การหาเงินให้ได้มากๆไม่สำคัญเท่ากับการบริหารเงินเป็นนี่คือความเป็นจริง แล้วความจริงอีกอย่างหนึ่งคือเงินไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต แต่ความจริงสิ่งสุดท้ายที่ปฏิเสธไม่ได้คือเงินเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตของคนเรา บางคนอาจจะเห็นด้วยแต่บางคนอาจจะยังไม่เห็นด้วยกับความเป็นจริงที่กล่าวมาทั้ง 3 เรื่อง แต่ให้คุณคิดภาพตามความเป็นจริงว่านับตั้งแต่เราเกิดมาไม่มีช่วงไหนที่คนเราไม่ใช้เงิน เราทุกคนใช้เงินตลอดช่วงชีวิตที่เกิดมาดังนั้นเงินจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิต แต่เราอย่าไปให้เงินเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพราะนั่นเป็นความคิดที่ผิดๆและทำให้ชีวิตเราดำเนินไปผิดทาง ซึ่งสิ่งจำเป็นกับสิ่งสำคัญมันต่างกัน และมีเส้นบางๆกั้นอยู่แต่คุณต้องแยกให้ออกอย่าเอาไปรวมกัน อยากจะอธิบายให้คุณเห็นภาพและแยกออกระหว่างสิ่งจำเป็นกับสิ่งสำคัญมากขึ้น ดังนั้น
สิ่งจำเป็นในชีวิตคนเรามีหลายอย่างนอกจากเงินเพื่อเราจะดำเนินชีวิตได้เราต้องมีปัจจัยหลายอย่างและเราขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้เลยไม่ว่าจะเป็น อาหาร อากาศ น้ำ เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค เราต้องมีสิ่งจำเป็นเหล่านี้อย่างสมดุลมากไปก็ไม่ดีน้อยไปก็ไม่ดีนี่คือสิ่งจำเป็น
สิ่งสำคัญจริงๆแล้วมีไม่กี่อย่างซึ่งสิ่งนั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งจำเป็นแต่เราเลือกที่จะให้ความสำคัญกับสิ่งนั้นแล้วเราพร้อมจะสละทุกสิ่งเพื่อให้มีสิ่งสำคัญเพียงอย่างเดียวนั้นได้ ซึ่งอาจจะทำให้เราต้องสละบางสิ่งบางอย่างไป บางคนที่เข้าใจผิดให้เงินเป็นสิ่งสำคัญถึงกับยอมสละความสุข สละเวลา และสละชีวิตเพื่อให้ได้เงินมานั่นคือความคิดที่ผิด แต่ความคิดที่ถูกคือเงินเป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องมีแล้วก็เงินที่เราต้องมีนั้นต้องพอดีไม่มากเกินไม่น้อยเกินพร้อมกับมีสิ่งจำเป็นอื่นๆด้วยแล้วชีวิตคุณจะมีความสุข แต่ในเมื่อเงินเกี่ยวข้องกับชีวิตเราทุกช่วงชีวิตเราจึงควรรู้ว่าในแต่ละวัยของชีวิตเราควรหาเงินหรือใช้จ่ายเงินอย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ
วงจรชีวิต กับวงจรการเงิน ต้องดำเนินอย่างถูกต้องในแต่ละวัย
ตั้งแต่เราเกิดมาจนถึงวัยเรียนเราก็ยังต้องใช้เงินมีค่าใช้จ่ายแต่ยังไม่มีรายได้ หรือเริ่มการทำงาน คนเราส่วนใหญ่เริ่มมีรายได้และทำงานตอนอายุ 20 ปีขึ้นไป พอเริ่มทำงานมีรายได้คุณก็กำลังเริ่มเข้าสู่วงจรการเงินอย่างเต็มตัว คุณต้องบริหารรายรับ รายจ่ายของตัวเองให้ดีเพื่อจะไม่มีปัญหาทางการเงินแล้วไม่ว่าคุณจะถูกปลูกฝังหรือได้รับการสอนอย่างไรในเรื่องของเงินมาก่อนวันนี้บทความนี้จะมาให้ข้อมูลที่ถูกต้องที่คุณนำไปใช้ได้จริงในการบริหารเงินของคุณให้เหมาะกับชีวิตในแต่ละวัย แล้วผลที่ได้คือ คุณจะมีการเงินที่มั่นคงในระยะยาวค่ะ
20 – 30 ปี
ในช่วงอายุ 20 – 30 ปี คือการเริ่มต้นของการทำงานการหารายได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่คนเราในวัยนี้จะมีรายได้ที่ไม่สูงมากและคงที่ สมมุตถ้าคุณทำงานได้เงินเดือน 10,000 บาท คุณก็จะได้เงินเดือนเท่านี้ไปเรื่อยอาจจะเพิ่มขึ้นแต่ไม่เกิน 15,000 บาท ก็ถือว่าสามารถบริหารจัดการได้ไม่ยากถ้าคุณไม่ก่อหนี้ ดังนั้นช่วงวัย 20 – 30 ปี คุณไม่ควรมีหนี้เสีย ไม่ต้องรีบมีบ้าน มีรถยนต์ แล้วพยายามสร้างทรัพย์สินจากเงินออมหรือจากการเป็นหนี้ดีก็ได้แต่ต้องระวังเป้าหมายคือการมีอิสระทางด้านการเงินให้เร็วที่สุด ส่วนการใช้จ่ายคุณควรใช้จ่ายให้น้อยกว่ารายรับแล้วต้องมีเงินเหลือเก็บอย่างน้อย 20% ขึ้นไปจากรายได้แล้วชีวิตช่วงต่อไปคุณไปได้สวย
30 – 40 ปี
ช่วงอายุ 30 – 40 ปี ถ้าคุณทำตามคำแนะนำในช่วงอายุที่ผ่านมาตอนนี้คุณคงมีเงินเก็บออมแล้วแน่ๆ แล้วอาจจะมีทรัพย์สินแล้วด้วยซึ่งเป็นทรัพย์สินที่สร้างรายได้หรือผลตอบแทนให้คุณได้ถ้าเป็นอย่างนั้นคือคุณมาถูกทางแล้งกำลังจะเข้าสู่อิสระทางด้านการเงิน แม้ช่วงวัยนี้คุณอาจจะยังทำงานอยู่ก็ตามแต่อาจจะทำงานน้อยลงได้ถ้าคุณมี 1.เงินออม 2.ทรัพย์สินที่สร้างรายได้ วัยนี้ควรมีสิ่งเหล่านี้แล้ว เมื่อคุณมีอิสระภาพทางด้านการเงินแล้วการจะซื้อสิ่งที่อยากได้ก็สามารถทำได้ไม่ว่าจะเป็น ซื้อบ้าน ซื้อรถ แล้วการมีทรัพย์สินเหล่านี้จะไม่ทำให้คุณลำบากได้เลยเพราะคุณมีเงินออมที่เพียงพอ แล้วยังมีรายได้ที่มั่นคงทั้งจากการทำงาน และจากทรัพย์สิน ซึ่งบ้านก็จะกลายมาเป็นทรัพย์สินที่สร้างรายได้ให้คุณได้ด้วยในอนาคตค่ะ
40 – 60 ปี
วัย 40 – 60 ปี เป็นวัยที่เริ่มจะเข้าวัยเกษียณคุณต้องเริ่มคิดแล้วว่าจะวางแผนอย่างไรเมื่อถึงวัยเกษียณเงินออมที่มีพอเพียงไหมเมื่อจะเกษียณ? เมื่อหยุดทำงานยังมีเงินใช้จ่ายไหม? ถ้าคุณทำตามคำแนะนำที่บอกมาตั้งแต่ต้นรับรองว่าคุณจะตอบคำถามเหล่านี้ได้เลยว่า พร้อมที่จะเกษียณแล้วด้วยฐานะทางการเงินที่มีอิสระไร้ปัญหาทางการเงิน แล้วมีความสุขกับการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ แล้วคุณยังสามารถเกษียณก่อนกำหนดได้ด้วยค่ะ
60 – 80 ปี
บางคนสามารถเกษียณอายุได้ตั้งแต่อายุ 50 ปี นั่นก็เพราะคนเหล่านั้นดำเนินชีวิตและบริหารเงินอย่างดีซึ่งคุณก็ทำได้ การเงินที่เหมาะสมกับวัย 60 – 80 ปีนี้คือมีเงินพอใช้ยังมีรายได้แล้วใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในวัยเกษียณถ้าคุณอยู่ในวัย 60 – 80 แล้วยังต้องทำงานหนักเงินไม่พอใช้นั่นแสดงว่าคุณบริหารเงินผิดพลาด การบริหารเงินที่ดีต้องไม่เป็นอย่างนั้น วัย 60 – 80 ปีคุณต้องพร้อมแล้วที่จะเกษียณ พร้อมแล้วที่จะชื่นชมกับความสำเร็จทางด้านการเงินที่สร้างมา คุณต้องมีเวลาให้กับตัวเอง มีเวลาทำสิ่งที่รัก นั่นคือการใช้ชีวิตที่แท้จริงแม้จะมีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้องอยู่
ชีวิตจะดำเนินไปได้อย่างราบรื่นถ้าคุณบริหารเงินอย่างถูกต้องในทุกช่วงชีวิต
การไปถึงจุดมุ่งหมายที่แท้จริงทางด้านการเงิน และการใช้ชีวิต คือ มีเงินใช้เพียงพอและมีชีวิตที่มีความสุข ถ้าคุณเดินบนเส้นทางของการเงินอย่างถูกต้องคุณจะไม่มีปัญหาทางการเงินแล้วชีวิตบั้นปลายจะมีความสุขไร้ความกังวล แต่จะเป็นอย่างนั้นได้ไม่มีทางลัดคุณต้องดำเนินชีวิตและบริการเงินอย่างดีในทุกๆวัยโดยเฉพาะช่วงเวลาที่ยังทำงานอยู่ การจัดการค่าใช้จ่าย และการออมเงินเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเอาใจใส่เพื่อจะมีความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวค่ะ ดังนั้นจะข้ามขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งไปไม่ได้เลยนะคะ
สมพล
ผมว่านะครับวงจรชีวิตกับวงจรการเงิน มันสอดคล้องกันมากไม่ว่าเราจะใช้ชีวิตตั้งแต่เด็กจนถึงสูงอายุเราก็ใช้จ่ายเงิน แต่มันขึ้นอยู่กับว่าเราใช้จ่ายเงินได้ทางไหนบ้างก็เหมือนกับที่ได้ยกตัวอย่างแต่ละช่วงวัยมาถ้าทุกคนทำอย่างนั้นได้ก็ดีแต่มันก็เป็นเรื่องยากเหมือนกันที่จะใช้เงินอย่างฉลาดได้และมีเงินเก็บไว้ได้ใช้ในระยะยาว*
เจน
เราเห็นด้วยในช่วงอายุ 20-30 ปีเนี่ยเป็นช่วงที่สามารถเก็บเงินได้เยอะที่สุด เพราะอายุยังน้อยทำงานได้ถ้าไม่มีหนี้ไม่มีสินเป็นคนควบคุมค่าใช้จ่ายได้นี้มีเงินเก็บเร็ว แล้วค่อยไปสร้างเนื้อสร้างตัวช่วง 30 ก็ได้แต่ว่าฐานเงินต้นทุนมันต้องมีก่อนก็เลยช่วงอายุ 20 ถึง 30 ปีนี้เป็นช่วงที่เรากำลังสร้างต้นทุนให้กับตัวเอง อย่าเพิ่งรีบมีครอบครัว เราว่าการวางแผนการเงินตั้งแต่อายุยังน้อยจะช่วยให้ตอนอายุมากสบายจริงๆนะ
อุ้ม
ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ต้องรู้จัและฝึกใช้เงิน ยิ่งฝึกการใช้เงินตั้งแต่เด็กได้จะดีมาก ทำให้โตมาไม่ต้องเจอกับปัญหารการจัดการเงิน ไม่ว่าจะวัยไหนก็ต้องเรียนรู้เรื่องนี้ ถ้าไม่มีการฝึกคิด หรือควบคุมการใช้เงินของตัวเองพออายุเยอะก็อาจจะไม่สามารถเลี้ยงดูตัวเองหรือดูแลครอบครัวได้ ดังน้นถ้าอยากมีวงจรชีวิตที่สมดุลต้องพยายามจัดการเงินให้ได้ค่ะ
เจมส์
มีผลจริงๆนะครับ เพราะว่าอย่างถ้าอายุในน้อยๆหน่อยมีคุณพ่อคุณแม่คอยส่งเงินให้ก็อาจจะไม่ต้องคิดเรื่องเงินใส่ใจแค่วงจรชีวิตก็พอ แต่ถ้าอายุมากขึ้นมากขึ้นเรายิ่งต้องคิดเรื่องวงจรชีวิตกับเรื่องเงินมันต้องไปพร้อมกัน เพราะอายุมากขึ้นค่าใช้จ่ายมากขึ้น เรามีความรับผิดชอบมากขึ้นก็ต้องหาเงินเยอะขึ้น แต่ยิ่งอายุเรามากขึ้น สภาพการอาจจะทำให้เราหาเงินได้ไม่เหมือนเมื่อก่อนมันทั้งสองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องคิดจริงๆครับ
AAA
@เจน ใช่เลยค่ะ พี่เดาว่าน้องน่าจะอายุประมาณ 20 กว่าๆ พี่เอง 30 กว่าแล้วแต่ชอบความคิดของน้องนะ การวางแผนการเงินตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้เราสร้างโอกาสให้กับตัวเองได้เยอะค่ะ แล้วก็มีเวลาที่จะแก้ปัญหาถ้าอะไรๆไม่เป็นไปตามแผน ถ้าไปวางแผนตอนอายุมากแล้วอาจจะไม่ทัน อย่างที่น้องว่าในช่วงวัย 20 กว่าถึง 30 ไม่มีหนี้ดีที่สุด