เงินไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต แต่เราต่างก็ยอมรับว่าหากไม่มีเงินเลยก็คงอยู่ไม่ได้ เพราะทุกอย่างในทุกวันต่างก็ต้องใช้เงินเพื่อขับเคลื่อน ไม่ว่าจะไปเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่างๆ การพักผ่อนหย่อนใจ การศึกษา ไปจนถึงการทำธุระกิจ ต่างก็ต้องใช้เงินกันทั้งนั้น ซึ่งก็อย่างที่เพื่อนๆรู้กันว่าเงินใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆ ทำให้บางช่วงของชีวิตเรานั้นขาดเงินหรือที่เรียกกันว่า ‘เงินหมุนไม่ทัน’ บ้าง ‘ชักหน้าไม่ถึงหลัง’ บ้าง แต่ไม่ว่าจะเรียกอย่างไหน ก็คงไม่มีใครชอบเมื่อต้องเจอกับตัวเอง

ซึ่งพอเจอแบบนั้นวิธีการที่แต่ละคนใช้ในการแก้ปัญหาก็ไม่เหมือนกัน บางคนที่มีญาติ ก็อาจหยิบยืมจากญาติได้ ข้อดีเลยคือใช้ความไว้ใจล้วนๆ ส่วนมากแล้วมักไม่เสียดอกเบี้ย ไม่ต้องมีคนค้ำ ไม่ต้องมีหลักประกัน บางคนที่ต้องการเงินด่วนมากๆ อับจนหนทางก็มีบ้างที่หันไปพึ่งการกู้หนี้ยืมสินนอกระบบ แต่ก็อย่างที่รู้ว่าเจ้าหนี้นอกระบบนั้นโหดมาก การคิดอัตรดอกเบี้ยก็ไม่ค่อยจะยุติธรรม เลยไม่อยากจะแนะนำเพื่อนๆให้แก้ปัญหาด้วยวิธีนี้สักเท่าไหร่

สำหรับบางคนที่ต้องการเงินก้อนใหญ่ ก็อาจจะหันไปพึ่งการกู้เงินจากธนาคารที่เราเรียกกันว่าสินเชื่อ เชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนน่าจะรู้จัก เคยได้ยินชื่อหรือถึงกับเคยกู้เงินกับธนาคารมาแล้ว ซึ่งการกู้เงินจากธนาคารหรือบริษัทปล่อยเงินกู้ที่เราเรียกกันว่าสินเชื่อ ก็ถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการแก้ไขปัญหาเมื่อเงินหมุนไม่ทัน หรือเมื่อเพื่อนๆต้องการเงินสักก้อนไปลงทุนหรือใช้ในเรื่องที่จำเป็นต่างๆ แต่ก็ใช่ว่าการขอเงินกู้จากะนาคารจะทำกันได้ง่ายๆ เพื่อนๆคงจะรู้ดีว่าไม่ใช่ทุกคนที่ไปยื่นเรื่องขอสินเชื่อเเล้วจะผ่าน แถมเอกสารที่ต้องใช้ในการสมัครขอสินเชื่อก็ไม่ใช่น้อยๆ ไม่เหมือนกับการไปยืมเงินญาติๆ ที่ไม่ต้องมีเอกสารอะไรเยอะแยะ ไหนจะหลีกทรัพย์ค้ำประกัน ไหนจะสลิปเงินเดือน ไม่ก็ต้องมีคนมาค้ำ ใครที่คุณสมบัติไม่ถึง ก็กู้ไม่ได้อีก

สินเชื่อต้องมีสลิปเงินเดือนเสมอไหม?

สินเชื่อต้องมีสลิปเงินเดือนเสมอไหม?

ถึงแม้การกู้เงินจากธนาคารหรือการขอสินเชื่อจะเป็นเรื่องยาก แต่ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีถ้าเพื่อนๆคิดจะกู้เงิน เพราะไม่ว่ายังไงอัตราดอกเบี้ยที่เพื่อนๆต้องจ่ายก็ถูกควบคุมด้วยกฎหมาย และยังมีใบสัญญาที่ลงรายละเอียดชัดเจน ทำให้เพื่อนๆมั่นใจได้ว่าจะไม่ถูกโกงแน่นอน แถมดอกเบี้ยก็ถูกกว่าไปกู้หนี้นอกระบบแน่นอน

แต่ถ้าเพื่อนๆคนไหนที่ไม่มีสลิปเงินเดือน ไม่มีคนมาค้ำให้ จะสามารถขอสินเชื่อได้รึเปล่า? คำตอบก็คือ ได้แน่นอนอยู่แล้ว เพราะการแข่งขันที่สูง ทำให้ทั้งธนาคารและบริษัทเงินกู้ต่างก็ออกสินเชื่อแบบใหม่ๆขึ้นมา เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าและเข้าถึงผู้คนให้มากขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ สินเชื่อที่ไม่จำเป็นต้องใช้สลิปเงินเดือนหรือมีคนมาค้ำ ซึ่งแสดงว่าไม่ใช่การขอสินเชื่อจำเป็นจะค้องใช้สลิปเงินเดือนเสมอไป แต่สินเชื่อแบบนี้พิเศษยังไง? ต่างจากสินเชื่อแบบปกติตรงไหน? ตามมาดูไป

เงื่อนไขต่างๆของสินเชื่อแบบที่ไม่ใช้สลิปเงินเดือน ต่างจากสินเชื่อแบบปกติยังไง?

เงื่อนไขต่างๆของสินเชื่อแบบที่ไม่ใช้สลิปเงินเดือน ต่างจากสินเชื่อแบบปกติยังไง?

อย่างถ้าเป็นสินเชื่อแบบปกติ เงื่อนไขต่างที่ต้องมี อย่างเช่น ต้องมีสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือนขึ้นไป ไม่ก็ต้องมีคนมาค้ำ หรือใช้หลักทรัพย์เพื่อประกันวงเงินที่เรากู้ แต่สำหรับสินเชื่อแบบใหม่ ไม่จำเป็นต้องมีสลิปเงินเดือน นั่นก็หมายความว่า ต่อให้เพื่อนๆจะไม่ใช่พนักงานบริษัทหรือพนักงานกินเงินเดือน เพื่อนๆก็สามารถยื่นเรื่องขอสินเชื่อแบบนี้ได้

แต่ในบางธนาคารถึงแม้ว่าจะไม่จำเป็นต้องใช้สลิปเงินเดือน เพื่อนๆก็อาจจะต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อจะยื่นเรื่องขอกู้สินเชื่อได้ เพราะธนาคารก็ต้องการความมั่นใจ ในเมื่อเราไม่มีสลิปเงินเดือนไม่มีบัญชีย้อนหลัง จะไปหาคนมาค้ำให้ก็ไม่มีหรือไม่ผ่านเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนดไว้ ก็คงต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันที่สมน้ำสมเนื้อเพื่อให้ธนาคารเค้าได้อุ่นใจกันนิดนึง

แต่ว่าไม่ใช่ทุกธนาคารนะ ตอนนี้ในประเทศไทยมีหลายธนาคารที่ออกสินเชื่อแบบที่ไม่จำเป็นต้องใช้สลิปเงินเดือน ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือไม่ต้องหาคนมาค้ำก็ได้ แต่เงื่อนไขและรายละเอียดที่แต่ละธนาคารมีนั้นก็ต่างกัน ก่อนที่เพื่อนๆจะเลือกสินเชื่อ ไม่ว่าจะแบบไหนก็อย่าลืมดูรายละเอียดและเงื่อนไขกันดีๆ และต้องดูของหลายๆธนาคารไว้ด้วยนะ เพื่อนๆจะได้เลือกสินเชื่อแบบที่ถูกใจมากที่สุด

ข้อดี ข้อเสีย ของการกู้สินเชื่อแบบไม่มีสลิปเงินเดือน

ข้อดี ข้อเสีย ของการกู้สินเชื่อแบบไม่มีสลิปเงินเดือน

ทีนี้มาดูข้อดี ข้อเสีย ที่สินเชื่อแบบที่ไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือนมีกันบ้างดีกว่า อาจจะไม่ถึงกับเป็นข้อดี ข้อเสียขนาดใหญ่ แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆที่อยากให้เพื่อนรู้ไว้ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ เพราะข้อแตกต่างๆเล็กๆน้อยๆพวกนี้อาจจะทำให้เพื่อนๆเห็นได้ชัดขึ้นว่า ตัวเองเหมาะกับสินเชื่อแบบนี้กันรึเปล่า มาดูกันนะ

เนื่องจากสินเชื่อแบบที่ไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือนจะเปิดโอกาสให้คนธรรมดาทั่วไปมีโอกาสเข้าเงินกู้ในระบบได้มากขึ้นแล้ว ข้อดีอีกอย่างคือ ใช้เวลาดำเนินการไม่นาน ไม่เสียเวลาไปวิ่งหาคนค้ำ แต่ข้อเสียของการขอกู้สินเชื่อแบบนี้ก็คือเรื่องของ “ดอกเบี้ย” เพราะการขอสินเชื่อแบบนี้ไม่เหมือนกับการขอสินเชื่อแบบทั่วไป ที่ธนาคารจะมีสลิปของเรา หรือบุคคลที่เชื่อถือได้มารองรับ เกิดในกรณีที่เราหนีหนี้ ดังนั้น อัตราดอกเบี้ยของการขอกู้สินเชื่อแบบไม่ใช่สลิปเงินเดือนจึงสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยการขอสินเชื่อแบบทั่วไป แต่ถึงการขอกู้สินเชื่อแบบที่ไม่ต้องมีหลักฐานทางการเงินแบบนี้จะทำให้เราต้องเสียอัตราดอกเบี้ยสูงมากกว่าปกติ แต่ก็ไม่สูงเท่าที่เราไปกู้หนี้นอกระบบ แถมยังมีกฎหมายรองรับ มีความปลอดภัยกว่า เพื่อนๆว่าจริงไหม?

สินเชื่อแบบนี้เหมาะกับใคร

สินเชื่อแบบนี้เหมาะกับใคร

ในเมื่อเป็นสินเชื่อแบบที่ไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือน ไม่ต้องหาบุคคลที่น่าเชื่อถือมาค้ำประกันเหมือนกับการขอสินเชื่อแบบทั่วไป งั้นก็แสดงว่าสินเชื่อประเภทนี้เหมาะกับคนที่ไม่ได้มีเงินเดือนมาเข้าทุกเดือนผ่านทางธนาคาร แต่ต้องมีรายได้ประจำ ไม่จำเป็นต้องเป็นพนักงานบริษัท ไม่ต้องมีข้าราชการมาค้ำ อาจจะเป็นคนที่มีธุรกิจส่วนตัว ฟรีแลนซ์ หรือแม้แต่พ่อค้าแม่ขาย ก็มีสิทธิ์เข้าถึงสินเชื่อประเภทนี้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อยากจะย้ำสิ่งที่เพื่อนๆน่าจะรู้กันดีอยู่แล้วคือ การขอสินเชื่อไม่ว่าจะประเภทไหน ต้องมั่นใจก่อนว่าเราสามารถผ่อนชำระหนี้ที่เราก่อขึ้นมาได้ ไม่อย่างงั้นแทนที่จะได้รับประโยชน์จากการขอสินเชื่อแบบต่างๆ เพื่อนๆอาจจะต้องมานั่งเครียดแทนก้เป็นได้นะ ก็เลยอย่าลืมเช็คข้อมูล รายละเอียด รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขต่างๆก่อนที่เพื่อนจะทำการยื่นเรื่องขอสินเชื่อกัน คิดให้ดีก่อนว่าสภาพการณ์ของเราในตอนนี้จำเป็นต้องกู้เงินจริงๆไหม? อย่าลืมนะ