สาย Biker หรือ บุคคลที่ต้องใช้ชีวิตหรือทำงานเกี่ยวข้องกับการใช้รถใช้ถนนอยู่บ่อยๆ ขอบอกเลยว่า การซื้อประกันรถมอเตอร์ไซค์ (Motorcycle Insurance) คงกลายเป็นสิ่งจำเป็นไปแล้ว และนี่ไม่ใช่ความคุ้มครองซ้ำซ้อนถึงรถมอเตอร์ไซค์ทุกคันจะมี พ.ร.บ. อยู่แล้วก็ตาม

เพราะจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุของกรมขนส่งในทุกๆปี ตัวเลขที่ครองแชมป์อันดับ 1 ก็คืออุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์นี่ละค่ะ! เมื่อความเสี่ยงสูงขนาดนี้ การทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ จึงเป็นความดูแลที่เราจะมีได้แบบครอบคลุมมากกว่า พ.ร.บ. หากเกิดเหตุร้ายต่อผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ในทุกประเภท. บทความนี้ จึงนำข้อมูลเกี่ยวกับ 3 เรื่อง ก่อนซื้อประกันรถจักรยานยนต์ ว่ามีอะไรที่เราจำเป็นต้องรู้บ้าง จะได้พร้อมเลือกความคุ้มครองที่เหมาะกับตัวเอง ตามมาดูกันเลย

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกันบิ๊กไบค์ ที่นี่

ความคุ้มครองของ ประกันรถมอเตอร์ไซค์

https://img.moneyduck.com/article_attachment/1661315276-motorbike-1827482_1920.jpg

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ก็มี  2 แบบเหมือนๆกับการทำประกันรถยนต์ค่ะ คือ ประกันภาคบังคับ หรือการทำ พ.ร.บ. และ ประกันภาคสมัครใจ ที่จะเป็นความคุ้มครองในส่วนที่เพิ่มขึ้น เมื่อเกิดอุบัติเหตุจนต้องมีค่ารักษาพยาบาลทั้งตัวเราเอง คู่กรณี และการซ่อมรถ. โดยในส่วนของประกันรถมอเตอร์ไซค์ภาคสมัครใจนี้ จะมีความคุ้มครองที่เราเลือกได้ ว่าต้องการความครอบคลุมเพิ่มที่ตรงไหน ตามลำดับความคุ้มครองที่ลดหลั่นกันไป  โดยแบ่งออกเป็นประเภท ดังนี้

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 1

จะเข้ามาดูแลบิ๊กไบค์คันโตอย่างครอบคลุมในทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ท่านที่มีรถราคาแพงมักจะชอบทำประกันประเภทนี้กัน เพื่อการดูแลรับผิดชอบต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งตัวผู้ขับขี่และคู่กรณี ไปจนถึงเรื่องค่ารักษาพยาบาล การเกิดเหตุไฟไหม้ สูญหาย หรือลื่นไถลล้มเอง ทั้งอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี แต่จะมีค่าเสียหายส่วนแรกตามแต่ละเงื่อนไขของบริษัท และมีเบี้ยประกันที่ราคาสูงตามความคุ้มครอง

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 2+

ก็ยังคงความนิยมจากเหล่าไบค์เกอร์อยู่ เพราะมีความคุ้มครองคล้ายกับประกันชั้น 1  มีการดูแลดีแต่ค่าเบี้ยไม่สูงนัก โดยกำหนดการรับประกันในรถมอไซค์ที่มีอายุไม่เกิน 5 ปี  คุ้มครองในกรณีรถชนรถ  รถหาย หรือเหตุไฟไหม้ พร้อมกับจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริงเพิ่มเติมในส่วนต่างจาก พ.ร.บ.จักรยานยนต์และการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับรถคันเอาประกัน แต่จะไม่คุ้มครองในกรณีรถล้มเอง หรือไม่มีคู่กรณี ค่ะ

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 3+

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ประเภทนี้ ยังคงความคุ้มครองในรถชนรถเท่านั้น จะช่วยทั้งค่าซ่อมรถและค่ารักษา และเป็นความคุ้มครองในอุบ้ติเหตุที่เกิดจากการชนแบบมีคู่กรณีเท่านั้น  โดยจะซ่อมทั้งรถฝ่ายเราและฝ่ายคู่กรณี  ไม่คุ้มครองกรณีไฟไหม้ หรือรถสูญหาย. ซึ่งโดยรวมแล้วยังมีความใกล้เคียงกับประกันชั้น 2 + อยู่มากแต่จะมีราคาของเบี้ยประกันถูกลงมา

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 3

ประกันชั้นนี้จะมีราคาประหยัดที่สุดในบรรดาประเภทของประกันรถมอเตอร์ไซค์ แต่มีความคุ้มครองที่แตกต่าง คือ คุ้มครองเรื่องความเสียหายและทรัยพ์สินของคู่กรณีเท่านั้น ไม่มีความคุ้มครองให้กับรถคันที่เอาประกัน จึงทำให้ไม่เป็นที่นิยมนักของผู้ขับขี่ถึงแม้จะมีค่าเบี้ยประกันที่ถูกกว่าทุกประเภทก็ตาม

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ สูญหาย

เป็นกรมธรรม์แบบพิเศษก็ว่าได้ เพราะมีแค่เฉพาะในรถมอเตอร์ไซค์เท่านั้น! โดยให้ความคุ้มครองในกรณีเกิดการโจรกรรม ปล้นชิงทรัพย์ หรือรถสูญหายทั้งคัน รวมไปถึงกรณีเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุ แต่จะมีเงื่อนไขในการทำประกันว่าต้อง เป็นรถป้ายแดง โดยใช้ทุนประกันประมาณ 80% จากราคารถ , เป็นรถที่มีอายุ 1-3 ปี ทุนจะลดลงต่อปีทีละ 10%  หรือ รถที่มีอายุ 4-9 ปี โดยทุนประกันจะเหลือเพียง 10,000 -  6,000 บาท

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ เลือกแบบไหนถึงจะเหมาะกับเรา

https://img.moneyduck.com/article_attachment/1661315346-road-6281973_1920.jpg

ถ้าถามว่า รถแบบไหนจึงจะเหมาะกับประกันมอเตอร์ไซค์แบบใด ขอตอบในจุดแรกก่อน คือ เหมาะกับรถมอเตอร์ไซค์ที่อายุการใช้งานไม่เกิน 10 ปี  ถ้าเครื่องยนต์ซีซีสูงๆ ถอยมาใหม่ป้ายแดง ก็ไม่ติดที่จะเลือกประกันชั้น 1  แต่หากน้อยกว่า 500 ซีซีลงมา ประกันชั้น 2+ และ 3+ ก็ยังเป็นตัวเลือกที่เหมาะ ถ้าเราต้องการเสริมความอุ่นใจสำหรับผู้ที่ออกรถมาใหม่ๆ หรือเซียนนักบิดที่รู้ว่าอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่คาดฝัน

ส่วนเลือกอย่างไรให้ได้ค่าเบี้ยราคาถูกลง สิ่งนี้จะขึ้นอยู่กับลักษณะในการใช้รถ เช่น ซีซียิ่งสูงค่าเบี้ยประกันก็จะยิ่งแพงขึ้น การระบุผู้ขับเมื่อซื้อประกันยิ่งอายุของผู้ขับขี่เยอะขึ้นค่าเบี้ยประกันก็จะยิ่งถูกลง เป็นต้น    นอกจากนี้ การขับขี่ในเมืองทุกวัน ไปเรียน ไปทำงาน หรือเจอกับการจราจรที่ติดขัดชวนหัวเสียประจำ หรือการใช้งานที่ขับออกต่างจังหวัดบ่อย ก็จะเหมาะกับประกันชั้น 2 + เพราะให้คุ้มครองเยอะทั้งตัวผู้ขับขี่เองและคู่กรณี. ส่วนใครที่ใช้แบบนานๆครั้ง ไม่ค่อยได้ขับขี่สักเท่าไหร่ ก็ยังมีตัวเลือกอย่างประกันชั้น 3 ที่มีราคาถูกที่สุดแต่มีความคุ้มครองที่มากกว่า พ.ร.บ. เพื่อรับผิดชอบความเสียหายสำหรับรถของคู่กรณีค่ะ

เงื่อนไขในแต่ละบริษัทและคำศัพท์เกี่ยวข้องกับประกัน

เงื่อนไขในแต่ละบริษัทและคำศัพท์เกี่ยวข้องกับประกัน

เงื่อนไขของกรมธรรม์และข้อยกเว้นต่างๆในแต่ละบริษัทกันบ้าง สิ่งที่น่าสนใจ คือ การเปรียบเทียบเพื่อหาสิ่งที่ใช่ที่สุดสำหรับเรา โดยอาจดูที่ ค่าเสียหายส่วนแรกที่เราจะต้องจ่ายก่อนเคลมในกรณีที่ผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด(แต่ถ้าเราเป็นฝ่ายถูกจะไม่ต้องจ่ายนะ) , เรื่องทุนประกันหรือค่าสินไหมทดแทนที่เราจะได้รับจากบริษัท โดยหากทุนประกันสูงเท่าไหร่ เบี้ยประกันก็จะสูงตาม

เรื่องความคุ้มครอง หรือเงื่อนไขที่บริษัทประกันจะรับผิดชอบให้กับผู้ซื้อประกัน ทั้งความคุ้มครองหลัก ในการดูแลค่าใช้จ่าย เช่น ค่าซ่อม ค่าชดเชย หรือค่ารักษาพยาบาล และ ความคุ้มครองเสริม ที่เราซื้อเพิ่มได้จากตัวประกันที่มี เพื่อการดูแลด้านอื่น เช่น  คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือคุ้มครองในการต่อสู้คดี. เราจึงต้องเช็คเงื่อนไขเหล่านี้ให้ดี ว่าบริษัที่เราเลือกมีข้อดีข้อเสียอย่างไร เพื่อให้ราคาค่าเบี้ยที่เราจ่ายไป จะได้สิ่งที่คุ้มค่ากลับคืนมาค่ะ

นอกจากนี้ ยังมีคำศัพท์ที่เป็นพื้นฐานและเกี่ยวข้องในการทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ เช่น ทุนประกัน (Sum Insured) คือ ความคุ้มครองในเบื้องต้นที่บริษัทประกันจะต้องจ่ายในกรณีที่ทรัพย์สินเสียหาย , ค่าดีดักทิเบิล (Deductible) คือ ค่าเสียหายส่วนแรก ที่เราเลือกว่าจะจ่ายเท่าไหร่แล้วถือเป็นส่วนลดในค่าเบี้ยประกัน , ผู้เอาประกันภัย (Assured) คือ คนที่ซื้อประกัน และจ่ายค่าเบี้ยก็จะได้รับความคุ้มครองจากบริษัททันที และ ปีที่จดทะเบียน (Registation Year) คือ การนับอายุรถ เพราะประกันรถมอเตอร์ไซค์จะรับเฉพาะรถที่มีอายุไม่เกิน 10 ปี โดยนับจากปีที่จดทะเบียน. ถ้าเราเข้าใจเรื่องนี้ ทุกอย่างก็ง่ายไปหมดแล้วค่ะ

ทำ ประกันรถมอเตอร์ไซค์ คือ ทางเลือกที่เหมาะกับสาย Biker

ทำ ประกันรถมอเตอร์ไซค์ คือ ทางเลือกที่เหมาะกับสาย Biker

สรุปง่ายๆ คงต้องบอกว่า การทำ ประกันรถมอเตอร์ไซค์ เป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่าที่เราคิด และเป็นสิ่งที่สาย Biker ควรทำอย่างยิ่ง! เพราะนั่น หมายรวมถึงการดูแลในเรื่องชีวิตและทรัพย์สินของเรา อีกทั้งยังเผื่อแผ่ไปยังเพื่อนร่วมทางบนท้องถนนด้วย และความจริงแล้วก็ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่ใครๆคิด

โดยประกันรถมอเตอร์ไซค์ก็มีหลายลำดับขั้นเป็นชั้นๆ ที่เหมาะกับทุกท่าน แต่การเลือกให้เหมาะสมที่สุด สิ่งที่จะประกอบการตัดสินใจ คือ เรื่องขนาดเครื่องยนต์ , อายุของรถและผู้ขับขี่ ไปจนถึงประเภทและลักษณะในการใช้งาน เพื่อให้ทุนประกันเหมาะสมและจ่ายค่าเบี้ยได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

หวังว่าทั้ง 3 หัวข้อที่คุยกันไป จะทำให้การเลือกซื้อประกันรถที่เหมาะกับตัวเราจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นนะคะ คราวนี้เซียนนักบิดทั้งหลายก็จะได้เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้น จะได้บิดต่อได้ยาวๆ หลายทริป หรือหลายร้อยกิโลกันไปเลย เพื่อให้คุณได้รับสิ่งที่ดีที่สุดในทุกพาหนะที่เลือกใช้และชื่นชอบ หากต้องการปรึกษา สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญจาก MoneyDuck ได้ฟรี ที่ลิงก์ด้านล่างได้เลย