น้ำมันรถยนต์ มีกี่ประเภท ต่างกันอย่างไรและเลือกเติมแบบไหนดี

น้ำมันรถยนต์ หรือน้ำมันเชื้อเพลิง หนึ่งในองค์ประกอบที่ทำให้รถเคลื่อนที่ซึ่งในปัจจุบันมีให้เลือกหลายประเภทให้เหมาะต่อการใช้งาน ซึ่งจะมีประเภทไหนบ้างและแบบไหนที่จะเหมาะต่อการเติมให้รถของคุณพร้อมตัวอย่างรถแต่ละรุ่นกับชนิดของน้ำมันที่ควรเติม MoneyDuck จะพาคุณไปล้วงลึกข้อมูลกันที่นี่

อ่านเพิ่มเติม สเปคและราคา รถครอบครัวน่าใช้งาน ในปี 2021 ที่นี่

น้ำมันรถยนต์ คืออะไร

น้ำมันรถยนต์ หรือน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งเป็นของเหลว (Liquid) ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบที่นำมาปรับปรุงคุณภาพให้เหมาะสมต่อการใชงานเพื่อใช้ในการเผาให้กลายพลังงานสำหรับการขับเคลื่อนของเครื่องยนต์

ประเภทของน้ำมันรถยนต์

สำหรับประเภทน้ำมันรถยนต์จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ที่นิยมนำไปใช้งานในปัจจุบัน ได้แก่

1. น้ำมันเบนซิน คือ เชื้อเพลิงที่กลั่นออกมาจากน้ำมันดิบและนำมาเข้าสู่กระบวนการต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงคุณภาพให้ดีขึ้น หรือที่เรียกกันว่า ค่าออกเทน (ซึ่งเป็นตัวเลขที่บอกถึงความสามารถในการต้านทานการน็อก (Antiknock Quality) ของน้ำมันเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์เบนซิน) ซึ่งค่าออกเทนของเบนซินที่นิยม ได้แก่
   • น้ำมันเบนซิน 95 เป็นเชื้อเพลิงราคาสูงที่ขึ้นชื่อว่ามีคามเสถียรมากที่สุด โดยน้ำมันชนิดนี้จะมีค่าออกเทนสูงถึง 95% ทำให้การเผาไหม้ของเครื่องยนต์สมบูรณ์และตอบสนองต่อการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพเมื่อขับขี่
   • น้ำมันเบนซิน 91 เป็นเชื้อเพลิงที่มีความคล้ายคลึงกับเบนซิน 95 แต่จะถูกลดคุณภาพลงมาเล็กน้อยโดยจะมีค่าออกเทน 91 และไม่มีส่วนผสมของเอทิลแอลกอฮอล์ใด ๆ ผสมอยู่ แต่ปัจจุบันภาครัฐได้ยกเลิกการขายน้ำมันชนิดนี้ไปแล้ว
2. น้ำมันดีเซล คือ น้ำมันดิบที่ได้จากโรงงานกลั่นน้ำมันโดยมีจุดเดือดสูงถึง 180- 370 องศาเซลเซียสแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
   • น้ำมันพรีเมี่ยมดีเซล จะเป็นน้ำมันที่มีราคาสูงสุดในกลุ่มนี้ที่มีคุณภาพสูง เผาไหม้ดีทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
   • น้ำมันไบโอดีเซล B7 จะมีส่วนผสมของไบโอดีเซล 7 % และใส่สารเติมแต่งคุณภาพต่าง ๆ
   • น้ำมันไบโอดีเซล B10 จะมีส่วนผสมของไบโอดีเซล 10% หรือที่คนส่วนใหญ่ขึ้นชื่อว่า ดีเซล
   • น้ำมันไบโอดีเซล B20 จะมีส่วนผสมของไบโอดีเซล 20% ที่ผ่านการปรับปรุงให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและราคาประหยัด
3. น้ำมันแก๊สโซฮอล์ คือ เชื้อเพลิงจสกแอลกอฮอล์สกัดจากพืช เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพด และอ้อยซึ่งเรียกว่า เอทานอล ให้นำมาผสมกับน้ำมันเบนซินจนกลายมาเป็นพลังงานทดแทนแก๊สโซฮอล์ซึ่งใช้ E เป็นสัญลักษณ์โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
   • น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E10) เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ถูกผลิตมาแทนน้ำมันเบนซิน 95 ซึ่งมีส่วนผสมของน้ำมันเบนซินออกเทน 95 อยู่ที่ 9 ส่วนและเอทานอลที่มีความบริสุทธิ์อีก 99.5 % อยู่ที่ 1 ส่วนเทียบเท่าประสิทธิภาพของเบนซิน 95
   • น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (E10) เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ถูกผลิตมาแทนน้ำมันเบนซิน 91 ซึ่งมีส่วนผสมของน้ำมันเบนซินออกเทน 91 อยู่ที่ 9 ส่วนและเอทานอลที่มีความบริสุทธิ์อีก 99.5 % อยู่ที่ 1 ส่วนเทียบเท่าประสิทธิภาพของเบนซิน 91 ซึ่งมีข้อดีที่ราคาย่อมเยากว่า
   • น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของน้ำมันเบนซิน 95 สูงถึง 80 % ผสมกับเอทานอล 20 % ที่มีราคาค่อนข้างถูกและเน้นใช้งานในเมือง
   • น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงคล้ายกับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 แต่จะแตกต่างกันตรงอัตราส่วนผสมของน้ำมันเบนซิน 95 อยู่ 15 % ผสมกับเอทานอล 85 % ซึ่งมีราคาถูก แต่การเผาไหม้รวดเร็วและสิ้นเปลืองกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20

อันตรายใกล้ตัวที่ไม่ควรทำขณะเติมน้ำมัน

เคยสังเกตไหมว่าทุกครั้งที่ไปเติมน้ำมัน เด็กปั๊มมักจะวางป้ายบริเวณด้านหน้ารถเพื่อบ่งบอกว่ากำลังเติมน้ำมันพร้อมแสดงข้อมูลที่ควรหลีกเลี่ยงขณะเติมน้ำมันโดยมี 3 ข้อสำคัญ ๆ ดังนี้

1. ดับเครื่องยนต์ทุกครั้งขณะเติมน้ำมัน

   สิ่งที่ไม่ควรละเลยคือ การดับเครื่องยนต์ทุกครั้งเนื่องจากระหว่างการเติมน้ำมันจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่อาจก่อเกิดประกายไฟระหว่างตัวรถยนต์กับไอน้ำมันที่ระเหยอยู่ในอากาศ โดยเฉพาะในช่วงที่รถยนต์มีความร้อนสูงทั้งจากเครื่องยนต์และท่อไอเสีย หรือบางครั้งมีชิ้นส่วนบางอย่างสึกหรอโดยที่ไม่รู้มาก่อนอาจก่อให้เกิดความร้อนกลายเป็นไฟลุกไหม้ได้เพื่อป้องกันการลุกไหม้ หรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นขณะเติมน้ำมันควรดับเครื่องยนต์ทุกครั้ง

2. งดสูบบุหรี่ หรือก่อให้เกิดประกายไฟภายในปั๊มน้ำมัน

   การงดสูบบุหรี่ไม่ได้ห้ามเพียงแค่ขณะการเติมน้ำมัน แต่ยังห้ามสำหรับทุกพื้นที่ในปั๊มเนื่องจากติดไฟได้ง่ายจากไอระเหยของของน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีอยู่รอบ ๆ แม้ในปัจจุบันจะมีการจัดพื้นที่ให้สูบบุหรี่ได้ในปั๊มบางแห่งแต่ก้นบุหรี่หากทิ้งไม่เป็นที่ก็อาจก่อให้เกิดการลุกไหม้ หรือร้ายแรงจนเกิดการระเบิดได้จึงควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ในพื้นที่ปั๊มเพื่อความปลอดภัย

3. งดใช้โทรศัพท์มือถือขณะเติมน้ำมัน

   คลื่นสัญญาณโทรศัพท์มือถือเพียงแย่างเดียวนั้นไม่สามารถก่อให้เกิดประกายไฟได้ แต่ในขณะที่คุณกำลังใช้งานโทรศัพท์มือถืออยู่นั้นแบตเตอรี่อาจจะช็อตจนนำไปสู่สาเหตุการเกิดไฟไหม้ได้ หรือการทำโทรศัพท์มือถือหล่นเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดการระเบิดได้

น้ำมันรถยนต์ เชื้อเพลิงที่ใช้ในการขับเคลื่อนซึ่งคงเห็นกันแล้วว่ามีหลายประเภทให้เลือกและหลายเรทราคา หากราสูงหน่อยก็จะมีประสิทธิภาพดี อัตราสิ้นเปลืองน้อยกว่า น้ำมันรถยนต์บางประเภทที่ถูก แต่อัตราการสิ้นเปลืองค่อนข้างมากเนื่องจากเผาไหม้ได้เร็วและที่สำคัญระหว่างการเติมน้ำมัน ควรดับเครื่องยนต์ทุกครั้ง งดสูบบุหรี่และงดใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามผู้เชี่ยวชาญจาก MoneyDuck ได้ฟรี ที่ลิงค์ด้านล่าง