คุณยังใช้เงินเหมือนเดิมไหมหลังจากเจอวิกฤติโควิด? คำตอบส่วนมากเลย คือ ไม่เหมือนเดิม เหตุผลที่หลายคนใช้เงินไม่เหมือนเดิมเพราะ รายได้ที่ลดลง / ตกงานและขาดรายได้ / ไม่อยากเจอความเสี่ยง เป็นต้น เหตุผลเหล่านี้ทำให้ผู้คนใช้เงินไม่เหมือนเดิมซึ่งส่วนมากก็คือการใช้เงินน้อยลงนั่นเองค่ะ สังคมทุกวันนี้เปลี่ยนไปมากโดยเพาะด้านความคิด และทัศนะเรื่องเงินซึ่งส่วนมากก็เกี่ยวข้องกับรายจ่าย เพราะถึงแม้รายรับจะเป็นเรื่องสำคัญด้วยแต่เราควบคุมรายรับได้ยากกว่ารายจ่าย ผู้คนจึงหันมาใส่ใจสิ่งที่ควบคุมได้มากกว่านั่นคือรายจ่ายค่ะ เราทุกคนใช้จ่ายเงินกันทุกวันถ้าเราสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในแต่ละวันได้ก็ช่วยลดปัญหาทางด้านการเงินไปได้มากแม้รายได้ลดลง หรือตกงานก็ตามค่ะ ทัศนะแบบนี้ทำให้การใช้จ่ายของผู้คนเปลี่ยนไป

บทความนี้อยากช่วยให้เราทุกคนลองตรวจสอบตัวเองดูว่าความคิดทางด้านการเงินที่เปลี่ยนไปหลังจากโควิดเกิดขึ้น ความคิดแบบไหนที่เกิดขึ้นกับเรา? ความคิดแบบไหนที่เราควรเปลี่ยน? แล้วความคิดทางด้านการเงินเหล่านี้ที่เปลี่ยนไปส่งผลที่ดีหรือไม่ดีกันแน่? มาเช็คตัวเองกันหน่อยดีกว่านะคะ

คิดมากขึ้นก่อนใช้จ่าย

คิดมากขึ้นก่อนใช้จ่าย

สำหรับบางคนการคิดมากก่อนใช้จ่ายเป็นเรื่องที่ปกติที่ทำเป็นนิสัยอยู่แล้ว แต่ทุกวันนี้แม้แต่คนที่ไม่นิสัยแบบนั้นก็กลับมีความคิด และทัศนะที่จะคิดมากขึ้นก่อนจะซื้อจะจ่ายอะไรขึ้นมาบ้างแล้ว ความคิดส่วนมากของผู้คนก็คือ ซื้อของที่จำเป็นเท่านั้น / ซื้อของที่คุ้มค่าเท่านั้น / ไม่ตามใจความต้องการของตัวเองอีกต่อไป นี่คือความคิดทั่วๆไปที่ผู้คนส่วนใหญ่เลือกที่จะเปลี่ยน แม้โควิดจะผ่านไปแล้วแต่ความคิด และทัศนะแบบนี้ยังคงตกค้างอยู่เพราะผู้คนก็ยังไม่แน่ใจว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะดีขึ้นหรือไม่

ป้องกันความเสี่ยงด้วยการออมมากขึ้น

ป้องกันความเสี่ยงด้วยการออมมากขึ้น

การออมเงินก็เป็นสิ่งที่ผู้คนทำกันอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เปลี่ยนไป คือ ผู้คนให้ความสำคัญกับการออมมากขึ้น และออมเงินอย่างมีเป้าหมายมากยิ่งขึ้น เป้าหมายนั้นคือ การป้องกันความเสี่ยงนั่นเอง ดูเหมือนว่าโควิดจะสอนบทเรียนหลายเกี่ยวกับเรื่องการออมเหมือนกันนะคะ เพราะหลายคนที่ออมเงินอยู่แล้วอาจจะไม่มีเป้าหมายที่แน่นอนของการออมเงินจึงทำให้การออมเงินนั้นไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จ แต่เดี๋ยวนี้การออมเงินดูเหมือนจะง่ายมากขึ้นเพราะความคิดที่ว่าเงินออมจะช่วยให้จัดการและรับมือกับปัญหาความเสี่ยงทางการเงินได้นั่นเองค่ะ ไม่ว่าสถานการณ์อะไรจะเกิดขึ้นเงินออมช่วยได้มากนะคะ อย่างเช่น ตกงานขาดรายได้เงินออมก็ช่วยได้ / รายได้ลดลงเงินออมก็ช่วยได้ / เจ็บป่วยหรือสูญเสียทรัพย์สินเงินออมก็ช่วยได้ / เงินออมยังช่วยให้มีโอกาสในการลงทุน และการทำประกันด้วยนะคะ คุณเปลี่ยนความคิดเรื่องเงินออมหรือยัง?

รายรับทางเดียวไม่พออีกต่อไป

รายรับทางเดียวไม่พออีกต่อไป

ความคิดเรื่องรายได้ทางเดียวเป็นความคิดของคนส่วนมากและมีมานานมาแล้ว จนเกิดโควิดขึ้นมาทำให้ความคิดที่จะต้องหารายได้เสริม หรือ เพิ่มรายได้หลายทางๆนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วความคิดนี้ก็เข้ามาแทนที่การมีรายรับทางเดียวไปแล้ว เหตุผลที่ผู้คนมีความคิดแบบนั้นไม่ใช่ว่าค่าครองชีพที่สูงขึ้นนะคะ แต่เป็นเพราะว่ารายรับทางเดียวนั้นไม่เพียงพอสำหรับการรับมือกับความเสี่ยงอีกต่อไป หลายคนอยากมีรายได้เพิ่มขึ้นเพราะต้องการนำเงินมาลงทุน และนำเงินมาซื้อประกันเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงนั่นเองค่ะ แล้วคุณหล่ะคะมองหารายได้เสริมบ้างแล้วหรือยัง?

ใช้โลกออนไลน์กับเรื่องเงินมากขึ้น

ใช้โลกออนไลน์กับเรื่องเงินมากขึ้น

โลกออนไลน์ กับ โลกการเงินนั้นมีมานานแล้วเหมือนกัน แต่หลายคนก็ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่มากนักจนเกิดวิกฤติโควิดขึ้นมา ทำให้การใช้ชีวิตต้องเปลี่ยนการกักตัวอยู่ที่บ้านทำให้ผู้คนเริ่มหันมาสนใจการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านโลกออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะการใช้บริการ Mobile Banking ค่ะ ซึ่งการใช้บริการนี้ช่วยเราประหยัดค่าใช้จ่ายได้ด้วยนะคะ เพราะจะประหยัดค่าเดินทางได้มากไม่ว่าจะทำธุรกรรมทางการเงินอะไรก็ไม่ต้องไปที่ธนาคารแล้ว แถมยังสามารถทำรายการการจ่ายบิลต่างๆผ่าน Application ได้ด้วยค่ะ ประหยัดทั้งค่าธรรมเนียม / ค่าเดินทาง เป็นสิ่งคุ้มค่าอย่างหนึ่งที่ผู้คนคิดจะเปลี่ยนแปลงค่ะ

ลงทุนอย่างระมัดระวังมากขึ้น

ลงทุนอย่างระมัดระวังมากขึ้น

หลายคนไม่สนใจการลงทุนมากก่อนก็หันมาสนใจการลงทุนมากขึ้นเนื่องโควิดเช่นกัน และที่มากไปกว่านั้นคือหลายคนศึกษาการลงทุนมากขึ้น และลงทุนอย่างฉลาดมากขึ้นด้วยการลงทุนอย่างปลอดภัย และระมัดระวังมากขึ้น การลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำจึงเป็นที่นิยมอย่างมาก ความคิดส่วนมากที่เปลี่ยนไปคือ ผู้คนจะเลือกลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง ไม่ใช่เงินก้อนเดียวลงทุนในหลักทรัพย์อย่างเดียวอีกต่อไป แต่ใช้เงินก้อนเดียวเพื่อลงในหลักทรัพย์หลายๆอย่าง เช่น ลงทุนในกองทุนรวมร่วมด้วยกับการลงทุนในหุ้น หรือแบ่งไปลงทุนในทองคำด้วยก็มีนะคะ คุณกระจายการลงทุนแล้วหรือยังคะ?

ใครยังมีทัศนะด้านการเงินแบบเดิมๆควรจะเปลี่ยนได้แล้ว

ใครยังมีทัศนะด้านการเงินแบบเดิมๆควรจะเปลี่ยนได้แล้ว

ทัศนะทางการเงินที่บอกมาทั้งหมดในบทความนี้ล้วนแต่ส่งผลดีทั้งนั้น และควรที่เราทุกคนจะต้องเปลี่ยนทัศนะทางด้านการเงินได้แล้ว เพราะความคิดทางด้านการเงินแบบเดิมๆอาจจะทำให้คุณเดือดร้อนได้ และในอนาคตที่ยังไม่ความแน่นอนทางการเงินอย่างทุกวันนี้ก็ยิ่งจำเป็นมากๆที่เราต้องเปลี่ยนแปลงความคิดได้แล้ว เริ่มต้นจากการควบคุมค่าใช้จ่ายของเราก่อนเลยเป็นอันดับแรก แล้วต่อมาก็เริ่มจัดการหารายได้เสริมเพิ่มเติมด้วยก็ยังไม่สายค่ะ ไม่ใช่แค่ธุรกิจเท่านั้นที่ต้องปรับเปลี่ยนการเงินส่วนตัวของเราก็ต้องปรับเปลี่ยนด้วยค่ะ