บางท่านอาจจะเคยผ่านตากันมาบ้างกับ สินเชื่อ SME ซึ่งเป็นสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย ที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนไม่เกิน 200 ล้านบาท หรือตามจำนวนที่กระทรวงฯกำหนดค่ะ สินเชื่อชนิดนี้มีจุดเด่นในการสนับสนุนด้านธุรกิจและอุตสาหกรรมของกลุ่ม SMEs อาทิเช่น ธุรกิจอุตสาหกรรม, กิจการค้าปลีก-ค้าส่ง, ธุรกิจด้านการบริการ และกิจการอื่น ๆ ตามจำนวนที่กระทรวงฯ อนุญาติ
สินเชื่อ SME จึงถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถมีเงินทุนเพื่อจัดตั้ง เพิ่มส่วนขยาย และปรับปรุงศักยภาพของกิจการ แต่สิ่งที่เจ้าของธุรกิจยังต้องให้ความสำคัญยังรวมไปถึงเรื่องประวัติการค้างชำระ การมีหนี้บัตรเครดิตเยอะๆ หรือแม้กระทั่งการติดแบล็กลิสต์ที่จะส่งผลโดยตรงต่อการขอสินเชื่อด้วย
บทความนี้ จึงเตรียมคำตอบมาให้ในเรื่องสินเชื่อ SME และ วิธีเคลียร์แบล็กลิส-ประวัติค้างชำระให้สามารถกู้ผ่าน!! มาติดตามกันได้เลยค่ะ..
สินเชื่อ SME มีอะไรบ้าง
สินเชื่อ SME เหมาะกับผู้ประกอบธุรกิจที่เข้าเกณฑ์ตามผู้ให้บริการแหล่งเงินทุนได้กำหนดไว้ แต่รูปแบบใดจึงจะเหมาะต่อธุรกิจที่สุด จะต้องตัดสินจากเงื่อนไขที่สินเชื่อจะให้ได้ คือ
เงินกู้เบิกเกินบัญชี (OD)
เงินกู้เบิกเกินบัญชีเหมาะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเงินในธุรกิจ และเป็นสินเชื่อการกู้ในระยะสั้น มีข้อดี คือ มีดอกเบี้ยที่คิดจากจำนวนเงินต้นซึ่งผู้ประกอบการได้เบิกถอนออกมาเท่านั้น หากคืนเงินต้นครบ ดอกเบี้ยก็จะหยุดทันที แต่ข้อเสียก็คืออัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูงค่ะ
ใช้อสังหาริมทรัพย์ค้ำประกัน
สินเชื่อรูปแบบนี้จะเป็นการกู้ยืมเงินในระยะยาว ที่สามารถผ่อนชำระหนี้ได้นานสูงถึง 30 ปี แต่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ จึงเหมาะกับการลงทุนเพิ่มหรือขยายในส่วนธุรกิจ โดยที่ผู้ประกอบจะสามารถใช้สินทรัพย์ในการค้ำประกันได้ เช่น การจำนองบ้าน หรือ ที่ดิน เป็นต้น
ใช้รถยนต์ในการค้ำประกัน
สินเชื่อที่ใช้รถยนต์ในการค้ำประกันก็จะคล้ายกับการจำนองบ้าน แต่จะต้องใช้รถยนต์ที่เป็นชื่อของตัวผู้ประกอบการเองและผ่อนชำระหมดแล้วเท่านั้น ข้อดี คือ อนุมัติง่าย มีอัตราดอกเบี้ยอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 3–21% ต่อปี แต่หากผิดนัดชำระก็มีสิทธิ์ที่จะถูกยึดรถเอาได้
สินเชื่อแฟคตอริ่ง (Factoring)
สินเชื่อแบบนี้จะเหมาะกับธุรกิจ SME ที่ต้องการเพิ่มสภาพคล่องในระยะสั้น โดยการนำเอาบัญชีลูกหนี้ทางการค้าที่ยังไม่ครบกำหนดชำระ มีใบกำกับสินค้าหรือใบแจ้งหนี้ค้างชำระ มาเปลี่ยนให้เป็นเงินทุนจากสถาบันการเงิน เพื่อเมื่อถึงครบกำหนดจ่ายเงิน (Credit term) ลูกหนี้จะจ่ายคืนให้กับธนาคารส่วนผู้ประกอบการก็จะได้รับเงินส่วนต่างหลังหักค่าดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมจากธนาคารคืนกลับมา โดยมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกหักเท่ากับ MRR + 1 - 4% ต่อปี
วิธีเคลียร์ประวัติค้างชำระหนี้สำหรับเจ้าของธุรกิจ SME
เนื่องจากประวัติการค้างชำระหนี้จะถูกบันทึกไว้ในเครดิตบูโร หากมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งมีอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงตาม ซ้ำร้ายยังต้องเจอกับปัญหาการถูกทวงหนี้ จนถึงขั้นถูกฟ้องหรือยึดทรัพย์ในกรณีร้ายแรงด้วย
หากเรามีประวัติค้างชำระหนี้ก่อนขอสินเชื่อครั้งใหม่ควรทำอย่างไร? เจ้าของธุรกิจ SME ควรหาหนทางในการจัดการเพื่อการดำเนินธุรกิจให้ไปต่อได้ โดยวิธี..
วิธีแรกที่แนะนำคือ ตั้งสติและรวบรวมหนี้ทั้งหมดที่มีทั้งที่จ่ายตรง-จ่ายไม่ตรง หรือยังไม่ได้จ่าย ออกมาเป็นลิสต์ เพื่อทำเป็นตารางสำหรับประวัติค้างชำระหนี้ จะได้ทราบจำนวนที่ต้องจ่ายต่อเดือน หนี้ก้อนไหนรอได้-รอไม่ได้ โดยระบุชื่อสถาบันการเงิน, ชนิดของหนี้, จำนวนเงิน ณ วันที่ปัจจุบัน, จำนวนเงินการขั้นต่ำในแต่ละเดือน เพื่อรักษาบัญชีและเครดิต, จำนวนเงินที่สามารถชำระได้ และสถานะของหนี้แต่ละตัวให้ชัดเจน
อีกวิธีหนึ่งจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายส่วนบุคคลแบบง่าย ๆ เพื่อทราบจำนวนเงินที่เหลือพอนำไปชำระหนี้ที่ค้างอยู่ หลังจากหักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อเดือนออกไปแล้ว และทำให้รู้ว่าควรต้องหาเงินเพิ่มอีกจำนวนเท่าไหร่ จึงจะพอใช้จ่ายในการผ่อนชำระหนี้ต่อไปด้วย
หรือ ลงมือเริ่มต้นชำระหนี้ที่ค้างออกไปซะ โดยอาจเริ่มต้นจากหนี้ก้อนเล็ก ๆ ก่อน เพื่อเวลาที่เหลือจะได้เอาไปโฟกัสกับหนี้ก่อนใหญ่กว่า หรืออาจเริ่มจากหนี้ก้อนที่ใกล้กำหนดชำระ/กำลังจะถูกดำเนินการฟ้องร้อง ตามตารางหนี้ที่ได้ทำไว้
เมื่ออยู่ในสถานะกำลังจ่ายหนี้ ก็จะยิ่งต้องเพิ่มรากฐานของพฤติกรรมการเงินที่ดี โดยรักษาวินัยการชำระหนี้ที่ค้างอยู่จะได้ไม่กลับเข้ามาอยู่ในวงจรการค้างชำระหนี้อีกครั้ง
นอกจากนั้น สร้างประวัติทางการเงินที่ดีขึ้นมาใหม่ได้ แม้จะเคยมีข้อมูลในเครดิตบูโร เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือจากผู้ให้บริการแหล่งเงินทุนอีกครั้ง โดยเริ่มต้นจากการชำระหนี้ที่ตรงเวลา และสม่ำเสมอ เพื่อให้สถาบันฯจะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเราโดยง่ายในครั้งหน้า
จัดการกับ ‘แบล็คลิส’ เหตุผลที่ทำให้ขอสินเชื่อไม่ผ่าน
การติด ‘แบล็คลิส’ คือ คำที่ใช้กันเพื่อพูดถึงผู้ที่มีประวัติการชำระเงินล่าช้า การผิดนัดการชำระหนี้ ข้อมูลบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ปรากฏอยู่บนข้อมูลเจ้าของบัญชีในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี แต่จริงๆแล้ว บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือ เครดิตบูโร จะไม่ได้ขึ้นแบล็คลิสเพื่อระงับการให้สินเชื่อกับผู้ขอสินเชื่อใหม่ แต่ข้อมูลในส่วนนี้จะมีไว้เพื่อผู้ให้สินเชื่อพิจารณาเท่านั้น
ผู้ให้สินเชื่อจึงมักจะอนุมัติผู้กู้ที่มีแนวโน้มในการชำระหนี้คืนตรงเวลามากที่สุด แต่ถ้ามีประวัติเครดิตบูโรไม่ค่อยดี ไม่มีประวัติการเงินเข้า-ออกในบัญชีธนาคารอย่างสม่ำเสมอ และขาดความน่าเชื่อถือ เช่น สถานที่ทำงานอย่างเป็นหลักแหล่ง ก็จะมีหลักเกณฑ์ในการวิเคราะห์เพื่ออนุมัติเงินกู้ที่แตกต่างกันไปในแต่ละแห่ง ดังนั้น ผู้ประกอบการที่ต้องการสินเชื่อ SME ยังคงเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับตัวเองได้ โดยการทำประวัติการเงินให้ดีขึ้น ไม่สร้างหนี้เพิ่ม และนำเงินไปชำระหนี้ที่ค้างอยู่ ให้สถานะบัญชีในข้อมูลเครดิตบูโรกลับสู่สถานะปกติเร็วที่สุด เพียงเท่านี้..คุณก็สามารถยื่นกู้เพิ่มได้อีกครั้งแล้ว!!
เจ้าของกิจการ SME ต้องรู้.. เพื่อแหล่งเงินทุนในการประกอบธุรกิจและวิธีในการกู้ที่ไม่พลาด!
จึงเห็นว่า..สินเชื่อ SME นั้นมีหลายประเภทให้ผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถเลือกพิจารณาได้เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับธุรกิจ โดยจะต้องเลือกสินเชื่อให้ตรงตามวัตถุประสงค์ กำหนดระยะเวลา และคุณสมบัติของตัวผู้ขอสินเชื่อเป็นหลัก หากอยากให้กู้ไม่พลาดก็ต้องจัดการกับประวัติหนี้ค้างชำระ ให้ดีซะก่อน และอย่าให้คำว่า ‘แบล็คสิสต์’ มาหน่วงเหนี่ยวเราไว้.. เพราะนี่เป็นแค่คำพูดที่ใช้กันเท่านั้น เป็นเพียงการรวบรวมข้อมูลที่ผ่านมา แต่ไม่ได้จะกำหนดว่าสถาบันฯจะไม่ปล่อยกู้ให้กับใคร แค่ท่านจะต้องมีความสามารถในการชำระเงินคืนให้กับผู้ให้บริการแค่นั้น
เพียงเท่านี้ โอกาสในการขอสินเชื่อสำหรับธุรกิจของ เจ้าของกิจการ SME ในครั้งต่อไปก็ทำได้ไม่ยากแล้วล่ะค่ะ อย่าลืมว่า ประวัติทางการเงินที่ดีนั้นสร้างได้และจะทำให้มีชัยไปกว่าครึ่ง เคลียร์ให้ดี ยังไงก็กู้ผ่านแน่นอน!
อพิศิต
เวลาที่ขอสินเชื่อต่างๆจากธนาคาร ค่อนข้างจะเครียดเวบาที่เราต้องจ่ายคืนครับ เพราะว่าเราต้องตั้งใจเก็บเงินให้อยู่เลยครับ เพราะว่าการจ่ายคืนเขาไม่ได้ให้เราจ่ายเขาเป็นเงินก่อนเดียวแบบที่เขาให้เรามาครับ แต่เขาให้เราค่อยๆผ่อนส่งเอาครับ แบบนี้แหละเครียดเลยครับ เพราะว่าต้องจ่ายทุกๆเดือน บ่งครั้งถ้าเดือนไหนเราหมุนไม่ทันก็ลำบากหน่อย
Nitit
@ k.อพิศิต อ้าว การที่ธนาคารเค้าอนุมัติสินเชื่อให้คุณ เค้าต้องดูแล้วไม่ใช่หรอครับว่าคุณมีความสามารถในการาจ่ายคืนได้ หรือว่าช่วงโควิดนี้คุณได้รับผลกระทบมากเลย ก็เลยทำให้คุณจ่ายหนี้ไม่ไหวเลยทำให้เครียด?? การที่เค้าไม่ให้คุณจ่ายเป็นก้อนแล้วให้ทยอยๆจ่ายมันไม่ดีหรอครับ ??? ผมอยากรู้เหตุผลหน่อยครับว่าไม่ดียังไง ??? มาแชร์กันได้ครับ
Komsun
คอมเม้นท์ด้านบนบอกว่าเครียดเวลาจ่ายเงินคืนสินเชื่อที่กู้มา เพราะจ่ายคืนเป็นเดือนๆไปไม่ได้จ่ายแบบเป็นก้อนใหญ่ทีเดียวหากหมุนเงินไม่ทันก็แย่เลย แล้วยังไงอะครับ ถ้าจ่ายแบบรายเดือนคุณยังจ่ายไม่ค่อยจะได้ หากว่าเขาให้จ่ายเป็นก้อนใหญ่ทีเดียวคุณจะเก็บเงินมาจ่ายได้เหรอครับ ก่อนไปขอสินเชื่อต้องดูสถานภาพทางการเงินของคุณด้วยนะ
Jinta
ดีค่ะ บทความนี้อธิบายชัดเจนว่า "เครดิตบูโร จะไม่ได้ขึ้นแบล็คลิสเพื่อระงับการให้สินเชื่อกับผู้ขอสินเชื่อใหม่ แต่ข้อมูลในส่วนนี้จะมีไว้เพื่อผู้ให้สินเชื่อพิจารณาเท่านั้น" หลายคนเข้าใจว่าการติดเครดิตบูโร เป็นการติดแบล็กลิสแบบที่เป็นเรื่องร้ายแรง ไม่สามารถไปขอสินเชื่ออะไรได้อีก มาอ่านบทความนี้ก็เข้าใจกันชัดเจนแล้วนะคะ
วาสิฐี
อ่านบทความนี้แล้ว เราคิดว่าสรุปได้เลยคะว่า กรณีที่เราติด แบล็คลิส สินเชื่อSME หรือว่า สินเชื่อแบบอื่นๆแล้วเราอยากให้ผ่านเวลาที่จะขอสินเชื่อตัวใหม่ คือเราต้องใช้หนี้สินเชื่อตัวเก่าให้จบก่อนใช่ไหมคะ นั้นแสดงว่าตราบใดที่เรายังไม่สามารถจ่ายหนี้เก่าได้ครบ ก็อย่าหวังว่าจะขอสินเชื่อเพิ่มเติมได้เลย ใช่ไหมคะ
KoiKoy
หลายคนกลัวการติดเครดิตบูโรเพราะว่าไม่อยากมีประวัติเสียและเกรงว่าเมื่อไปขอสินเชื่อจะขอไม่ผ่าน แต่บทความนี้บอกวิธีการเคลียร์ประวัติค้างชำระเพื่อจะได้กู้สินเชื่อ SME ผ่าน ตกลงว่าเราต้องกลัวการติดเครดิตบูโรกันมั้ยคะ หรือว่ามันก็จะมีวิธีและทางออกที่เราสามารถทำได้อยู่แล้ว เพียงแค่หาทางนั้นให้เจอ แค่นี้ก็จบสวยๆ
ภูมินันท์
สินเชื่อตัวไหนถ้าค้างชำระก็ต้องมีประวัติเกลือบจะทุกเจ้าแหละครับ ยิ่งเป็นของSMEด้วยแล้ว ถ้ามีประวัติก็น่าเศร้าเลยนะครับ ไหนจะต้องทำธุรกิจให้เดินต่อไปได้ จะไปขอสินเชื่อจากใครก็คงไม่ได้แล้ว อย่างยอกหานอกระบบมาตัดบางส่วนก่อนไหมครับหลังจากนั้นก็ค่อยขอสินเชื่อมาใช้หนี้นอกระบบก่อน แบบนี้อาจจะพอช่วยได้นะ แต่ใครจะกล้าไหมละ