึดอัดอย่างมากจะออกไปไหนก็ไม่ได้ แต่ตอนนี้เมื่อสถานการณ์เริ่มจะดีขึ้นมาบ้างแล้ว หลายๆประเทศรวมทั้งประเทศไทยบ้านเราก้ได้มีการปลดล็อคดาวน์มากขึ้นทำให้สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกมากยิ่งขึ้น คราวนี้สายเที่ยวที่เก็บตัวอยู่ที่บ้านมานายหลายเดือนก็เตรียมตัวเก็บเสื้อยัดใส่กระเป๋าออกเดินทางกันอีกรอบได้แล้วนะคะ ซึ่งทุกวันนี้หลายๆโรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวร้านอาหาร หรือแม้แต่สถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติก็เริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวได้แล้ว หรือแม้แต่ห้างสรรพสินค้าก็เปิดแล้วเช่นกัน สายเที่ยวจึงวางแผนท่องเที่ยวกันแล้วแน่ๆ หรือได้ออกเดินทางกันบ้างแล้วก็มี บทความนี้จะมาเอาใจสายเที่ยวให้เที่ยวกันแบบประหยัดไม่สิ้นเปลืองมากเกินไปหลังจากที่เจอศึกหนักเรื่องเศรษฐกิจจากโควิด 19 ไปหมาดๆ ด้วยการเอาข่าวดีข่าวจริงจากภาครัฐที่อยากสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศไทยเราให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งกันค่ะ ข่าวนั้นก็คือ นโยบายเที่ยวปันสุข ซึ่งเป็นนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศอย่างแท้จริง แล้วนโยบายเที่ยวปันสุขนี้มีสิทธิ์อะไรบ้าง? แล้วคนที่อยากได้รับสิทธิ์ต้องทำอย่างไรบ้าง? ในบทความนี้มีคำตอบให้ค่ะ ซึ่งจะบอกก่อนนิดนึงนะคะว่า นโยบายเที่ยวปันสุขนี้มี 3 โปรแกรมด้วยกัน คือ โปราแกรมกำลังใจ, โปรแกรมเราไปเที่ยวด้วยกัน และ โปรแกรมเที่ยวปันสุข มาดูกันดีกว่าว่าทั้ง 3 โปรแกรมนี้โปรแกรมไหนเหมาะกันคนชอบเที่ยวแบบไหนบ้างค่ะ
โปรแกรมกำลังใจ
สำหรับโปรแกรมแรกที่ชื่อว่า กำลังใจนี้เป็นนโยบายที่ออกมาเพื่อสนับสนุนคนที่ทำงานอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ในโปรแกรมนี้ค่ะ อย่างเช่น เจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ซึ่งเจ้าหน้าที่เหล่านี้ได้ทำงานอย่างหนักในช่วงที่เกิดโรคระบาดโควิด 19 ที่ผ่านมาถึงแม้ว่าสถานการณ์กำลังดีขึ้นบ้างแล้วในตอนนี้ แต่ก็ยังมีงานที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องเพราะโรคระบาดโควิด 19 ก็ยังไม่หมดไป 100% ค่ะ บุคลากรเหล่านี้จะได้โอกาสรับสิทธิ์ท่องเที่ยวก่อนใครๆ ซึ่งสิทธิ์ที่จะได้รับนั้นก็คือ ได้รับเงินค่าเดินทางท่องเที่ยในประเทศคนละ 2,000 บาท โดยมีการกำหนดระยะเวลาในการท่องเที่ยวไม่เกิน 2 วัน 1 คืนค่ะ และยังมีเงื่อนไขว่าทางภาครัฐจะจัดการเรื่องบริษัทนำเที่ยวให้ด้วย ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนบริษัทนำเที่ยวในประเทศไทยให้ฟื้นตัวเร็วมากยิ่งขึ้นค่ะ ใครที่รู้ตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่กล่าวมาก็เตรียมตัวลงทะเบียนเพื่อสิทธิ์ไปเที่ยวกับโปรแกรมกำลังใจนี้ได้เลยค่ะ เริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 และลงทะเบียนได้ที่ธนาคากรุงไทยแต่จะโดยช่องทางไหนต้องรอติดตามนะคะ
โปรแกรมเราไปเที่ยวกัน
โปรแกรมที่สองที่ชื่อว่า เราไปเที่ยวกัน ซึ่งเป็นนโยบายที่ภาครัฐจัดขึ้นมานั้นเหมาะสำหรับประชาชนทั่วๆไปอย่างเราๆแต่มีข้อกำหนดเพียงแค่ว่าต้องเป็นบุคคลที่อายุ 20 ปีขึ้นไปเท่านั้นค่ะ และ 1 คนจะได้รับเพียงแค่หนึ่งสิทธิ์ค่ะ โปรแกรมเราไปเที่ยวกันนั้นจะให้สิทธิ์ดังต่อไปนี้ คนที่ลงทะเบียนและได้รับสิทธิ์จะได้รับเงินเพื่อใช้จ่ายในการท่องเที่ยวเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 3,000 บาท มีการกำหนดระยะเวลาในการท่องเที่ยวไม่เกิน 5 วัน คนที่ได้สิทธิ์จะได้รับเงินผ่านทาง Application เป่าตังค่ะ โดยค่าใช้จ่ายที่จะใช้เงินใน Application เป๋าตัง จ่ายได้นั้นจะจำกัดค่าใช้จ่ายในโรงแรมเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ค่าใชจ่ายที่ใช้ได้คือ ค่าที่พัก และค่าอาหารค่ะ ส่วนเงื่อนไขอื่นๆก็มีอย่างเช่น สถานที่ที่จะเที่ยวต้องเป็นจังหวัดที่คุณไม่มีทะเบียนบ้านอยู่ที่นั่น คือการเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดนั่นเองค่ะ แล้ถ้าคุณได้รับสิทธิ์แล้วไม่มีการใช้จ่ายเงินที่ได้รับตามเวลากำหนดก็จะถูกระบบเอาเงินคืนไปค่ะ ใครที่สนใจรับสิทธิ์ก็รอฟังข่าวของช่องทางการลงทะเบียนได้เลยค่ะซึ่งจะลงทะเบียนได้ที่ธนาคารกรุงไทยเช่นกัน
โปรแกรมเที่ยวปันสุข
โปรแกรมที่3 ที่ชื่อว่าเที่ยวปันสุขนั้นจะเน้นช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเดินทางค่ะ ซึ่งจะช่วยค่าเดินทาง 40% ของราคาเต็มที่คุณต้องจ่ายค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยวิธีใดก็ตาม ทั้งรถทัวร์ รถประจำทาง เครื่องบิน เป็นต้น และค่าใช้จ่ายที่โปรแกรมนี้จะช่วยนั้นจะไม่เกิน 1,000 บาทค่ะ 1 คน มีสิทธิ์รับ 1 สิทธิ์เท่านั้น และนี่คือโปรแกรมที่เหมาะกับทุกคนที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปค่ะ เตรียมตัวรอลงทะเบียนกันได้เลยนะคะที่ธนาคารกรุงไทยค่ะ
นอกจาก 3 โปรแกรมนี้ยังมีสิทธิพิเศษซ่อนอยู่อีกด้วยนะ...ถูกใจสายเที่ยวแน่นอน
เมื่อได้รู้นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวจากภาครัฐทั้ง 3 โปรแกรมไปแล้วคงทำให้คุณอยากจะเก็บกระเป๋าและวางแผนท่องเที่ยวแล้วใช่มั้ยคะ? ถ้าใช่ก็เตรียมตัวได้เลยค่ะว่าอยากจะไปเที่ยที่ไหนกันบ้าง แต่สิทธิ์สำหรับสายเที่ยวยังไม่หมดเท่านั้นนะคะ ยังมีสิทธิพิเศษเสริมด้วยค่ะ ซึ่งเป็นสิทธิ์ที่ต่อเนื่องเมื่อใครคนนึงได้รับสิทธิ์ เราไปเที่ยวด้วยกันแล้วได้จองที่พักที่เข้าร่วมโครงการคุณคนนั้นจะได้สิทธิพิเศษได้รับสิทธิ์ของเที่ยวปันสุขไปด้วยเลยคือได้รับเงินสำหรับจ่ายค่าเดินทางด้วยในจำนวนเงิน 2,500 บาทค่ะ พิเศษจริงๆนะคะ ดังนั้นใครอยากได้รับสิทธิพิเศษแบบนี้ก็ต้องหาข้อมูลกันหน่อยแล้วว่าโรงแรม และที่พักที่ไหนบ้างที่เข้าร่วมโครงการ เราไปเที่ยวด้วยกันค่ะ จะได้เป็นคนที่ได้สิทธิ์ถึง 2 สิทธิ์ด้วยกันในครั้งเดียวแล้วจะเป็นการเที่ยวที่ประหยัดสุดๆไปเลยค่ะ
วิบูรณ์
ดีใจด้วยนะครับสำหรับสาวที่ชอบไปท่องเที่ยวหลังจากต้องกักตัวอยู่บ้านมานานถึงหลายเดือน ถ้ารัฐบาลจัดโปรแกรมการท่องเที่ยวที่ดีแบบนี้ให้กับเต่าไม่ได้ไปเที่ยวกันอย่างราคาถูกและสบายใจ ก็ดีนะครับถ้ามีให้เราสามารถได้รับสิทธิ์ได้ง่าย แต่ถ้าได้รับสิทธิมากใครๆก็ไม่อยากจะใช้บริการหรอกครับ แต่ถึงจะรับสิทธิ์เลือกผมก็อยากจะได้รับสิทธิ์อยู่นะครับ
ดา
ของโปรแกรมเที่ยวปันสุข เราก็เห็นโครงการนะแต่ว่าที่พักที่เราจะไปเที่ยวน่ะ โรงแรมต่างจังหวัดที่เราอยากจะจองมันไม่ได้เข้าร่วมโครงการด้วย แถมส่วนลดค่าเดินทางก็เฉพาะการจองผ่านตั๋วเครื่องบินอีกต่างหาก แต่เราขับรถไปเองก็เลยไม่ค่อยรู้สึกว่าโปรแกรมเที่ยวปันสุขช่วยได้เท่าไหร่ แถมโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการก็มีแต่โรงแรมคืนละหลักพัน โรงแรมแบบนั้นต่อได้ส่วนลดก็ยังแพงอยู่เลยค่ะ
กิวด้ง
เราเองก็อยากไปเที่ยวนะเห็นรัฐบาลออกนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเราเองก็ดีใจหลัง covid ระบาดเศรษฐกิจมันจะได้ฟื้นตัวกลับเข้ามาเร็วๆแต่ติดตรงที่ว่าเนื่องจาก covid ระบาดที่ผ่านมาทำให้การเงินเราค่อนข้างๆม่พร้อมกับการเดินทาง 555 เป็นโรคทรัพย์จางนั้นเองเสียดายมากปกติเราสายเที่ยวนะแต่ปีนี้ไปเที่ยวไม่ไหวจริงๆรอผ่านสิ้นปีก่อนเดี๋ยวจะกลับไปเที่ยวเหมือนเดิมแล้ว
AOI
ก็ถือว่าเป็นโปรแกรมที่ดีเลยค่ะ ช่วยให้ประชาชนอย่างเราๆได้ออกไปเที่ยวอย่างประหยัดหลังจากไม่ได้ออกไปไหนมานาน และก็มีผลดีเกี่ยวกับการรักษาสภาพทางเศรษฐกิจด้วย ดูแล้วรัฐบาลก็พยายามที่จะประคองเศรษฐกิจของประเทศในช่วงที่ลำบากกันแบบนี้ ถือว่าเป็นโปรแกรมทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ ถึงแม้จะไม่สามารถรับสิทธิประโยชน์ได้ทุกคน แต่ก็ถือว่าโอเคนะค่ะ
มยุรีย์
ออกนโยบาย มาตอนนี้ก็เท่านั้น แหละคะ ช่วงนี้ทะเลแถวๆบ้านเรา ไม่มีนักท่องเทียวมาเที่ยวเลยคะ ไม่ว่าจะเป็นไทยหรือว่าคนต่างชาติ ตอนนี้เงียบไปหมดเลยคะ เอาง่ายๆ ใครเดินเที่ยวชายหาดตอนนี้นะคะ จินตนาการ เอาเลยคะว่า กำลังเดินเที่ยวในป่าช้าเลยคะ ให้ความรู้สึกแบบนั้นจริงๆเลยคะ ยิ่งช่วงค่ำๆนะคะ ยิ่งไม่อยากไปเดินเล่นเลยคะ วังเวงจริงๆ
Amma
ไม่เคยเข้าสักโปรแกรมนึงเลยค่ะ เพราะรู้สึกว่าเสี่ยงเกินไป การท่องเที่ยวอย่างก็เสียงช่วงนี้ ช่วงนี้ไม่มีโปรแกรมหรือนโยบายเหล่านี้แล้วนะ ที่มาแรงที่สุดที่คนแย่งกันลงทะเบียนตอนนี้ก็น่าจะเป็นเงินเยียวยาเกี่ยวกับประกันสังคมมาตรา 33 แล้วก็มาตรา 40 เพื่อนเราก็ทำงานอิสระกำลังจะไปลงทะเบียนเหมือนกัน ส่วนเราได้อยู่แล้วเพราะเราทำงานประจำ