ตอนนี้หลายคนคงเริ่มชินกับการใช้ชีวิตในสถานการณ์ของโรคระบาดกันบ้างแล้ว และหลายๆพื้นที่ก็มีการปลดล็อคดาวน์เพิ่มมากขึ้นทำให้การใช้ชีวิตนั้นง่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเดินทาง และเศรษฐกิจการเงินของประชาชนคนทำมาหากิน เราลองมองย้อนกลับไปตอนเริ่มต้นของสถานการณ์การระบบาดของโควิด 19 กันสักหน่อยค่ะ ตอนนั้นหลายคนกังวลมากเรื่องการดูแลสุขอนามัย และความสะอาด และยังนึกไม่ถึงว่าพอเหตุการณ์เกิดขึ้นมาได้สักพักสิ่งที่จัดการได้ยากกว่าการดูแลสุขอนามัยคือ เศรษฐกิจการเงิน จากการระบาดของโควิด 19 ทำให้หลายคนตกงาน ขาดรายได้ สินค้าขายไม่ออก ร้านค้า และ ธุรกิจต้องปิดตัวลง ก่อให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจที่หนักหนาพอควรซึ่งสาเหตุไม่ได้มาจากปัญหาทางด้านเศรษฐกิจโดยตรงแต่มาจากโรคระบาดที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจแบบตั้งตัวกันไม่ทัน จึงทำให้หลายคนต้องเดือดร้อนมากๆ
เราก็เห็นกันว่าภาครัฐได้พยายามให้ความช่วยเหลือประชาชนหลายอย่างโดยเฉพาะเรื่องเงินเยียวยา และการพักชำระหนี้ แต่ทั้งหมดนี้ที่ภาครัฐดำเนินการล้วนต้องดำเนินการผ่านสถาบันการเงินทั้งสิ้น บทความวันนี้จึงอยากมาให้ข้อมูลเพื่อนๆว่าจากสถานการณ์โควิด 19 ที่เกิดขึ้นนั้น สถาบันการเงินได้ทำอะไรไปบ้างเพื่อช่วยเหลือประชาชนทั้งที่ทำโดยมาตรการของสถาบันการเงินเอง และทำโดยมาตรการของภาครัฐค่ะ ซึ่งถือว่าเป็นศึกหนักอยู่ไม่น้อยค่ะ การทราบข้อมูลนี้จะช่วยให้เพื่อนๆเข้าใจการทำงานของสถาบันการเงินมากขึ้น และทุกฝ่ายก็ต้องช่วยเหลือกันค่ะเพื่อผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้ทั้งโรคระบาด และเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ค่ะ
มาตรการต่างๆของรัฐบาลดำเนินการผ่านสถาบันการเงิน
เราเห็นว่าภาครัฐได้ออกมาตรการต่างๆเพื่อช่วยเหลือให้ประชาชนมีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้นในสถานการณ์เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ที่ได้รับผลกระทบมาจากโควิด 19 และเก็เห็นว่าส่วนมากแล้วนั้นมาตรการต่างๆก็ดำเนินการผ่านทางสถานบันการเงิน นั่นก็เพราะประชาชนส่วนใหญ่ต้องใช้บริการสถาบันการเงินอยู่แล้ว และเป็นช่องทางที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับทุกคน ทุกอาชีพ และทุกวัย และที่สำคัญเงินการคลังของประเทศไทยนั้นก็หมุนเวียนอยู่ในธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นส่วนมาก ดังนั้น การดำเนินการเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มีเงินสดหมุนเวียนผ่านทางสถาบันการเงินน่าจะเป็นวิธีที่สะดวกที่สุดค่ะ
มาตรการอะไรบ้าง? ที่รัฐบาลดำเนินการผ่านสถาบันการเงิน
เรามาดูว่ามีมาตรการอะไรบ้างที่รัฐบาลได้ดำเนินการเพื่อช่วยเหลือประชาชนผ่านทางสถาบันการเงินต่างๆ มาตรการหนึ่งที่หลายคนน่าจะได้ยินบ่อยๆ ก็คือ มาตรการเงินเยียวยา 5,000 บาท นี้ก็เป็นมาตรการที่รัฐบาลดำเนินการผ่านทางสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง แล้วรัฐบาลก็ยังผลักดันให้สถาบันการเงินมีมาตรการสินเชื่อด่วนเพื่อสร้างกระแสเงินสดด้วย แถทยังมีมาตรการพักชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้อีกด้วยซึ่งมาตรการเหล่านี้จะทำได้ยากถ้าสถาบันการเงินซึ่งเป็นเจ้าหนี้ไม่ร่วมมือค่ะ เพื่อนๆคงเห็นว่าด้วยความร่วมมือของทั้งรัฐบาล และสถาบันการเงินทำให้ปัญหานั้นไม่หนักที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการช่วงเหลือเยียวยาประชาชนค่ะ
สถาบันการเงินก็มีความเสี่ยงด้วยเหมือนกัน
เพื่อนๆคงได้รับประโยชนืจากมาตรการการช่วยเหลือที่รับบาลมีผ่านทางสถาบันการเงินกันบ้างแล้ว แต่บางคนก็ยังไม่ได้รับก็น่าเห็นใจค่ะ แต่ทั้งรัฐบาลและสถาบันการเงินเองก็มีความเสี่ยงด้วยเหมือนกัน รัฐบาลต้องรับมือปัญหาที่เงินเยียวยานั้นไปได้ไม่ทั่วถึงทำให้ประชาชนบางแห่ง บางคนยังเดือดร้อนอยู่ ส่วนสถาบันการเงินเองก็มีความเสี่ยงด้วยที่จะขาดเงินหมุนเวียน เมื่อลูกค้าขาดรายได้เงินฝากก็น้อยลง แถมการพักชำระหนี้ก็ทำให้เงินที่จะเข้ามานั้นหายไป แต่สถาบันการเงินก็ต้องยอมรับมาตรการเหล่านี้เพื่อช่วยเหลือลูกค้าในยามวิกฤติให้ผ่านปัญหาไปได้แทนการเป็นหนี้เสียซึ่งอาจจะส่งผลเสียหายแก่สถาบันการเงินมากกว่านี้ค่ะ
สถาบันการเงินต้องยอมช่วยเหลือลูกหนี้ และยอบรับมาตรการรัฐบาลด้วยเพื่อผลประโยชน์ในอนาคต
ดูเหมือนว่าสถาบันการเงินนั้นต้องรับศึกหนักอยู่นะคะ เพราะต้องยอมเป็นทางผ่านของการดำเนินการช่วยเหลือประชาชนของภาครัฐ แล้วยังต้องออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกค้าของตัวเองด้วย แต่ด้วยความที่สถาบันการเงินนั้นเป็นแหล่งของเงินสดหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดที่ประชาชนใช้บริการ ทั้งฝาก ถอน โอน และขอสินเชื่อ และการลงทุนต่างๆ ดังนั้นเพื่อช่วยให้ลูกค้าที่เดือดร้อนในวันนี้ยังจะใช้บริการสถาบันการเงินได้อยู่ไปจนถึงอนาคตที่วิกฤติเศรษฐกิจดีขึ้นแล้วนั้น ก็เห็นว่าสถาบันการเงินก็เต็มใจที่จะดำเนินการต่างๆเหล่านี้ค่ะ เพื่อเห็นแก่ผลประโยชน์ในอนาคตเมื่อลุกค้าของสถาบันการเงินสามารถประคองตัวในตอนนี้ได้เพราะความช่วยเหลือของสถาบันการเงินในอนาคตก็ย่อมจะใช้บริการสถาบันการเงินอย่างเต็มที่แน่นอน ด้วยความมั่นใจและไว้วางใจค่ะ เพื่อนๆคงได้บทเรียนหลายอย่างจากสิ่งที่สถาบันการเงินทำนะคะ เราสามารถนำมาให้กับการเงินการลงทุนของเราได้ โดยมองการณ์ไกลและมองในมุมกว้าง และลงมือทำสิ่งที่เราสามารถทำได้โดยให้ความสำคัญกับลูกค้าให้มากๆด้วยค่ะ
สมนึก
ยกนิ้วให้เลยครับสำหรับสถาบันการเงินที่ออกมา ผ่อนปรนช่วยให้คนที่เป็นหนี้กับทางสถาบันการเงินได้รับการ พักหายใจในการผ่อนชำระหนี้ แล้วยังมีสิทธิประโยชน์ที่ยกให้สำหรับคนที่เป็นหนี้อีก นี่แสดงให้เห็นว่าถึงแม้สถานการณ์โรคระบาดเกิดขึ้นมา สถาบันการเงินก็ยังเห็นใจและพยายามที่จะให้ความช่วยเหลือในการพักชำระหนี้ผมอยากจะขอบคุณ แทนคนที่เป็นหนี้เลยครับ
กาน
จริงๆแล้วมาตรการเงินเยียวยา 5000 บาทต่อเดือนนี้ช่วยได้เยอะจริงๆนะครับ ผมเองเดือนแรกไม่ได้มาได้เดือนที่ 2 รู้สึกเลยว่าเงิน 5000 บาทที่เข้ามานี้ช่วยให้บ้านผมไปได้จริงๆ อย่างน้อยมันก็ช่วยจ่ายค่าเช่าบ้านค่าน้ำค่าไฟได้ ว่าจากการระบาดของ covid ทำให้รายได้ของผมรายได้ที่เข้าบ้านหายไปเลยครึ่งหนึ่งนี้ที่ได้เงินเยียวยา 5,000 บาทก็เลยรอดมาได้ ตอนนี้สภาพเศรษฐกิจเองก็ค่อยๆดีขึ้นหวังว่ามันจะดีจะเหมือนเดิมเร็วๆนี้ครับ
เจนนี่
สถาบันการเงินในประเทศไทย มีหลายที่นะไม่ใช่แค่ธนาคาร แต่ถ้าสถาบันการเงินที่เราเห็นว่า มีโครงการช่วยเหลือมากที่สุดตอนนี้ก็คงเป็นรัฐบาลนั่นแหละ อย่างธนาคารของรัฐบาลก็มีนโยบายช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดระบาด ส่วนตัวรัฐบาลเองก็มีเงินเยอะๆออกมาเรารู้สึกว่าเงิน 5,000 บาท 3 เดือนนี้ช่วยได้มากนะ อย่างน้อยเราก็มีเงินส่งค่าบ้าน ช่วยได้มากจริงๆ
กระต๋าย
เห็นว่าในช่วงโควิดแบบนี้ หลายธนาคารก็ออกมาช่วยเหลือประชาชนหลายอย่าง ทั้งลดดอกเบี้ย บางธนาคารถึงกับให้หยุดชำระหนี้ได้ด้วยซ้ำ ช่วยประชาชนได้มากๆเลย และธนาคารบางแห่งอย่างเช่น ธนาคาร ธกส. ได้มีโครงการให้ประชาชนข้อกู้ฟรี เป็นเงินกู้ฉุกเฉินโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์มาค้ำประกัน แถมดอกเบี้ยก็ถูกมากๆ ทำให้ประชาชนพอมีเงินเอามาหมุนใช้ได้บ้าง
ขนิฐฐา
จริงๆเราต้องขอบคุณ สถาบันการเงินมากจริงๆคะ ที่เข้ามามีบทบาทในการช่วยเหลือประชาชน ในช่วงที่ผ่านมา เราได้รับการช่วยเหลือมาตั้งแต่รอบแรกๆแล้วละ ทุกครั้งเงินที่เราได้มาก็เอามาเยี่ยวยา ภายในบ้านจริงๆคะ ไม่ได้เอาไปซื้ออะไรที่ไม่จำเป็นเลยคะ นี้ ตอนนี้เรารอ คนละครึ่งอีกรอบด้วยนะคะ ชอบโครงการแบบนี้คะ
Malai
ถ้าพูดถึงธนาคารที่มีนโยบายช่วยเหลือลูกหนี้มากที่สุด เรายกให้กับธนาคารออมสินเลยนะ น่าจะมีมาตรการพักชำระหนี้หรือมีสินเชื่อต่างๆที่เสนอออกมาเป็นสินเชื่อเงินด่วนดอกเบี้ยต่ำ มากที่สุดแล้ว แต่ถ้าเป็นธนาคารอื่นๆการติดต่อขอพักชำระหนี้ก็ค่อนข้างจะยุ่งยากเหมือนกันนะ เห็นเพื่อนมาเล่าให้ฟัง แต่ดีนะที่เราไม่ได้เป็นหนี้อะไร