ตกงาน เป็นหนี้บัตรเครดิตทำยังไง

ในสภาวะที่มีวิกฤตโควิด - 19 ร่วมกับสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่แบบนี้ ทำให้หลายอย่างที่เราเคยมั่นใจในชีวิตว่าเป็นสิ่งที่แน่นอนก็ไม่แน่นอนอีกต่อไป โดยเฉพาะการงานที่มี ด้วยวิกฤตโควิด - 19 ทำให้หลายองค์กรต้องได้รับผลกระทบจนต้องเลิกจ้างพนักงาน ถ้าหากเราเป็นหนึ่งในคนที่โชคร้ายก็คงน่ากังวลไม่น้อย เพราะถึงแม้จะไม่ได้ทำงาน มีรายได้แต่ดอกเบี้ยบัตรเครดิตก็ยังบานไม่หยุด แม้จะตกงานแต่เราก็ยังมีค่าใช้จ่ายหรือภาระหนี้สินต่าง ๆ ที่ต้องจัดการ หนึ่งในนั้นก็คือการเป็นหนี้บัตรเครดิต

เมื่อต้องตกงานโดยไม่คาดคิด หนี้บัตรเครดิตที่เคยค้างไว้ก็มีแต่ดอกเบี้ยที่จะเพิ่มพูนขึ้นไปเรื่อย ๆ แต่เรากลับตกงานจึงไม่มีเงินในการไปผ่อนดอกเบี้ยหรือปิดยอดหนี้ กลายเป็นหนี้มหาศาลจนใช้ไม่หมดในอนาคต สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับปัญหานี้วันนี้เรามีทางออกว่าตกงาน เป็นหนี้บัตรเครดิต ทำยังไงให้อยู่รอด จะมีอะไรบ้างตามไปดูกันเลย

หางานใหม่หรือรายได้เสริม

ตกงาน เป็นหนี้บัตรเครดิต ทำยังไงให้อยู่รอดวิธีแรกก็คือ การหางานใหม่หรือหารายได้เสริมเพื่อหาเงินมาใช้ให้เร็วที่สุด หากเราไม่ได้เป็นหนี้เราอาจคิดว่าขอใช้เวลาพักผ่อนจากงานสักพักก่อนจะหางานใหม่อีกครั้ง แต่นี่เราเป็นหนี้อยู่เราจะคิดแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด เป็นช่วงเวลาที่เราอาจจะยังไม่สามารถเรื่องงานได้มากนัก ถ้าหากมีโอกาสดี ๆ เข้ามา ก็ควรจะคว้าไว้ก่อน หรือลองมองอาชีพเสริมอย่างอื่นที่เราสามารถทำได้เพื่อให้มีรายได้ไปก่อน เช่น ขายของ ทำอาหารขาย เพื่อนำรายได้จากตรงนี้มาช่วยเพิ่มสภาพคล่องหรือปลดหนี้บัตรเครดิตให้เราได้ หากทุกอย่างลงตัวแล้วจึงค่อย ๆ มองหางานใหม่ที่เราถูกใจมากขึ้นก็ยังไม่สาย

สามารถอ่านบทความ รายได้เสริมที่มั่นคง ได้ที่นี่

เลิกใช้บัตรเครดิตซื้อของ

หนึ่งนิสัยที่เมื่อใช้บัตรเครดิตแล้วอาจจะเลิกไม่ได้ ก็คือซื้อหรือผ่อนของด้วยบัตรเครดิตตลอด แต่ในช่วงเวลาตกงานแบบนี้เราขอแนะนำว่าให้เลิกใช้บัตรเครดิตไปก่อน เพราะขณะที่เราตกงาน การยังรูดบัตรเครดิตก็เป็นเหมือนการเอาเงินในอนาคตซึ่งเราไม่มีมาใช้ก่อน หากยิ่งใช้ก็จะยิ่งเป็นตัวการชั้นดีในการทำให้หนี้สินที่มีของเราเพิ่มพูน เปลี่ยนเป็นนำเงินสดที่มีในการนำไปใช้จ่ายแทนจะช่วยให้เราลดโอกาสในการสร้างหนี้และไปเพิ่มพูนดอกเบี้ยบัตรเครดิตได้ดีกว่า ที่สำคัญยังเป็นตัวช่วยในการประหยัดมากขึ้นไปอีก เพราะการใช้จ่ายผ่านเงินสดจะทำให้เราเห็นเงินที่ใช้ออกไปอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้เราอยากที่จะประหยัดมากขึ้นได้

หลีกเลี่ยงการจ่ายขั้นต่ำ

อีกหนึ่งวิธีแก้ปัญหาตกงาน เป็นหนี้บัตรเครดิต ควรทำยังไงก็คือการเลิกจ่ายขั้นต่ำ ในกรณีที่ไม่มีเงินก้อนหรือเงินเก็บในการจ่ายเพื่อปิดยอดหนี้ นี่ก็อาจจะเป็นข้อที่ยากสักนิดหนึ่ง แต่ถ้าเรายังพอมีเงินเหลือเพียงพอสำหรับการจ่ายเต็มจำนวนเพื่อปิดยอดหนี้ ก็ควรเลือกจ่ายเต็มจำนวนเพื่อไม่ให้มีดอกเบี้ยจากยอดค้างชำระ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยของบัตรเครดิตนั้นสูงมากถึง 20 -25% ซึ่งถ้าเราปิดยอดหนี้เต็มทุกครั้ง หลีกเลี่ยงการจ่ายขั้นต่ำ จะช่วยให้เราประหยัดไปได้มาก นอกจากนี้ถ้าหากเราจ่ายดอกเบี้ยล่าช้า ทางสถาบันการเงินจะมีการปรับค่าล่าช้าด้วย กลายเป็นรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นไปอีก

ขอประนีประนอมหนี้กับธนาคาร

ถ้าหากคิดดูแล้วเราไม่สามารถชำระหนี้ได้ไหวจริง ๆ เพราะหนี้ก้อนใหญ่เกิน หมดหนทางจะหาเงินมาจ่ายขั้นต่ำหรือปิดหนี้ได้ อย่าเพิ่งเป็นกังวลจนเกินไป เพราะธนาคารก็จะมีทางออกสำหรับลูกค้าที่ประสบปัญหานี้ให้อยู่แล้ว โดยเราสามารถเข้าไปเพื่อพูดคุยขอประหนีประนอมหนี้ เล่าให้ทางธนาคารฟังถึงสาเหตุและปัญหาที่เกิดขึ้น แสดงเจตนาว่าเราต้องการใช้หนี้ไม่ได้อยากให้ธนาคารมีหนี้เสียไป สามารถหาทางออกร่วมกันได้อย่างไรบ้าง ซึ่งโดยปกติธนาคารก็จะยื่นขอเสนออย่าง ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ ยืดระยะเวลาผ่อนชำระ พักหรือปรับลดอัตราดอกเบี้ยชั่วคราว ให้กับเรา ทำให้เราไม่ต้องถูกฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาลเพราะธนาคารรับรู้รับทราบและหาทางออกให้เราแล้ว

สามารถอ่านบทความ จะเกิดอะไรหากไม่ชำระหนี้บัตรเครดิต ได้ที่นี่

เปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงินใหม่

การเป็นหนี้บัตรเครดิตจะเป็นปัญหาที่เล็กลง ถ้าหากเรามีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินหรือวางแผนทางการเงินที่ดีมาก่อน แต่ในเมื่อปัญหาเกิดขึ้นแล้วคุณก็สามารถนำ 5 วิธีที่เราแนะนำข้างต้นไปเป็นแนวทางในการจัดการหนี้บัตรเครดิต แต่ถ้าเรารู้จักเปลี่ยนนิสัยทางการเงินที่รอบคอบและรัดกุมตั้งแต่ต้น ก็จะช่วยให้เราสามารถรับมือกับทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ โดยไม่มารบกวนสภาพคล่องทางการเงินหากต้องมีการใช้หนี้โดยอาจจะเริ่มจาก เริ่มทำบัญชีรายรับ - รายจ่าย เลือกจับจ่ายใช้สอยอย่างประหยัด ออมเงินเผื่อกรณีฉุกเฉิน เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้เราสามารถแก้ปัญหาทางการเงินได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวได้แล้ว

เชื่อว่าบทความนี้คงสามารถช่วยให้คนที่กำลังตั้งคำถามว่าตกงาน เป็นหนี้บัตรเครดิตทำยังไง มองเห็นทางสว่างในการแก้ปัญหามากขึ้น อยากให้ทุกท่านได้พึงระลึกอยู่เสมอว่าการใช้บัตรเครดิตเป็นทั้งของขวัญและกับดัก หาไม่จัดการวางแผนให้ดีหรือปล่อยใจใช้เงินเกินตัวคุณจะกลายเป็นเหยื่อของหนี้บัตรเครดิตทันที และยิ่งชำระได้ช้าไปเท่าดอกเบี้ยยิ่งเพิ่มขึ้นไปแบบก้าวกระโดด หากกำลังประสบปัญหานี้แต่ยังไม่มีทางออก ลองเลือกปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินจาก MoneyDuck ได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายที่ลิงก์ด้านล่างได้เลย