เงิน มีบทบาทในชีวิตประจำวันเรามากที่สุด เราใช้เงินตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าไปจนถึงเข้านอนตอนกลางคืน และเงินยังมีอิทธิพลต่อความคิดและการกระทำของคนเราในทุกเรื่อง สามารถทำให้เรามีความสุข หรือมีความทุกข์ก็ได้ ขึ้นอยู่กับวิธีคิดและมุมมองที่มีต่อเงิน บางคนเป็นทาสของเงินโดยทำงานเป็นบ้าเป็นหลัง ส่วนบางคนเป็นนายโดยใช้เงินทำงาน และก็มีบางคนที่คิดว่า เงินคือสิ่งอำนวยความสุขสบาย มีเท่าไหร่ก็ใช้ให้หมด ไม่ตายก็หาใหม่ได้ ถึงแม้แต่ละคนจะมีอิสระทางความคิดเรื่องเงินแต่ถ้าเราคิดผิดๆก็เป็นภัยคุกคามชีวิตของเราได้

ในบทความนี้ดิฉันได้นำข้อมูลที่เป็นภัยเงียบทางความคิดที่อาจทำลายความคิดทางการเงินของคุณได้ มาฝากให้เพื่อนๆได้อ่านและตรวจสอบตัวเองกันค่ะ เช่น เงินเป็นของนอกกาย หามาได้ก็รีบใช้ซะ , ถ้าเงินไม่พอใช้ก็ไปกู้สิ , มีเงินเดือนใช้จะไปลงทุนอีกทำไมให้เหนื่อย เพื่อนๆอ่านแล้วลองตรวจสอบตัวเองดูนะคะว่าเราเคยมีความคิดผิดๆในข้อไหนบ้างที่อาจส่งผลกระทบต่อการเงินของคุณได้ อ่านแล้วนำไปปรับใช้ตอนนี้ยังทันนะคะ

เงินเป็นของนอกกายหามาได้รีบใช้ซะ

เงินเป็นของนอกกายหามาได้รีบใช้ซะ

เงินเป็นของนอกกาย ไม่ตายก็หาใหม่ได้ หรือ ถ้าไม่ใช้ตอนมีชีวิตอยู่จะเอาไปใช้ตอนไหนล่ะ ? บางครั้ง เมื่อทำงานเหนื่อยเราก็อยากจะใช้เงินที่หามาได้ด้วยความยากลำบาก ทำเพื่อให้ตัวเองมีความสุข ถึงแม้เงินจะเป็นของนอกกาย ตราบใดที่ยังไม่ตายเราก็หาได้ !  ความคิดนี้ มันก็เป็นจริงอยู่บ้าง ถ้าชีวิตของเรายังปกติดี แต่เพื่อนๆอย่าลืมว่า อนาคตของเราไม่แน่นอน อาชีพการงานที่เราทำอยู่ก็ไม่แน่นอนเช่นกัน ตอนนี้สุขภาพของเราอาจจะยังดีอยู่ แต่ถ้าเราป่วยขึ้นมาล่ะ เงินที่เป็นของนอกกาย ถ้าเรามีกันเอาไว้ ก็ช่วยได้จริงๆนะคะ

โดยเฉพาะในสถานการณ์ตอนนี้ ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดไปทั่วโลกส่งผลให้ระบบ เศรษฐกิจตกต่ำ หลายอาชีพ และหลายกิจการก็ต้องปิดตัวลง ทำให้บางคน ตกงานแบบกระทันหัน และไม่รู้ว่าจะได้ทำงานอีกเมื่อไหร่ จะเอาเงินที่ไหนมากินมาใช้ เราไม่มีเงินเก็บเลย  เงินเป็นของนอกกายมีเท่าไหร่ก็ใช้ให้หมด คนที่คิดแบบนี้ ส่วนใหญ่เป็นอย่างไรคะ? เราไม่ได้ตำหนินะคะ แต่เรากำลังจะบอกว่า ความคิดแบบนี้ในระยะยาวส่งผลเสียต่อพฤติกรรมในการใข้จ่ายอย่างมากเพราะไม่มีเงินสำรองสำหรับฉุกเฉินเลย พอเกิดอุบัติเหตุ เจ็บป่วยกระทันหัน หรือตกงาน ชีวิตเดือดร้อนและมีปัญหาทันที

คนเราจะคิดถึงแค่วันนี้และพรุ่งนี้ไม่ได้นะคะ !  เพราะชีวิตของเรายังอีกยาวไกล การที่เราทำงานไปเก็บเงินไปก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ถึงแม้จะไม่มีปัญหา ในเรื่องเศรษฐกิจ และสุขภาพ แต่ถ้าเรามีเงินเก็บเอาไว้ส่วนหนึ่ง ก็จะสามารถช่วยให้อนาคตของเรามั่นคง ไม่ว่าเราจะเจ็บป่วย หรือตกงาน เศรษฐกิจจะแย่ แต่ที่แน่ๆชีวิตของเราในอนาคตจะสบายไร้กังวล เพราะเราจะมีเงินเอาไว้ใช้จ่ายยามเกษียณแน่นอน

เงินไม่พอใช้ก็ไปกู้สิ

เงินไม่พอใช้ก็ไปกู้สิ

บางคนมักจะคิดว่า คนเราทำงานเพื่อทำมาหากิน ไม่ใช่ทำมาหาเก็บ เกิดมาครั้งเดียว ตายครั้งเดียว อยากกินอะไร อยากทำอะไร อยากไปเที่ยวไหน ก็ทำให้มันสุดๆไปเลย เงินสดไม่พอใช้ ก็ใช้บัตรเครดิตสิ สมัยนี้ขอแค่มีเงินเดือนประจำ มีงานทำที่มั่นคง ธนาคารไหนก็อนุมัติบัตรเครดิตให้ง่ายๆ จะทำกี่ใบก็ได้ อยากผ่อนอะไรก็ง่ายๆก็แค่รูดบัตร และมักจะคิดเข้าเข้าตัวเองว่า คนที่มีหนี้คือคนที่มีเครดิต การใช้บัตรเครดิต หรือกู้เงินสดจากสถาบันการเงินเรา ต้องไม่ลืมว่า เงินที่ได้มามันไม่ใช่ของฟรี  ถึงแม้เราจะคิดว่าเงินกู้คือเงินเราเมื่อถึงเวลาเราต้องคืนเขาพร้อมดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว ดิฉันเห็นมานักต่อนักแล้วค่ะ กับความคิดที่ว่า เงินไม่พอใช้ก็ไปกู้สิ ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านที่มีใช้เงินกู้ทั้งนั้น  การกู้เงินมากิน มาใช้จ่ายฟุ่มเฟือยนี่สิ เห็นแล้วน่าสงสารเพราะเป็นหนี้รอบด้าน เพราะกู้หนี้ใหม่ มาโปะหนี้เก่า ไปเรื่อยๆจนสุดท้ายหมดตัวกลายเป็นบุคคลล้มละลาย

มีเงินเดือนใช้จะไปลงทุนทำไมให้เหนื่อย

มีเงินเดือนใช้จะไปลงทุนทำไมให้เหนื่อย

ภัยเงียบทางความคิดอีกอย่างที่อันตรายก็คือ มีเงินเดือนใช้อยู่แล้วจะไปลงทุนทำไมให้เหนื่อย  ทำงานทั้งวันก็เหนื่อยพออยู่แล้ว จะไปหาเรื่องลงทุนเพิ่มอีกทำไม ? เสียเวลาเปล่าๆ และไม่อยากปวดหัว ความคิดนี้อาจจะเหมาะกับคนที่ไม่มีภาระ และอยู่ในวัยเกษียณบางคนคิดกัน เพราะเขาไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน มีกินมีใช้แบบสบายๆ แต่สำหรับคนที่มีความคิดที่ถูกต้องในเรื่องการเงิน เขาจะไม่พอใจเพียงแค่มีเงินเดือนใช้ไปวันๆเท่านั้น เพราะเขามองไปไกลถึงความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตเผื่อซักวันหนึ่งไม่สามารถทำงานได้อีกแล้วไม่ว่าจะเพราะสาเหตุ

อะไรก็ตาม เขาจะเริ่มคิดถึงวิธีที่จะทำให้เงินที่มีนั้นมันงอกเงย เกิดดอกออกผลไปเรื่อยๆ ด้วยการนำเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนไม่ว่าจะเป็นการซื้อสลากออมสิน พันธบัตรรัฐบาล กองทุน ซื้อหุ้น และลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และลงทุนในทองคำ การลงทุนในสิ่งเหล่านี้เราไม่ต้องใช้เวลาอยู่กับมันตลอดเวลาเหมือนกับการทำงานประจำ ถือได้ว่าเป็นการบริหารจัดการทางเงินที่ฉลาดและรอบคอบมากที่สุด เพราะถือได้ว่าเป็นการใช้เงินทำงานแทนเรา ก็เท่ากับว่า มีตัวช่วยในการหาเงินเพิ่มขึ้นมาอีก แทนที่จะเหนื่อยแต่กลับเป็นว่า เราจะสบายขึ้นอีกต่างหาก ถึงแม้เราจะไม่มีเงินเดือนจากการทำงานประจำแล้ว เราก็ยังมีเงินเข้ามาในบัญชีทุกเดือน เพื่อนๆเห็นมั้ยคะว่า การใช้เงินเดือนประจำควบคู่ไปกับการลงทุน ไม่ได้ทำให้เหนื่อยอย่างที่คิด  มีแต่จะทำให้ชีวิตดีขึ้นเท่านั้น

เริ่มเปลี่ยนวิธีคิดตั้งแต่ตอนนี้ในอนาคตไม่เป็นหนี้แน่นอน

เริ่มเปลี่ยนวิธีคิดตั้งแต่ตอนนี้ในอนาคตไม่เป็นหนี้แน่นอน

เงินเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกชีวิต เราไม่มีเงินก็อยู่ไม่ได้ เราต้องกินต้องใช้ เงินสามารถช่วยทำให้เรามีความสุข และทำให้ชีวิตของเราสะดวกสบายได้ แต่ในขณะเดียวกัน เงินก็ทำให้เรามีความทุกข์และมีปัญหาได้ เพราะอะไรคะ ? ก็เพราะความคิดที่เรามีต่อเงินยังไงละคะ ถ้าเราคิดว่า เงินคือสิ่งที่สนองความสุข หามาได้เท่าไหร่ก็ใช้มันให้หมด แล้วค่อยหาใหม่ ถ้าไม่พอใช้ก็ไปกู้สิ! ความคิดแบบนี้นี่แหละที่จะทำให้เรามีความทุกข์เมื่อเกิดเจ็บป่วย หรือตกงานกระทันหัน แต่ถ้าเราคิดว่าเงินคือเครื่องปกป้อง และผู้ช่วยในยามฉุกเฉินเราจะเก็บเงินส่วนหนึ่งเอาไว้ทุกเดือนเสมอ และหาวิธีทำให้เงินเก็บนั้นเกิดดอกออกผลโดยนำไปลงทุนต่อ ถึงแม้เงินจะเป็นของนอกกาย ไม่ตายก็หาใหม่ได้ก็จริง แต่ก่อนที่คนเราจะตายเรายังต้องมีค่าใช้จ่ายต่างๆสารพัด ยิ่งถ้าเราไม่มีการควบคุมและการบริหารจัดการเงินในการใช้จ่ายที่ดีเราจะกลายเป็นหนี้ท่วมหัวและทำให้ตัวเองตายทั้งเป็นก็ได้นะคะ