ชีวิตของเรามีความเสี่ยงมากมาย เช่น เจ็บป่วย อุบัติเหตุ เสียชีวิต ทุพพลภาพ ตกงาน ทรัพย์สินเสียหาย บ้านเสียหาย รถเสียหาย ภัยธรรมชาติ ทุกอย่างเหล่านี้ล้วนก่อความเดือดร้อนทั้งสิ้น ประกันประเภทต่างๆจึงช่วยให้เรารับมือกับเหตุการณ์ร้ายๆที่อาจเกิดขึ้นได้ นี่เป็นเหตุผลที่หลายๆคนเลือกที่จะเตรียมพร้อมรับความเสี่ยงด้วยการทำประกันที่เหมาะสมกับตัวเอง และครอบครัว คุณทำประกันแล้วหรือยัง?
การทำประกันสักหนึ่งกรมธรรม์ต้องเช็คหลายเรื่อง เช่น เงื่อนไข ผลประโยชน์ และเบี้ยประกัน บทความนี้เราจะมาพิจารณาเรื่องของเบี้ยประกันค่ะ เรามาทำความรู้จักเบี้ยประกันให้มากขึ้น และเลือกเบี้ยประกันที่พอดีกับเรามากขึ้นกันดีกว่า
เบี้ยประกันคืออะไร
เบี้ยประกัน คือ เงินที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายให้กับบริษัทประกันตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ เพื่อแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น เงินค่ารักษาพยาบาล เงินชดเชย เงินคืน เงินปันผล เงินมรดก หรือเงินบำนาญ เป็นต้น ผลประโยชน์ที่จะได้รับก็ขึ้นอยู่กับว่าเราทำประกันประเภทใด การจ่ายเบี้ยประกันเป็นไปตามที่บริษัทประกันกำหนดขึ้นอยู่กับระยะเวลาความคุ้มครองที่เราเลือก มีทั้งจ่ายเบี้ยประกันครั้งเดียวจบ และจ่ายเบี้ยประกันติดต่อกันไปเรื่อยจนครบกำหนดสัญญา
ประเภทของเบี้ยประกัน
ประกันมีหลายประเภทเรื่องของเบี้ยประกันจึงแตกต่างกันไป การจ่ายเบี้ยประกันและการคิดคำนวณค่าเบี้ยประกันที่เหมาะสมกับรายได้ของแต่ละคนจึงต่างกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อประกัน ต้องคิดคำนวณค่าเบี้ยประกันให้ดีๆ ต้องคิดว่า คุณมีรายได้เท่าไหร่? คุณมีอายุเท่าไหร่? จ่ายเบี้ยประกันได้เท่าไหร่? เบี้ยประกันกี่บาท? ต้องจ่ายกี่ปี? คุ้มค่ากับวงเงินคุ้มครองไหม? ก็ต้องถามตัวเองเยอะๆหน่อยนะคะ เพื่อที่เราจะได้เลือกจ่ายเบี้ยประกันที่สมดุลกับรายรับและไม่เป็นภาระหนัก มาดูกันว่าค่าเบี้ยประกันแต่ละประเภทต้องจ่ายอย่างไร? และนานแค่ไหน?
ค่าเบี้ยประกันอุบัติเหตุ
ประกันอุบัติเหตุจะซื้อปีต่อปี จ่ายเบี้ยประกันครั้งเดียวจบ แล้วได้ความคุ้มครอง 1 ปี และในปีต่อไปถ้าอยากต่อสัญญากับประกันแบบแผนเดิมอีกก็สามารถทำได้ หรืออยากเลือกซื้อประกันอุบัติเหตุแบบแผนอื่นๆก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ส่วนค่าเบี้ยประกันต้องจ่ายเท่าไหร่? ก็ขึ้นอยู่กับวงเงินคุ้มครองที่คุณเลือกค่ะ
ค่าเบี้ยประกันการเดินทาง
ประกันการเดินทางมีสองแบบคือ รายเที่ยว และรายปี การจ่ายเบี้ยก็ต่างกัน ประกันการเดินทางแบบรายเที่ยว จะจ่ายเบี้ยประกัน 1 ครั้ง แล้วคุ้มครองตามวันที่เดินทาง เช่น 3 วัน 1 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน แล้วแต่กำหนดการเดินทางของเรา ส่วนประกันการเดินทางแบบรายปีก็จะจ่ายค่าเบี้ยประกัน 1 ครั้ง แล้วคุ้มครองตลอดทั้งปี การเลือกซื้อประกันการเดินทางก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณเดินทางบ่อยแค่ไหน? จำนวนค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกความคุ้มครองอย่างไร?
ค่าเบี้ยประกันสุขภาพ
ประกันสุขภาพซื้อปีต่อปีจ่ายเบี้ยครั้งเดียวคุ้มครอง 1 ปี แต่ส่วนมากก็นิยมต่อสัญญากับแบบแผนประกันเดิม เบี้ยประกันจะไม่คงที่ เมื่ออายุมากขึ้นเบี้ยก็จะแพงขึ้นตามไปด้วย หรือเบี้ยประกันจะแพงตามความคุ้มครองที่เพิ่มมากขึ้นตามที่เราเลือกค่ะ เช่น ความคุ้มครองโรคร้ายแรง ความคุ้มครองโรคมะเร็ง เป็นต้น
ค่าเบี้ยประกันชีวิต
ประกันชีวิตจ่ายเบี้ยประกันแบบต่อเนื่อง สามารถเลือกจ่ายเป็นงวดๆ เช่น ทุกๆ 3 เดือน / ทุกๆ 6 เดือน / ทุกๆ 1 ปี และระยะเวลาในการจ่ายเบี้ยประกันก็ขึ้นอยู่กับแบบแผนประกันชีวิตที่เราเลือก เช่น จ่ายเบี้ยต่อเนื่องภายใน 5 ปี 10 ปี 20 ปี และ ตลอดชีพ ระยะเวลาความคุ้มครองก็เช่นกันค่ะ จะจ่ายเบี้ยเท่าไหร่? ก็ขึ้นอยู่กับวงเงินคุ้มครองและผลประโยชนที่เราเลือกเช่นเดียวกัน ซึ่งประกันชีวิตเป็นประกันประเภทหนึ่งที่มีแบบแผนให้เลือกหลากหลายมากๆ
ค่าเบี้ยประกันทรัพย์สิน
ประกันทรัพย์สินจ่ายเบี้ยประกันปีละ 1 ครั้ง คุ้มครอง 1 ปี แต่ส่วนมากผู้เอาประกันนิยมต่อสัญญาไปเรื่อยๆ เพราะความเสียหายต่อทรัพย์สินเป็นความเสียหายที่เป็นเรื่องใหญ่ หากไม่มีประกันจะเดือดร้อนมากๆ เบี้ยประกันเท่าไหร่? ก็ขึ้นอยู่กับความคุ้มครองและวงเงินชดเชยที่เราเลือกค่ะ เช่น เลือกความคุ้มครองบุคคล สิ่งของ ภัยธรรมชาติ อัคคีภัย เป็นต้น
ค่าเบี้ยประกันรถยนต์
ประกันรถยนต์การจ่ายเบี้ยประกันเป็นแบบปีต่อปี จ่ายครั้งเดียวคุ้มครอง 1 ปี ปีต่อๆไปก็ต้องจ่ายอีกเพราะประกันรถยนต์จำเป็นต้องมีไม่ควรขาด แต่จะจ่ายเท่าไหร่? จะจ่ายเท่าเดิม ถูกกว่าเดิม หรือ แพงกว่าเดิมก็ขึ้นอยู่กับแบบแผนประกันที่เราเลือก เช่น เลือกวงเงินคุ้มครอง เลือกบริการ เลือกสถานที่ซ่อม เป็นต้น
ระบบค่าเบี้ยประกัน
การจ่ายเบี้ยประกัน ต้องทำตามเงื่อนไขที่กรมธรรม์ประกันภัยประเภทนั้นกำหนดไว้เท่านั้น ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องและได้รับผลประโยชน์จากการจ่ายเบี้ยประกัน คือ ผู้เอาประกัน ผู้รับผลประโยชน์ และบริษัทประกัน ทั้งสามฝ่ายได้ผลประโยชน์ด้วยกัน เบี้ยประกันจ่ายแล้วขอคืนได้ไหม? ปรับเปลี่ยนค่าเบี้ยประกันลดลงได้ไหม? หรือหยุดจ่ายเบี้ยประกันได้ไหม? เป็นเรื่องที่หลายคนอยากรู้ เรามาดูเงื่อนไขกันค่ะ
สำหรับผู้เอาประกัน
สำหรับผู้เอาประกันค่าเบี้ยประกันที่จ่ายนอกจากผลประโยชน์ที่ระบุแล้ว ยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย หากเกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็สามารถปรับเปลี่ยนค่าเบี้ยได้ เช่น การเลือกหยุดชำระค่าเบี้ยประกัน เลือกชำระค่าเบี้ยประกันลดลง การขอขยายระยะเวลา กรใช้เงินสำเร็จ หรือขอยกเลิกสัญญา แต่ทั้งหมดนี้ก็ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้
สำหรับบริษัทประกัน
ค่าเบี้ยประกันจะมีผลให้บริษัทประกันพร้อมจ่ายเงินชดเชย หรือ เงินช่วยเหลือ เมื่อผู้เอาประกันเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ประกันต้องคุ้มครองตามเงื่อนไขค่ะ บริษัทประกันมีสิทธิ์ยกเว้นความคุ้มครองได้เมื่อผู้เอาประกันทำผิดเงื่อนไข หรือเรื่องที่เกิดขึ้นไม่อยู่ในความคุ้มครอง เรื่องของค่าเบี้ยประกันหากต้องการเปลี่ยนแปลงใดๆควรแจ้งแก่บริษัทประกันให้เร็วที่สุดค่ะ
วิธีจ่ายค่าเบี้ยประกัน
วิธีจ่ายค่าเบี้ยประกันมีหลายช่องทางมากๆ ขึ้นอยู่กับว่าคุณเป็นลูกค้าของบริษัทประกันเจ้าไหน มีช่องทางดังต่อไปนี้ เช่น จ่ายที่บริษัทประกัน จ่ายผ่านระบบหักบัญชีอัตโนมัติ จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์(Mobile App/Internet Banking) ตู้ ATM เคาน์เตอร์รับชำระเงินต่าง จ่ายที่ธนาคาร จ่ายที่ไปรษณีย์ จ่ายที่ตัวแทน จ่ายผ่านบัตรเครดิต เลือกจ่ายเบี้ยประกันตามช่องทางที่สะดวกได้เลยค่ะ
ผลจากการชำระค่าเบี้ยประกันล่าช้า
การจ่ายเบี้ยประกันล่าช้าจะเกิดขึ้นกับคนที่ทำประกันแบบต่อเนื่อง เช่น ประกันชีวิต หรือประกันสุขภาพ ผลที่ได้รับ คือ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดบริษัทประกันจะคุ้มครองไม่เต็มวงเงินและไม่คุ้มครอง ซึ่งจะเกิดผลเสียหายต่อผู้เอาประกันเอง ดังนั้นเมื่อรู้ตัวว่าไม่สามารถจ่ายค่าเบี้ยประกันได้ตามเวลาที่กำหนด ควรแจ้ง หรือปรึกษากับบริษัทประกันให้เร็วที่สุดเพื่อทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง
Tips เพื่อเลือกประกันทีมีค่าเบี้ยประกันคุ้มค่าสำหรับคุณ
การทำประกันที่เหมาะสมไม่ได้หมายความต้องเลือกค่าเบี้ยประกันที่ถูกที่สุด แต่ต้องเป็นค่าเบี้ยประกันที่พอดีกับรายได้และความคุ้มครองคุ้มค่าที่สุด ค่าเบี้ยประกันและความคุ้มครองต้องสมดุลกัน และตอบโจทย์ความเสี่ยงของเรามากที่สุด ประกันแต่ละประเภทก็มีเรื่องให้ต้องคิดและถามตัวเองไม่เหมือนกัน ดังนั้นก่อนซื้อประกันควรตรวจเช็คตัวเองก่อน เช็คความเสี่ยงของตัวเอง เพื่อเลือกประกันอย่างดีมีเรื่องที่อยากแนะนำดังนี้
- ซื้อประกันชีวิตตอนอายุยังน้อย ค่าเบี้ยประกันจะถูกกว่า สามารถเลือกแบบแผนประกันได้หลากหลาย
- อย่าเลือกประกัน Unit Linked และ ประกันแบบสะสมทรัพย์ เพราะให้ความคุ้มครองชีวิตระยะสั้นเท่านั้นไม่มั่นคง
- เลือกประกันแบบกลุ่ม ประกันทุกประเภทถ้าซื้อแบบกลุ่มจะประหยัดกว่า
- ตอนซื้อประกันรถยนต์ อย่าระบุผู้ขับ เพราะเสี่ยงที่จะไม่ได้รับความคุ้มครองหากเกิดอุบัติเหตุโดยที่ผู้อื่นเป็นผู้ขับ
หวังว่าจะเต็มอิ่มกับข้อมูลเรื่องเบี้ยประกันแล้วนะ ค่าเบี้ยประกันเป็นสิ่งที่หลายคนคิดหนัก คิดว่าจะจ่ายไหวไหม? จะคุ้มรึป่าว? จากข้อมูลที่นำมาฝากกัน เราแต่ละคนสามารถกำหนดเองได้ว่าจะเลือกค่าเบี้ยประกันเท่าไหร่ให้จ่ายไหว และเลือกอย่างไรให้คุ้มค่า ดังนั้นหมดกังวลเรื่องค่าเบี้ยประกันได้เลย ถ้าคิดคำนวณอย่างดีแล้ว เช็คเรื่องต่างๆพร้อมทั้งตรวจสอบตัวเองแล้ว ยังไงๆประกันที่เราเลือกต้องคุ้มค่าแน่นอน
ภาราดร
ขอเน้นไปที่ค่าเบี้ยประกันชีวิตนะ เพราะในบทความนี้บอกว่าเราสามารถเลือกจ่ายได้ว่าจะจ่ายแบบไหน มี 3เดือน 6เดือน หรือว่า 1ปี ช่วงโควิด-19แบบนี้อยากเลือกที่จะแบ่งจ่ายแบบนี้เหมือนกันนะ แต่อยากทราบหน่อยได้ไหมว่าถ้าเราเลือกจ่ายแบบ 3เดือน หรือว่า 6เดือน จำนวนเงินค่าเบี้ยประกันชีวิตของเรา เราต้องจ่ายมากกว่าเดิมไหม
Sopon po
ผมชอบมากนะบทความนี้ หลายคนอยากซื้อประกัน ไม่ว่าจะเป็นประกันอะไรก็แล้วแต่ เรื่องที่จะติดขัดกันมากเรื่องนึง ก็คือ เรื่องค่าเบี้ยประกันภัย จริงๆหลายคนก็ไม่รู้หรอกครับว่าประกันแต่ละประเภทควรจะต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันเท่าไหร่ แล้วจะได้รับผลประโยชน์อะไรบ้างที่มันจะเรียกว่าสมน้ำสมเนื้อ มีข้อมูลมาบอกกันอย่างนี้ ดีมากครับ
yingyot
โอ้ ทำไมประกันมันเยอะแยะอย่างนี้ล่ะครับ พอเอาจับมารวมกันอย่างที่บทความนี้รวบรวมมาให้อ่าน ผมรู้สึกว่าประกันภัยมันมีหลายประเภทจริงๆ ใครต้องการหรือรู้สึกว่าจำเป็นต้องมีประกันฉบับไหนบ้าง ลองอ่านข้อมูลเบื้องต้นก่อนได้เลยครับ ถ้าไม่ได้เข้ามาอ่านบทความนี้ ผมเองก็นึกถึงประกันภัยไม่กี่ประเภทหรอก ขอบคุณที่เขียนมาให้อ่านนะครับ
แมวน้ำ
ค่าเบี้ยประกันรถยนต์นี่มันขึ้นอยู่กับที่เราเอาไปซ่อมที่อู่ หรือศูนย์อะไรแบบนี้หรือเปล่า ??? พอดีไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องประกันรถยนต์เลย กำลังมองหาบริาัททำประกันรถยนต์อยู่ค่ะ แล้วประกันชั้น 2 + กับชั้น 2 ต่างกันยังไงหรอคะ ถ้า 2 + เนี่ยควรจะไปทำประกันชั้น 1 ดีกว่าไหม?? ค่าเบี้ยค่อนข้างจะแตกต่างกันมากไหมคะ ??