ถ้าคุณรู้สึกว่า อายุก็เริ่มมากขึ้น ปัญหาสุขภาพก็ไม่เข้าใครออกใคร ถึงเราจะดูแลตัวเองดีมากแค่ไหน แต่สังคมในปัจจุบันก็ทำให้มีแน้วโน้มที่จะเจ็บป่วยได้ง่ายๆ ยิ่งพอคิดถึงค่าหมอ ค่ายา ก็ดั๊นแพงหูฉี่ ต่อรองก็ไม่ได้ซะด้วยจึงอยากลองทำประกันเอาไว้เพื่ออนาคตหรือยามฉุกเฉินบ้าง!
สำหรับมือใหม่ที่ต้องการวางแผนรับมือความเสี่ยงด้านสุขภาพ มีงบในการจ่ายค่าเบี้ยไม่สูงนัก แต่อยากได้ประกันภัยสักใบที่เหมาะสม โดยลังเลว่า ควรซื้อประกันสุขภาพแบบเดี่ยวซึ่งอาจถูกว่า หรือ ซื้อประกันชีวิตแบบที่พ่วงประกันสุขภาพ เผื่อๆไว้ให้คนข้างหลัง ดีนะ?! MoneyDuck ขอช่วยให้คุณเลือกได้ง่ายขึ้น จากปัจจัยต่างๆ ต่อนี้ค่ะ
ความคุ้มครองจากประกันสุขภาพแบบเดี่ยว
หลายคนเทใจมาที่สัญญาแบบ "ซื้อเดี่ยว" ก็เพราะคิดว่ามีค่าเบี้ยประกันถูกกว่าเมื่อเทียบกับแผนความคุ้มครองในระดับเดียวกันที่มาพร้อมกับประกันชีวิต แถมยังเป็นสัญญาที่มีผลบังคับใช้แบบปีต่อปี ซื้อเพื่อใช้ในระยะสั้นๆ 2-3ปี ก็สะดวกดีเพราะไม่ต้องซื้อพ่วงกับสัญญาใดๆ
ซึ่งประกันสุขภาพชนิดนี้จะให้ความคุ้มครองไปที่การจ่ายค่ารักษาพยาบาลของผู้เอาประกันภัยเพียงเท่านั้น ทั้งในสาเหตุจากโรคภัยไข้เจ็บหรืออุบัติเหตุต่างๆ โดยเป็นการจ่ายเบี้ยประกันแบบปีต่อปี แต่บริษัทมีสิทธิ์ที่จะไม่ต่อสัญญาในปีถัดไปได้ นอกจากนี้ แผนประกันสุขภาพแบบเดี่ยวๆ จะให้ความคุ้มครอบคลุมระดับไหนบ้างในเรื่องค่ารักษาพยาบาล ค่าห้อง ค่ายา หรือ การจ่ายค่าชดเชยรายได้ ก็มักจะเป็นไปตามแผนที่เราเลือกหรือเงื่อนไขในแต่ละบริษัท ผู้เอาประกันจึงต้องศึกษาประเภทของประกันสุขภาพและความคุ้มครองในรายละเอียดทให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ จะได้เหมาะสมต่อความต้องการของเราที่สุดค่ะ
ความคุ้มครองจากประกันชีวิตพ่วงประกันสุขภาพ
หากเป็นสัญญา “แบบพ่วง” กรมธรรม์ชนิดนี้ถึงจะเน้นไปที่ความคุ้มครองชีวิตเป็นหลักแต่เปิดโอกาสให้ผู้เอาประกันสามารถเสริมความคุ้มครองด้านสุขภาพไปพร้อมๆกันได้ เพื่อจะได้รับทั้งความคุ้มครองด้านสุขภาพในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ และเงินค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่เสียชีวิตลงค่ะ
ซึ่งจากความเห็นของเพื่อนๆใน pantip ก็ได้พูดถึงแผนประกันนี้ประมาณว่า ‘เราไม่รู้อนาคต ไม่รู้ว่าจะต้องไปเมื่อไหร่ มีประกันชีวิตเผื่อไว้จึงดีกว่า จะได้มีเงินก้อนไว้ให้คนข้างหลัง’ บางคนก็บอกว่า ‘อยากคิดยาวๆ ในเรื่องผลประโยชน์ด้านสุขภาพ เพราะถึงค่าเบี้ยจะสูงกว่าแต่หลายกรมธรรม์ก็คุ้มครองไปยาวๆถึงช่วงอายุ 80-90 ปี จึงไม่ปล่อยเราทิ้งไว้กลางทางแน่นอน’
หรือ บางท่านก็ให้ข้อสังเกตว่าว่า ‘ซื้อคู่มันถูกกว่า ถ้าซื้อประกันสุขภาพอย่างเดียวไม่ได้ใช้ก็เหมือนจ่ายทิ้งให้เสียดายไปเปล่าๆ แต่แบบเนี่ยนานๆใช้ทีก็ยังคุ้ม!’ นี่จึงเป็นความคุ้มครองที่ประกันชีวิตแบบพ่วงประกันสุขภาพจะให้เราได้ค่ะ
เปรียบเทียบจากปัจจัยต่างๆ
หากคุณยังจุใจไม่พอเราขอมาเปรียบเทียบกันต่อจากสถานการณ์และปัจจัยต่างๆ ซึ่งอาจเพิ่มเติมเข้ามา แต่รับรองว่าต้องมีผลต่อการตัดสินใจแน่ๆ คือ
ค่าเบี้ยประกัน
เรื่องนี้ถึงจะเกริ่นกันไปบ้าง.. แค่ในเรื่องความแตกต่างก็คือ ถ้าเลือกแผนประกันสุขภาพแบบเดี่ยวเราจะจ่ายเบี้ยประกันถูกกว่าสัญญาแบบพ่วง เพราะเป็นการจ่ายเพียงเบี้ยประกันสุขภาพเพียงเท่านั้น
แต่สัญญาแบบพ่วงจะมีค่าเบี้ยประกันใน 2 ส่วน คือ เบี้ยประกันชีวิตที่ขึ้นอยู่กับแบบประกันและทุนประกันที่เราเลือก กับ ค่าเบี้ยประกันสุขภาพที่ต้องจ่ายทิ้งเล็กน้อยแบบปีต่อปี หรือปรับเพิ่มขึ้นไปตามช่วงวัยค่ะ
ระยะความคุ้มครอง/การถูกยกเลิกกรมธรรม์
ฝั่ง..ประกันสุขภาพแบบเดี่ยว เนื่องจากเป็นการคุ้มครองแบบปีต่อปี เราจึงมีโอกาสถูกยกเลิกกรมธรรม์ได้สูงกว่า หากพบว่ามีการแจ้งเคลมที่ไม่เป็นจริง, การแถลงถ้อยคำสุขภาพที่คลาดเคลื่อน หรือ การทุจริตจากการเรียกร้องสินไหมทดแทน
ส่วนกรมธรรม์สัญญาแบบพ่วง โอกาสที่จะถูกยกเลิกกรมธรรม์นั่นจะมีน้อยกว่าเพราะเป็นสัญญาในแบบระยะยาว บริษัทฯ จึงต้องการรักษาฐานลูกค้าของตนเอาไว้แล้วให้ความคุ้มครองจนกว่าจะหมดสัญญา(แต่หากพบเรื่องทุจริตการเคลมก็ยังมีสิทธิ์บอกเลิกกรมธรรม์ของเราได้อยู่นะ)
เหมาะกับใครบ้าง
ถ้าให้ฟันธงไปเลยล่ะก็.. สำหรับแผนประกันสุขภาพแบบเดี่ยว จะเหมาะกับผู้ที่มีงบประมาณจำกัดแต่ยังอยากได้ความคุ้มครองด้านสุขภาพอย่างเต็มที่อยู่ ตัวเลือกนี้ก็ไม่เสียหายอะไรมากค่ะ
แต่สำหรับคนที่อยากได้ทั้งความคุ้มครองชีวิตและด้านสุขภาพไปแบบพร้อมๆ กัน เช่น เงินคืนในช่วงยามเกษียณ, มีเงินก้อนเผื่อไว้ให้คนข้างหลัง และ มีงบประมาณที่เพียงพอต่อการจ่ายทั้งเบี้ยประกันชีวิต/เบี้ยประกันสุขภาพ การซื้อสัญญาแบบพ่วงไปเลยก็จะตอบโจทย์เราที่สุดค่ะ!
เปรียบเทียบแผนประกันที่คุณต้องการและตัดสินใจให้ง่ายขึ้นในวันนี้!
คำถามที่ว่า ควรเลือกแผนประกันอย่างไรดี? สิ่งที่เราต้องพิจารณาหลักๆ ก็คือ วัตถุประสงค์และเป้าหมายที่เราต้องการจากแผนประกันสักฉบับค่ะ โดยการเลือกแผนประกันสุขภาพแบบเดี่ยว ก็อาจจะเพียงพอแล้ว ถ้าเรามีงบประมาณจำกัด หรือ มีสวัสดิการในที่ทำงานอยู่บ้าง แค่อยากเพิ่มการดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่ดูแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆ หรือ โรคร้ายแรงที่อาจเพิ่งเริ่มมีสัญญาณเตือน
แต่ถ้าคุณเป็นหัวหน้าครอบครัว หรือ กำลังหลักเพื่อหารายได้จุนเจือ ก็ควรจะมีแบบประกันหลักที่เน้นความคุ้มครองชีวิตและซื้อสัญญาเพิ่มเติมเรื่องการรักษาสุขภาพแบบยาวๆไปด้วย จะได้ลดภาระหนักหากเกิดเรื่องราวไม่คาดฝันขึ้น
สุดท้ายนี้ ควรเลือกทำประกันไว้ตั้งเนิ่นๆ ในช่วงที่ยังมีสุขภาพแข็งแรงอยู่จึงจะดีที่สุด เพราะอายุไม่มาก ค่าเบี้ยประกันก็ไม่แพงนัก แต่หากรอให้สภาพการณ์หนักก่อนก็อาจจะไม่มีบริษัทไหนรับทำเอาได้ เราจึงควรเปรียบเทียบแผนประกันที่เหมาะๆ และตัดสินใจกันตั้งแต่วันนี้ค่ะ!
แก้วจ๋า
ดีดีหน่อยครับในการออมเงินแล้วก็คุ้มครองสุขภาพในที่เดียวด้วย ขอบคุณมากพี่ ช่วยให้เห็นชัดเจน เกี่ยวกับการวางแผนอนาคตและก็การได้รับ การคุ้มครองในคราวเดียวกัน ผมเองก็อยากมีเงินเก็บไว้ในช่วงที่ป่วยหรือไม่สบาย ตอนนี้ก็ทำงานหนักทุกๆวันเพราะว่าถ้าทำงานน้อยลงเพราะเจ้านายจะไม่ทำงานต่อถ้าตกงานก็แย่เลยแถมถ้าติดโควิตอีกช่วงนี้มีการระบาดใหม่แล้วคิดว่า ตายแน่ๆ ไม่รู้จะทำยังไงครับก็เลยขอบคุณสำหรับบทความนี้ที่แนะแนวนะครับ
Nara
เอาตรงๆก็เลือกไม่ค่อยถูกเหมือนกันนะคะ ถ้าจะทำประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองสุขภาพไปด้วยก็อาจจะต้องวางแผนนานหน่อยถ้าสำหรับคนที่มีงบน้อยเพราะประกันชีวิตส่วนมากก็จะมีเบี้ยประกันที่แพง แต่ถ้าซื้อประกันสุขภาพอย่างเดียวเลยก็ไม่ต้องวางแผนนานหรือคิดปุ๊บซื้อได้ปั๊บ ประกันสุขภาพเปรียบเทียบถูกๆมีเยอะ แบบเหมาจ่ายก็น่าสนใจค่ะ
KODnoi00
ผมว่าใครๆก็อยากได้ประกันที่ให้ความคุ้มครองทั้งชีวิตและสุขภาพนะครับ แต่มันติดอยู่เรื่องเดียวนี่ล่ะ..เรื่องเงินครับ อยากได้รับความคุ้มครองหลายด้านก็ต้องจ่ายเงินกันมากหน่อย ที่จริงก็ค่อยๆทำไปครับ ใครยังไม่พร้อมก็เลือกแบบเดี่ยวไปก่อน ไว้มีเงินเพิ่มค่อยดูเรื่องสุขภาพเพิ่มเข้าไปทีหลัง ช่วงเวลาแบบนี้ต้องเลือกครับ
ตั้ม
ช่วงนี้ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าเพิ่งทำประกันเลย เพิ่มภาระให้กับตัวเองเปล่าๆ ถ้ามีสิทธิ์อยู่แล้วก็ใช้สิทธิ์ไปก่อน....ไม่รู้นะอันนี้ความคิดส่วนตัวของผม เศรษฐกิจแบบนี้มันเดายากว่างานเราจะมั่นคงรึเปล่า นั่งๆทำงานอยู่อาจจะตกงานก็ได้ไม่รู้วันไหน อย่าเพิ่มค่าใช้จ่ายในชีวิตเลยถ้ายังไม่พร้อม แต่ถ้าใครป่วยบ่อยๆทำไว้ก็ดีครับ
พีท
ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพหรือพ่วงประกันชีวิตก็ต้องเลือกให้ตรงตามฐานะของเราและเลือกให้ตรงตามความต้องการของเรานั่นแหละ ถึงจะได้ประโยชน์ครับ ไม่ใช่ว่าไม่มีเงินแต่พยายามสรรหาอยากจะทำประกัน ถ้าไม่มีเงินก็ควรที่จะใช้สิทธิ์ของรัฐดีกว่านะครับ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิ์ประกันสังคมหรือสิทธิ์บัตรทอง ก็สามารถที่จะใช้ได้เหมือนกันเลยครับ แตกต่างเพียงแค่เรื่องความสะดวกสบายเท่านั้นเอง
ธนวุฒิ
ประกันชีวิต ที่จริงราคาไม่ได้แพงนะครับ ถูกกว่าประกันสุขภาพซะด้วยซ้ำครับ อย่างที่ผมใช้อยู่ เป็นของ AIA แบบ 20/99 ผมจ่ายค่าเบี้ยประกันแค่ปีละ 2500 บาทเองครับ แต่ที่จะแพง ก็ประกันสุขภาพแหละครับ ถ้าเป็นอย่างที่ผมซื้อพ่วงไว้เป็นแบบเหมาจ่ายค่ารักษาครับ กรณีการคุ้มครองแบบนี้ก็จะแพงกว่าแบบ อื่นๆละครับ เลือกที่เราชอบครับ
พริกขิง
@k. ธนวุฒิ ขอถามเพิ่มเติมได้ไหมคะ เห็นว่าส่วนใหญ่ถ้าเราอยากจะสมัครประกันสุขภาพ เหมือนเค้าบังคับให้ต้องสมัครทำประกันชีวิตเป็นสัญญาหลักก่อน อันนี้จริงไหมคะ ??? แล้วถ้าเราอยากจะสมัครแค่ประกันสุขภาพ แบบนี้เราจะสมัครได้ไหมคะ? รบกวนช่วยตอบคำถามของเราทีนะคะ อยากสมัครแค่ประกันสุขภาพเท่านั้นค่ะ เพราะเงินในกระเป๋ามีจำกัด
PitiPiti
จะเลือกประกันสุขภาพแบบเดี่ยว หรือ ประกันชีวิตพ่วงประกันสุขภาพ ขึ้นอยู่กับว่าผู้เอาประกันภัยต้องการความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง อย่างที่บทความนี้ให้ข้อมูลมาเลยล่ะครับ คนที่กำลังคิดอยากจะซื้อประกันสักฉบับลองเข้ามาอ่านดูก่อนเลย คุณจะได้ประโยชน์มาก ช่วยให้การตัดสินใจของคุณไปในทางที่คุณต้องการจริงๆเลยอะครับ
อานัน
ถ้าเป็นของ AIA จะเป็นแบบนั้นครับ เราต้องมีประกันชีวิตก่อนครับแล้วค่อยพ่วงประกันสุขภาพเข้าไปครับ แต่ถ้าอยากซื้อประกันสุขภาพอย่างเดียว ก็มีนะครับ ถ้าเท่าที่ผมจำได้นะครับ น่าจะมีของ FWD นะครับที่ขายสัญญาที่ประกันสุขภาพอย่างเดียว แต่ มันก็จะแพงหน่อนนะครับขนาดที่เราซื้อพ่วงยังแพงเลยครับ เอาว่าซื้อทั้งสองตัวเอาไว้ดีกว่า
OpaOpa
จะเลือกซื้อประกันสุขภาพแบบเดี่ยว หรือซื้อประกันชีวิตพ่วงประกันสุขภาพ ต้องดูรายละเอียดกันหลายอย่างครับ อย่างที่บทความนี้แนะนำมาเลย ก็จริงนะ ถ้าเราซื้อประกันครั้งเดียวแบบที่จบเลย คือ คุ้มครองหลายๆด้าน ไม่ต้องกังวลเรื่องโน้นเรื่องนี้ แต่ถ้างบประมาณของเรามีจำกัด เราก็ต้องทำใจเลือกซื้อประกันที่เราจ่ายไหวก่อนดีกว่า