คุณเป็นคนหนึ่งที่ทำงานออฟฟิศรึป่าว? ถ้าใช่ คุณคงเข้าใจดีว่าการนั่งทำงานออฟฟิศนั้นมันค่อนข้างน่าเบื่อไม่ใช่น้อยเลย นอกจากจะน่าเบื่อแล้วทำให้มีปัญหาสุขภาพได้ด้วยนะ ปัญหาสุขภาพที่พนักงานออฟฟิศอาจจะต้องเจอมีอะไรบ้าง? โรคที่พนักงานออฟฟิศเกือบจะแทบทุกคนมีความเสี่ยงจะเป็นได้ คือ โรคออฟฟิศซินโดรม Office Syndrome โรคนี้จะแสดงอาการออกมาหลากหลายขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนไป แต่ส่วนมากก็มาจากสาเหตุของการนั่งทำงานนานๆนั่นเอง อาการของโรคออฟฟิศซินโดรมส่วนมากมีดังนี้ ปวดเมื่อย คอ บ่า ไหล่ ปวดหัว ปวดตา มีอาการตึง ขา แขน และหลัง อาการของโรคนี้อาจจะไม่รุนแรงเฉียบพลันแต่จะค่อยเป็นค่อยไปแบบสะสมมากขึ้นทุกวันๆจนมีอาการเรื้อรังแบบไม่รู้ตัวค่ะ โรคออฟฟิศซินโดรมยังทำให้เป็นโรคแทรกซ้อนอื่นๆได้ด้วยถ้าไม่ดูแลสุขภาพให้ดี หรือ ออกกำลังกาอย่างสม่ำเสมอ โรคแทรกซ้อนที่อาจจะเป็นได้ก็คือ โรคเกี่ยวกับกระดูก และ ข้อต่อต่างๆ อาการเจ็บป่วยของโรคเหล่านี้มักทำให้รู้สึกรำคาญ และเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวันอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ ดังนั้น การสังเกตพฤติกรรการใช้ชีวิตของตัวเองอยู่เสมอ และพยายามดูแลสุขภาพอย่างดีจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดจากโรคออฟฟิศซินโดรมได้ไม่น้อยเลย
ความเจ็บป่วยบ่อยครั้งก็ยากจะห้ามได้จริงไหม? จริงแท้แน่นอนเลยล่ะ ดังนั้นการเตรียมพร้อมรับมือกับความเจ็บป่วยก็เป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้จริงๆ จะเตรียมพร้อมได้อย่างไร? หลายต่อหลายคนเลือกที่จะเก็บออมเงินเอาไว้เพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลเมื่อจำเป็นซึ่งเป็นการวางแผนที่ดีมากๆ แต่จะดีกว่ามากถ้ามีการวางแผนเพื่อทำประกันสุขภาพเอาไว้ด้วยค่ะ เพราะความเจ็บป่วยจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไหร่ก็ไม่สามารถรู้ได้ กว่าเราจะเก็บออมเงินได้มากพอก็อาจจะไม่ทันการณ์ ประกันสุขภาพ จึงเป็นตัวช่วยที่ดีที่ควรคิดถึง บทความนี้จะพาคุณมารู้จักกับประกันสุขภาพจากสองบริษัทที่เหมาะกับพนักงานออฟฟิศทุกคนค่ะ ลองเปรียบเทียบดูนะคะว่าประกันสุขภาพตัวไหน? ที่คุณควรเลือก Cigna หรือ Aetna?
ประกันสุขภาพออฟฟิสซินโดรม Cigna
ประกันสุขภาพออฟฟิศซินโดรมจาก Cigna ตัวนี้มีชื่อว่า สมาร์ทดิจิตอลซินโดรม ทำไมถึงน่าสนใจ? ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเน้นให้ความคุ้มครองโรคออฟฟิศซินโดรมโดยเฉพาะจึงเหมาะกับคนที่ทำงานออฟฟิศ 100% ไม่มีขาดไม่มีเกินค่ะ คุ้มครองครบจบทุกปัญหาสุขภาพจากโรคออฟฟิศซินโดรมแน่นอนค่ะ ไม่ว่าจะเลือกแผนประกันแบบไหนก็ไม่จำกัดวงเงินในการรักษา และไม่จำกัดจำนวนครั้งด้วย คุ้มครองทั้ง OPD ผู้ป่วยนอก และ IPD ผู้ป่วยใน ซึ่งเค้ามีแผนประกันให้เลือกถึง 3 แผนด้วยกัน คือ
- แผน S ค่าเบี้ยประกัน 403 บาท/เดือน วงเงินคุ้มครอง 150,000 บาท
- แผน M ค่าเบี้ยประกัน 536 บาท/เดือน วงเงินคุ้มครอง 200,000 บาท
- แผน L ค่าเบี้ยประกัน 697 บาท/เดือน วงเงินคุ้มครอง 300,000 บาทค่ะ
โรคในกลุ่มออฟฟิศซินโดรมมีอะไรบ้าง? โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท,โรคไมเกรน,โรคนิ้วล็อค,โรคเกี่ยวกับระบบประสาทตา,โรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง,อาการขาแขนชา,โรคเกี่ยวกับเส้นประสาทบริเวณต้นคอ และนี่คืออาการจากโรคออฟฟิศซินโดรมที่ประกันตัวนี้เค้าคุ้มครองให้ผู้เอาประกันค่ะ เป็นยังบ้างคะ? ถูกใจกันรึป่าวชาวออฟฟิศทุกคน
ถ้าใครยังไม่หมดห่วงและยังกังวลว่าอาจจะมีความเสี่ยงเจ็บป่วยเป็นโรคอื่นๆได้อีกก็สามารถซื้อประกันเสริมได้อีกด้วยนะ เช่น ประกันโรคมะเร็งระยะลุกลาม หรือ ประกันโรคมะเร็งระยะไม่ลุกลาม เชื่อเหลือเกินว่าพนักงานออฟฟิศจะต้องถูกใจประกันสุขภาพตัวนี้มากๆเลยทีเดียวเชียวล่ะ ทุกๆอาการความเจ็บป่วยที่ยกขึ้นมาบอกเล่าให้ได้อ่านกันไปนี้คนทำงานออฟฟิศทุกคนมีความเสี่ยงจริงๆ ดังนั้นไม่ควรละเลยที่จะวางแผนเกี่ยวกับการรักษา และค่ารักษาพยาบาลเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆนะ อย่าพึ่งรีบตัดสินใจนะ เพราะยังมีประกันสุขภาพอีกตัวหนึ่งที่เหมาะกับพนักงานออฟฟิศด้วยเหมือนกัน มาลองศึกษากันดูก่อนค่ะ
ประกันสุขภาพ Aetna แผนเอ็กซ์ตร้าแคร์
ประกันสุขภาพจาก Aetna ที่ชื่อว่า เอ็กซ์ตร้าแคร์ ทำไมจึงเหมาะกับพนักงานออฟฟิศ? ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ระบุชัดเจนว่าให้ความคุ้มครองโรคที่อยู่ในกลุ่มออฟฟิศซินโดรมแต่อย่างใด แต่ความคุ้มครองของประกันตัวนี้ก็ค่อยข้างจะครอบคลุมความเสี่ยงหลายอย่างอยู่เหมือนกัน ซึ่งเน้นเติมเต็มค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินจากสวัสดิการของพนักงานประจำที่มีอยู่แล้วนั่นเองค่ะ พนักงานออฟฟิศทุกคนส่วนมากก็คือพนักงานประจำซึ่งจะมีสวัสดิการที่ได้จากบริษัทกันอยู่แล้วเป็นปกติ แต่สวัสดิการเหล่านั้นอาจจะไม่เพียงพอต่อค่ารักษาพยาบาลบางรายการก็เป็นได้ ดังนั้นประกันตัวนี้จะเป็นตัวช่วยที่ดีที่จะทำให้คุณไม่ต้องกังวลว่าจะไม่พออีกต่อไป ไม่ว่าจะเจ็บป่วย หรือ อุบัติเหตุประกันนี้ก็พร้อมเติมเต็มให้ค่ะ ซึ่งจะคุ้มครองเฉพาะในกรณี IPD ผู้ป่วยในเท่านั้นนะคะ เพราะการเข้าพักรักษาตัวนั้นต้องมีค่าใช้จ่ายมากเป็นพิเศษและมีความเป็นไปได้ที่จะเกินวงเงินคุ้มครองของสวัสดิการที่มีอยู่แล้วค่ะ ประกันนี้เค้ามีแผนประกันให้เลือก 4 แผนด้วยกัน ดังนี้
เอ็กซ์ตร้าแคร์ 1
วงเงินคุ้มครองเมื่อเข้าพักรักษาตัวในแต่ละครั้ง 20,000 บาท / คุ้มครองเพิ่มเติมอีก 80% เมื่อมีส่วนเกินจากส่วนแรกในวงเงิน 300,000 บาท / วงเงินสำหรับค่าห้องพักสูงสุด 1,000 บาทต่อวัน
เอ็กซ์ตร้าแคร์ 2
วงเงินคุ้มครองเมื่อเข้าพักรักษาตัวในแต่ละครั้ง 20,000 บาท / คุ้มครองเพิ่มเติมอีก 80% เมื่อมีส่วนเกินจากส่วนแรกในวงเงิน 400,000 บาท / วงเงินสำหรับค่าห้องพักสูงสุด 1,000 บาทต่อวัน
เอ็กซ์ตร้าแคร์ 3
วงเงินคุ้มครองเมื่อเข้าพักรักษาตัวในแต่ละครั้ง 20,000 บาท/ คุ้มครองเพิ่มเติมอีก 80% เมื่อมีส่วนเกินจากส่วนแรกในวงเงิน 500,000 บาท / วงเงินสำหรับค่าห้องพักสูงสุด 1,000 บาทต่อวัน
เอ็กซ์ตร้าแคร์ 4
วงเงินคุ้มครองเมื่อเข้าพักรักษาตัวในแต่ละครั้ง 20,000 บาท / คุ้มครองเพิ่มเติมอีก 80% เมื่อมีส่วนเกินจากส่วนแรกในวงเงิน 600,000 บาท / วงเงินสำหรับค่าห้องพักสูงสุด 1,000 บาทต่อวัน
ในทุกๆแผนที่กล่าวมานี้ยังให้ความคุ้มครองในกรณีอุบัติเหตุอีกด้วยในวงเงิน 1,000 บาทต่อครั้งค่ะ พนักงานออฟฟิศคนไหนที่กังวลอยู่ว่าสวัสดิการที่มีอยู่จะไม่เพียงพอก็ต้องเลือกประกันจาก Aetna ตัวนี้เลยนะคะ ไม่ว่าจะพักรักษาตัวนานแค่ไหนก็หายห่วงเมื่อมีประกันตัวนี้คอยรองรับค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินให้
ประกันสุขภาพทั้งสองเจ้าตอบโจทย์พนักงานออฟฟิศอย่างจัง
โดนใจอย่างจังกันรึป่าวคะ? สำหรับประกันสุขภาพที่เหมาะกับพนักงานออฟฟิศทั้งสองเจ้าที่ได้แนะนำให้คุณได้รู้จักกันในบทความนี้ ประกันตัวไหนโดนใจคุณมากกว่ากันล่ะ? ต้องบอกตรงๆว่าเลือกยากอยู่เหมือนกันนะเพราะประกันสุขภาพทั้งสองบริษัทก็ตอบโจทย์ตอบความต้องการของคนทำงานออฟฟิศ หรือ คนทำงานประจำที่ต่างกันออกไป แต่ก็เป็นความคุ้มครองที่สำคัญ และ จำเป็นทั้งคู่เลยนะ เพื่อที่คุณจะเลือกได้ง่ายมากขึ้น ขอสรุปสั้นๆตรงนี้ให้ก็แล้วกัน ประกันสุขภาพจาก Cigna คุ้มครองโรคออฟฟิศซินโดรมโดยตรงแถมมีเบี้ยประกันไม่แพงเลือกได้ถึง 3 รูปแบบ ส่วนประกันสุขภาพจาก Aetna เน้นเติมเต็มวงเงินคุ้มครองในกรณีผู้ป่วยในเมื่อต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้วมีสวัสดิการที่มีไม่พอจ่ายทำให้นอนพักรักษาตัวอย่างไร้กังวล ตอนนี้การตัดสินใจก็อยู่ที่คุณแล้วค่ะ ความคุ้มครองแบบไหนที่โดนใจคุณมากที่สุด? ความคุ้มครองโรคออฟฟิศซินโดรมจาก Cigna หรือ วงเงินเพิ่มเติมในส่วนเกินจากสวัสดิการจาก Aetna? เลือกยากยังไงก็คงต้องเลือกนะคะ
สิทธิวัจน์
ถ้า มีแค่ 2ประกันนี้ให้ผมเลือก ใจของผมก็ไปทางของซิกน่าค่อนข้างมากเลยครับ เพราะว่าได้ยินชื่อของเขามานานแล้วครับ แล้วดูจากค่าเบี้ยประกัน ผมชอบนะครับ น้อยสุดตกปีละ 5พันกว่าบาทเองครับ แต่ ต้อง ขอย้ำนะครับ ถ้าประกันมีให้เลือกแค่สองเจ้านะครับ แต่จริงแล้วบ้านเรามีเยอะครับ ผมเลยซื้อของเจ้าฮิตๆในตลาดบ้านเราดีกว่า
C Chalita
นี่แหละที่คนออฟฟิศต้องการ! ประกันที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับโรคออฟฟิศซินโดรม คนที่ทำงานออฟฟิศต้องเป็นกันสักโรคแหละ อย่าหาว่าเราอยากให้คุณเป็นโรคพวกนี้กันเลยนะ แต่เราว่ามันเลี่ยงยากจริงๆ เราเองก็พยายามดูแลตัวเองแล้วนะ ไม่รู้จะรอดหรือเปล่า ไม่ว่าจะเป็นประกันของซิกน่าหรือเอ็ทน่าที่บทความบอกมา เราว่าดีทั้งคู่ค่ะ
Konne
เลือกยากมากๆเหมือนกันนะคะ จริงๆแล้วทั้ง 2 เจ้าก็เป็นบริษัทรายการจากต่างประเทศค่ะ เชื่อถือได้แล้วก็ไว้วางใจได้ค่ะแบบแผนประกันก็ค่อนข้างที่จะตอบโจทย์ กำลังหาประกันที่คุ้มครองโรคออฟฟิศซินโดรมอยู่เหมือนกันค่ะ เพราะว่างานที่ทำอยู่ก็เสี่ยงเป็นโรคนี้อยู่นะ ต้องนั่งนานนานอยู่หน้าจอคอม ดีเลยค่ะจะไปศึกษาเงื่อนไขเพิ่ม
อา ริน
อ่านหัวเรื่องของบทความนี้ที่บอกว่า Cigna VS Aetna พนักงานออฟฟิศจะเลือกประกันเจ้าไหนดี? บอกคำเดียวเลยว่า ของที่ไหนก็ได้ขอแค่เรามีเงินจ่ายก็พอ555 ทำงานออฟฟิศเหมือนจะสบาย แต่ไม่สบายอย่างที่คิดกันหรอกนะ ไม่อย่างนั้นไม่มีประกันโรคออฟฟิศซินโดรมโดยเฉพาะออกมาให้ซื้อกันหรอกค่ะ ใครชอบประกันของบริษัทไหน ซื้อกันเลยค่ะ
เมทยา
บทความนี้ดูเหมือนว่าจะเน้น ประกัน แค่ Cigna กับ Aetna เท่านั้นเองนะคะ ประกันในบ้านเรามีมากเลยละ ที่คุ้มครองดีๆ แล้วไม่ว่าจะทำงานอะไรก็สามารถทำได้ด้วย อย่าง ที่เราใช้งานอยู่ เป็นประกันที่เราซื้อคู่กับประกันชีวิต ของ เอไอเอ เราได้คุ้มครอง ค่ารักษา 3ล้านบาท เลยนะคะ ค่าเบี้ยก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิดด้วยนะคะ
555+
@เมทยา ผมว่า AIA เป็นบริษัทสำหรับคนรุ่นเก่าๆ หรือคนที่ทำงานได้เงินเดือนเยอะๆตำแหน่งสูงมากกว่านะ เพราะเท่าที่ดูแต่ละแบบแผนประกันเบี้ยค่อนข้างแพงทั้งนั้นเลย การที่เรารู้จักบริษัทประกันใหม่ๆ ก็ดีนะครับ เพราะว่าทางของซิกน่า แล้วก็ เอ็ทน่า ก็เป็นบริษัทประกันที่เชื่อถือได้ทั้ง 2 บริษัท มีแบบแผนประกันให้เลือกเยอะแยะ โดยเฉพาะเบี้ยประกันก็ค่อนข้างจะถูกใจหลายๆคนหลายๆอาชีพมากกว่าอีก
หญิงหญิง
ประกันสุขภาพออฟฟิศซินโดรม เหมาะจริงๆกับคนที่ทำงานออฟฟิศ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือเป็นฟรีแลนซ์ ถ้าทำงานนั่งโต๊ะนานๆหรือใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำ ลองดูประกันสุขภาพออฟฟิศซินโดรมกันไว้ก็ดีนะคะ เลือกของเจ้าไหนก็ได้ เอาที่คุณสบายใจ ขอแนะนำนิดนึง แม้ว่าจะทำประกันภัยกันแล้ว ควรยืดเหยียดร่างกายบ้าง หนักจะได้เป็นเบาค่ะ
กอบชัย
ค่าเบี้ยประกัน ถ้าจ่ายเป็นเดือน อาจคิดว่าไม่แพงนะครับ แต่ถ้าเอามารวมๆเป็นปี ที่เราต้องจ่ายแล้วก็ตก หมื่น ต้นๆเลยนะครับ แล้วถ้าคุณเอาไปเทียบกับการคุ้มครอง คิดว่าคุ้มไหมครับ เอาง่ายๆดูที่ค่าห้องพักเลยครับ ว่าการคุ้มครองเป็นยังไงบ้าง ถ้าจ่ายค่าห้องวันละ2พันบาท ผมจะบอกให้เลยครับ ว่า มองผ่านไปเลยครับ เพราะโรงพยาบาล อย่างกรุงเทพ มากกว่าหลายเท่าแล้วนะครับ
+Chatcharan+
ทำงานอะไรก็มีเรื่องสุขภาพและความเจ็บป่วยให้เป็นห่วงกันทุกอาชีพไป อย่างคนที่ทำงานออฟฟิศ หลายคนรู้สึกว่าเป็นงานสบายนั่งโต๊ะ อยู่แต่หน้าคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องไปทำงานออกแรงหรือตากแดดอะไรให้มากมาย จริงๆแล้ว มันเหนื่อยไม่แพ้อาชีพอื่นหรอกครับ มาพร้อมกับความเครียดด้วย แต่มันเป็นงานที่ทำให้เรามีรายได้ ก็ต้องทำต่อไปครับ