ลูกเป็นของขวัญที่มีค่า สำหรับพ่อแม่! เราจะเห็นได้ว่า ทุกลมหายใจเข้าออกของเขาก็คือลูกเท่านั้น นั่นก็หมายความว่า ลูกคือชีวิต ความหวัง และจะพยายามทุกอย่างเพื่อให้ลูกมีชีวิต การเป็นอยู่ และการศึกษาที่ดีที่สุด!

คนที่เป็นพ่อแม่รู้อยู่เต็มอกว่า การมีลูกทำให้มีความสุข แต่มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่สูงต้องใช้เวลาเป็น 10-20 ปีเลยทีเดียว! คุณต้องให้ความรัก ความเอาใจใส่ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และการศึกษาด้วย เพราะการศึกษาถือเป็นมรดกที่จะติดตัวลูกไปตลอดชีวิต ! ถึงแม้เราจะจากไปแต่การศึกษาจะช่วยให้เขามีงานทำและเลี้ยงตัวเองได้ การเลี้ยงลูกต้องมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง กว่าลูกจะเรียนจบปริญญา พ่อแม่จำเป็นต้องมีการวางแผนทางการเงินอย่างดี ยิ่งเตรียมได้เร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งดีเท่านั้น!

ในบทความนี้ ดิฉันอยากจะชวนคุณพ่อคุณแม่มาวางแผนการการศึกษาให้กับลูกๆกันค่ะ เพื่อจะทำได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ เราต้องกำหนดเป้าหมายและค่าใช้จ่าย, เลือกทำประกันเพื่อการศึกษา, และลงทุนควบคู่ไปกับการออม วิธีเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นการวางแผนเพื่อลูกที่ฉลาดมากๆค่ะ ขอคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายอ่านไปพร้อมๆกันเลยนะคะ

กำหนดเป้าหมาย และค่าใช้จ่าย

กำหนดเป้าหมาย และค่าใช้จ่าย

เป้าหมายคือสิ่งที่ทุกคนอยากไปให้ถึง! ไม่ว่าเป้าหมายนั้นจะเป็นระยะสั้น หรือยาว ถ้าไม่มีการกำหนดเป้าหมาย และค่าใช้จ่ายเอาไว้ให้ชัดเจนเป็นเรื่องยากที่จะสำเร็จได้ โดยเฉพาะเป้าหมายในการวางแผนเพื่อการศึกษาของลูกๆ พออายุได้ 3 ขวบนั่นเป็นเวลาที่ลูกจะต้องเข้าไปเรียนในชั้นอนุบาลแล้ว คุณพ่อคุณแม่ลองคิดดูนะคะว่า การเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงระดับปริญญาตรี จะต้องใช้เงินเท่าไหร่? เมื่อคิดถึงค่าใช้จ่าย พ่อแม่บางคนถึงกับบอกว่ามีลูก 1 คนจนไป 10 ปี!

กำหนดเป้าหมาย

คือเราต้องรู้ว่าจะให้ลูกเรียนโรงเรียนแบบไหน? รัฐบาล หรือว่าเอกชน หรือโรงเรียนนานาชาติ?  จะให้ลูกเรียนไปจนถึงระดับไหน? จะเรียนในประเทศหรือต่างประเทศ? เมื่อกำหนดเป้าหมายได้แล้วการวางแผนในเรื่องค่าใช้จ่ายจะชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ

กำหนดค่าใช้จ่าย

เรียนระดับอนุบาลที่ไหน? ค่าเทอมทั้ง 3 ปีเท่าไหร่? พอถึงระดับประถม 6 ปีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?  ระดับมัธยมอีก 6 ปีหล่ะจะให้เรียนที่ไหน ค่าเทอมเท่าไหร่ ?เพราะค่าเทอมของแต่ละโรงเรียนก็ต่างกัน เราอยากให้ลูกเรียนพิเศษในด้านอื่นๆอีกหรือเปล่า? อันนี้ต้องคิดถึงค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากค่าเทอมอีก การวางแผนในเรื่องค่าใช้จ่ายในการศึกษาของลูกต้องคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อด้วยนะคะ พ่อแม่ต้องเตรียมใจเอาไว้เลยว่า เงินเฟ้อด้านการศึกษาจะอยู่ที่ 6 % และทุกๆ 12 ปีค่าใช้จ่ายในด้านการศึกษาจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า!  นั่นหมายความว่า กว่าลูกจะเรียนจบระดับปริญญาเราอาจจะต้องใช้เงินเป็นแสนๆบาทเลยนะคะ!

เลือกทำประกันชีวิตเพื่อการศึกษา

เลือกทำประกันชีวิตเพื่อการศึกษา

การเก็บเงินเพื่อการศึกษาของลูกด้วยเงินสดอาจจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเราในอนาคต เราอาจจะเสียชีวิต หรือ ตกงาน เป้าหมายที่วางไว้อาจจะหยุดชะงักได้ เพื่อความมั่นใจว่าลูกจะได้เรียนจนจบ พ่อแม่อาจจะต้องหาตัวช่วยในการวางแผนทางการเงินแล้วหล่ะค่ะ

การวางแผนการศึกษาของลูกอย่างฉลาดต้องทำประกันเพื่อการศึกษาด้วยสิค่ะ ! ซึ่งมีมากมายให้คุณได้เลือก อย่างประกันการศึกษาของ PRUDENTIAL ในบทความนี้ดิฉันนำมาให้เป็นตัวอย่าง 3 แบบค่ะเช่น :

PRU smart 16/12

เวลาในการชำระเบี้ยประกันจะอยู่ที่ 12 ปี เวลาเอาประกันอยู่ที่ 16 ปี เริ่มทำได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือนถึง 65 ปี ทุนประกันภัยขั้นต่ำ 50,000 บาท สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 3-15 รับเงินคืนปีละ 2% ถ้าสิ้นปีกรมธรรม์ที่ 16 รับเงินคืนถึงปีละ 274 % ของทุนประกันภัยค่ะ ถ้าครบกำหนดสัญญารวมรับเงินคืนทั้งหมด 300 % ของทุนประกันส่วนค่าเบี้ยประกันนำไปลดหย่อนภาษีได้ถึง 100,000 บาทค่ะ

PRU smile 133

ยิ้มสบายไปกับโบนัสก้อนโต  ชำระเบี้ยประกันภัย 10 ปี คุ้มครอง15 ปี เริ่มทำได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือนถึง 65 ปี ทุนประกันภัยขั้นต่ำ 100,000 บาท สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 2-14 รับเงินคืนปีละ 1%รวมทั้งหมด 13 ครั้งหรือ 13% ค่ะ พอถึงสิ้นปีกรมธรรม์ที่ 15 รับเงินคืน 120% กรณีเสียชีวิตจะได้รับเงินชดเชยทดแทน 100% ของทุนประกันภัย เบี้ยประกันนำไปลดหย่อนภาษีได้ถึง 100,000 บาทเลยทีเดียว

PRU click saving 8/20

สร้างวินัยในการออมสั้นๆ ให้ความคุ้มครองที่อุ่นใจ ชำระเบี้ยประกันแค่เพียง 8 ปี แต่ให้ความคุ้มครองถึง 20 ปีแหน่ะ อายุรับประกันภัยเริ่มตั้งแต่ 22-55 ปี ทุนประกันภัยขั้นต่ำ 50,000 บาท สูงสุด 500,000 บาท สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 2-8 รับเงินคืนปีละ 2% พอถึงสิ้นปีที่ 9-19 รับเงินคืนปีละ 4%  เมื่อถึงสิ้นปีกรมธรรม์ที่ 20 รับเงินคืนไปเลย 150%ของทุนประกันภัย รวมรับเงินคืนตลอดสัญญา 208 %ของทุนประกัน  และเบี้ยประกันนำไปลดหย่อนภาษีได้ถึง 100,000 บาทนะคะ

ลงทุนควบคู่กับการออม

ลงทุนควบคู่กับการออม

การวางแผนเพื่อการศึกษาให้กับลูกคุณสามารถลงทุนควบคู่ไปกับการออมได้ด้วยนะคะ การออมและการลงทุนยิ่งเราลงมือได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีค่ะ ! เพราะจะได้มีเวลาในการลงทุนนานไปอีก  ถ้าเราเริ่มต้นเร็วจะใช้เงินต้นไม่สูงมากค่ะ เช่น ถ้าเราวางแผนการเรียนให้ลูกตั้งแต่แรกเกิดเราจะมีเวลาลงทุนถึง 18 ปี ถ้าเริ่มตอนที่ลูกอายุได้ 6 ปีจะมีเวลาลงทุน 12 ปี แต่ถ้ามาลงทุนตอนที่ลูกอายุ 12 ปีคุณจะมีเวลาในการลงทุนแค่ 6 ปีเท่านั้นเอง  ส่วนผลตอบแทนยิ่งเราใช้เวลาลงทุนมากเท่าไหร่ก็จะได้มากเท่านั้นค่ะ!

ประกันชีวิตเพื่อการศึกษาเป็นสิ่งมีค่าที่พ่อแม่ให้กับลูก

ประกันชีวิตเพื่อการศึกษาเป็นสิ่งมีค่าที่พ่อแม่ให้กับลูก

เราทุกคนต่างรู้ดีว่า ชีวิตของเราขึ้นอยู่กับความไม่แน่นอน อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น และสิ่งที่เราตั้งใจ และวางแผนเอาไว้อาจจะไม่สำเร็จก็ได้ อย่างการวางแผนเพื่อการศึกษาของลูก ถ้าเราไม่เตรียมการณ์เอาไว้ตั้งแต่ลูกเกิดกว่าลูกจะเรียนจบปริญญา เงินอาจจะไม่พอก็ได้ เพราะเงินเฟ้อด้านการศึกษาอยู่ที่ 6% ต่อปี และทุกๆ 12 ปีจะขึ้นเป็น 2 เท่า ถ้าเราตกงาน หรือเสียชีวิตไปก่อนลูกอาจจะเรียนไม่จบก็ได้ เพราะฉะนั้น การวางแผนเพื่อการศึกษาของลูกที่ฉลาดจะต้องมีการลงทุนควบคู่ไปกับการออม และทำประกันเพื่อการศึกษาเพิ่มเข้าไปด้วย ยิ่งเริ่มได้เร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งดี เพราะการศึกษาเป็นมรดกที่จะอยู่กับลูกไปตลอดชีวิต ถึงแม้พ่อแม่จะจากไป ก็อุ่นใจได้ว่าลูกจะเรียนจบอย่างแน่นอนค่ะ!