“มี่ ทิวา ชินธาดาพงศ์ ” เซียนหุ้นสายเน้นคุณค่า หรือ VI ชื่อดังของไทย ที่รู้จักกันในนาม "เซียนมี่” นักลงทุนพันล้านวัย 44 ปี ชายธรรมดาที่แม้หนทางการเป็นนักลงทุนขั้นเซียนจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ด้วยความมุ่งมั่นใจตั้งใจทำให้เขาประสบความสำเร็จได้
ย้อนกลับไป เขาเกิดในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง คุณพ่อทำงานบริษัทเอกชนและคุณแม่เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว ปัญหาใหญ่ของเขาในวัยเด็กคือเขาเป็นเด็กที่เรียนไม่ค่อยเก่งและถูกบ่นเป็นประจำ ในที่สุดเมื่อเรียนยังไงก็เรียนไม่ไหว เขาจึงได้ตัดสินใจลาออกไปช่วงชั้น ม.3 จากนั้นเพื่อนสนิทจึงได้ชักชวนไปขับวินมอเตอร์ไซค์ เขาจึงเริ่มต้นอาชีพคนขับวินมอเตอร์ไซค์นี้เป็นอาชีพแรก
เมื่อเห็นว่ายังไม่ใช่หนทางสร้างรายได้ จึงค่อยหันมาเปลี่ยนไปทำงานรูปแบบอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเซลล์ของบริษัท Mitsubishi จากนั้นก็ย้ายมาเป็น พนักงานบริษัทและเปิดร้านอินเทอร์เน็ต ซึ่งท้ายที่สุดทุกอาชีพและกิจการที่เขาเคยทำ ไม่ได้ตอบโจทย์ชีวิตแบบที่เขาต้องการ จนได้เงินเก็บหนึ่งก้อน จึงได้ลองนำมาลงทุนจนกลายเป็นเซียนหุ้นที่มีพอร์ตระดับพันล้านในปัจจุบัน
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับหุ้น ที่นี่
จุดเปลี่ยนชีวิต ก้าวแรกสู่นักลงทุนพันล้าน
ในปี 2551 เขาได้ไปเดินเล่นที่เอสพลานาดรัชดาและได้มีโอกาสได้เข้าไปร่วมฟังงานสัมมนาเล็ก ๆ ของ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรากร เจ้าพ่อนักลงทุนหุ้น VI ของไทย หนึ่งในต้นแบบของนักลงทุนชื่อดังหลายคน รวมถึงคุณพอล ภัทรพลที่เราเคยพูดถึงกันไป การสัมมนาครั้งนั้นทำให้เขามีมุมมองความคิดต่อการลงทุนหุ้นเปลี่ยนไปมากทีเดียว การสัมมนาครั้งนั้น เขาที่เริ่มเกิดความสนใจในการลงทุนหุ้นจึงได้กลับมาอ่านหนังสือและศึกษาอย่างหนักเพื่อหาความรู้เพิ่มเติมในการลงทุน
วิธีการลงทุนและแนวความคิด
เซียนมี่ ให้ความสำคัญกับการตั้งเป้าหมาย โดยเขาได้ตั้งเป้าหมายหลักที่จะลงทุนให้ได้ผลตอบแทนปีละ 20% แล้วจึงค่อยย่อยเป้าหมายรองที่เล็กลงมาเรื่อยๆ เป็นเป้าหมายระยะสั้นตั้งแต่ 1 เดือน 6 เดือนจนถึง 1 ปี ซึ่งเขาจะกำหนดวิธีการลงทุนและจำนวนเงินที่จะลงทุนว่าต้องทำอะไรในจำนวนเงินเท่าไรถึงจะสามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้ แล้วจึงเริ่มทำตามแผนที่วางไว้อย่างตั้งใจ
เซียนมี่ มีแนวคิดในการลงทุนโดยมองภาพรวมของหุ้นให้เหมือนกับชีวิตคนเราทั่วไปที่มีทั้งขาขึ้นและขาลง ซึ่งประสบการณ์จะเป็นตัวช่วยให้เราสามารถเข้าใจชีวิตได้มากขึ้นเช่นเดียวกับการที่จำเป็นต้องติดตามข่าวสารและสถานการณ์สำคัญอยู่เสมอเพื่อให้เราเข้าใจในแนวโน้มของคุณมากขึ้น และสามารถจับจังหวะการลงทุนที่เหมาะสมในการเข้าทำกำไรได้
แม้ว่าเขาจะเป็นนักลงทุนสาย VI ก็จริง แต่เขาไม่เคยยึดติดกับหุ้นตัวไหนเป็นสำคัญ และพร้อมที่จะบอกลากับหุ้นตัวนั้นเมื่อเห็นแล้วว่าปัจจัยพื้นฐานได้เปลี่ยนไปแล้ว แต่ไม่ได้ทิ้งหุ้นตัวนั้นเสียทีเดียว โดยเขาจะยังกลับมาสอดส่องแนวโน้มพร้อมติดตามหาโอกาสกลับเข้าไปเสมอเมื่อมีช่วงเวลาที่เหมาะสม
การ “คิดบวก” เป็นกุญแจสำคัญไปสู่ความสำเร็จของเซียนหุ้นคนนี้ เพราะคนเรามักจะท้อถอย หมดกำลังใจเมื่อต้องทำบางอย่างที่ต้องยากและใช้ความพยายามมากอย่างการลงทุน เมื่อลงทุนแล้วผิดพลาดก็เฝ้าแต่โทษตัวเองและไม่สามารถก้าวข้ามผ่านความรู้สึกแย่เท่านี้ก็ได้ทำให้สุดท้ายเราต้องยอมแพ้ไป
เซียนมี่ บอกว่าแนวคิดในการไปสู่ความสำเร็จของเขานั้นไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมายอย่างที่ใครคิด แต่สิ่งที่เขามีคือความตั้งใจขยันและอดทน การศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับหุ้นและการลงทุนของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพราะในโลกที่มีการหมุนเปลี่ยนผันแปรไปในทุกวัน ทุกอย่างจึงมี Dynamic การลงทุนในหุ้นก็เช่นกัน หากไม่ติดตามข่าวสารและคิดว่าตัวเองคร่ำหวอดในวงการนี้เมื่อไร เมื่อนั้นเราจะก้าวถอยหลังทันที
แม้การได้ผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่อง สามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายโดยไม่ต้องทำงานหนัก จะเป็นเป้าหมายที่เขาตั้งไว้ แต่สิ่งที่เขาให้ความสำคัญไม่แพ้กันก็คือความสุขในชีวิต หากปีไหนที่เซียนมี่ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนหุ้นมากกว่าเป้าหมายที่เขาตั้งไว้ เขาก็จะนำเงินส่วนที่ได้เป็นกำไรมาให้รางวัลกับตัวเอง และพาครอบครัวและคนที่รักเอาไปท่องเที่ยวพักผ่อน สำหรับใครอยากเริ่มต้นการลงทุนเผื่อก้าวไปสู่การเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จแบบเซียนมี่แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจาก MoneyDuck ฟรี ได้เลยที่ลิงก์ด้านล่าง
บอกเล่าความคิดเห็นและสิ่งที่คุณรู้ที่นี่