บัตรเครดิตหาย ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาใกล้ตัวของการใช้บัตรเครดิต ซึ่งทำให้เราปวดหัวไม่ใช่น้อย เพราะว่าหากมีคนนำบัตรไปรูดซื้อสินค้าหรือบริการขึ้นมา เราได้เป็นหนี้หนักแน่ และถึงแม้ว่าหลังบัตรเครดิตจะมีลายเซ็นของเจ้าของบัตรเพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงตัวตนผู้ถือบัตร รวมทั้งเพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สินของเจ้าของบัตรเอง แต่เมื่อบัตรเครดิตหายขึ้นมาและปัญหาที่เจ้าของบัตรเครดิตต้องมาชำระหนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อจากการทำบัตรหายและมีคนเก็บไปรูดชำระค่าสินค้าและบริการแทนตกัวเองนั้นก็เกิดขึ้นบ่อยอยู่พอสมควร ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหานี้ขึ้น เราก็ควรที่จะระมัดระวังให้มากขึ้น และเก็บรักษาบัตรเครดิตของเราให้ดี มีที่เก็บที่สามารถตรวจดูได้ง่ายและปลอดภัยจากสายตาของผู้อื่น แต่ถึงอย่างนั้น เหตุไม่คาดฝันก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้น เราก็ควรรู้จักวิธีหรือข้อควรปฏิบัติเมื่อรู้ว่าบัตรเครดิตขอวเราหายไป เพื่อเราจะไม่ตื่นตระหนกตกใจจนเกินไป แต่ยังมีสติรีบแก้ไขได้ทัน
photo one/shutterstock.com
บัตรเครดิตหาย จะต้องทำอย่างไรบ้าง?
รีบโทรแจ้งธนาคารเจ้าของบัตรเพื่ออายัดบัตรเครดิต
เมื่อรู้ตัวว่าทำบัตรเครดิตหาย ก่อนอื่นต้องรีบโทรแจ้งทางธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตให้รับทราบ และทำการแจ้งอายัดบัตรเครดิตโดยเร็วที่สุด ซึ่งในขั้นตอนนี้ ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารอาจจะสอบถามถึงข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเหตุการณ์การทำบัตรเครดิตหาย เช่น สถานที่ที่ทำบัตรเครดิตหาย รายการล่าสุดที่คุณรูดใช้บัตรเครดิต พร้อมทั้งวันที่และเวลาที่บัตรเครดิตหาย เป็นต้น นอกจากนี้ เรามีเบอร์โทรศัพท์ของสถาบันการเงินต่างๆ ในกรณีที่ทำบัตรเครดิตหายและต้องติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อทำการอายัดบัตร ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ธนาคารกรุงเทพ: 1333
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา: 1572
- ธนาคารไทยพาณิชย์:0
- ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย: 0
- ธนาคารธนชาต: 1770
- ธนาคารออมสิน: 0
- ธนาคารซิตี้แบงก์: 1588
- ธนาคาร HSBC: 0
- ธนาคารกรุงไทย: 0
- ธนาคารกสิกรไทย: 0
- ธนาคารทหารไทย: 1558
- ธนาคาร UOB จำกัด (มหาชน): 0
- ธนาคาร Standard Chartered: 1595
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์: 0
- ธนาคารทิสโก้: 0
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย: 1302
- ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ (L&H): 0
- บัตรเครดิตไทยแอร์เอเชีย: 0
- บัตรเซ็นทรัลการ์ด: 0
- บัตร American Express: 0
- บัตร Aeon: 0
- บัตร Power Buy: 0
- บัตร Easy Buy: 0
- บัตร U may plus: 0
รีบไปแจ้งความ
เมื่อทำการแจ้งอายัดบัตรเครดิตกับเจ้าหน้าที่ทางโทรศัพท์แล้ว สิ่งต่อมาที่ต้องรีบทำก็คือ ควรรีบไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อที่จะได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานยืนยันได้ว่าบัตรเครดิตของเราได้หายไปจริง และเราไม่ได้เป็นผู้ใช้บัตรเครดิตใบนั้นหลังจากที่ได้แจ้งความไว้แล้ว หรือหากเป็นกรณีที่เราทราบว่าบัตรได้ถูกแอบอ้างนำไปใช้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทางธนาคารจะได้ประสานงานกันเพื่อจับตัวคนร้ายได้ทันท่วงที
ทำการตรวจเช็คการอายัดบัตรเครดิตกับทางธนาคารอีกครั้ง
เมื่อเราได้ใบแจ้งความมาแล้ว ก็ให้นำไปใช้เป็นหลักฐานในการขออายัดบัตรเครดิตของเรากับทางธนาคารหรือสถานที่ทำการที่ใกล้ที่สุด
ติดต่อขอทำบัตรใหม่
เราควรติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ธนาคารหรือบริษัทผู้ออกบัตรเครดิต เพื่อขอทำบัตรเครดิตใบใหม่ โดยควรเปลี่ยนรหัสส่วนตัวของบัตรใบใหม่ไม่ให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับรหัสเดิม และควรปกปิดตัวเลข 3 หลักด้านหลังทันทีที่ได้รับบัตรมา ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันมิจฉาชีพโจรกรรมข้อมูลบัตรแล้วนำไปแอบอ้างใช้งานนั่นเอง (แต่สำหรับใครที่ยังไม่ต้องการใช้บัตรเครดิตในทันที ก็สามารถข้ามข้อข้อนี้ไปก่อนได้)
รวบรวมหลักฐานเพื่อแสดงตัวตน
สิ่งที่จะยืนยันว่าเราไม่ได้เป็นผู้ใช้บัตรเครดิตใบนั้นจริงๆ ได้แก่ พยาน หลักฐานจากกล้องวงจรปิดของร้านค้า/สถานที่ต่างๆ และหากใครเดินทางไปยังต่างประเทศก็อาจใช้ Passport ที่มีบันทึกวัน-เวลาการเข้า-ออกประเทศมายืนยันว่า ณ เวลานั้นเราอยู่ที่ไหน เราทำอะไร กับใคร เป็นต้น นอกจากนี้ บางคนอาจเคยทำสำเนาหรือถ่ายรูปลายเซ็นหลังบัตรเครดิตของตัวเองเอาไว้ ตรงนี้ก็สามารถใช้เป็นหลักฐานเปรียบเทียบได้ว่าลายเซ็นของเรากับผู้แอบอ้างใช้บัตรเครดิตนั้นเป็นคนละคนกัน ซึ่งเราอาจรวบรวมไว้ก่อนเบื้องต้น หากเกิดกรณีถูกแอบอ้างนำบัตรเครดิตไปใช้ เราจะได้นำหลักฐานเหล่านี้ส่งให้เจ้าหน้าที่ได้อย่างรวดเร็ว
ตรวจสอบใบแจ้งหนี้
เราตรวจสอบใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตเป็นประจำ เพื่อสรุปยอดการใช้จ่ายแต่ละเดือน โดยเฉพาะในกรณีที่บัตรเครดิตหาย เจ้าของบัตรควรตรวจสอบให้ดีเป็นพิเศษว่ามีใครแอบอ้างนำบัตรเครดิตไปใช้ ทำให้มียอดเรียกเก็บเพิ่มนอกเหนือจากที่เราใช้ไปหรือไม่ หากมีก็ควรติด่อกับธนาคารหรือสถาบันการเงิน โดยกรอกแบบฟอร์มทักท้วงการใช้บัตรเครดิต ปฏิเสธการใช้ในยอดดังกล่าว พร้อมกับนำหลักฐานไปแสดงว่า เราไม่ได้เป็นผู้ใช้บัตรเครดิตรายการนั้น แล้วขอคำแนะนำเพื่อจัดการปัญหาหนี้ที่เราไม่ได้ก่อที่เกิดขึ้นต่อ
ทั้งหมดนี้ คือ 5 ขั้นตอนที่เมื่อรู้ตัวว่าบัตรเครดิตหายไปต้องรีบดำเนินการทันที เพื่อเป็นการป้องกันการแอบอ้างใช้บัตรเครดิตของคุณและป้องกันสิทธิประโยชน์ของตัวเองจากเหล่ามิจฉาชีพ เนื่องจากมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอยู่เสมอกับเจ้าของบัตรเครดิต ดังนั้น เพื่อเป็นการใช้งานบัตรเครดิตให้ปลอดภัยและป้องกันการใช้บัตรเครดิตโดยผู้อื่นซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายนั้น เจ้าของบัตรควรปฏิบัติดังนี้ • ให้เซ็นลายเซ็นต์กำกับหลังบัตรด้วยปากกาเส้นหนา ๆ เพี่อที่ว่าหากมีการสูญหายเกิดขึ้นและมีคนนำบัตรของเราไปใช้ เมื่อพนักงานผู้รับบัตรเครดิตตรวจเช็คลายเซ็นซึ่งคงไม่เหมือนกัน บัตรจะไม่สามารถใช้งานได้ เพราะไม่ผ่านการเช็คของพนักงานขาย • เมื่อใช้งานบัตรเครดิตเรียบร้อยแล้วควรเก็บบัตรเครดิตไว้ที่เดิม ฝึกหัดให้ชินเป็นนิสัย เพื่อป้องกันปัญหาการลืมบัตรไว้ที่ร้านค้า หรือทำหาย • ควรเก็บบัตรเครดิตให้เป็นที่ โดยควรเก็บบัตรไว้ในกระเป๋าสตางค์และควรเก็บกระเป๋าสตางค์ไว้กับตัวเองเสมอ ไม่วางกระเป๋าสตางค์ไว้ตามโต๊ะ หรือสถานที่ต่างๆ เพราะจะเสี่ยงต่อการสูญหายและการถูกขโมย
ประเภทหนี้ของบัตรเครดิตที่เกิดขึ้นจากมิจฉาชีพ สามารถแบ่งได้เป็น 3 กรณี ดังต่อไปนี้
1.กรณีถูกขโมยบัตรเครดิต
ใครที่รู้ตัวเร็วว่าบัตรเครดิตถูกขโมยไปก็อาจโทร.แจ้งอายัดบัตรได้ทัน ทำให้เราไม่ต้องรับผิดชอบหนี้ใดๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากแจ้งแล้วทันที (หรือภายในเวลา 5 นาทีตามเงื่อนไขที่กำหนด) แต่หากโชคร้ายถูกขโมยบัตรเครดิตไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ก็เป็นโอกาสให้เหล่ามิจฉาชีพสวมรอยนำบัตรเครดิตไปใช้ ซึ่งตรงนี้เราก็ต้องรีบแจ้งอายัดบัตรทันทีที่รู้ตัว แจ้งความ และหากมีรายการที่มิจฉาชีพนำบัตรไปใช้เกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องกรอกแบบฟอร์มทักท้วงการใช้บัตรยื่นให้แก่เจ้าหน้าที่ธนาคาร/บริษัทผู้ออกบัตรฯ ด้วย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและทางธนาคาร/บริษัทผู้ออกบัตรฯ จะตรวจสอบและตามจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
หากตามจับตัวคนร้ายไม่ได้ และเราไม่สามารถไกล่เกลี่ยยอดหนี้ที่ธนาคาร/บริษัทผู้ออกบัตรฯ เรียกเก็บได้ ผู้ใช้บัตรเครดิตบางรายอาจถูกฟ้องร้องให้ต้องชำระหนี้ดังกล่าว ตรงนี้ก็อย่าเพิ่งตระหนกตกใจกันไปนะคะ ถ้าเรามีหลักฐานชัดเจนว่าเราไม่ได้ใช้บัตรเครดิตในรายการดังกล่าว เช่น มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดว่าเราไม่ได้เป็นผู้รูดบัตรในร้านค้าแห่งนั้น ช่วงเวลานั้นเราอยู่ต่างประเทศ หรือลายเซ็นในเซลล์สลิปไม่ตรงกับลายเซ็นหลังบัตรเครดิตที่เราเคยเซ็นไว้ ก็สามารถนำหลักฐานต่างๆ นี้ไปยื่นต่อศาลเพื่อพิสูจน์ว่าเราไม่ได้เป็นผู้ใช้บัตรจริงๆ และศาลอาจตัดสินให้เราไม่ต้องชดใช้ในหนี้นั้นได้ค่ะ
2.กรณีถูกคัดลอกข้อมูลบัตรเครดิต
เหล่ามิจฉาชีพสามารถคัดลอกข้อมูลบัตรเครดิตของเราได้ ทั้งจากเครื่อง Skimmer ที่ติดอยู่ตามตู้ ATM และเครื่อง Skimmer แบบพกพา รวมทั้งการแอบถ่ายข้อมูลตัวเลขหน้าและหลังบัตรเครดิต แล้วนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ ซึ่งในกรณีนี้เจ้าของบัตรเครดิตจะไม่มีทางรู้ตัวก่อนเลย เพราะบัตรเครดิตนั้นจะยังอยู่กับตัว ไม่ได้หายไปไหน ดังนั้น ทันทีที่ทราบว่ามีคนแอบใช้บัตรเครดิตของเรา (หากสมัครบริการ SMS แจ้งเตือนการใช้จ่ายไว้ก็จะรู้ตัวได้เร็วกว่า) ก็ให้รีบโทร.แจ้งอายัดบัตรเครดิต พร้อมแจ้งให้ทางธนาคาร/บริษัทผู้ออกบัตรเครดิตทราบว่า บัตรเครดิตของเราถูกลักลอบนำไปใช้และขอให้รีบตรวจสอบโดยด่วน หลังจากนั้นเราก็ต้องแจ้งความ กรอกแบบฟอร์มทักท้วงการใช้บัตร แล้วให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและบริษัทผู้ออกบัตรเครดิตตรวจสอบและตามจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไปเช่นเดียวกัน
หลังจากที่ได้ตรวจสอบแล้ว โดยส่วนใหญ่ผู้ใช้งานบัตรเครดิตอย่างเราก็จะไม่ต้องรับผิดชอบกับหนี้สินที่เกิดขึ้นค่ะ เพียงแต่ต้องรวบรวมหลักฐานให้ชัดเจน และปฏิบัติตามที่เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำแก่เรานะคะ
3.กรณีถูกปลอมแปลงเอกสารสมัครบัตรเครดิต
ทั้งๆ ที่ไม่เคยสมัครบัตรเครดิตดังกล่าว แต่ชื่อ-นามสกุล และที่อยู่ในใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตที่ส่งมาถึงบ้าน กลับเป็นข้อมูลของเราทุกประการ ดังนี้เราควรรีบติดต่ออายัดบัตร แล้วไปแจ้งความทันที พร้อมนำเอกสารทั้งหมดที่ได้รับไปด้วย ซึ่งกรณีนี้เรามีหน้าที่ต้องยืนยันกับทางเจ้าหน้าที่ว่าเราไม่ใช่ผู้สมัครบัตรดังกล่าว รวมถึงพิสูจน์ว่าเอกสารการสมัครบัตรฯ นั้นเป็นเอกสารปลอม ลายเซ็นที่เซ็นไปนั้นไม่ใช่ของเรา และผู้ใช้บัตรตามรายการดังกล่าวก็เป็นคนละคนกับเราด้วย
ส่วนใหญ่ผู้ที่ถูกปลอมแปลงเอกสารนั้นจะไม่ต้องรับผิดชอบในหนี้บัตรเครดิตที่เกิดขึ้น เพราะถือได้ว่าเป็นความประมาทของทางธนาคาร/บริษัทผู้ออกบัตรเครดิต ที่ไม่ตรวจสอบให้ดีก่อน และอนุมัติบัตรเครดิตไปให้แก่มิจฉาชีพรายนั้นค่ะ
สรุป
แม้ว่าบัตรเครดิตจะช่วยอำนวยความสะดวกให้การใช้จ่ายของเราง่ายขึ้นสัดเพียงใด แต่ผู้ใช้บัตรเครดิตก็ควรระมัดระวังและรอบคอบในการใช้บัตรเครดิตอยู่เสมอ เพื่อป้องกันภัยที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้บัตรเครดิต และทันที่ที่รู้ตัวว่าบัตรเครดิตหาย ก็ให้รีบแจ้งอายัดบัตรเครดิตให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะป้องกันหนี้ที่เราไม่ได้ก่อขึ้นเอง พร้อมทั้งให้รีบแจ้งความ แต่จะดีกว่าถ้าเราเก็บและรักษาบัตรเครดิตของเราให้ดี อย่าให้สูญหาย เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องมาปวดหัว ปวดใจ เสียเวลา และเสียทรัพย์สินของเรา
Robin
ดีใจที่มีบทความที่ให้ความรู้ดีๆแบบนี้กับคนทั่วไป เราเองยังไม่เคยเกิดกรณีบัตรหายเลยในชีวิต แต่ก็อยากจะระวังให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะว่าไม่รู้เลยว่าถ้าบัตรหายขั้นตอนแรกต้องทำอะไร ดีใจค่ะที่ได้มาอ่านเจอ เดี๋ยวคงต้องจดเบอร์โทรศัพท์ของธนาคารเอาไว้เลยเผื่อฉุกเฉินจะได้แจ้งอายัติบัตรได้เลย จะได้ไม่ต้องมานั่งปวดหัวด้วยเวลาเกิดอะไรขึ้น
Pongpat
ถ้าทำบัตรเครดิตหายอันดับแรกต้องรีบแจ้งอายัดบัตรแน่นอน ไม่อย่างนั้นจะเกิดความเสียหายอีกมากและกว่าจะได้บัตรใหม่คงใช้เวลาพอสมควรนะครับ พูดถึงเวลาของหายเนี่ยหมายถึงทุกอย่างอะนะครับ ถ้าเรารู้ตัวเร็วมันก็ดีนะจะได้รีบไปหาอาจจะยังเจออยู่ แต่ถ้ากว่าจะรู้ตัวว่าของหายนานเป็นชั่วโมงๆ โอกาสหาเจอก็น้อยลง พวกของสำคัญเช็คดูบ่อยๆครับ
น้ำหนึ่ง
บัตรเครดิตเป็นอีกสิ่งนึงที่จำเป็นเอาไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันสำหรับมนุษย์เงินเดือน และอาจมีปัญหาเกิดขึ้นในการใช้บริการอย่างเช่น บัตรเครดิตหายบางคนกังวลว่าจะทำอย่างไรดี บทความนี้ได้ให้คำตอบและคำแนะนำเกี่ยวกับในกรณีที่บัตรเครดิตของเราหาย มีวิธีหรือแนวทางยังไงบ้างเพื่อช่วยเราให้สามารถเตรียมตัวเพื่อที่จะเจอกับสถานการณ์แบบนี้ได้ด้วยค่ะ
สน
เมื่อเราใช้บัตรเครดิต เป็นไปได้ที่การใช้จ่ายบัตรเครดิตบ่อยๆจะทำให้เราลืมว่าหยิบบัตรเครดิตออกมาจากกระเป๋าเมื่อไหร่และหายไปอย่างไร ทำให้การใช้จ่ายของเราหยุดชะงัก เพราะเราไม่รู้ว่าจะทำยังไงถึงจะได้ใช้บัตรเครดิตใหม่ๆได้ บทความนี้ได้อธิบายเกี่ยวกับวิธีที่จะทำให้เราได้รับบัตรเครดิตใหม่ ในกรณีที่บัตรของเราหายไปด้วยครับ
Witchakorn
ต้องแน่ใจว่าบัตรหายจริงๆนะครับถึงโทร.แจ้งอายัดบัตร ไม่ใช่อะไรหรอก บางคนเอาบัตรออกมาใช้แล้วไม่ได้เก็บไว้ที่เดิมพอมาดูอีกที อ้าว!บัตรหาย จริงๆยังไม่หายแค่บัตรมันเปลี่ยนที่อยู่เฉยๆ ไม่ใช่แค่บัตรเครดิตนะ บัตรอื่นๆหรือของใช้ทุกอย่าง พอเราเปลี่ยนที่วางปั๊บก็หาของไม่เจอละทีนี้ เราก็คิดว่าของหายน่ะสิครับ ทั้งนี้มันแค่เปลี่ยนที่เท่านั้นเอง
so to
ถ้าจะให้เรา ให้คะแนน บทความนี้ จากสิบคะแนน เอาไปแค่ 4 คะแนนพอทำไมบอกว่าให้แค่4คะแนน นะเหรอ ลองๆกลับ ขึ้นไปอ่านกันดูสิ เนื้อหา ไม่ครบถ้วนอย่างเช่น ข้อมูลเรื่องเบอร์โทรติดต่อ ธนาคารต่างๆเนี๊ยะ มันมีมาไม่ครบเลยนะ หมายเลข ธนาคารที่ไหน จะมีแค่ เลข 0 อย่างเดียว อันนี้เขาเรียกว่า ให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน จริงๆครับ
ดวงดาว
พอมาอ่านแล้วรู้สึกว่าตัวเองมีความคิดดีจริงๆที่ไม่ได้ทำบัตรเครดิต เพราะจากที่อ่านดูแล้วรู้สึกว่าถ้าทำบัตรหายก็จะเกิดความยุ่งยากมากเลย อีกอย่างเราเป็นคนที่ขี้ลืมมากด้วย แต่จากที่เห็นๆมาคนที่ขี้ลืมแบบเราก็มีหลายคนทำบัตรเครดิตมาแล้วก็เกิดทำหายกันเยอะแยะเลย เราว่าถ้าหากรู้ว่าตัวเองจะรักษาไม่ได้ก็อย่างทำดีกว่านะคะ เพราะการไม่มีบัตรก็ไม่ได้ทำให้ลำบากอะไรนะคะ
เห็ดฟาง
หากใครทำบัตรเครดิตหายนอกจากจะโทรแจ้งอายัดบัตรแล้วยังสามารถอายัดบัตรผ่านแอพของธนาคารได้ด้วยนะคะ เช่นของTMB เข้าไปที่หน้าสรุปบัญชีเลือกบัตรเครดิตที่ต้องการอายัด กดไปที่จัดการบัตร กดอายัดบัตร จากนั้นทำตามที่ขั้นตอนบอก เท่านั้นยังไม่พอทางธนาคารจะส่งบัตรใหม่ไปให้เราไม่เกิน1อาทิตย์อันนี้เรารู้แค่ของTMBนะคะแต่ของธนาคารอื่นไม่รู้
นัท
ใครๆก็รู้สึกกลัวและตื่นเต้นในตอนที่บัตรเครดิตซึ่งเป็นแหล่งการจ่ายเงินของเราสูญหายไป เพราะเรากลัวนะค่ะว่าจะมีใครสวมรอยเอาบัตรเครดิตของเราไปใช้จ่ายแทนตัวเราเองไหม บทความนี้ทำให้เราเห็นว่าเราสามารถที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ในกรณีที่บัตรเครดิตของเราสูญหายไป เพื่อเราจะไม่ต้องมาคอยรับผิดชอบกับคนที่เอาบัตรเครดิตของเราไปใช้
เมฆ ศิธิกรณ์
เรื่องบัตรเครดิต เป็นสมบัตรที่ต้องดูแลเป็นอย่างยิ่ง ถือเป็นของมีค่าที่เราเอาติดตัว ยิ่งตอนนี้ยิ่งอันตราย บัตรหายบางทีเราก็ไม่รู้ตัวเหมือนกัน อย่างที่เป็นข่าว พอมีคนเจอบัตร มันล่อตาล่อใจเขา ทั้งที่ไม่อยากทำแต่ พอเห็นว่าสามารถซื้อของได้ ก็เอาไปรูดซื้อของ ดีนะที่มีข้อความแจ้งเตือน แสดงว่า ข้อความที่เข้าโทรศัพท์เราทุกครั้งเราควรสนใจมัน