สำหรับใครที่เข้ามาเจอกันในบทความนี้ คุณคงพอจะรู้จักกับ กองทุน ETF หรือ Exchange Traded Fund กันมาบ้างแล้วแน่ๆ!!
แต่สิ่งที่จะมาคุยกันในวันนี้ ก็คือ จากกองทุน ETF ที่เราเห็นๆกัน เป็นสิบๆ กอง จาก 5 ประเภท หลายคนกลับตัดสินใจไม่ได้-เลือกไม่ถูกนะสิ ว่าควรจะซื้อกองไหนดี?! ไปจนถึงเรื่องวิธีซื้อขายที่มือใหม่อาจยังไม่ค่อยเซียนสักเท่าไร ลองมาหาข้อมูลกันค่ะ!
กองทุน ETF ดีอย่างไร?
ไม่ได้เป็นเซียนหุ้น ไม่เก่งเรื่องการวิเคราะห์หุ้นรายตัว และมีเงินทุนน้อย สิ่งเหล่านี้ก็จะไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป! จาก 3 ข้อดี ที่ได้สรุปมาฝาก
1. กองทุน ETF ช่วยกระจายความเสี่ยงได้ดี
ยกตัวอย่างเช่น หากใครชื่นชอบหุ้นกลุ่มธนาคาร แต่ติดปัญหาตรงที่ไม่รู้ว่าควรจะซื้อหุ้นแบงก์ไหน จะซื้อให้ครบทุกตัวก็คงใช้เงินลงทุนที่สูงเกิน ETF จึงตอบโจทย์มาก เพราะในกรณีนี้เราสามารถซื้อ “EBANK” เพียงกองเดียว ก็เหมือนได้กระจายการลงทุนไปกับหุ้นกลุ่มแบงก์ครบทุกตัว ด้วยเงินลงทุนที่ไม่สูงนัก และยังช่วยลดความเสี่ยงจากการเลือกหุ้นผิดตัวได้ดีอีกด้วย
2. กองทุน ETF เป็นตัวเลือกสำหรับการลงทุน DCA
จากความเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีวันมีค่าเป็นศูนย์ เพราะได้มีการกระจายสินทรัพย์ไว้ในหลายตัว จึงต่างจากสินทรัพย์อื่นที่มีความไม่แน่นอนอยู่ เช่น ผู้บริหารจัดการกองทุนถูกฟ้องร้อง หรือ บริษัทที่เคยมีชื่อเสียงดีแต่เกิดล้มละลาย. ETF จึงถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะกว่าสำหรับการลงทุนระยะยาวในวิธีแบบ DCA ค่ะ
3. กองทุน ETF ช่วยจัดสรรพอร์ตการลงทุนได้ง่าย
“Asset Allocation” คือ การจัดสรรเงินลงทุนโดยการกำหนดสัดส่วนการลงทุนให้สอดคล้องกับความเสี่ยง และระยะเวลาในการลงทุนเพื่อให้เราบรรลุเป้าหมาย เช่น สัดส่วนของพอร์ต 100% เราอาจเลือกเป็น TDEX แทน หุ้นไทยจำนวน 50% , CHINA แทน หุ้นต่างประเทศจำนวน 35% และ GLD แทน สินทรัพย์ทางเลือกอื่นอีก 15%
วิธีนี้เราจึงได้กระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ตามสัดส่วนที่เลือก เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตให้มากขึ้น นอกจากนี้ บางคนยังชอบวิธี ‘Portfolio Rebalancing’ หรือ การปรับสัดส่วนของสินทรัพย์ที่วางแผนไว้ให้กลับมาอยู่ในสัดส่วนเดิมเสมอ จึงขายสินทรัพย์ส่วนเกินและซื้อเพิ่มเมื่อมีสินทรัพย์ต่ำกว่าที่กำหนดค่ะ
กองทัน ETF ซื้อ-ขายกันอย่างไร?
ถ้าใครเคยเทรดหุ้นมาก่อน การซื้อขาย ETF ก็เป็นเรื่องง่ายมากๆ และทำได้ในลักษณะเดียวกันเลย(ต้องเปิดบัญชีตลาดหลักทรัพย์ก่อน) โดยจะมีรูปแบบอยู่ 2 วิธีหลักตามแต่ที่เราถนัด คือ
ซื้อขายผ่านโปรแกรม Streaming
โดยใช้แอปพลิเคชัน Streaming เริ่มต้นจากการสมัครสมาชิกเพื่อเข้าสู่ระบบ (ขั้นตอนนี้จะต้องใช้เลขบัญชีซื้อขาย)
เข้าสู่ระบบจะพบหน้าต่าง ‘Realtime’ ให้กดที่เมนู ‘Watch’ แล้วจะพบเครื่องหมายลูกศรชี้ลงบนข้อความ ‘Favorite 1’ (Dropdown) ให้คลิกที่ลูกศรนี้ หลังจากนั้นจะปรากฎหน้าต่างใหม่ขึ้นมา
กดเมนู ‘SET’ แล้วเลื่อนลงมายังข้อความ ‘.ETFs’ เมื่อกดเข้าไปก็จะพบรายชื่อที่มีการซื้อขายขึ้นมา หลังจากนั้นให้เราสังเกตตรงแถบด้านล่าง จะปรากฎข้อความ ‘Buy/Sell’ ก็สามารถเลือกเพื่อดำเนินการต่อได้เลย
ถ้าต้องการซื้อ ให้กรอกชื่อของกองทุนในช่องค้นหา > ระบุ Volume > ราคาที่ต้องการซื้อ ณ ขณะนั้น > กรอกรหัส PIN ของตน หลังจากนั้นให้กดที่คำสั่ง “BUY” แต่หากต้องการขาย ก็ทำเช่นเดียวกัน เพียงแต่เลือกแถบเครื่องหมาย “Sell” ค่ะ
ซื้อขายผ่านการติดต่อเจ้าหน้าที่ วิธีนี้จะมีเจ้าหน้าที่การตลาดเป็นบุคคลกลางเพื่อช่วยเราส่งคำซื้อขาย เพื่อลดข้อผิดพลาดจากการส่งข้อมูลผิด รวมถึงช่วยให้คำแนะนำในการเทรดได้ด้วย
เลือกกองทุน ETF ตัวไหนดี? กองไหนที่คนนิยมซื้อกัน!?
สำหรับ ‘กองทุน ETF’ จาก 5 ประเภท ที่มีอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ณ ตอนนี้ กองไหนจะเหมาะกับเรา หรือ คนไทยนิยมซื้ออยู่บ้างนะ?! ตามมาส่องกัน
ประเภท Equity ETF
อ้างอิงจากดัชนีราคาหุ้นในประเทศ ที่มาแรงที่สุด คือ DIV ที่ได้รวบรวมหุ้นปันผลสูงถึง 30 ตัว จึงทั้งกระจายความเสี่ยงและเริ่มลงทุนในหุ้นปันผลสูง ด้วยต้นทุนที่ไม่สูงตาม หรือ BMSCG ที่เหมาะสำหรับผู้คาดหวังผลตอบแทนดีในระยะยาวจากหุ้นขนาดกลางแต่จะต้องรับความผันผวนได้ด้วย
ตามมาติดๆด้วย BMSCITH ที่พูดง่ายๆว่าเหมือนเป็นการลงทุนหุ้นไทยสไตล์กองทุนต่างชาติ นักลงทุนมือใหม่ที่ยังไม่รู้จะเลือกกองไหนลงไปก็ปลอดภัย หรือ TH100 และ BSET100 สองกองนี้ ก็เป็นตัวเลือกสำหรับการลงทุนแบบ DCA ในระยะปานกลางถึงระยะยาวได้เลย
ประเภท Sector ETF
โดยอ้างอิงดัชนีราคาหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม เริ่มต้นด้วย EBANK ดัชนีอ้างอิงของ ETF ตัวนี้ คือ หมวดธุรกิจธนาคารที่คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากก็คุ้มสุดๆ เพราะมี “หุ้นวัฏจักร” (Cyclical Stocks) ส่วน ENGY & ENY ก็คือทางเลือกสำหรับคนที่อยากจับธุรกิจอุตสาหกรรมกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค จากจำนวนด้วยเงินลงทุนที่ไม่สูงนัก แต่ได้ถือครอง “หุ้นตามวัฏจักรเศรษฐกิจ” (Cyclical Stocks) ที่น่าสนใจ. แต่ก็ขอด้วยย้ำว่า การลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ ก็จะต้องรับความผันผวนได้ในระดับนึงค่ะ
ประเภท Foreign ETF
สำหรับดัชนีราคาหุ้นต่างประเทศ ใกล้ตัวที่สุด คือ CHINA ซึ่งเป็นดัชนีที่ประกอบด้วยหุ้น A-Shares 300 ตัวซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น / ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ โดยมีการคัดมาจากหุ้นทั้งหมด 1,800 ตัวอีกที จึงเรียกได้ว่าเป็นการกระจายการลงทุนในหุ้นจีนที่ถูกคัดมาเป็นอย่างดี และบอกเลยว่าเหล่าบริษัทต่างๆในจีนนี้ก็มีความโดดเด่นในเรื่องการเติบโตซึ่งกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วค่ะ
ประเภท Bond ETF
ซึ่งอ้างอิงจากดัชนีราคาตราสารหนี้ หลายคนกำลังเล็ง ABFTH อยู่ ซึ่งจริงๆแล้วก็คือนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลไทย หรือ มีรัฐบาลไทยเป็นผู้ค้ำประกัน และมีการจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 2 ครั้ง จึงบอกได้ว่าจัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงในระดับที่ค่อนข้างต่ำเลยล่ะ. แต่เนื่องจากเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุยาว หากถือครองในแบบระยะสั้นก็ยังมีโอกาสขาดทุนได้อยู่ดีค่ะ
ประเภท Gold ETF
ชื่อก็บอกแน่ๆว่าอ้างอิงดัชนีราคาทองคำ GLD ซึ่งเป็น “กองทุนทองคำ” ในประเภท Feeder Fund และมีกองแม่ คือ กองทุน SPDR® Gold Trust ที่อาจคุ้นหูกันมาบ้าง. แต่กองทุนทองคำย่อมตามมาด้วยความเสี่ยงที่สูงขึ้น จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูง และชื่นชอบการเก็งกำไรในทองคำจริงๆ พร้อมวิธี Asset Allocation เพื่อกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุนโดยรวม การจะมีติดไว้บ้างก็นับว่ามาถูกทางแล้วล่ะค่ะ
ไม่ต้องเป็นเซียนหุ้น ก็ซื้อกองทุน ETF เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุปแล้ว หากใครเลือกซื้อกองทุน ETF ก็จะได้เลือกการลงทุนในหลายรูปแบบค่ะ เพราะมีทั้งกองทุนที่อิงกับดัชนีราคาหุ้นในประเทศและต่างประเทศ , หุ้นรายกลุ่มอุตสาหกรรม ไปจนถึง ดัชนีตราสารหนี้และทองคำ เพื่อการกระจายความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และหากอยากรู้ว่าควรตัดสินใจยังไง หรือ กองไหนจะดีที่สุด สิ่งนี้ย่อมขึ้นอยู่กับเป้าหมายและข้อจำกัดของผู้ลงทุนอย่างเรานี่แหละ ว่าจะรับได้ประมาณไหน รึมีสไตล์การลงทุนอย่างไร. ถึงไม่เป็นเซียนหุ้นแต่เราก็สามารถซื้อขายเปิดตลาดได้แบบคล้ายๆกันเลย (แต่ถ้ามันไม่ match ก็นับว่ายังขายยากกว่ากองทุนอื่นทั่วไปที่ขายได้แน่ๆ)
ดังนั้น จึงอยากฝากนักลงทุนที่ตัดสินใจก้าวมาในกอง ETF ว่าเราจะต้องมีความอดทน และทำใจยอมรับในเรื่องการขึ้นลงของราคาตามดัชนีให้ได้ ชื่นชอบกองทุนประเภทไหน ก็ต้องไปศึกษาเพิ่มเติมกันดูจนแน่ใจ. บทความนี้แม้จะไม่ได้มีเจตนาชี้นำ ควรใช้เพื่อศึกษาเบื้องต้นและอ้างอิงเท่านั้น แต่หากใครสนใจที่ปรึกษาทางการเงิน ก็สามารถติดต่อเข้ามาได้ในช่องทางของ MoneyDuck กันได้
ชัฎชัย
อ่านจบแล้ว ถ้าจะถามผมว่า ถ้าผมมีโอกาส ได้ซื้อกองทุน ผมจะเลือกตัวไหนดี ตอนนี้ผมมีคำตอบของคำถามนี้แล้วครับ ส่วนตัวของผมจะเลือก ประเภท Foreign ETF ตัวนี้เลยครับ เป็นกองทุนที่ อ้างอิงจาก หุ้นของต่างประเทศ ซึ่งผมดูแล้วครับว่าตอนนี้หุ้นของ ต่างประเทศ น่าเล่นกว่าของบ้านเรามากครับ หุ้นหลายตัวตอนนี้กำลังไปในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าบ้านเราเลยทีเดียว
@กาญจน์
ที่จริง เราไม่รู้จักกองทุน ETF ชื่อเต็มคือ “Exchange Traded Fund” หรอกนะ ลองเข้ามาอ่านดูว่ามันคือกองทุนเกี่ยวกับอะไร อ่านแล้วก็ยังแอบงงอยู่นะ เรื่องกองทุนเราจะทำความเข้าใจยากหน่อยอะ เห็นตอนท้ายบทความบอกว่า "ไม่ต้องเป็นเซียนหุ้น ก็ซื้อกองทุน ETF เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ!"...อันนี้น่าคิด
Sudarat
พวกกองทุนหรือหุ้นอะไรต่างๆนี่มีเยอะมากจริงๆ เราเคยเข้าไปอ่านในบทความอื่นๆมาด้วยนะ พอมาเจอบทความนี้ก็เข้ามาอ่านอีกเพราะไม่เคยเห็นชื่อกองทุน Exchange Traded Fund (ETF) อย่าหาว่าตกข่าวหรืออะไรเลย ไม่ค่อยได้ติดตามเรื่องกองทุนมากนัก ก็มาหาอ่านตามหลังเอานี่ล่ะค่ะ ก็ดีนะที่มีบทความแบบนี้มาให้อ่าน ไม่เคยรู้ก็ได้รู้ค่ะ
อรรคพงษ์
กองทุน แบบ ETF ก็มีหลายตัวเลือกให้เราได้ลงทุนนะครับ ไม่ทราบว่าเพื่อนๆที่เข้ามาอ่าน มีกองทุนของเจ้าไหนบ้างครับที่ กำลังมองๆอยู่ครับ ถ้าส่วนตัวของผม ผมดู กองทุนเปิด ไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ ตัวนี้อยู่ครับ หรือที่เขาใช้ชื่อย่อๆ ว่า TDEX นะครับ กองทุนตัวนี้เขามีการรวบรวม หุ้นที่น่าสนใจหลายๆตัวในบ้านเราเลยนะครับ
ยงยุทธ์
กองทุน ประเภท Equity ET ตัวนี้ ถ้าเราลง ในช่วงนี้จะดีเหรอครับ เพราะบอกว่า กองทุน ประเภท Equity ET นี้ อาศัยดัชนีการลงทุนในบ้านของเรา ซึ่งผมมองๆดูแล้ว ตอนนี้การลงทุนในบ้านของเราค่อนข้างมีความเสี่ยงมากนะครับ หลายคนหันไปเล่นกองทุนของต่างประเทศกันเยอะเลยนะครับ อยากทราบได้ไหมครับว่า กองทุน ประเภท Foreign ETF ดีไหม
Piyapat
เป็นบทความของคนที่สนใจเรื่องการลงทุนจริงๆ เห็นว่ามือใหม่ก็ลงทุนกับกองทุน ETF ได้ ถ้าใครพร้อมจะรับความเสี่ยงที่มากับการลงทุนจะลองดูก็ได้นะคะ ลองแบบเบาๆก่อน ถ้ามันเหมาะกับคุณจริงๆค่อยๆเพิ่มเงินลงทุนมากขึ้นค่ะ แม้จะมีเงินสำหรับการลงทุนกันแล้ว เตรียมเงินสำรองไว้ด้วยก็ดีนะคะ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
วิไลลักษณ์
กองทุนที่เกี่ยวกับ ทองคำ ก็น่าเล่นนะคะ เพราะ ทองคำเป็นสิ่งมีค่าที่เป็นที่ยอมรับกันทั้งโลก ไม่ต้องกลัวว่าจะขาดทุนคะ เราว่ากองทุนตัวนี้น่าจับตามองแล้วก็เล่นคะ เพราะถ้าเราดูจากสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง โควิด-19 หลายอย่างได้รับผลกระทบนะคะ แต่ เรื่องราคาทองคำเรายังเห็นว่าราคามีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น แถมยังไม่มีแววว่าจะลดลงด้วยคะ
buaกชสร
มีกองทุนให้เลือกเยอะจนตาลายกันเลยทีเดียว เพื่อนๆที่เข้ามาอ่านกันก่อนหน้านี้ ได้ไปลงทุนกันบ้างมั้ยคะ อยากรู้อะว่าเพื่อนๆเลือกลงทุนกับกองทุนไหนกัน เพราะอะไร แล้วมันได้กำไรดีมั้ย แหม!เราก็ถามซะยาว เห็นบทความนี้เขาแนะนำมาหลายแบบ เราก็เลยอยากรู้ว่าแบบไหนที่มีคนเลือกลงทุนเยอะที่สุดน่ะค่ะ ถ้าใครพอจะแนะนำได้..เชิญนะคะ