เงินตราเป็นของที่แน่นอนว่าในปัจจุบันนั้นยังคงมีความสำคัญกับการใช้ชีวิตของเราทุกคนในทุกวันนี้ ทุกคนแน่นอนว่าต้องมีการใช้เงินกันอยู่แล้วเป็นประจำทุกวัน และไม่ได้ใช้อย่างเดียวก็ต้องหาเงินด้วย ซึ่งชีวิตประจำวันของทุกคนก็ต้องมีเรื่องการหาเงินมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันและกินเวลาของเพื่อนๆทุกคนมากกว่าครึ่งหนึ่งของชีวิตด้วยซ้ำ บางคนต้องไปทำงานต่างจังหวัด ทำงานต่างประเทศบอกเลยว่า มีเวลาอยู่กับครอบครัวน้อยกว่าอยู่กับงานสักอีกในบางคน ยากมากที่คนเราจะโตแล้วไม่ต้องทำงานหาเงินสามารถนั่งกินนอนกินได้มีเงินใช้ไปตลอดชีวิต มีอยู่น้อยคนมากที่จะเป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นเพื่อนๆคงจะเห็นแล้วว่าอำนาจของเงินนั้นมีมากจริงๆกับเราทุกๆคน รวมทั้งตัวเพื่อนๆเองและตัวของผมด้วย ซึ่งในบทความนี้ ในเมื่อเงินเป็นสิ่งที่สำคัญกับเพื่อนๆและตัวผมเองเพราะฉะนั้นแล้วผมก็จะนำเรื่องราวของเงินมาคุยมาบอกให้กับเพื่อนๆได้รู้ถึงว่า ในปัจจุบันว่าเรามีเงินที่ไม่อยู่ในรูปแบบของ ธนบัตร และ เหรียญ แล้วนะครับ ในตอนนี้ มีการใช้เงินในรูปแบบอื่นๆแล้ว เพราะฉะนั้นการจะตัดสินผู้คนว่าจะรวยหรือจนจากเงินในกระเป๋าคงไม่ได้อีกต่อไป ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยครับว่าตอนนี้ในปัจจุบันมีเงินรูปแบบไหนบ้าง และในอนาคตรูปแบบเงินจะเป็นแบบไหน
การใช้เงินในรูปแบบปัจจุบัน
การใช้เงินในรูปแบบปัจจุบัน ก็ต้องยอมรับว่ายังคงมีการผสมผสานระหว่าง การใช้เงินสด และการใช้เงินในรูปแบบต่างๆอยู่ เช่น บัตรเครดิต บัตรเดบิต และสุดท้ายคือ สมาร์ทโฟน ซึ่งอัตราการใช้เงินสดก็ยังคงเกินครึ่งหนึ่ง ในรูปแบบการใช้เงินอยู่ สำหรับในต่างจังหวัด แต่สำหรับคนที่อยู่ในเมือง นั้นอัตราการใช้เงินสดนั้นมีน้อยมากๆในปัจจุบัน คนในเมืองจะเลือกใช้การรูดบัตรสักมากกว่า แทนที่จะพกเงินสดที่จะได้รับตังทอนเป็นเศษเหรียญที่พกพาลำบากและมักจะทำให้กระเป๋าเงินขาด สำหรับการช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้า และส่วนการใช้ชีวิตประจำวันสำหรับคนในเมืองเวลากินข้าวอาหารตามสั่ง หรือขนมตามร้านทั่วไป ก็จะใช้สมาร์ทโฟน อินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้งแทนในการใช้จ่าย ซึ่งนี้ก็เป็นความสะดวกสบายในปัจจุบันที่มีเทคโนโลยีมาอยู่ในชีวิตประจำวันในการใช้เงิน ซึ่งต่างกับในต่างจังหวัด ที่ยังคงคุ้นชินกับการใช้เงินสดอยู่ และนั้นทำให้ในปัจจุบันการใช้เงินสดจึงยังคงมีตามปกติ แต่ก็มีการปะปนของผู้คนที่ไม่พกเงินสดอยู่ในระดับหนึ่ง และนี้แหละครับรูปแบบการใช้เงินในปัจจุบัน ให้เพื่อนๆไปดูกันต่อกันดีกว่าในอนาคตรูปแบการใช้เงินจะเป็นยังไงกันต่อครับ
รูปแบบการใช้เงินสำหรับในอนาคต
หลังจากที่เพื่อนๆได้รู้ไปแล้วว่าปัจจุบันมีการใช้เงินในรูปแบบไหน ต่อมาก็มาดูกันที่อนาคต แต่ก็อย่างที่รู้ๆกันว่าอนาคตเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน ไมมีใครสามารถรู้อนาคตได้ แต่คนเราก็สามารถคาดการณ์อนาคตได้เพราะฉะนั้นในหัวข้อนี้ผมก็จะขอเอาการคาดการณ์มาบอกกับเพื่อนๆล่ะกันนะครับ ถึงเรื่องของรูปแบบการใช้เงินสำหรับอนาคต เรื่องแรกเลยก็ คือ มีการพยายามทำให้เกิดสังคมไร้เงินสดกันอยู่ในตอนนี้ซึ่งถ้าทำได้สำเร็จอนาคตรูปแบบการใช้เงินก็แน่นอนว่าการใช้เงินสดจะหายไปจากสารระบบ ซึ่งดูเหมือนว่าทฤษฎีจะเป็นจริงได้อย่างแน่นอนแต็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนเราจะพร้อมกันเมื่อไร แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันนั้นโดยส่วนตัวผมคิดว่าพร้อมแล้วเหลือก็แค่ความพร้อมของผู้คนเท่านั้นเพราะต้องยอมรับเลยว่าในบ้านเราประเทศไทยยังคงมีคุณปู่คุณย่า อาม่า ตาๆยายๆ ทั้งหลายที่ยังไม่สามารถจะใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ได้คล่องแคล่วแล้วถ้านำไปทำธุรกรรมทางการเงินอาจจะเกิดการผิดพลาดขึ้นได้ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูง แต่อนาคตจะต้องเกิดขึ้นแน่ๆสังคมไร้เงินสด และ เรื่องต่อมา คือเรื่องของสกุลเงิน
เพื่อยๆคงจะทราบกันเป็นอย่างดีว่าเงินบาทนั้นเป็นสกุลของประเทศไทย และประเทศอื่นๆเขาก็มีสกุลเงินเป็นของตัวเอง ซึ่งแต่ละประเทศก็มีค่าเงินที่ไม่เหมือนกัน การจะนำเงินบาทไปแลกเป็นเงินสกุลอื่นก็จะมีทั้งที่ได้มากและได้น้อยตามค่าของเงินสกุลนั้นๆ ซึ่งในปัจจุบันตอนนี้ก็มีค่าสกุลดิจิตอลเกิดขึ้นแล้วซึ่งก็เป็นค่าเงินที่ใช้ได้ทั่วโลกมีค่าเท่ากันหมดทั่วโลกและใช้ได้กับทั้งโลกด้วย ซึ่งในต่างประเทศก็เริ่มมีคนใช้กันมากขึ้นแล้วกับสกุลเงินดิจิตอล แต่ประเทศไทยอาจจะเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้าง แต่ก็ยังไม่ถูกนำมาใช้อย่างจริงจังในประเทศนี้ก็เป็นเรื่องที่อนาคตจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน การใช้เงินสกุลดิจิตอลในการซื้อของระหว่างประเทศ
ในอนาคตยังมีระบบใหม่ๆที่กำลังเกิดขึ้นอีกมากมายคุณต้องปรับตัว
และเนื้อหาในบทความนี้ทั้งหมดก็เป็นเรื่องของรูปแบบการใช้เงินทั้งในปัจจุบันและในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับรูปแบบการใช้เงินในอนาคตก็เป็นเรื่องที่เพื่อนๆจำเป็นต้องหาความรู้และปรับตัวเข้ากับมันให้ได้นะครับ แต่อย่างที่เพื่อนๆรู้อยู่แก่ใจว่าอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนอะไรก็เกิดขึ้นได้ การปรับตัวจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ถ้าเพื่อนๆปรับตัวเก่งอนาคตอะไรจะเกิดอะไรขึ้นเพื่อนๆก็สามารถรับมือกับมันได้ รวมไปถึงรูปแบบการใช้เงินด้วย เช่นเดียวกับคำกล่าวของ ชาร์ลส์ดาร์วินที่ว่า ไม่ใช่ผู้ที่แข็งแรงที่สุดหรือฉลาดที่สุดหรอกที่จะอยู่รอด แต่เป็นผู้ที่ปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงได้ดีที่สุดต่างหาก เพราะฉะนั้นสุดท้ายสิ่งที่ผมอยากจะเน้นย้ำกับเพื่อนๆคือเรื่องการปรับตัวให้เข้าได้กับทุกๆอย่างนะครับ
สุ
ก็ต้องปรับตัวไปตามสภาพการนะคะเพราะว่าเดี๋ยวนี้รูปแบบการใช้เงินก็เปลี่ยนไปจริงๆค่ะ จากที่เราเคยต้องพกเงินสดเดี๋ยวนี้ก็สามารถที่จะทำธุรกรรมการเงินผ่านทางโทรศัพท์มือถือหรือในรูปแบบของบัตรเครดิตหรือการ์ดกันแล้ว ซึ่งการที่เราปรับตัวตามสถานการณ์ในเรื่องเงินนี้จะช่วยให้เราสามารถได้รับส่วนลด หรือโปรโมชั่นจากการปรับตัวด้วยค่ะ
ข้าว
เราเชื่อเขาว่าในอนาคตจะมีระบบการเงินรูปแบบใหม่ๆออกมาแน่นอน อย่างเมื่อก่อนเราถือเป็นเงินสด แล้วสักพักก็เริ่มมีตั๋วเงินที่แลกไว้ใช้ซื้ออาหารอะไรพวกนี้ สักพักก็เริ่มมีออกมาเป็นบัตร บัตรต่างๆที่เราสามารถใช้รูดแทนเงินสดได้ เพราะตอนนี้ก็มีระบบเงินรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นกระเป๋าเงินออนไลน์อย่างพวก wallet อะไรพวกนี้มีแค่มือถือ ก็เหมือนเราพกธนาคารไปด้วยเชื่อว่าในอนาคตจะมีแบบใหม่ๆแน่นอนค่ะ
ออย
ส่วนตัวแล้วเราชอบมากๆเลยกับการใช้เงินในรูปแบบใหม่ รูปแบบอิเล็กโทรนิกส์ ผ่าน Mobile Banking หรือว่าเป็นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ E-wallet เรารู้สึกสะดวกมากๆในการใช้จ่ายแบบนี้ ไม่ต้องพกเงินสด หรือว่าบัตรต่างๆ เพียงแค่มีโทรศัพท์ก็สามารถไปได้ทุกที่ เราเห็นที่ประเทศอื่นๆใช้กันก็แค่แบบนี้ ใช้ได้ทุกที่ทั้งร้านค้า รถบัส แท็กซี่ สะดวกมากๆ
จิ๋ว
จะใครก็ต้องปรับตัวกันทั้งนั้นแหละครับ ลองคิดถึงสมัยก่อน ใจว่าเรามันไม่ใช่แบบนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจับจ่ายหรือว่าการใช้สอยวิธีที่ผู้คนใช้จ่ายเงินก็เปลี่ยนไป วิธีที่ผู้คนซื้อของก็เปลี่ยนวิธีที่ผู้คนรับเงินก็เปลี่ยน สมัยเปลี่ยนไปเรื่อยๆเทคโนโลยีเข้ามาเราเองก็ต้องปรับตัวตามให้ทันครับ ที่จริงยังใช้วิธีแบบเดิมได้อยู่นะ แต่ว่ามันไม่ค่อยมีประสิทธิภาพแล้วถ้าเราอยากจะได้รับประโยชน์จากการเงินรูปแบบใหม่ผมว่าเราก็ต้องปรับตัวจริงๆนั่นแหละครับ