สนใจเปิดร้านกาแฟ Cafe Amazon เตรียมงบเท่าไหร่ และทำอย่างไรให้คุ้มทุน!

ร้านกาแฟที่มีคอนเซ็ปท์สบายตา บรรยากาศร่มรื่น เน้นสีเขียวๆของธรรมชาติและแมกไม้ เหมือนการสร้างคาเฟ่อยู่กลางป่าในบราซิล แถมยังมีมาตรฐานในเรื่องรสชาติและบริการที่โดนใจลูกค้าทุกเพศทุกวัย ก็คือ ‘ร้านกาแฟ Cafe Amazon’ ที่คุ้นหูคุ้นตาพวกเรานี่เอง!

หากใครเคยมองๆ ธุรกิจแฟรนไชส์แบรนด์นี้อยู่ และสนใจอยากจะเป็นเจ้าของสักสาขา ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ บทความนี้ จะเปิดรายละเอียดเพื่อประเมินการตัดสินใจในการลงทุนของเราค่ะ  ทุกท่านจะได้คำนวณงบประมาณได้อย่างคุ้มทุนที่สุด ตามมาดูกันเลย..

เฟรนไชส์ Cafe Amazon เหมาะกับเราอย่างไร

แฟรนไชส์ร้านกาแฟอเมซอน (Amazon) เป็นที่รู้จักกันว่า ร้านนี้มีการดำเนินงานโดยปั๊มน้ำมัน ปตท. เราจึงเห็นว่าจะมีการกระจายตัวที่เกาะติดไปแบบแทบทุกปั๊มนี้เลยก็ว่าได้. ด้วยคอนเซปต์เก๋ๆ บวกกับสโลแกน Taste of Nature จึงคงความคิดแนวผืนป่าในประเทศที่โด่งดังเรื่องกาแฟอย่างบราซิล และมีสายน้ำที่มีการดำรงค์อยู่ของพรรณไม้นานาพรรณ จึงทำเป็นที่นิยมและคุ้นตาในบ้านเราเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบัน แฟรนไชส์แบรนด์นี้มีอยู่มากกว่า 2000 แห่งในไทย และกว่าร้อยสาขาในประเทศแถบเอเชียด้วย โดยทาง ปตท.เองก็ยังมีเป้าหมายว่า ในปี 2565 จะเพิ่มสาขาเป็นจำนวน 4000 แห่งให้ได้อีกด้วย

ถ้าถามว่าแบรนด์นี้ดีที่สุดกับเราไหม ก็ตอบได้ว่า ถือเป็นแบรนด์แฟรนไชส์นี้จัดว่าแข็งแกร่งและมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีส่วนแบ่งทางการตลาดในบ้านเราแซงแบรนด์กาแฟอันดับหนึ่งของโลกอย่างสตาร์บัคแล้วตั้งแต่ปี 2558-2561 จึงถือยังเป็นตัวเลือกการลงทุนเปิดร้านกาแฟ ที่หลายคนสนใจเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นทั้งการช่วยเหลือเกษตรกรรมไทยและ SME กลุ่มรายย่อยในด้านผลิตภัณฑ์ พร้อมกับระบบการบริหารและช่วยเหลือที่มีมาตรฐานจากบริษัทแม่ยักษ์ใหญ่อย่าง ปั๊มน้ำมัน ปตท. การันตีอยู่

นอกจากนี้ แบรนด์แฟรนไชส์ค่าเฟ่อเมซอน ยังมีทีมที่พร้อมพัฒนาสูตรเมนูใหม่ๆ ออกมาในแต่ละซีซั่น ทำให้ธุรกิจนี้มีการดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกันทั่วประเทศ อัพเดตเมนูใหม่ๆในโปสเตอร์ได้ตลอด ถือเป็นจุดขายที่ดึงดูดตาสำหรับผู้บริโภคได้ในทุกเพศทุกวัย พร้อมขนมหลากหลายชนิดที่อิงรสจากธรรมชาติให้ลูกค้าได้รองท้องและเลือกชิม ไม่ว่าจะแวะมาเยือนเวลาใดในช่วง 7 โมงเช้า - 3 ทุ่ม ซึ่งถือว่าสร้างกำไรเสริมให้กับผู้ประกอบการเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

งบประมาณและการคืนทุน

สำหรับการเตรียมตัวในเรื่องงบประมาณในการลงทุนสำหรับร้านแฟรนไชส์ Cafe Amazon นี้ ก็จะประกอบไปด้วย ค่า Franchise Fee ค่าประกันแบรนด์ ค่าก่อสร้างและตกแต่ง งานระบบ และค่าอุปกรณ์ต่างๆ โดยจะมีอายุในสัญญา 6 ปี รู้ผลภายใน 90 วันที่เราดำเนินการคำขอ และในทุกๆ 3 ปี จะต้องมีการ Renovate ให้ร้านยังคงได้มาตรฐานและรูปแบบของแบรนด์ด้วย โดยจะมี 2 ลักษณะให้ผู้สนใจได้เลือกตัดสินใจ คือ

• ร้านรูปแบบในอาคาร (Shop) : ที่จะมีพื้นที่โดยประมาณ 40 ตรม. ขึ้นไป จะเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนตั้งแต่ 2,389,000 - 3,729,000 บาท บาท
• ร้านรูปแบบนอกสถานี (Stand Alone) : ที่จะมีพื้นที่โดยประมาณ 100-200 ตรม. ขึ้นไป แบบที่รวมสวนหย่อมแล้ว ซึ่งจะเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนตั้งแต่ 2,689,000 – 4,229,000 บาท

ร้านกาแฟคาเฟ่อเมซอนที่เจ้าของหลายคนยืนยันว่า มีการขายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 300 แล้ว ด้วยราคาเครื่องดื่มตามเมนูขาย ที่เฉลี่ยอยู่ที่แก้วละ 50 บาท พร้อมขนมสแน็คต่างๆ จึงทำให้กำไรหลัก และการคืนทุน ตามสัญญา 6 ปี เราควรจะคืนทุนที่ช่วงเวลา 3 ปี เป็นอย่างน้อย หรือมีกำไรประมาณ 2-4 % ต่อเดือนจากเงินลงทุน แต่ก็ขึ้นอยู่ความสามารถในการบริหารจัดการ ของผู้ประกอบการในแต่ละสาขาด้วย เช่น

• รายได้ ที่ 2 % ควรมีรายรับประมาณ 63,000 บาท/เดือน ก็จะคือทุน ใน 4 ปี 1 เดือน
• รายได้ ที่ 4 % ควรมีรายรับประมาณ 120,000 บาท/เดือน ก็จะคือทุน ใน 2 ปี 8 เดือน เป็นต้น

สิ่งที่น่าสนใจและช่วยให้เราไปต่อ

เหตุผลที่หลายคน สนใจการซื้อแฟรนไชส์แบบนี้ ก็มาจากการสร้างรายได้ให้กับเราที่มากกว่าการทำงานแบบประจำ และยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ซึ่งถึงแม้จะทุกการลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่หากเราเลือกแบรนด์แฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียงในศักยภาพและด้านการดำเนินงาน ก็ย่อมไม่มีความเสี่ยงตรงนี้ และแบรนด์คาเฟ่อเมซอนก็ถือว่าน่าสนใจมากๆ เพราะว่า ไม่ต้องมีการดำเนินการผ่านนายหน้า ตัวแทน หรือบุคคลกลางใดๆ ใครที่ต้องการทราบข้อมูลก็สามารถติดต่อ หน่วยธุรกิจของ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด มหาชน (PTTOR) ได้เลยโดยตรงที่เบอร์ติดต่อ 02-5372391 หรือเว็บไซต์  >> (http://www.cafe-amazon.com/index.aspx)  และหากสนใจยื่นเอกสารก็สามารถกรอกข้อมูลออนไลน์ได้ที่>> (http://www.cafe-amazon.com/franchise.aspx) โดยกระบวนการคัดเลือกพื้นที่นั้นจะพิจารณาโดยประมาณ 90 วัน หลังจากได้รับเอกสารครบถ้วน และจะมีการแจ้งผลกลับมาทางอีเมล์ติดต่อของเรา เพื่อการเข้าอบรมบริหารจัดการร้าน และลงนามในสัญญาแฟรนไชส์ต่อไปค่ะ

สิ่งที่ช่วยให้เราไปต่อไปดี ก็คือ ทำเลของปั๊มที่เราต้องการจะลง จึงควรมีทั้งลูกค้าขาจรและลูกค้าขาประจำ เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจในลงทุนเพิ่มเติมด้วย  ยิ่งอยู่ในแหล่งชุมชนที่มีการจัดแสดงสินค้าหรือเส้นทางสำคัญไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ก็จะยิ่งส่งผลต่อยอดขายที่เหมาะแก่การลงทุนของเรามากขึ้นไปอีก. นอกจากนั้น การสร้างทีมงานขึ้นมาเองในแต่ละสาขาที่มีมีจำนวนประมาณ 6 คน เราก็จะต้องคัดเลือกพนักงานที่มีในรักงานบริการ ยิ้มแย้มแจ่มใส และเป็นมิตร แม้จะมีการเปิดอบรมกับทางบริษัทแม่เป็นระยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานก็ตาม

เฟรนไชส์ฮิตติดตลาด ร้านกาแฟ Cafe Amazon ที่จะช่วยเราทำกำไรได้อย่างเกินคุ้ม!

ถ้าจะพูดถึงแฟรนไชส์ร้านกาแฟอับดับต้นๆในประเทศไทย ก็คงไม่มีใครไม่รู้จัก แบรนด์ฮิตติดตลาดอย่าง ‘ร้านกาแฟ Cafe Amazon’ แน่ๆ! ซึ่งเหตุผลที่โดนใจใครต่อใครหลายคนคงเป็นเรื่อง มาตรฐานในเรื่องรสชาติและบริการ ใครที่สะดวกจะซื้อแบบไปต่อ หรือนั่งพักผ่อนหย่อนใจสักพัก ร้านก็มีคอนเซปต์ที่ร่มรื่นน่ามอง

และข้อสำคัญคือ แฟรนไชส์นี้ เป็นการร่วมทุนกับ บริษัทแม่ที่มีประสบการณ์อย่าง สถานีบริการน้ำมัน ปตท. จึงเสมือนถูกโอบอุ้มไปด้วยกันแบบกลายๆ ทำให้ตัวเลขของรายได้ก็เติบโตมาตลอดในทุกๆปี  พร้อมระบบคัดกรองผู้ร่วมแฟรนไชส์ที่ช่วยเรามองเห็นถึงความเป็นไปได้ของธุรกิจ แบบไม่ผ่านนายหน้าหรือตัวแทนใดๆ  ยิ่งทำให้ผู้สนใจร่วมทุนทุกท่าน ก็มั่นใจในคุณภาพและการบริการที่ได้มาตรฐานอย่างแน่นอน ดังนั้น หากใครสนใจแบรนด์แฟรนไชส์นี้จริงๆล่ะก็ แนะนำให้ลองศึกษาข้อมูลในการลงทุนให้ถี่ถ้วน พร้อมวางแผนการลงทุนให้ดี เพราะปัจจัยในการลงทุนของแต่ละท่านย่อมไม่เหมือนกัน ใครพร้อมมากพร้อมน้อยก็ลองประเมิน แล้วเริ่มลงมือกันดูได้!

ดีไม่ดี.. การเปิดสาขาที่ 2 และ 3 ก็จะไม่ไกลเกินเราเอื้อมขึ้นในอนาคตอีกแน่นอน ถ้าได้วางแผนเรื่องงบประมาณและจุดคืนทุนแบบที่แนะนำกันไปค่ะ