ธุรกิจมีสะดุดบ้างเป็นเรื่องธรรมดา อยากขอสินเชื่อเพื่อจัดการปัญหาให้ธุรกิจไปต่อ แต่ไม่มีหลักทรัพย์จะทำได้ไหม? ถ้าคุณตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้อยู่ในตอนนี้ บทความนี้ช่วยคุณได้ค่ะ จริงอยู่ที่การขอสินเชื่อเพื่อธุรกิจส่วนใหญ่อาจจะจำเป็นที่ต้องมีหลักทรัพย์มาค้ำประกัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่สถาบันการเงินที่เราไปขอสินเชื่อ แต่ปัจจุบันนี้หลักทรัพย์ที่ใช้เพื่อขอสินเชื่อเพื่อธุรกิจนั้นก็ยังคงจำเป็น แต่ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น หรือพูดง่ายๆคือว่าถึงคุณจะไม่มีหลักทรัพย์แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะได้รับการอนุมัติสินเชื่อเพื่อธุรกิจ   ก่อนอื่นเลยคุณต้องรู้ว่าสถาบันการเงินต้องการหลักทรัพย์ไปเพื่ออะไร? คำตอบ คือ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าคุณสามารถผ่อนชำระเงินกู้ได้ ดังนั้นแม้ไม่มีหลักทรัพย์คุณก็สามารถสร้างความมั่นใจแบบนั้นให้กับสถาบันการเงินได้ มีเคล็ดลับไม่ยากมาฝากกันค่ะ คุณคงอยากรู้แล้วใช่มั้ยว่าต้องทำอย่างไร? มาทำตามวิธีเหล่านี้กันเลยค่ะ

ใช้บัญชีรายรับรายจ่ายเป็นหลักฐานการขอสินเชื่อ

ใช้บัญชีรายรับรายจ่ายเป็นหลักฐานการขอสินเชื่อ

ความมั่นใจแรกที่คุณสามารถสร้างได้ คือ บัญชีรายรับรายจ่ายของธุรกิจของคุณค่ะ แน่นอนว่าการทำธุรกิจนั้นต้องมีการทำบัญชีอยู่แล้ว แต่การทำบัญชีอย่างชัดเจน และต่อเนื่องก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ไม่ว่าบัญชีธุรกิจของคุณจะชัดเจน หรือมีการทำบัญชีอย่างต่อเนื่องมาก่อนหรือไม่ก็ตาม ในตอนนี้ตอนที่คุณต้องการขอสินเชื่อเพื่อธุรกิจคุณต้องทำบัญชีให้ชัดเจน และ ทำอย่างสม่ำเสมอเท่านั้น เพราะบัญชีรายรับรายจ่ายของธุรกิจจะเป็นหลักฐานสำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำให้คุณได้รับการอนุมัติสินเชื่อค่ะ แล้วยิ่งถ้าบัญชีรายรับรายจ่ายของธุรกิจของคุณมีการทำอย่างชัดเจน และ ทำสม่ำเสมออยู่แล้วตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจจนมาถึงตอนนี้ ก็เป็นอะไรที่ดีมากเลยค่ะ เพราะการขอสินเชื่อเพื่อธุรกิจแล้วโอกาสที่จะได้รับการอนุมัติอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วนะคะ

ใช้สมุดบัญชีเป็นหลักฐานการขอสินเชื่อ

ใช้สมุดบัญชีเป็นหลักฐานการขอสินเชื่อ

หลักฐานอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้บัญชีรายรับรายจ่าย คือ สมุดบัญชีธนาคาร บัญชีรายรับรายจ่ายที่จดบันทึกเอาไว้ในรูปแบบต่างๆ คือหลักฐานที่จะนำไปสู่การตรวจเช็คสมุดบัญชีค่ะ ดังนั้นไม่ว่าบัญชีรายรับรายจ่ายจะสวยงามแค่ไหน ผลสุดท้ายก็ต้องดูกันที่ยอดเงินเข้าออกจากสมุดบัญชี และเงินคงเหลือที่อยู่ในสมุดบัญชีนั้นนะคะ ดังนั้นสมุดบัญชีเป็นหลักฐานสำคัญมากหลักฐานหนึ่งที่คุณต้องเอาใจใส่ และสถาบันการเงินก็จะยึดเอาหลักฐานนี้เป็นสำคัญด้วยเหมือนกัน คุณคงเคยได้ยินคำว่า Statement ใช่มั้ยคะ? ไม่ว่าคุณจะขอสินเชื่ออะไรก็ตามสถาบันการเงินจะขอดู Statement เป็นหลักฐานแรกๆเลยค่ะ ซึ่งคุณจำเป็นต้องเดินบัญชีให้สวยงาม ต่อเนื่องเป็นระยะเวลาประมาณ 3 – 6 เดือนขึ้นไป บางสินเชื่ออาจจะต้องเดินบัญชี 1 ปีขึ้นไปก็มีนะคะ เมื่อคุณทำอย่างนั้นแล้ว สมุดบัญชีของคุณจะเป็นหลักฐานที่สร้างความมั่นใจให้สถาบันการเงินอยากจะอนุมัติสินเชื่อให้คุณมากขึ้นเลยทีเดียวค่ะ

ใช้ทะเบียนการค้าเป็นหลักฐานการขอสินเชื่อ

ใช้ทะเบียนการค้าเป็นหลักฐานการขอสินเชื่อ

ทะเบียนการค้า แม้ไม่ใช่หลักฐานทางการเงิน แต่ทะเบียนการค้าก็เป็นหลักฐานสำคัญที่สถาบันการเงินต้องการด้วย และทะเบียนการค้าเป็นหลักฐานที่สร้างความมั่นใจให้กับสถาบันการเงินได้เป็นอย่างดีด้วย  เพราะการจดทะเบียนอย่างถูกต้องนั้นแสดงถึงความมั่นคงของธุรกิจของคุณด้วย นั่นแสดงว่าคุณสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเรื่องของภาษีได้เป็นอย่างดี และเมื่อมีการขอสินเชื่อแล้วนั้นคุณจะสามารถจัดการชำระเงินกู้ได้ด้วยแน่ๆ หรือถ้าเกิดความผิดพลาดอะไรขึ้นมา ทะเบียนการค้าจะเป็นหลักฐานที่ทำให้สถาบันการเงินใช้เพื่อติดตามเงินกู้จากคุณได้ด้วยค่ะ

ชื่อเสียงทางการเงินที่ดีขอสินเชื่อได้

ชื่อเสียงทางการเงินที่ดีขอสินเชื่อได้

หลักฐานสุดท้ายที่คุณจะใช้สำหรับขอสินเชื่อเพื่อธุรกิจได้แบบผ่านชัวร์ๆ ก็คือ ชื่อเสียงที่ดีทางการเงิน หลักฐานนี้ไม่ได้เป็นเอกสารอะไรแต่อย่างใด แต่ก็เป็นสิ่งที่คุณจะต้องสร้างขึ้นมา การมีชื่อเสียงที่ดีทางการเงินนั้นมี 2 รูปแบบคือ 1. ชื่อเสียงที่ดีทางการเงินจากการไม่มีหนี้ และ 2. ชื่อเสียงที่ดีทางการเงินจากการมีหนี้ มาดูคำอธิบายของชื่อเสียงที่ดีทั้งสองรูปแบบกันค่ะ เพื่อจะเข้าใจมากขึ้น แล้วมาเช็คดูว่าคุณมีเองมีชื่อเสียงที่ดีทางการเงินแบบไหนในตอนนี้

ชื่อเสียงที่ดีทางการเงินจากการไม่มีหนี้ คือ คุณไม่เคยเป็นหนี้เป็นสินอะไรเลยไม่ว่าจะกับสถาบันการเงินไหนก็ตาม และเมื่อตรวจเช็ค Statement แล้วคุณมีเงินคงเหลือมากพอสมควร คุณมีการเดินบัญชีอย่างสม่ำเสมอ หรือ คุณมีการทำประกันและจ่ายเบี้ยประกันอย่างต่อเนื่อง และ คุณมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องกับกองทุนต่างผ่านทางสถาบันการเงินใดสถาบันการเงินหนึ่ง ธุรกรรมทางการเงินต่างๆเหล่านี้สามารถสร้างชื่อเสียงที่ดีทางการเงินให้กับคุณได้ทั้งนั้นค่ะ

ชื่อเสียงที่ดีทางการเงินจากการมีหนี้ คือ การที่คุณเคยขอสินเชื่ออื่นๆมาก่อนแล้ว และมีการผ่อนชำระอย่างต่อเนื่องไม่มีการค้างชำระ หรือล่าช้ามากเกินไป หรือ การที่คุณมีบัตรเครดิต และมีการชำระตรงตามกำหนดอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีการชำระขั้นต่ำ หนี้สินแบบนี้สามารถสร้างชื่อเสียงที่ดีทางการเงินได้ด้วยค่ะ แต่ก็มีข้อแม้ว่าหนี้สินแบบนี้จะไม่มากจนเกินไปด้วย เพราะถ้ามากเกินไปเมื่อเทียบกับรายได้ของคุณแล้วหนี้สินเหล่านี้ก็จะกลายเป็นอุปสรรคต่อการขอสินเชื่อเพื่อธุรกิจได้ค่ะ

คราวนี้ลองเช็คดูนะคะว่าคุณเองมีชื่อเสียงที่ดีทางการเงินแบบไหนในสองข้อนี้ หรือคุณคิดว่าจะสร้างชื่อเสียงที่ดีแบบไหนดี? คุณต้องเลือกเองแล้วนะคะ

สินเชื่อเพื่อธุรกิจไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์...แต่ต้องมีหลักฐานก็กู้ได้แล้ว

สินเชื่อเพื่อธุรกิจไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์...แต่ต้องมีหลักฐานก็กู้ได้แล้ว

เคล็ดลับทั้งหมดที่บทความนี้รวบรวมมาเล่าสู่กันฟังนั้น เป็นสิ่งที่สามารถนำมาใช้แทนหลักทรัพย์ได้เมื่อต้องการขอสินเชื่อเพื่อธุรกิจ ซึ่งเรียกสิ่งต่างๆที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ว่า หลักฐานทางการเงิน ทุกอย่างนี้คุณต้องสร้างมันขึ้นมานะคะ เพราะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เองโดยอัตโนมัติ แต่ถือว่าคุ้มค่ามากๆที่จะทำ เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับการสร้างหลักทรัพย์ หรือ ทรัพย์สินขึ้นมาใหม่นั้นจะทำได้ยากกว่า แต่การสร้างหลักฐานทางการเงินจะทำง่ายกว่ามากๆ ถ้าตอนนี้มีหลักฐานทางการเงินส่วนไหนที่ยังไม่เรียบร้อยก็ขอให้คุณใจเย็นๆก่อนค่อยๆสร้างไปเรื่อยๆไม่ควรรีบร้อนจนเกินไป แล้วเมื่อคุณมีหลักฐานทางการเงินพร้อมเมื่อไหร่ ค่อยไปขอสินเชื่อเพื่อธุรกิจก็ยังไม่สายค่ะ อย่างคำโบราณที่บอกว่า ช้าๆไปพร้าเล่มงาม หมายถึง ถ้าใจเย็นๆไม่รีบร้อนแล้วไม่ว่าจะทำอะไรจะประสบความสำเร็จมากกว่านั่นเองค่ะ ฝากไว้เตือนใจนะคะ