ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตทำให้เราท้อแท้บ้างในบางครั้ง ท้อได้แต่อย่าถอย ถ้าเราไม่ท้อและลุกขึ้นสู้เราจะเห็นว่าทุกๆปัญหามีทางออกเสมอ แล้วเราจะผ่านปัญหานั้นไปได้ เมื่อเราสามารถผ่านปัญหาหนักๆในชีวิตมาได้แล้วเราจะเข้มแข็งมากขึ้น ผู้เขียนอยากให้ทุกคนเข้มแข็งอย่าท้อถอยกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกับชีวิตของเราในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ช่วงชีวิตของคนเรายังอีกยาวไกล พูดมาซะยืดยาวทุกคนคงไม่งงกันใช่ไหมคะ? ปัญหาอะไรที่ผู้เขียนอยากพูดถึง? ปัญหาเรื่องเงินยังไงล่ะ ปัจจุบันนี้หลายคนมีปัญหาเรื่องเงินรุมเร้ามากกว่าปัญหาอะไรทั้งหมด เงิน เรื่องเดียวส่งผลกระทบต่อหลายๆเรื่องในชีวิตได้มากมาย ทั้งเรื่องงาน เรื่องครอบครัว ใครที่กำลังมีปัญหาเรื่องเงินอย่าพึ่งคิดว่าชีวิตไม่เหลืออะไรนะ แม้ว่าปัญหานั้นจะส่งผลกระทบต่อหลายอย่างในชีวิตก็เถอะ แต่เงินก็ยังไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิตของเรานะ ถึงจะมีเจอปัญหาเรื่องเงินหนักหนาแค่ไหนชีวิตก็ต้องเดินต่อไปให้ได้
บทความนี้จะมาพูดถึงปัญหาเรื่องเงินอย่างหนึ่งที่มาจากการใช้บัตรเครดิต บัตรเครดิตมีประโยชน์มากมายแต่ถ้าใช้ไม่เป็นก็มีโทษด้วยเหมือนกัน คนที่ใช้บัตรเครดิตแบบไม่คิดก็ได้รับโทษจากนิสัยการใช้เงินแบบไม่ควบคุมได้ ทำให้บางคนเป็นหนี้บัตรเครดิตแบบถอนตัวไม่ขึ้น หาทางออกไม่ได้ สุดท้ายก็ได้รับหมายศาลส่งมาถึงบ้านจนได้ เอาล่ะ เรื่องของหมายศาลไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่อย่าพึ่งตกใจไปเพราะมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่ไม่มีทางออก ทุกคนที่มีบัตรเครดิตฟังทางนี้ให้ดีๆ เผื่อว่าสักวันหนึ่งคุณอาจจะได้รับหมายศาลส่งมาถึงบ้านก็ได้ถ้าใช้จ่ายแบบไม่ระวัง เพราะไม่อยากให้ทุกคนเจอเรื่องแบบนี้จึงอยากมาเตือน แต่ถ้าใครได้รับหมายศาลมาแล้วก็มีทางออกมาบอกกันด้วย เรื่องนี้สำคัญจริงๆคนที่มีบัตรเครดิตต้องศึกษาเอาไว้นะ
เป็นหนี้บัตรเครดิตส่งผลเสียอะไรบ้าง?
เป็นหนี้บัตรเครดิตสร้างความเสียหายหลายอย่าง ชีวิตการงานการเงินเริ่มสะดุด จะทำธุรกรรมทางการเงินก็ติดๆขัดๆ เสียชื่อเสียงทางการเงิน หรือ เรียกว่าเสียเครดิต เมื่ออยากสมัครบัตรเครดิตใบอื่นๆ หรือ ขอสินเชื่ออะไรก็เริ่มจะยากขึ้น สิ่งเหล่านี้ทำให้คุณเสียโอกาสดีๆทางการด้านการเงิน หรือ การทำงานด้วยซ้ำ เมื่อเป็นหนี้บัตรเครดิตเริ่มค้างชำระก็จะเริ่มมีการติดตามทวงถามหนี้ทางโทรศัพท์ ทำให้เกิดความเครียดและความกังวลจนทำงานไม่ได้นอนไม่หลับรบกวนการใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างมาก ต่อมาคือโดนหมายศาลซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ต้องจัดการตามขั้นตอน การเดินเรื่องขึ้นศาลก็ทำให้เสียเงินเสียเวลาไม่น้อยเลย แถมมีโอกาสโดนยึดทรัพย์อีกด้วย เห็นไหมว่าหนี้บัตรเครดิตนั้นส่งผลเสียมากมายจริงๆกับการใช้ชีวิตของคุณ ดังนั้น เมื่อมีบัตรเครดิตก็ควรใช้จ่ายอย่างรอบคอบจะได้ไม่ต้องเจอกับเหตุการณ์ต่างที่บอกเอาไว้นะคะ
ก่อนจะโดนหมายศาลจะต้องเจอกับอะไร?
คนที่มีบัตรเครดิตฟังให้ดีๆนะคะ นี่คือสัญญาณเตือนที่คุณต้องรู้ตัวเอาไว้ก่อนที่คุณจะได้รับหมายศาล คุณจะต้องเจอกับเรื่องอะไรบ้าง? เมื่อเริ่มเป็นหนี้บัตรเครดิต การรู้ตัวก่อนจะช่วยทำให้คุณไม่ต้องเจอกับหมายศาลที่มาทักทายถึงบ้านก็ได้ค่ะ ถ้าสามารถจัดการหนี้บัตรเครดิตให้เร็วที่สุด แต่สิ่งที่ต้องเจอคือ
ธนาคารจะติดตามทวงถามหนี้อยู่เรื่อยๆเพื่อยื่นข้อเสนอให้คุณในการผ่อนชำระหนี้ คุณไม่มีทางหนีได้หรอก และการหนีก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีด้วยแต่กลับจะเป็นการทำให้หมายศาลมาถึงบ้านเร็วยิ่งขึ้น แต่ถ้าคุณรับฟังและเจรจากับธนาคารอยู่เรื่อยๆจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า การทำอย่างนี้ทำให้ธนาคารรู้สภาพการณ์ของคุณและรู้ว่าสามารถติดต่อคุณได้อยู่เสมอ แต่ก็อย่างว่านะ บางครั้งข้อเสนอของธนาคารก็คือการชำระหนี้นั่นแหละ แต่ถ้าไม่มีล่ะจะทำยังไง? ก็คงช่วยไม่ได้สุดท้ายหมายศาลก็มาถึงบ้านอยู่ดี แต่ยังไม่หมดหนทางนะทางออกยังมีอยู่ ไปดูกัน
ทางออกของคนที่โดนหมายศาลคือ
หมายศาลมาถึงบ้านแล้วจะทำยังไง? อย่าตกอกตกใจเกินไป ทางออกมีแน่ๆ คล้ายกับการยอบรับฟังคำแนะนำของธนาคารในการผ่อนชำระหนี้ตอนที่โดนทวงถามนั่นแหละ เมื่อได้หมายศาลมาแล้วต้องปฏิบัติตามคำแนะนำในหมายศาลนั้นทันที เพื่อลดปัญหาอื่นๆที่จะตามมาอีก เมื่อมีหมายเรียกให้ไปขึ้นศาลคุณก็ต้องไป แต่ขอแนะนำว่าก่อนไปขึ้นศาลตามหมายเรียกให้ปรึกษาทนายความก่อน เพื่อคุณจะได้มีผู้ที่มีประสบการณ์และความรู้ไปช่วยคุณไกล่เกลี่ยกับธนาคาร ณ วันที่ไปขึ้นศาลค่ะ เมื่อให้การต่อศาลอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อตัวคุณมากเท่าไหร่หนี้สินที่ต้องชำระต่อธนาคารก็จะไม่เป็นภาระหนักมากเท่านั้น การไปขึ้นศาลตัวคนเดียวอาจจะเสี่ยงเกินไปที่จะเสียเปรียบได้ค่ะ แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามเป็นหนี้ก็ต้องชำระอยู่ดี แต่จะชำระมากหรือน้อยตามกำลังที่รับไหวได้แค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการเจรจาในศาลค่ะ เรื่องต่อไปที่คุณต้องเจอด้วย คือ การอายัดยึดทรัพย์ ทรัพย์สินแบบไหนที่จะโดนยึดบ้าง?
ข้อมูลจริงของการอายัดทรัพย์สิน
เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด และ ไม่กังวลจนเกินเหตุเมื่อศาลพิจารณาว่าคุณเป็นบุคคลที่ต้องโดนอายัดยึดทรัพย์สิน คุณคงตกใจแน่ๆ และสงสัยว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี? บทความนี้จึงได้เตรียมข้อมูลสำคัญมาให้คุณได้ศึกษาค่ะ รู้เอาไว้จะได้ไม่ถูกเอาเปรียบง่ายๆนะคะ ทรัพย์สินที่ธนาคารอายัดได้และอายัดไม่ได้คืออะไร?
- เงินพิเศษจากการทำงาน เช่น โบนัสธนาคารสามารถอายัดได้เพียงแค่ 50%
- เงินพิเศษจากการทำงานล่วงเวลา เช่น OT สามารถอายัดได้ 30%
- เงินบำนาญสามารถอายัดได้ไม่เกิน 300,000 บาท/ปี
- บุคคลที่มีรายได้น้อยกว่า 20,000 บาทไม่สามารถอายัดเงินเดือนได้
- เงินมรดกไม่สามารถอายัดได้
- สมุดบัญชีสามารถอายัดได้ตามเงื่อนไขเท่านั้น
- บุคคลที่การลงทุนในกองทุน หรือ หุ้นสามารถอายัดเงินปันผลได้
- บุคคลที่เป็นข้าราชการไม่สามารถอายัดเงินเดือนได้
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลสำคัญที่ลูกหนี้ต้องรู้เอาไว้ การอายัดทรัพย์สินก็มีเงื่อนไขและข้อกำหนดที่ธนาคารต้องทำตามด้วยเหมือนกัน ดังนั้น แม้ว่าจะโดนหมายศาลหรือต้องโดนอายัดทรัพย์สินชีวิตก็ยังดำเนินต่อไปได้
ชีวิตยังไม่สิ้นก็ต้องดิ้นต่อไป...หมายศาลไม่ใช่จุดจบ
หมายศาลอาจจะทำให้ชีวิตเปลี่ยน แต่ไม่ได้ทำให้เราต้องจบชีวิตนะ บางคนอาจจะคิดสั้นเกินไปจนเกิดเรื่องน่าเศร้า แต่ขอคุณอย่าคิดแบบนั้นขอให้คิดไปไกลๆในอนาคต คิดกว้างเข้าไว้แล้วจะเจอทางออก บทความนี้ก็ได้เตรียมคำแนะนำและทางออกมาให้แล้วพอสมควรสำหรับใครที่ได้รับหมายศาลก็น่าจะเบาใจลงได้แล้ว หรือใครที่ไม่เคยเป็นหนี้บัตรเครดิตมาก่อนหรือไม่ได้หมายศาลก็ไม่เป็นไร ดีแล้วล่ะ แต่ให้บทความนี้เป็นกรณีศึกษาก็แล้วกันนะ รู้ไว้ไม่เสียหาย เพราะไม่มีใครรู้อนาคตปัญหาเรื่องเงินจะเกิดขึ้นกับใครก็ได้แบบไม่รู้ตัว ตอนนี้ใครที่มีบัตรเครดิตคงต้องใช้จ่ายอย่างรอบคอบมากขึ้นแล้วล่ะ เพราะการใช้จ่ายแบบไม่คิดมีความเสียหายรออยู่เพียบเลย เห็นด้วยไหม?
ม้า
เห็นหมดความอย่างนี้แล้วค่อยโล่งใจหน่อยค่ะหลายคนคิดว่าถ้ามีหมายศาลมาที่บ้านนี้มันถึงติดหนี้แต่ที่จริงเราไม่ใช่เพราะว่าไหมสารแต่ละฉบับก็ไม่เหมือนกันถ้าเป็นมนุษย์สารจากหนี้ของบัตรเครดิตเราก็มีโอกาสคุยไปขอผ่อนผันหรือทำอะไรแบบนี้ได้ไม่ต้องกลัวจนเกินไปแต่ทางที่ดีเราว่าถ้าจะใช้บัตรเครดิตอย่าสร้างหนี้จนเกินกำลังที่จะจ่ายไหวแบบนี้น่าจะเซฟแล้วก็ปลอดภัยที่สุดแล้วค่ะ
รัตนาพร
ก้แค่รับหมายศาลเท่านั้นเองคะ ไม่ได้มีอะไรที่น่ากลัวเลยคะ ไม่ใช่ว่ารับหมายศาลแล้ว จะโดนยึดทรัพยย์เลย อันนี้ไม่ใช่คะ กว่าจะถึงขั้นนั้นได้เราต้องคุยหาข้อตกลงกับทางธนาคารก่อนคะ เขามักอยากให้เราเลือกแบบเห็นอกเห็นใจกันมากกว่าคะ เรื่อยึดทางธนาคารเองก็ไม่อยากทำหลอกคะ เพราะว่าราคาที่ขายได้ มันไม่ได้กำไรอะไรเลย
Wongnai...
@รัตนาพร ดูคุณพูดง่ายจังเลยนะครับ ก็แค่รับหมายศาล เหมือนว่าคุณจะรับบ่อยนะครับ ก็ไม่รู้นะ ถึงแม้ว่าบทความนี้จะทำให้สบายใจขึ้น คนที่ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้พอหมายศาลมาที่บ้านก็คงจะตกใจเป็นธรรมดาครับ ก็เหมือนว่าเราไปทำอะไรผิดกฎหมาย หรือผิดเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นมาถึงมีหมายศาลมาถึงบ้าน ตกใจได้ครับแต่ว่าอย่าลืมหาข้อมูลด้วยล่ะเหมือนข้อมูลในบทความนี้ก็ช่วยได้เยอะ
น้ำตาลอ้อย
ดีเลยค่ะที่มาเจอบทความนี้ เปล่านะคะเราไม่ได้เป็นหนี้บัตรเครดิต แต่เราเคยสงสัยว่าคนที่เป็นหนี้บัตรเคดริตแล้วมีหมายศาลมาถึงบ้าน เขาจะทำยังไง ไปต่อได้มั้ยหรือว่าจบที่ศาลแบบว่าโดนดำเนินคดีอะไรอย่างนี้อะค่ะ มาเจอบทความที่พูดถึงเรื่องที่เราสงสัยเลยดีใจที่ได้้รู้มากขึ้น ยังไงซะการเป็นหนี้มันก็ไม่ดีอยู่แล้ว ทำอะไรก็ไม่สบายใจค่ะ
ภูริชญา
เราอ่านแล้ว ก็เป็นเรื่องที่เราต้องเตรียมตัวจริงๆคะ คิดว่าแต่ละคนก็น่าจะทราบตัวเองอยู่แล้วละคะ ว่าถ้าไม่ยอมจ่ายเงินสำหรับบัตรหรือว่าสินเชื่อ ท้ายที่สุดแล้วก็จะต้องจบลงที่ชั้นศาล แต่บทความนี้แนะนำดีคะ ไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะคะ ถ้าเราขึ้นศาลด้วยคดีแบบนี้เราต้องมีทนายความที่เป็นของเราไปด้วย คิดว่าแค่ไปรับทราบข้อกล่าวหาแล้วก็คุยกับทางเจ้าหนี้เท่านั้น
/Rujinan%
เห็นคำว่า "หมายศาล" เราก็กังวลแล้วล่ะค่ะ เปล่านะ ยังไม่เคยมีหมายศาลมาที่บ้านค่ะ เราพูดถึงคนที่เป็นหนี้แบบบัตรเครดิตหรือหนี้ค้างชำระอะไรก็แล้วแต่ จนถึงกับมีหมายศาลมาที่บ้าน ฟังดูมันน่ากังวลใจใช่มั้ยล่ะคะ แต่มาอ่านบทความนี้ ได้รู้มากขึ้นว่ายังมีทางออกอยู่ แต่อย่าต้องไปถึงจุดนั้นกันเลยเนอะ พยายามชำระเงินคืนกันดีกว่า