การรักษาที่ดีใครๆก็อยากได้จริงไหม? แต่เมื่อมองโลกของความเป็นจริงในทุกวันนี้ค่ารักษาพยาบาลแพงมากขึ้นทุกวัน แม้แต่ในโรงพยาบาลรัฐเองก็จ่ายกันแทบจะไม่ไหวถ้าไม่มีสวัสดิการจากรัฐช่วย หรือ สวัสดิการจากประกันสังคมคอยช่วยจ่าย แต่ถ้าอยากได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนล่ะ? คงไม่ต้องพูดถึงกันเลยทีเดียว ค่ารักษาพยาบาลคงจะสูงปรี๊ดแน่ๆ หลายคนจึงเลือกที่จะทำประกันสุขภาพ หรือ ประกันอุบัติเหตุ เพื่อมีตัวช่วยในเรื่องค่าใช้จ่ายเมื่อเจ็บป่วยหรือเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อที่จะได้รับการรักษาที่ดีขึ้นนั่นเอง นอกจากประกันแล้วมีอะไรอีกที่ช่วยได้? ซึ่งทำให้เพื่อนๆได้รับการรักษาที่ดีได้คำตอบก็คือ บัตรเครดิตค่ะ ความเป็นจริงแล้วการทำประกันเอาไว้ก็เป็นทางเลือกที่ดีมากๆอยู่แล้ว แต่บัตรเครดิตก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้เพื่อนๆได้รับการรักษาที่ดีแบบไร้กังวลมากขึ้น เพื่อนๆคงเคยได้ยินบ้างเกี่ยวกับบัตรเครดิตที่มีชื่อของโรงพยาบาลต่างๆต่อท้าย บทความนี้จะพาเพื่อนๆมาทำความรู้จักกับบัตรเครดิตเหล่านี้มากขึ้น แล้วมาดูกันว่าบัตรเครดิตเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยในด้านไหนใดบ้าง? เมื่อเราจะป่วยหรือต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ผู้เขียนได้ยกบัตรเครดิตมาให้เพื่อนๆได้ทำความรู้จักอยู่ 2 ใบด้วยกันนั่นก็คือ บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพไทเทเนียมโรงพยาบาลรามาธิบดี และ บัตรเครดิต KTC โรงพยาบาลกรุงเทพ Visa Platinum ต้องบอกก่อนเลยว่า โรงพยาบาลทั้ง 2 เป็นโรงพยาบาลที่ดีซึ่งมีค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยทีเดียว แล้วบัตรเครดิต 2 ใบนี้จะช่วยอะไรได้บ้าง? มาดูกัน
บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ Titanium โรงพยาบาลรามาธิบดี
บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ Titanium โรงพยาบาลรามาธิบดี บัตรเครดิตใบนี้จะให้สิทธิพิเศษกับเพื่อนๆหลายอย่างเลยทีเดียว ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้บริการที่โรงพยาบาลรามาธิบดีด้วย เมื่อเจ็บป่วยแล้วเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อนๆสามารถเพิ่มวงเงินฉุกเฉินได้ ซึ่งทำให้หมดกังวลถ้าเงินไม่พอจ่ายขึ้นมา และสิทธิประโยชน์อีกอย่างหนึ่งก็คือ มีบริการสำรองที่จอดรถที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อนๆหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าที่จอดรถที่โรงพยาบาลรามาธิบดีหายากมากๆ ดังนั้นสิทธิประโยชน์เรื่องที่จอดรถจึงเป็นสิทธิประโยชน์ ที่หลายๆคนอยากได้ แล้วเพื่อนๆก็จะได้รับเมื่อมีบัตรเครดิตใบนี้ แล้วยังได้รับสิทธิพิเศษสามารถปรึกษาเรื่องสุขภาพได้ 24 ชั่วโมง กับรามาธิบดี Hotline ที่เบอร์ 02 201 2000 จะเจ็บป่วยมากหรือน้อยบัตรเครดิตใบนี้ก็ช่วยอุ่นใจได้เหมือนกันนะคะ และถึงแม้ว่าจะเป็นบัตรเครดิตร่วมกับโรงพยาบาล แต่ก็ยังมีสิทธิประโยชน์ให้กับเพื่อนๆเมื่อใช้จ่ายในเรื่องอื่นด้วยเช่นกัน เพราะว่าบัตรเครดิตใบนี้เค้ามีคุณสมบัติเรื่องเครดิตเงินคืนให้ด้วยค่ะ ซึ่งเพื่อนๆจะได้รับเครดิตเงินคืนในทุกๆรอบบิลตามการใช้จ่ายของเพื่อนนะคะ ใช้จ่ายมากก็ได้รับเครดิตเงินคืนมากใช้จ่ายน้อยก็ได้น้อยไปตามระเบียบค่ะ บัตรเครดิตใบนี้เหมาะกับใครบ้าง?
บอกเลยว่าคงต้องเหมาะกับสายสุขภาพแน่นอนค่ะ ใครที่รักสุขภาพก็ขอแนะนำบัตรเครดิตใบนี้เลย นอกจากรักสุขภาพแล้วบัตรเครดิตใบนี้ก็เหมาะที่จะใช้จ่ายเรื่องอื่นๆด้วยเหมือนกันนะคะ ถึงแม้จะไม่มีคะแนนสะสม ให้เก็บแต่ก็มีเครดิตเงินคืนที่รออยู่นะ คุณสมบัติของผู้สมัคร ก็คือ อายุ 20 ปีขึ้นไป มีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือน ฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้า จะมีก็แค่ค่าธรรมเนียมรายปี ปีละ 300 บาท เท่านั้น ใครที่รู้ตัวว่าบ้านอยู่ใกล้โรงพยาบาลรามาธิบดี หรือ มีโอกาสได้ใช้บริการโรงพยาบาลนี้บ่อยๆก็ไม่ควรพลาดที่จะมีบัตรเครดิตใบนี้นะคะ
บัตรเครดิต KTC โรงพยาบาลกรุงเทพฯ Visa Platinum
บัตรเครดิต KTC โรงพยาบาลกรุงเทพฯ Visa Platinum ใบนี้ให้สิทธิประโยชน์ และ สิทธิพิเศษแบบครบเครื่องจริงๆ ใครที่คาดหวังว่าอยากมีบัตรเครดิตซักใบที่ช่วยให้ได้รับการรักษาพยาบาลที่ดี ก็ขอบอกเลยค่ะว่าบัตรเครดิตใบนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน เมื่อเข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลกรุงเทพฯ เกือบทั่วประเทศก็จะได้รับส่วนลดมากมาย เช่น ส่วนลดค่ารักษาพยาบาลในแผนกทันตกรรม 5 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ และส่วนลดค่าห้องพักเมื่อพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 5 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ แล้วยังได้รับส่วนลดค่ายา 5 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย และบัตรเครดิตใบนี้ก็ไม่ได้เหมาะกับคนที่อยู่ในกรุงเทพฯเท่านั้นนะคะ โรงพยาบาลกรุงเทพ มีอยู่เกือบทั่วประเทศจริงๆ เพื่อนๆมีบัตรเครดิตใบนี้แล้วสะดวกใช้บริการที่ไหนก็สามารถใช้ได้ค่ะ นอกจากส่วนลดจากค่ารักษาพยาบาลเมื่อใช้บริการที่โรงพยาบาลกรุงเทพฯแล้ว ก็ยังมีสิทธิประโยชน์อื่นๆอีกมากมายเลยนะคะ นั่นก็คือ ประกันอุบัติเหตุ ประกันการเดินทาง สิทธิ์ในการเบิกถอนเงินสด สิทธิ์ในการชำระสินค้า 0% และบัตรเครดิตใบนี้เป็นบัตรเครดิตสะสมแต้มค่ะ ทุกๆการใช้จ่าย 25 บาทจะได้รับ 1 คะแนน สามารถนำคะแนนไปแลกสินค้าได้ตามร้านค้าที่ร่วมรายการเลยค่ะ และความพิเศษก็ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะบัตรเครดิตใบนี้ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า ฟรีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพเลย อย่างที่รู้ๆกันว่าการใช้บริการที่โรงพยาบาลกรุงเทพนั้นมีค่าใช้จ่ายแพงมากขนาดไหน ไม่ว่าเพื่อนๆมีหรือว่าไม่มีประกันก็ตาม การได้รับส่วนลดจากบัตรเครดิตใบนี้ก็ถือว่าเป็นตัวช่วยได้ไม่น้อยเลยทีเดียวนะคะ คุณสมบัติของผู้สมัครก็ทั่วไป คือ อายุ 20 ปีขึ้นไปมีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือน ถ้ามีบัตรเครดิตใบนี้การรักษาพยาบาลดีๆก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ ถ้าเพื่อนๆสนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ KTC ได้เลยค่ะ เพราะยังมีสิทธิประโยชน์อีกมากมายที่คุณจะได้รับเมื่อใช้บริการที่โรงพยาบาลกรุงเทพที่บอกในบทความนี้คงไม่หมด สายรักสุขภาพก็ไม่ควรที่จะพลาดบัตรเครดิตใบนี้นะคะ
เจ็บไข้ได้ป่วยเรื่องใกล้ตัวที่ต้องเตรียมพร้อม
ความเจ็บป่วยอยู่ใกล้ตัวเราทุกคน เพื่อนๆคงจะเห็นด้วยใช่ไหมคะ? ค่ารักษาพยาบาล หรือ ค่ายาก็แพงขึ้นมากเมื่อเทียบกับเมื่อก่อนแค่มองย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้วเองนะก็เห็นได้ชัดถึงความแตกต่างของค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มมากขึ้น แล้วยังมีแนวโน้มจะมีราคาแพงมากขึ้นทุกๆปี ดังนั้นจึงไม่แปลกที่หลายคนเลือกที่จะซื้อประกันเพื่อมีตัวช่วย ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพต่างๆ หรือ ประกันอุบัติเหตุด้วย เพราะเมื่อต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแบบไม่มีตัวช่วยก็คงยากที่จะได้รับการรักษาที่ดีในโรงพยาบาลดีๆ อย่างเช่นโรงพยาบาล 2 แห่งที่ยกตัวอย่างให้เพื่อนๆได้รู้จักในบทความนี้ นั่นก็คือ โรงพยาบาลรามาธิบดี และโรงพยาบาลกรุงเทพฯ ถึงแม้ตอนนี้เพื่อนๆยังมีสุขภาพที่แข็งแรงดีอยู่ แต่การเตรียมพร้อมไว้ก่อนล่วงหน้า ก็ช่วยเพื่อนๆรับมือกับความเจ็บป่วยได้ง่ายมากขึ้น นอกจากประกันแล้วบัตรเครดิตร่วมโรงพยาบาลก็ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายจากค่ารักษาพยาบาลได้ไม่น้อยเลย ซึ่งบัตรเครดิตร่วมโรงพยาบาล 2 ใบที่พาเพื่อนๆมาทำความรู้จักนี้ก็มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด อยู่ที่ว่าเพื่อนๆจะเลือกใช้บริการโรงพยาบาลไหนบ่อยที่สุด? และอยากได้ตัวช่วยเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายจากค่ารักษาพยาบาลในรูปแบบไหนมากที่สุด? มาสรุป และเปรียบเทียบบัตรเครดิตสองใบนี้ให้เห็นแบบชัดๆกันสักหน่อยดีกว่านะ บัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ Titanium โรงพยาบาลรามาธิบดี ก็ช่วยให้เพื่อนๆสามารถเปิดวงเงินฉุกเฉินเพิ่มเติมได้ แต่ถ้าเป็น บัตรเครดิต KTC โรงพยาบาลกรุงเทพ Visa Platinum ก็มีส่วนลดจากค่ารักษาพยาบาล เพื่อนๆอยากได้สิทธิประโยชน์แบบไหน? ก็เลือกสมัครบัตรเครดิตที่ชอบได้เลยค่ะ
มลสิชา
อ่านแล้วเราก็มีความคิดที่ตีกันในหัวนะคะ จริงอยู่คะ ที่บัตรเครดิตพวกนี้ ช่วยเราจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ แถมยัง ได้แต้มจากการใช้เงินด้วย แต่ ถ้าเราคิดอีกแง่หนึ่ง อย่างที่เราทราบๆบัตรเครดิต คือหนี้เงินแบบหนึ่ง นี่แสดงว่าถ้าใช้ในการรักษา เราก็ต้องจ่ายเงินคืนทีหลัง แบบนี้เราซื้อประกันสุขภาพเลยจะไม่ดีกว่าเหรอ
เขียวมิ้นท์
เคยเห็นอยู่เหมือนกันบัตรเครดิตร่วมกับโรงพยาบาล แต่เท่าที่รู้มาก็ไม่ได้ช่วยค่ารักษาพยาบาลมากนักนะคะ ส่วนลดน่ะมีให้อยู่ แต่โรงพยาบาลเอกชนค่าใช้จ่ายมันสูงอยู่แล้ว ได้ส่วนลดนิดหน่อยเราว่าค่าใช้จ่ายมันก็ยังสูงอยู่ดี แต่ถ้าใครสะดวกแบบนี้ก็ใช้ได้นะ เดี๋ยวจะคิดว่าเรามาบ่นเรื่องการใช้บัตรเครดิตร่วมกับโรงพยาบาล..เปล่านะคะ
ธิติมา
ไหนๆ ก็จะรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนอยู่แล้ว แทนที่จะทำบัตรเครดิจเพื่อเอาส่วนลดนืดๆหน่อยแบบที่เพื่อนบอก ทำไมไม่รองมาทำประกันสุขภาพดูละคะ ถ้าจะบอกว่าจ่ายค่าเบี้ยไม่ไหว ก็ใช้บัตรเครดิตที่คุณมีก็ได้คะ ไม่ต้องจำกัดเท่าที่คนเขียนบอก เอาจ่ายค่าเบี้ยประกันก่อนคะ แล้วค่อยๆ ผ่อนจ่ายเอาทีหลังคะ ทำแบบนี้เราว่าคุ้มครองดีกว่าเยอะเลย
จันทิวา
ใช่เลยคะ ไหนๆเราก็จะต้องเสียค่ารักษาพยาบาลอยู่แล้ว เราจะไปเป็นหนี้บัตนเครดิตให้แพงทำไมคะ อย่างถ้าเราป่วย นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลสัก2-3วัน ก็หมดหลายหมื่นบาทแล้วนะคะ ทำไม ไม่ทำประกันสุขภาพไปเลยละคะ ไหนๆก็ต้องจ่ายเงินก็เอาบัตรเครดิตที่มีแบบที่เพื่อนบอกจ่ายเบี้ยประกันไปเลย เราว่ามันจะถูกกว่าที่ต้องเอาบัตรเครดิตมาจ่ายค่ารักษานะ
Volley
ผมชอบโรงพยาบาลในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพฯมากที่สุดนะ ผมว่าบริการดี ผมมีประกันอุบัติเหตุ พอบาดเจ็บขึ้นมาก็ใช้ประกันที่รพ.กรุงเทพฯตลอดเลย มีประกันใช้ให้คุ้ม แล้วจากที่อ่านๆบทความนี้ น่าสนใจ บัตรเครดิตที่อยู่ในเครือรพ.กรุงเทพฯอะครับ ถ้าจะทำคงทำใบนั้น พอดีเลยยังไม่มีปนะกันสุขภาพพอดี เดี๋ยวจะไปหาข้อมูลบัตรเครดิตใบนี้เพิ่ม ของ KTC
Rapeepol
บัตรเครดิตที่ร่วมกับโรงพยาบาลจะได้รับส่วนลดกันมากสักเท่าไหร่กัน ผมเคยอ่านดูรายละเอียดการใช้บัตรเครดิตประเภทนี้ ส่วนมากผู้ถือบัตรจะได้เป็นส่วนลดเมื่อทำการตรวจรักษาบางอย่างเท่านั้น ซึ่งผมว่าจริงๆแล้วเราไม่ค่อยได้ใช้กันสักเท่าไหร่หรอก ที่เราไปโรงพยาบาลก็ด้วยอาการเจ็บป่วยซึ่งต้องจ่ายเงินค่ายา ค่าหมอ มันไม่ครอบคลุมน่ะครับ
สุทธิพร
มันก็ได้แค่ส่วนลดหรือเปล่าครับ กรณีที่เราเอาบัตรเครดิต ไปจ่ายค่ารักษา แบบนี้เราก็ต้องจ่ายเพิ่มเติมใช่ไหมครับ แล้วเข้าโรงพยาบาลเอกชนค่ารักษาไม่ใช่น้อยเลยนะครับ ผมว่าแทนที่เราจะจ่ายเงินสดทำไมเราไม่เอาบัตรเครดิตไปจ่าบประกันสุขภาพละครับ กาาคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลน่าจะได้เยอะกว่านะครับ คิดวางแผนให้ดีๆนะครับ อันไหนคุ้มกว่ากัน
Tarika0724
จะช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาลได้จริงๆเหรอคะ บัตรเครดิตที่บทความนี้แนะนำมาน่ะค่ะ จะได้เป็นส่วนลดเหรอ..ไม่น่าจะได้ส่วนลดเยอะเท่าไหร่นะ ยิ่งจ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วยบัตรเครดิต จะดีเหรอคะ เวลาชำระเงินคืนบัตรเครดิตมันจะแพงมากมั้ยอะ เราว่าไปซื้อประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพเลยดีกว่ามั้ย ได้รับความคุ้มครองและเงินชดเชยแน่ๆ