ปัญหาสุขภาพเป็นเรื่องหนึ่งที่สร้างภาระค่าใช้จ่ายให้กับเราเป็นอย่างมากครับ และในทุกวันนี้โรคภัยไข้เจ็บต่างๆก็มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทางออกของหลายคนที่ต้องการจากจัดการกับความเสี่ยงด้านโรคภัยไข้เจ็บ ก็คือการทำประกันสุขภาพ ซึ่งช่วยให้ทางออกของการมีปัญหาสุขภาพ และช่วยให้เราสามารถรับมือกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดจากปัญหาสุขภาพของเราได้

แต่ในการทำประกันสุขภาพ ก็มีปัญหาบางอย่างที่ทำให้เราไม่ได้รับความคุ้มครอง เช่น ปัญหาการ เคลมประกันสุขภาพ ซึ่งทำให้เราเสียผลประโยชน์ และเป็นจุดที่เราต้องระมัดระวังในการทำประกันสุขภาพ บทความนี้จะพาไปดูว่ามีจุดไหนบ้างครับ

อ่านเพิ่มเติม ประกันสุขภาพ คืออะไร ที่นี่

ประกัน สมัครง่าย ได้เคลมประกันสุขภาพ

ประกัน สมัครง่าย ได้เคลมประกันสุขภาพ

การสมัครทำประกันสุขภาพถือเป็นขั้นตอนแรกสุดในการเริ่มต้นของการซื้อความคุ้มครองครับ แล้วก็ถือว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญด้วยเนื่องจากในขั้นตอนการสมัครหรือการสั่งซื้อประกันสุขภาพไม่ว่าจะเป็นทั้งแบบออนไลน์หรือผ่านตัวแทนขายประกัน ก็จะมีเงื่อนไขของกรมธรรม์หลายข้อที่ระบุความคุ้มครองที่เราจะได้รับรวมถึงเงื่อนไขต่างๆที่จะทำให้เราไม่ได้รับความคุ้มครองด้วยครับ ซึ่งเมื่อเราทำการสมัครหรือยื่นซื้อกรมธรรม์ก็จะเท่ากับว่าเรายอมรับเงื่อนไขต่างๆเหล่านั้นทั้งหมด โดยรูปแบบของการสมัครไม่ว่าจะแบบไหนก็มีผลกับการยอมรับเงื่อนไขต่างๆของกรมธรรม์เหมือนกันทั้งหมดครับ

ดังนั้นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในขั้นตอนนี้ก็คือเราอาจจะไม่ได้อ่านรายละเอียดของการสมัคร หรืออ่านรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครองให้ละเอียดซะก่อน หรือบางคนถึงกับไม่ได้อ่านเลยก็มีนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราซื้อกรมธรรม์กับตัวแทนขายประกันครับ สาเหตุก็อาจจะเป็นเพราะว่าเราเลือกที่จะไว้ใจตัวแทนขายประกันมากเกินไปและให้ตัวแทนขายประกันจัดการในเรื่องของการสมัครให้เราแบบเสร็จสรรพเลย โดยที่เราเพียงแค่ตอบข้อมูลต่างๆที่ตัวแทนขายประกันถามเราเท่านั้นครับ

ถึงจุดนี้น่าสนใจครับว่ารายละเอียดต่างๆที่เราให้กับตัวแทนขายประกันนั้นเป็นยังไงบ้าง ตัวแทนได้ถามข้อมูลสุขภาพของเราอย่างละเอียดไหม และได้มีการพูดคุยกันเรื่องของเงื่อนไขต่างๆที่ระบุไว้ในกรมธรรม์หรือเปล่า ได้มีการยื่นเล่มของกรมธรรม์ให้กับเราอ่านรายละเอียดต่างๆก่อนที่จะมีการซื้อกรมธรรม์หรือไม่ ซึ่งถ้าเราผ่านขั้นตอนนี้ก็อาจจะมีปัญหาตามมาในภายหลังได้ครับ

ดังนั้น เมื่อเราทำการยื่นสมัครขอซื้อความคุ้มครอง จำเป็นอย่างยิ่งครับที่เราจะต้องมีการอ่านรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไขต่างๆ รวมไปถึงจุดต่างๆที่อาจจะสร้างปัญหาให้เราไม่ได้รับความคุ้มครองในภายหลังได้ และระวังที่จะไม่ยอมทำตามเมื่อตัวแทนขายประกันเร่งรัดขายความคุ้มครองให้โดยขอเพียงแค่สำเนาบัตรประชาชนของเราไปแล้วทำการซื้อความคุ้มครองให้เราโดยที่ไม่ได้ให้เราอ่านหรือรู้เงื่อนไขความคุ้มครองต่างๆก่อนนะครับ

ปกปิดข้อมูล มีผลต่อการเคลมประกันสุขภาพ

ปกปิดข้อมูล มีผลต่อการเคลมประกันสุขภาพ

ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนึ่งที่สร้างปัญหาให้กับเราได้เมื่อต้องการจะ เคลมประกันสุขภาพ ครับ การปกปิดข้อมูลของเรากับทางบริษัทประกันหรือตัวแทนขายประกันจะทำให้บริษัทประกันมีข้ออ้างนะครับที่จะไม่ให้ความคุ้มครองหรือไม่ให้เราเคลมประกันได้ นอกจากทำให้เราเสียผลประโยชน์ในการได้รับความคุ้มครองเมื่อเราต้องการจะเคลมประกันแล้ว ยังจะส่งผลต่อประวัติของเราด้วย

ซึ่งจะสร้างปัญหาต่างๆตามมาในภายหลัง ทั้งการยื่นขอซื้อกรมธรรม์ฉบับใหม่ ถึงแม้ว่าจะซื้อกับบริษัทอื่นที่เรายังไม่เคยขอซื้อประกัน บริษัทเหล่านั้นก็ยังจะสามารถได้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติของเราด้วยเหมือนกัน ซึ่งก็จะทำให้เราขอยื่นซื้อความคุ้มครองได้ยากขึ้น หรืออาจจะมีอัตราค่าเบี้ยประกันที่แพงมากขึ้นก็ได้ครับ พูดง่ายๆก็คือจะมีประวัติไม่ดีของการเคลมประกันติดตัวเราไปตลอดนั่นเองครับ

ดังนั้นทางแก้ของการซื้อกรมธรรม์เมื่อเรามีปัญหาสุขภาพอยู่ก็คือการซื้อกรมธรรม์ที่ไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพนั่นเองครับ เนื่องจากกรมธรรม์เหล่านี้ออกแบบมาเพื่อกลุ่มคนที่อาจจะมีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว และให้ความคุ้มครองกับกลุ่มคนที่มีความเสี่ยง ซึ่งก็แลกมาด้วยอัตราค่าเบี้ยประกันที่สูงเป็นธรรมดา และอาจจะให้ความคุ้มครองเฉพาะอย่างครับ

หรือถ้าเราเป็นเพียงแค่โรคความดันโลหิตสูงหรือโรคเบาหวาน ก็ไม่มีความจำเป็นที่เราจะต้องปกปิดข้อมูลนี้ไว้ครับ เมื่อทำการยื่นสมัครหรือขอซื้อกรมธรรม์ เพราะถึงแม้ว่าเราจะมีโรคประจำตัวเหล่านี้อยู่ก็ยังสามารถขอยื่นซื้อกรมธรรม์ได้ โดยผู้ที่จะทำหน้าที่ตัดสินใจว่าจะให้ความคุ้มครองกับเราหรือไม่ก็คือตัวของบริษัทประกันเองครับ โดยบริษัทประกันจะทำการพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับการขอซื้อกรมธรรม์ของเราครับ โดยในระหว่างที่ทำการพิจารณา บริษัทก็อาจจะมีการขอให้เราไปขอประวัติการรักษาที่โรงพยาบาลหรือคลีนิคที่เราไปรักษาเป็นประจำ อาจจะมีการขอให้เราทำการตรวจสุขภาพตามแบบฟอร์มของบริษัท ซึ่งตามปกติแล้วเป็นการตรวจฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ก็ถือได้ว่าเป็นการได้ตรวจสุขภาพฟรีไปในตัวนะครับ ซึ่งถ้าบริษัทประกันไม่รับเรื่องการยื่นซื้อประกันของเราก็ถือว่าเราได้ไปตรวจสุขภาพดีๆโดยที่ทางบริษัทประกันเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้นั่นเองครับ

ส่วนถ้าบริษัทประกันรับเรื่องขอยื่นซื้อกรมธรรม์จากเรา ก็จะมีเงื่อนไขเพิ่มเติมเข้ามาในเงื่อนไขของกรมธรรม์ครับ อย่างเช่นอาจจะมีการขอเพิ่มเบี้ยประกันสูงขึ้นเนื่องจากบริษัทประกันคงจะมองว่าผู้ป่วยโรคประจำตัวเหล่านี้มีความเสี่ยงสูงมากขึ้นกว่าบุคคลอื่นทั่วไป หรืออาจจะขึ้นเงื่อนไขขอยกเว้นความคุ้มครองสำหรับกรณีเสียชีวิตหรือเข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคเบาหวานหรือความดัน โดยยังคงให้ความคุ้มครองปัญหาสุขภาพอื่นๆที่เกิดขึ้นในภายหลังอยู่ครับ

จุดสำคัญเพื่อการ เคลมประกันสุขภาพ ของเรา

จุดสำคัญเพื่อการ เคลมประกันสุขภาพ ของเรา

ความคุ้มครองที่เราจะได้รับถือเป็นเรื่องสำคัญครับเนื่องจากเราแลกมันด้วยค่าเบี้ยประกันที่เราจ่าย ดังนั้นน่าเสียดายนะครับถ้าเราไม่ได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ที่เราซื้อไปเนื่องจากจุดผิดพลาดพี่สร้างปัญหาให้กับเรา เพราะนอกจากจะเสียค่าเบี้ยประกันไปเปล่าๆแล้วเรายังต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลด้วยตัวเราเองทั้งหมด ซึ่งก็ไม่ใช่แค่ทำให้เรามีภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้นเท่านั้น แต่มันคงสร้างความเครียดให้กับเราเพิ่มมากขึ้นอีกด้วยครับ ซึ่งไม่ส่งผลดีเลยกับสุขภาพของเราที่เจอทั้งโรคภัยไข้เจ็บเล่นงานและยังต้องมาเจอความเครียดที่ทำให้ปัญหาสุขภาพนั้นยิ่งแย่เข้าไปกันใหญ่

ดังนั้น ในการเลือกซื้อกรมธรรม์เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองแบบที่เราต้องการ ก็จำเป็นครับที่เราจะต้องใส่ใจรายละเอียดต่างๆที่เป็นจุดสำคัญของเงื่อนไขของกรมธรรม์ ทั้งวิธีการสมัครรวมถึงการให้ข้อมูลตามความเป็นจริง เพื่อที่จะไม่ส่งผลเสียต่อความคุ้มครองที่เราควรจะได้รับในภายหลังนะครับ หากสงสัยสามารถสอบถามหรือปรึกษา**ผู้เชี่ยวชาญจาก MoneyDuck ได้ฟรี **ที่ลิงก์ด้านล่าง

แนะนำประกันสุขภาพที่น่าสนใจ ที่นี่