การลงทุนอย่างคุ้มค่า เราก็คงจะต้องหวังให้ได้รับผลตอบแทนกลับมาในแบบที่คุ้มทุนที่สุด แน่นอนว่าสินทรัพย์ที่ถือว่ามีแต่เพิ่มเมื่อผ่านช่วงเวลา ทำกำไรในระยะสั้นได้สูง ช่วยกระจายความเสี่ยงได้ดี และชนะอัตราของเงินเฟ้อ แถมยังสร้างผลกำไรให้ผู้ถือครองได้ดีไม่แพ้แม้แต่การเล่นหุ้น หรือสะสมกองทุน สิ่งนี้ก็คือ การเทรดทอง และ การลงทุนในทองคำค่ะ

ใครที่เคยฝึกมือมาบ้างในเว็บไซต์ทดลองซื้อขายก่อนลงสู่สนามจริง หรือมีข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในทองคำมาแล้วไม่น้อย ก็ลองมาสร้างกำไรจากการลงทุนในทองคำให้กำไรงอกเงยมากขึ้น ด้วย 7 เทคนิคนี้กันได้เลย

เข้าใจว่าเราเป็นนักเทรดทองประเภทไหน

https://img.moneyduck.com/article_attachment/1664877399-online-statistics%20%281%29.jpg

การรู้ว่าตัวเราเองจัดเป็นนักลงทุนประเภทไหนกันแน่ จะช่วยให้ผู้เริ่มต้นลงทุนทุกคน รู้จักสไตล์ที่เหมาะกับเราค่ะ เช่น ไม่มีเงินเก็บจำนวนมาก จึงเลือกจะออมทองไปก่อนแล้วค่อยๆสะสมจนได้จำนวน  ไม่มีเวลาในการติดตามข่าวสารการลงทุนอย่างละเอียดจึงต้องมีผู้เชี่ยวชาญคอยช่วยดูแลจัดการให้ในกองทุนรวมทองคำ

หรือแม้แต่นักลงทุนที่ชอบสินทรัพย์อย่างทองคำแท่งแต่ไม่มั่นใจในการเก็บรักษาก็จะต้องซื้อขายแบบตั๋วสัญญา หรือยอมเสียค่าบล็อก เป็นต้น แสดงว่าถ้าเรารู้ประเภทการลงทุนที่ชอบ และค้นหาสไตล์เจอ ก็จะทำให้การลงทุนที่เลือกทำได้ดีมากแน่ๆ

ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการเทรดทอง

https://img.moneyduck.com/article_attachment/1664877419-business-man-looking-data-chart-stock-market-analysis-company-growth-laptop-entrepreneur-looking-global-money-trade-invest-crypto-currency-work-project%20%281%29.jpg

‘การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน’ ประโยคเด็ดตัวนี้ ยังไงก็ใช้ได้จริงในโลกของการลงทุนแน่ๆค่ะ และทำให้หลายคนตระหนักได้ว่า การลงทุนในทองคำ ก็มีความเสี่ยงซ้อนอยู่คล้ายๆกับการลงทุนประเภทอื่นด้วย

เราเองจึงต้องทำความเข้าใจข้อมูลพื้นฐานของการลงทุนสายนี้ให้ดีก่อน จะได้วางแผนได้ถูกต้องและรัดกุมกว่าเดิม เช่น ราคาทองคำที่อาจอ้างอิงความผันผวนของเงินดอลล่าห์สหรัฐ  การเสียค่ากำเหน็จในการซื้อทองรูปพรรณหรือการซื้อขายทองคำแท่งที่มีราคาต่ำกว่า 5 บาท เป็นต้น

ลงทุนในปริมาณที่พอเหมาะต่อผลกำไร

ลงทุนในปริมาณที่พอเหมาะต่อผลกำไร

ในทุกการลงทุนเราจะมีจุดสูงสุดอยู่ที่ผลกำไรตอบแทน  การลงทุนในทองคำก็เช่นกัน  เราจะต้องแน่ใจว่ามีปริมาณที่เหมาะสมในการสร้างผลตอบแทนได้ดี โดยเฉพาะผู้ที่ถือครองสินทรัพย์อย่างทองคำแท่ง  ก็ควรเริ่มต้นตั้งแต่ 10 บาทขึ้นไป ถึงจะสามารถทำกำไรได้เป็นตัวเลขที่น่าพอใจเมื่อมีการผันผวนของราคาในตลาดทองคำ เพราะหากมีน้อยเกินไปกว่านี้ ก็อาจจะทำให้ขายทำกำไรได้น้อยเกินไปไม่คุ้มค่าต่อการถือไว้เพื่อเก็งกำไรค่ะ

หาจังหวะได้ดีและรู้แนวโน้มของตลาด

https://img.moneyduck.com/article_attachment/1664877407-mobile-manager%20%281%29.jpg

การลงทุนทุกแบบ เมื่อเรามีไว้ในครอบครองสักช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก็จะต้องหาจังหวะที่ดีในการขายออกไปเพื่อทำกำไร ดังนั้น เราจะต้องกะจังหวะให้ได้ในการลงทุนประเภทที่เราเลือก และดูแนวโน้มของตลาดได้ดี โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้น เช่น  การเลือกขายเพื่อทำกลไกเมื่อราคาทองพุ่งสูงกว่าปกติในราวๆ 2-5 %

การรอจังหวะในการซื้อ เมื่อราคาทองคำอยู่ในจุดต่ำสุดในรอบนั้นๆ โดยดูจาก Indicators , การใช้เส้นไข่ปลาอย่าง parabolic ดูทิศทางการขึ้นลงของกราฟ หรือ การใช้ Bollinger Bandมองหาช่วงการแกว่งตัวของราคาที่รุนแรงเพื่อทำการเทรดค่ะ

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กลยุทธ์เทรดทอง ที่นี่

มีความเข้าใจและรับผิดชอบ

มีความเข้าใจและรับผิดชอบ

เทรดเดอร์ที่ดี จะต้องมีความเข้าใจในหลักการค้าทอง ไม่ว่าจะเทรดโดยการซื้อถูกขายแพง หรือการทำสัญญาแบบ CFD เพื่อคาดการณ์ราคาทองขึ้นลงภายในกรอบ ซึ่งเราก็จะต้องมีความรับผิดชอบในการเทรดของตนเอง

หากเราได้ทำการตัดสินใจเองไปแล้ว ก็จะต้องยอมรับความจริงที่ได้ ถึงแม้จะเกิดข้อผิดพลาดตามมาก็จะต้องยอมรับ แล้วปรับปรุงให้ได้ในครั้งคราวหน้า โดยที่ไม่เลิกล้มแผนการหนี หรือโทษผู้อื่นผู้ใดค่ะ

ไม่ปล่อยให้ความรู้สึกมาส่งผลกระทบมากนัก

ไม่ปล่อยให้ความรู้สึกมาส่งผลกระทบมากนัก

ทุกครั้งในกระบวนการเทรด หรือลงทุนในทองคำ เมื่อเรามีอารมณ์ร่วมต่อการเคลื่อนไหวของราคาทอง  หรือแน้วโน้มในตลาด  เราจะต้องไม่เสียความควบคุม หรือปล่อยให้ความรู้สึกอย่าง ความกลัว กังวลใจ หรือความเครียดจากปัจจัยต่างๆ จนส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของเรา

เทรดเดอร์ที่ดี จึงต้องรู้จักอารมณ์ของตัวเอง แล้วหยุดสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา เช่น หากเราเครียดจนนอนไม่หลับ ก็อาจมาจากการดู Position มากเกินไปหรือเปล่า  หรืออารมณ์ไหนที่ส่งผลให้เราไม่ได้ทำตรงตามแผน ก็จะต้องแก้มันให้ตรงจุดด้วย

มีจุดโฟกัสไปที่กระบวนการเทรดทอง

มีจุดโฟกัสไปที่กระบวนการเทรดทอง

นักลงทุนมืออาชีพ แม้จะสนใจในปัจจัยเรื่องความเสี่ยงและผลตอบแทน  แต่เราก็จะต้องควบคุมจุดโฟกัสหรือแผนการณ์ที่วางเอาไว้ให้ดี เช่น วิธีการเทรด จุดตัดขาดทุน ทิศทางการขึ้นลงของกราฟ หรือช่วงแกว่งของราคา

แล้วหยุดคิดในเรื่องผลตอบแทนในอนาคต แต่โฟกัสไปที่กระบวนการเทรดให้มากๆ เพราะอาจมีสิ่งอื่นที่ส่งผลในตลาดทองคำที่เราไม่มีทางคาดเดาได้  และไม่มีทางรู้ว่าเดือนนี้จะได้กำไรกี่%  จึงต้องไม่บีบคั้นผลกำไรซะเกินไปจนอาจทำให้การเทรดของเราพังทลาย

การลงทุนในทองคำถือว่าไม่ยากเกินไปสำหรับทุกคนค่ะ ซื้อง่ายขายคล่อง ไม่ว่าจะซื้อกองทุนรวมในทองคำ หรือใช้เงินซื้อทองคำโดยตรงจากร้านทอง การออมทอง หรือตั๋วทอง หลังจากนั้นก็รอคอยจังหวะในการขาย เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของเราที่มีแต่จะเพิ่มสูง ไม่รนหรือรีบแท้ขายไปก่อนเมื่อมีการขยับเล็กน้อย หรือแม้แต่การเทรดทอง เราก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ และจัดการตัวเองให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด

เมื่อประกอบกับการศึกษาข้อมูลของสภาพการณ์ให้ถี่ถ้วน เพราะทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอย่างเราจึงต้องศึกษาข้อมูลก่อนจะตัดสินใจในการลงทุนทุกครั้ง และเสริมทัพด้วยเทคนิคอีก 7 ข้อเพื่อการจัดการการลงทุนในทองคำที่ยกตัวอย่างกันไป เราจะต้องทำได้ดีกว่าเก่าและเพิ่มกำไรให้งอกเงยได้อีกมากแน่ๆค่ะ หวังว่าหลายๆท่านคงจะได้รับประโยชน์หรือนำไปประยุกต์ใช้กันได้นะคะ หากใครมีข้อสงสัยสามารถสอบถามผู้เชี่ยวชาญจาก MoneyDuck ได้ฟรี ที่ลิงก์ด้านล่าง