ใครอยากเที่ยว ยกมือขึ้นจ้า!!  โดยเฉพาะสายท่องเที่ยวญี่ปุ่น จะคิดถึงกันบ้างมั๊ยนะ?! ทั้งโตเกียว ปราสาทที่โอซาก้า ฮอกไกโด ซัปโปโร เล่นสกี&หิมะ ขึ้นภูเขาไฟฟูจิ หรือ ชมเทศกาลดอกไม้-ใบไม้แดง

แต่ด้วยผลกระทบที่มาจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เราต้องเว้นวรรคจากการไปเที่ยวต่างประเทศซะตั้งนาน เพราะการจำกัดการบินเข้า-ออกประเทศ ทั้งประเทศไทยเราและญี่ปุ่นเองด้วย

ในวันนี้มีข่าวดีมาบอก เกี่ยวกับสถานการณ์อัพเดทเรื่องการเดินทางระหว่างไทยและญี่ปุ่น  ทั้งข่าวคืบหน้าของมหกรรมกีฬาโอลิมปิค จากแผนเปิดประเทศของรัฐบาลญี่ปุ่น  สายเที่ยวคนไหนที่กำลังอดใจรอ และไม่อยากพลาดทริปหน้า แวะเข้ามาติดตามกันได้เลยค่ะ

แผนเปิดประเทศ “Journey” ให้นักท่องเที่ยวเข้าญี่ปุ่น

แผนเปิดประเทศ “Journey” ให้นักท่องเที่ยวเข้าญี่ปุ่น

แม้ในตอนนี้รัฐบาลญี่ปุ่นเองจะยังไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวจากหลายดินแดนทั่วโลกเดินทางเข้ามายังญี่ปุ่น ยกเว้นเพียงกลุ่มธุรกิจ/ครอบครัว , นักศึกษา และผู้ที่มีวีซ่าพำนักนานกว่า 3 เดือน ที่ให้เริ่มกลับเข้ามาในญี่ปุ่นได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 63 (แต่ระงับการเข้าประเทศ 14 วันโดยไม่ต้องขอวีซ่าของประเทศไทยบ้านเราอยู่)

ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้พิจารณาแผนเปิดประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวที่ญี่ปุ่นโดยใช้ชื่อว่า “Journey” เมื่อสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดในครั้งนี้ได้ดีขึ้น

โดยมีการคาดการณ์ว่า นักท่องเที่ยวจะสามารถกลับเข้ามาเที่ยวในญี่ปุ่นได้อย่างเร็วที่สุด  คือ เดือน เมษายน 2564  โดยไม่ต้องมีการกักตัว 14 วันกันอีกแล้ว  แต่ต้องมีประกันสุขภาพและใช้แอพลิเคชันติดตามตัว

ซึ่งแผนการณ์ที่ว่านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้สานฝันบรรดานักท่องเที่ยวที่เฝ้ารอจะมาเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้ง  โดยการอนุญาติให้ชาวต่างชาติสามารถเข้าชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคและพาราลิมปิค ที่จะจัดขึ้นตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิในปี 2021 นี้ได้ จึงทำให้ไทยเราก็ขยับเข้ามาใกล้การท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นอีกครั้งค่ะ

แต่ยังคงต้องผ่านกระบวนการต่อจากนี้

สำรวจขั้นตอนก่อนเดินทางและเมื่อไปถึงญี่ปุ่น

สำรวจขั้นตอนก่อนเดินทางและเมื่อไปถึงญี่ปุ่น

ต่อยอดจากแผนการณ์ “Journey” ในครั้งนี้ เพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพ ‘โตเกียว โอลิมปิก’ ที่จะจัดขึ้นหลังจากเลื่อนไปเพราะโควิด-19 แพร่ระบาด การเดินทางมายังญี่ปุ่นจึง มีขั้นตอนให้นักท่องเที่ยวที่สนใจ ได้ปฏิบัติตัวดังนี้

ก่อนออกเดินทาง

  • นักท่องเที่ยวจะต้องทำการขอวีซ่าจากสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย หรือ สถานกงสุลญี่ปุ่นในฝั่งประเทศของตนซะก่อน ซึ่งสำหรับประเทศไทยที่ได้รับ ‘ฟรีวีซ่า’ อยู่แล้ว ก็จะยังคงได้รับสิทธิ์แบบไม่ต้องขอวีซ่า แต่จะต้องดำเนินการขั้นต่อไป

  • ดาวน์โหลดแอพลิเคชันเพื่อติดตามตัว และติดตามเกี่ยวกับสุขภาพลงในสมาร์ทโฟนของตนเอง

  • ก่อนเดินทางออกประเทศจะต้องมีใบรับรองแพทย์ ที่ตรวจ RT-PCR เพื่อรับรองว่าไม่มีเชื้อโควิด-19

  • นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องมีการซื้อกรมธรรม์ประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการติดเชื้อไวรัส COVID-19 ไว้

เมื่อมาถึงญี่ปุ่นแล้ว

  • จะมีการตรวจ PCR เพื่อหาเชื้อโควิดอีกครั้งที่สนามบินญี่ปุ่น โดยหากมีผลเป็นลบ(ไม่ติดเชื้อ) จะสามารถเดินทางเข้าไปในประเทศได้ทันที่ เพื่อท่องเที่ยว หรือ เข้าชมมหกรรมโอลิมปิก  ..โดยไม่จำเป็นต้องกักตัว 14 วัน

  • ช่วงระหว่างที่อยู่ในญี่ปุ่น จะต้องมีการรายงานสุขภาพผ่านทางแอพพลิเคชันอย่างสม่ำเสมอในทุกวัน

  • ถ้ามีไข้ หรือ มีความผิดปกติ สามารถเข้าไปที่ศูนย์ให้คำปรึกษาเพื่อการดูแลด้านสุขภาพสำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นได้จัดตั้งไว้ (โดยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ประกันสุขภาพที่นักท่องเที่ยวได้ซื้อไว้จะเป็นผู้รับผิดชอบ)

ซึ่งถ้าวิธีเหล่านี้ใช้ได้ผลดี.. ก็อาจจะการขอวีซ่าในระยะสั้นต่างๆ เพิ่มเติมได้ และในระหว่างนี้ สำหรับคนที่อยากมาเที่ยวญี่ปุ่น ก็ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ข่าว และสิ่งที่รัฐบาลฝั่งนู้นประกาศออกมาอีกเรื่อยๆนะคะ

โดยเรายังอยากแนะนำอีกเรื่องนึง ที่สายท่องเที่ยวซึ่งอยากเตรียมตัวอย่างดีไม่ควรพลาด  ก็คือ ประกันการเดินทาง ที่จะช่วยดูแลตัวเราและเพื่อนร่วมทริปได้อย่างครอบคลุมมากขึ้นไปอีกขั้น คือ..

GO Japan แผนประกันเดินทาง จาก SOMPO สำหรับคนอยากไปเที่ยวญี่ปุ่น

GO Japan แผนประกันเดินทาง จาก SOMPO สำหรับคนอยากไปเที่ยวญี่ปุ่น

สำหรับ บริษัท ซมโปะ ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ก็ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทในบ้านเราตั้งแต่ปี 2540 แล้ว โดยเป็นอีกหนึ่งบริษัทประกันภัยซึ่งใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ A- จาก Standard & Poor’s การันตีอยู่พร้อมการเงินที่แข็งแกร่ง จึงมีความมุ่งมั่นที่จะดูแลลูกค้าด้านประกันภัยด้วยคุณภาพสูงสุด

สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวญี่ปุ่น.. การเลือกแผนประกัน GO Japan จาก SOMPO นั้น  ถือว่าเป็นประกันเดินทางออนไลน์ที่ทำได้ง่ายทุกที่และสะดวกรวดเร็ว เพียง 4 ขั้นตอนก็คุ้มครองได้ทันที

ข้อกำหนดผู้ขอเอาประกันภัยจะต้องมีถิ่นฐานอยู่ในประเทศไทยและมีอายุระหว่าง 1-75 ปี

จะคุ้มครองในส่วนของการเสียชีวิต , สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุสูงสุด 1 ล้านบาท พร้อมความคุ้มครองเรื่องค่ารักษาพยาบาลระหว่างที่เดินทางในต่างประเทศสูงสุด 2 ล้านบาท

ท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจไปตลอดทริปจาก ..บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เพียงโทรหาเจ้าหน้าที่ ก็สามารถให้คำแนะนำทางการแพทย์ทางโทรศัพท์ หรือ นัดหมายทางโรงพยาบาลได้  พร้อมบริการช่วยเหลือเรื่องการสื่อสารกับคุณหมอ/เจ้าหน้าที่ชาวญี่ปุ่น เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องในการรักษา

ไม่ต้องสำรองเงินจ่ายไปก่อน.. ไม่ต้องพกเอกสารมากมาย เพราะดูข้อมูลกรมธรรม์ผ่านสมาร์ทโฟนได้ทุกที่ทุกเวลา

หากต้องต่อเที่ยวบินใดๆ ก็ไม่ยุ่งยาก แค่ระบุวันที่เดินทางออกจากประเทศไทย และ วันที่เดินทางกลับถึงประเทศไทยเท่านั้น

มีโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้วก็สามารถซื้อประกันเดินทางได้  โดยจะคุ้มครองในโรคอื่นทั่วไปและอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น

และมีทั้งแผนประกันเดินทางแบบรายเที่ยว (Single Trip) และแบบรายปี (Annual Trip) ให้ลูกค้าเลือกค่ะ

วางแผนทัวร์ญี่ปุ่น เม.ย. 64 ทริปที่ฝันของคุณเป็นจริงได้!

วางแผนทัวร์ญี่ปุ่น เม.ย. 64 ทริปที่ฝันของคุณเป็นจริงได้!

แม้ในช่วงเวลานี้บางกลุ่มบางท่านอาจจะเริ่มเดินทางไปญี่ปุ่นกันได้แล้ว  แต่ก็มีกฎระเบียบหรือข้อบังคับให้ปฏิบัติตามกันอยู่ และจนกว่าแผนเปิดประเทศ “Journey” จะอนุญาตให้เข้าออกระหว่างประเทศได้มากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในญี่ปุ่นได้ ภายในเดือน เม.ย. ปี 64 นี้ แต่จะต้องมีขั้นตอนการตรวจสุขภาพ การซื้อประกันสุขภาพ รวมทั้งแอพลิเคชันติดตามตัว

ถ้าใครกำลังมองหา ‘ประกันเดินทาง’ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในขณะนั้นด้วย เพื่อความคุ้มครองชีวิตและค่ารักษาพยาบาล พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงเพิ่มเติมความคุ้มครองเรื่องเที่ยวบินล่าช้า กระเป๋าเดินทาง/ทรัพย์สินส่วนตัวล่าช้าเกิดความเสียหาย ก็อย่าลืมแผนประกัน GO Japan จาก SOMPO ที่น่าสนใจไม่น้อยแบบที่เรานำมาเล่าให้ฟังกันนะคะ!