“ประกันชีวิต” จัดเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ดีตัวหนึ่ง และจัดเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ดีที่สุดในเรื่องของการบริหารความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมากับเรา ซึ่งประกันชีวิตนี้จะช่วยบรรเทาผลกระทบทางด้านการเงินที่อาจเกิดขึ้นได้กับครอบครัวของเราจากกรณีที่เหตุไม่คาดฝันนั้นเกิดขึ้นกับตัวเราค่ะ การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงินอย่างเช่นประกันชีวิตนี้ จะเกิดประโยชน์และคุ้มค่าสูงสุดกับตัวเราได้หากว่าตัวเรามีความรู้ความเข้าใจและรู้จักอย่างถูกวิธีค่ะ ในวันนี้เราจึงขอแนะนำเรื่องราวความรู้เล็กๆน้อยๆที่เกี่ยวกับประกันชีวิตมาฝากกัน เพื่อให้เพื่อนๆได้ทำความเข้าใจกันมากขึ้นก่อนที่จะคิดตัดสินซื้อประกันชีวิตค่ะ กับ “3 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนซื้อประกันชีวิต" จะมีอะไรบ้างนั้น เราไปติดตามพร้อมๆกันได้เลยค่ะ
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ทำไมควรทำประกันชีวิต พร้อมแนะนำ 5 ประกันที่น่าสนใจ ที่นี่
เรื่องที่ต้องรู้ก่อนซื้อประกันชีวิต
แม้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินในทุกวันนี้จะมีอยู่มากมายให้เลือกซื้อ เลือกลงทุนกันได้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน แต่ขอเน้นย้ำชัดๆกันอีกครั้งว่า “ประกันชีวิตเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินตัวเดียวที่เอาไว้บริหารความเสี่ยง” เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินตัวเดียวเท่านั้นที่จะช่วยลดความเสี่ยงที่ต้องเผชิญกับปัญหาภาวะทางการเงินจากกรณีเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นโดยตรงกับชีวิตของเราค่ะ ตั้งแต่กรณีการจากไปก่อนวัยอันควร รวมไปจนถึงการมีชีวิตที่ยืนยาวมากจนเกินไปของตัวเราเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นประกันชีวิตสามารถตอบโจทย์ในเรื่องของการช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินให้ลดลงได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
ประกันชีวิตเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินตัวเดียวที่เอาไว้บริหารความเสี่ยง
หลายๆคนคงอาจคุ้นหูกันเป็นอย่างดีว่า “ประกันชีวิตทำไปก็ไม่คุ้ม!” ซึ่งดูจะเป็นแนวคิดที่ออกแปลกๆไปสักหน่อยที่คนส่วนใหญ่มักนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินตัวนี้มาใช้หลักเกณฑ์ในการลงทุนมาตัดสินความคุ้มหรือไม่คุ้มด้วยการดูที่กำไรหรือขาดทุนค่ะ เพราะแท้จริงแล้วประกันชีวิตไม่ได้เป็นเรื่องการลงทุน แต่เป็นเรื่องของการกระจายความเสี่ยงเท่านั้นค่ะ
ดังนั้น การใช้หลักการนำเงินต้นลบออกจากเงินทั้งหมดที่ได้รับแล้วเหลือมากน้อยเท่าไหร่ของแบบประกัน มาใช้ชี้วัดว่าการซื้อประกันชีวิตจะคุ้มหรือไม่คุ้มอย่างไรจึงเป็นสิ่งที่ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์หลักของตัวประกันชีวิตกันเอาเสียเลยค่ะ เพื่อจะให้เห็นภาพกันมากขึ้นก็จะขอยกตัวอย่างให้ดูกันค่ะ อย่างเช่น หากคุณได้ซื้อรถใหม่ป้ายแดงมาสักคัน สิ่งที่คุณคงไม่พลาดอย่างแน่นอนเลยนั่นก็คือ รีบซื้อประกันชั้น 1 กันจริงไหมคะ? แน่นอนว่าเหตุผลในการซื้อประกันชั้น 1 ของคุณนั้นมีไว้เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นในตอนเกิดเหตุทั้งจากรถของคุณเองและรถคู่กรณีนั่นเอง ซึ่งคุณคงไม่ได้ซื้อประกันชั้น 1 มาแล้วขับไล่ชนรถชาวบ้านเพื่อให้เกิดคุ้มค่าจากเบี้ยประกันที่จ่ายไปเป็นแน่ใช่ไหมคะ? ฉะนั้นเราซื้อประกันชั้น 1 ด้วยแนวคิดในแบบใด การซื้อประกันชีวิตก็แนวคิดแบบเดียวกันนี่ล่ะค่ะ ต่างกันเพียงแค่เป็นการเลือกซื้อประกันให้กับทรัพย์สินหรือให้กับชีวิตของเราเท่านั้นเอง
ประกันชีวิตมีหลายประเภท ต้องเลือกให้ดีก่อนทำ
ในปัจจุบันประกันชีวิตถูกออกแบบมาให้มีแบบประกันที่มากมาย เพื่อที่จะได้เข้าถึงความต้องการที่แตกต่างกันไปของผู้คนแต่ละคนในทุกวันนี้ให้ได้มากที่สุด จากแบบประกันที่หลากหลายเสียจนบางครั้งอาจทำให้เราตัดสินใจไม่ถูกว่าประกันชีวิตแบบไหนล่ะที่เหมาะสมกับตัวเรา?
ประกันชีวิตในปัจจุบันได้ถูกแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ได้ดังนี้ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา ประกันชีวิตแบบบำนาญ อีกทั้งในแต่ละประเภทก็ยังมีแบบประกันยิบย่อยให้เลือกกันอีกมากมาย ซึ่งในแต่ละประเภทแต่ละแบบนั้นก็มักจะเหมาะกับปัญหาคนละอย่างกันค่ะ อย่างเช่น หากเรามีความกังวลเรื่องการเงินของชีวิตในวัยหลังเกษียณ ก็อาจเลือกที่จะซื้อประกันชีวิตประเภทแบบสะสมทรัพย์ หรือประกันชีวิตแบบบำนาญเพื่อใช้ช่วยแก้ปัญหาในวันข้างหน้าจากสิ่งที่เรากังวลอยู่ หรือหากตัวเราเป็นเสาหลักในการหารายได้เลี้ยงครอบครัว อาจเลือกซื้อประกันชีวิตแบบตลอดชีพ หรือแบบชั่วระยะเวลาเพื่อใช้ช่วยแก้ปัญหาสภาพการเงินที่อาจเกิดขึ้นกับคนที่เรารักในยามที่ไม่มีเราแล้วเป็นต้นค่ะ
เนื่องจากประกันชีวิตมีหลายประเภท ต้องเลือกให้ดีก่อนทำ ดังนั้นการหาความรู้เพิ่มเพื่อที่จะรู้เรื่องพื้นฐานของประกันชีวิตจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นจริงๆค่ะ เพื่อที่การตัดสินใจจะเลือกซื้อประกันชีวิตสักฉบับให้กับตัวเองจะได้เหมาะสมกับเรามากที่สุด และสามารถรองรับปัญหาทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นกับเราหรือคนที่เรารักในวันข้างหน้าได้อย่างตรงจุดตรงประเด็นค่ะ
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 5 รูปแบบประกันชีวิต ที่นี่
จะทำประกันชีวิตแต่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ บอกได้เลยว่าไม่คุ้ม
ผลิตภัณฑ์ทางการเงินทุกตัวมีกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป ประกันชีวิตเองก็เช่นกันค่ะนั่นก็คือถ้าคิดจะทำประกันชีวิตแต่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ บอกได้เลยว่าไม่คุ้ม เนื่องจากหลายๆคนในทุกวันนี้มีความเข้าใจในแบบผิดๆว่าการจ่ายเบี้ยประกันชีวิตก็เหมือนกับการฝากประจำที่ธนาคาร โดยมีจำนวนเงินและระยะเวลาที่คงที่ตายตัวที่ดูคล้ายการฝากประจำที่ธนาคาร การเข้าใจผิดๆแบบนี้จึงเป็นเหตุให้หลายๆคนตัดสินใจซื้อประกันชีวิตเพราะคิดว่าเป็นการฝากเงิน ซึ่งแท้จริงแล้วประกันชีวิตเป็นหนึ่งในรูปแบบของการออมเงิน ที่มิใช่การฝากเงินอย่างที่เข้าใจกันแต่อย่างใดค่ะ
หลายๆคนอาจเกิดคำถามว่าแล้วการออมเงินมันต่างกับการฝากเงินอย่างไร? ต่างกันแน่นอนค่ะ เพราะการฝากเงินที่ธนาคารนั้นแม้ว่าจะเป็นการฝากประจำ มีจำนวนเงินฝากที่สม่ำเสมอคงที่ และมีระยะเวลาตามประเภทของบัญชี แต่ก็ยังสามารทำการถอนเงินออกมาเมื่อไหร่ก็ได้โดยที่จำนวนเงินของเราก็ยังคงเท่าเดิม เพียงแต่ไม่ได้รับในส่วนของดอกเบี้ย เนื่องจากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของระยะเวลาการฝากนั่นเอง แต่ประกันชีวิตเป็นรูปแบบหนึ่งของการออมเงินไว้เพื่อสะสมเป็นเงินก้อนใหญ่ในวันข้างหน้า โดยการถอนเงินออกมาจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมธรรม์เท่านั้น ซึ่งการถอนเงินจากกรมธรรม์จึงแตกต่างกับการถอนเงินจากธนาคารอย่างสิ้นเชิง แน่นอนว่าเงินที่ได้รับจากการถอนเงินในกรมธรรม์นั้นออกมาไม่เท่ากับการถอนเงินจากธนาคารอย่างแน่นอนค่ะ
ยิ่งหากเราทำการถอนในปีแรกของกรมธรรม์ด้วยนั้นบอกได้เลยว่าแทบไม่ได้เงินคืนกันเลยล่ะค่ะ เพราะเงินของเราจะถูกหักค่าดำเนินการ ค่าใช้จ่ายต่างๆของบริษัท รวมไปถึงค่าความเสี่ยงของชีวิตเราที่ให้ความคุ้มครองหลังจากบริษัทได้รับประกันไปแล้วนั่นเอง นี่เป็นอีกหนึ่งของเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นที่เราจะต้องอ่านและทำความเข้าใจให้ละเอียดก่อนที่จะเซ็นรับกรมธรรม์ค่ะ ซึ่งเมื่อเราได้ทำความเข้าใจในเงื่อนไขไปแล้วพบว่าเป็นการเข้าใจผิด เราไม่ได้ต้องการออมเงินในรูปแบบนี้ ก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะเพราะเราสามารถขอยกเลิกกรมธรรม์ได้โดยที่ได้รับเงินคืนเต็มจำนวนจากบริษัทภายใน 15 วันนับจากวันที่ได้รับเล่มกรมธรรม์นั้นค่ะ ฉะนั้นควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่มีในกรมธรรม์อย่างเคร่งครัดนั้นจะพาให้ไม่คุ้มค่ากับเงินของคุณที่ต้องเสียไปเป็นแน่ค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ “3 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนซื้อประกันชีวิต” คงช่วยทำให้เพื่อนๆทุกคนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของประกันชีวิตกันได้ดี และหันมาสนใจที่จะซื้อประกันชีวิตให้กับตัวเองกันมากขึ้นนะคะ การมีความรู้และการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องของประกันชีวิตนอกจากจะช่วยให้เราได้เลือกซื้อประกันชีวิตได้เหมาะสม และเกิดความคุ้มค่ากับเราได้มากที่สุดแล้ว ยังช่วยให้ค้นพบความจริงด้วยว่า ประกันชีวิตนั้นเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ดีจริงๆ ที่ใครๆก็ควรมีไว้ค่ะ หากใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมด้านประกันชีวิตก็สามารถสอบถามเพิ่มเติมกับผู้เชี่ยวชาญจาก MoneyDuck ได้ฟรี ที่ลิงก์ด้านล่างเลย
ไอติม
ก็ดีนะครับที่ให้ทางเลือกพี่จะบริหารว่าเราแต่ละคนมีความจำเป็นในการใช้ประกันยังไงบ้างเพราะแต่ละคนก็เสียงเหมือนกันไม่เหมือนกันเนอะบางคนสำหรับผมนะครับชอบกีฬาที่เปลี่ยนไปก็ออกกิจกรรมข้างนอกเยอะก็เลยกังวลว่าสักวันจะเกิดอุบัติเหตุก็มีประกันบางตัวที่คุ้มครองอุบัติเหตุโดยตรงด้วยเนอะในนี้ผมก็อ่านเจอนะครับประกันที่เข้ากับคนที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยบ่อยขอบคุณที่เขียนบทความดีดีแบบนี้ขึ้นมานะครับ
MG
มีเพื่อนคนนึงที่กำลังจะซื้อประกันชีวิตเป็นครั้งแรกมาปรึกษาอยู่ เราก็ไม่รู้จะให้คำปรึกษายังไงเหมือนกันเพราะเราเองก็ซื้อประกันชีวิตมาจะ 10 ปีแล้ว จำไม่ได้แล้วว่าตอนที่เลือกซื้อประกันตอนนั้น เราเลือกยังไง ก็เลยมาหาข้อมูลไปให้เพื่อนค่ะ คิดว่าจะใช้บทความนี้ให้เขานี่แหละน่าจะเป็นประโยชน์เท่าที่เราอ่านแล้วก็เป็นคำแนะนำที่ดี
พฤสิทธิ์
ปัญหาที่ผมเห็นบ่อยๆ สำหรับคนที่ทำประกันชีวิต คือ ไม่ได้อ่านรายละเอียดเรื่องการคุ้มครองให้ดีๆครับ หลายคนคิดว่าประกันชีวิตจะคุ้มครองเวลาที่เจ็บป่วยด้วย ทำให้หลายคนคิดว่าโดนหลอก แล้วก็อีกอย่างครับ หลายๆคนที่ทำไปแล้วก็จ่ายไม่ครบตามสัญญาที่ทำกับทางประกัน ทำให้เสียโอกาศที่จะได้รับผลประโยชน์ต่างๆครับ น่าเสียดายจริงๆ
น้ำหวาน
อยากรู้ว่าการทำประกันแบบออมเงินระยะสั้นเนี่ยดีไหมคะ เพราะเห็นว่าจ่ายเบี้ยแค่สั้นๆแต่คุ้มครองแบบระยะยาวเลย แต่อยากรู้ว่าแบบนี้เงินปันผลจะดีกว่า การทำประกันเงินออมแบบระยะยาว หรือประกันเกษียณอายุรึเปล่า?? เพราะกำลังตัดสินใจอยู่ เลยหาข้อมูล ใครเคยทำแบบไหนมาแชร์ความเห็นกันได้นะคะ อยากสมัครให้เหมาะกับตัวเองค่ะ
กุลชนา..นะ
@น้ำหวาน เราไม่เคยซื้อประกันแบบสัญญาระยะสั้นนะคะ เรื่องเงินออมแบบระยะสั้นที่คุณถามมาเราไม่แน่ใจว่ามันเป็นยังไงนะ ที่เรารู้ คือ การซื้อประกันชีวิตแบบสัญญาระยะสั้น จ่ายค่าเบี้ยประกันไม่กี่ปี แต่ได้รับความคุ้มครองไปนานๆ เรื่องนี้มันก็ดีตรงที่จ่ายค่าเบี้ยประกันไม่กี่ปี แต่ว่าคุณจะต้องจ่ายเงินจำนวนมากต่อปีนะ ถ้าไหวก็ลองดูค่ะ
บริพัฒน์
ใช่ๆเลือกประกันชีวิตที่เข้ากับสภาพการใช้เงินของเราครับ หลายๆคนบอกว่าจ่ายเบี้ยประกันระยะสั้นแล้วคุ้มกว่า แต่ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถทำแบบนี้นะ เพราะว่าเบี้ยประกันแบบนี้ราคาค่อนข้างที่จะแพงมาก ถ้าจ่ายไม่ไหว จากจะได้รับผลประโยชน์ เราอาจเสียผลประโยชน์แบบที่บทความนี้บอกเอาไว้ก็ได้ เลือกแบบหลวมเอาไว้ก่อนดีกว่า