แน่นอนว่าไม่มีใครอยากเจอกับเหตุการณ์บัตรเครดิตหาย! เพราะคุณสมบัติของบัตรเครดิตนั้นสามารถที่จะใช้รูดจ่ายราคาสินค้าหรือบริการทั้งแบบปกติและการค้าออนไลน์ แถมยังใช้กดเงินสดในยามฉุกเฉินได้อีก ทำให้ผู้ถือบัตรอย่างเราๆ ต้องระมัดระวัง และเก็บรักษาบัตรไว้อย่างดีไม่แพ้กับเงินสดเลยทีเดียว. แต่หากวันหนึ่งต้องวนมาเจอกับฝันร้ายที่ว่าบัตรใบนั้นหายไป คงกังวลใจกันไม่น้อย แต่หลังจากที่ดำเนินการอายัดได้ทันท่วงทีแล้ว ก็อาจกังวลใจกันอีกถึงก้าวต่อไปในการได้มาซึ่งบัตรใบใหม่ที่ตอบโจทย์เราอย่างดีนั้นต้องคิดถึงอะไรอีก จึงนำมาให้ได้ลองวิเคราะห์กันดู
สาเหตุที่หลายคนต้อง ทำบัตรเครดิตใหม่
ถูกขโมยบัตรเครดิต
สำหรับใครที่รู้ตัวเร็วว่าบัตรเครดิตถูกขโมยไปก็อาจโทร.แจ้งอายัดบัตรได้ทัน ทำให้เราไม่ต้องรับผิดชอบหนี้ใดๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากแจ้งแล้วทันที หรือภายในเวลา 5 นาทีตามเงื่อนไขที่กำหนด แต่ถ้าหากถูกขโมยบัตรเครดิตไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ก็เป็นโอกาสให้เหล่ามิจฉาชีพสวมรอยนำบัตรไปใช้ ซึ่งตรงนี้เราก็ต้องรีบแจ้งอายัดบัตรทันทีที่รู้ตัว แจ้งความ และหากมีรายการที่มิจฉาชีพนำบัตรไปใช้เกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องกรอกแบบฟอร์มทักท้วงการใช้บัตรยื่นให้แก่เจ้าหน้าที่ธนาคาร/บริษัทผู้ออกบัตรฯ ด้วย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและทางธนาคาร/บริษัทผู้ออกบัตรฯ จะตรวจสอบและตามจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป แต่หากตามจับตัวคนร้ายไม่ได้ และเราไม่สามารถไกล่เกลี่ยยอดหนี้ที่ธนาคาร/บริษัทผู้ออกบัตรฯ เรียกเก็บได้ ผู้ใช้บัตรเครดิตบางรายอาจถูกฟ้องร้องให้ต้องชำระหนี้ดังกล่าว ก็อย่าเพิ่งตกใจกันเกินไป เพราะถ้าเรามีหลักฐานชัดเจนว่าเราไม่ได้ใช้บัตรเครดิตในรายการดังกล่าว เช่น มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดว่าเราไม่ได้เป็นผู้รูดบัตรในร้านค้าแห่งนั้น ช่วงเวลานั้นเราอยู่ต่างประเทศ หรือลายเซ็นในเซลล์สลิปไม่ตรงกับลายเซ็นหลังบัตรเครดิตที่เราเคยเซ็นไว้ ก็สามารถนำหลักฐานต่างๆ นี้ไปยื่นต่อศาลเพื่อพิสูจน์ว่าเราไม่ได้เป็นผู้ใช้บัตรจริงๆ และศาลอาจตัดสินให้เราไม่ต้องชดใช้ในหนี้นั้นได้
ถูกคัดลอกข้อมูลบัตรเครดิต
ทุกวันนี้มีเหล่ามิจฉาชีพที่สามารถคัดลอกข้อมูลบัตรเครดิตของเราได้ ทั้งจากเครื่อง Skimmer ที่ติดอยู่ตามตู้ ATM และเครื่อง Skimmer แบบพกพา รวมทั้งการแอบถ่ายข้อมูลตัวเลขหน้าและหลังบัตรเครดิต แล้วนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ ซึ่งในกรณีนี้เจ้าของบัตรเครดิตจะไม่มีทางรู้ตัวก่อนเลย เพราะบัตรเครดิตนั้นจะยังอยู่กับตัว ไม่ได้หายไปไหน ดังนั้น ทันทีที่ทราบว่ามีคนแอบใช้บัตรเครดิตของเรา หรือสมัครบริการ SMS แจ้งเตือนการใช้จ่ายไว้ก็จะรู้ตัวได้เร็วกว่า ก็ให้รีบโทร.แจ้งอายัดบัตรเครดิต พร้อมแจ้งให้ทางธนาคาร/บริษัทผู้ออกบัตรเครดิตทราบว่า บัตรเครดิตของเราถูกลักลอบนำไปใช้และขอให้รีบตรวจสอบโดยด่วน หลังจากนั้นเราก็ต้องแจ้งความ กรอกแบบฟอร์มทักท้วงการใช้บัตร แล้วให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและบริษัทผู้ออกบัตรเครดิตตรวจสอบและตามจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไปเช่นเดียวกัก ซึ่งหลังจากที่ได้ตรวจสอบแล้ว โดยส่วนใหญ่ผู้ใช้งานบัตรเครดิตอย่างเราก็จะไม่ต้องรับผิดชอบกับหนี้สินที่เกิดขึ้น เพียงแต่ต้องรวบรวมหลักฐานให้ชัดเจน และปฏิบัติตามที่เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำแก่เรานั่นเอง
ถูกปลอมแปลงเอกสารในการสมัครบัตรเครดิต
บางคนทั้งๆ ที่ไม่เคยสมัครบัตรเครดิตดังกล่าว แต่ชื่อ-นามสกุล และที่อยู่ในใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตที่ส่งมาถึงบ้าน กลับเป็นข้อมูลของเราทุกประการ ดังนี้เราควรรีบติดต่ออายัดบัตร แล้วไปแจ้งความทันที พร้อมนำเอกสารทั้งหมดที่ได้รับไปด้วย ซึ่งกรณีนี้เรามีหน้าที่ต้องยืนยันกับทางเจ้าหน้าที่ว่าเราไม่ใช่ผู้สมัครบัตรดังกล่าว รวมถึงพิสูจน์ว่าเอกสารการสมัครบัตรฯ นั้นเป็นเอกสารปลอม ลายเซ็นที่เซ็นไปนั้นไม่ใช่ของเรา และผู้ใช้บัตรตามรายการดังกล่าวก็เป็นคนละคนกับเราด้วย โดยส่วนใหญ่ผู้ที่ถูกปลอมแปลงเอกสารนั้นจะไม่ต้องรับผิดชอบในหนี้บัตรเครดิตที่เกิดขึ้น เพราะถือได้ว่าเป็นความประมาทของทางธนาคาร/บริษัทผู้ออกบัตรเครดิต ที่ไม่ตรวจสอบให้ดีก่อน และอนุมัติบัตรเครดิตไปให้แก่มิจฉาชีพรายนั้นไป
เอกสารที่ต้องใช้ ทำบัตรเครดิตใหม่
เอกสารที่ต้องเตรียมให้พร้อมก่อนทำบัตรเครดิตใหม่ มีดังนี้
บัตรประจำตัวประชาชน
เป็นเอกสารที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นการแสดงตัวตนของเรา ดังนั้นเราจึงควรที่จะตรวจสอบดูเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับบัตรประชาชนให้ดี เช่น วันหมดอายุของบัตร การเสื่อมของตัวบัตร หากมีการชำรุดหรือเสียหาย เราควรที่จะทำการเปลี่ยนบัตรใหม่ เป็นต้น เพื่อที่จะเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการใช้งาน และเมื่อต้องถ่ายเอกสารหากบัตรอยู่ในสภาพดีข้อมูลต่างๆ ก็จะชัดเจนและถูกต้อง
สลิปเงินเดือน
หากว่าเราทำงานบริษัท ส่วนใหญ่ก็จะได้รับสลิปเงินเดือนเป็นประจำอยู่แล้วในทุกๆ เดือน ซึ่งเอกสารส่วนนี้ควรเก็บไว้ให้ดีเพราะมีความสำคัญเป็นอย่างมาก จะแสดงถึงรายได้ที่เราจะได้รับในแต่ละเดือนนั่นเอง
หนังสือรับรองเงินเดือน
สำหรับใครที่ไม่มีสลิปเงินเดือน ก็สามารถเลือกใช้หนังสือรับรองเงินเดือนเป็นเอกสารสมัครบัตรเครดิตแทนได้ เพราะถือเป็นเอกสารที่มีความสำคัญในการรับรองรายได้ของเราจากบริษัทหรือหน่วยงานที่เราทำงานอยู่ ซึ่งหากไม่ได้รับก็สามารถติดต่อกับฝ่ายการเงิน หรือฝ่ายธุรการของที่ทำงาน เพื่อขอรับเอกสารนี้ได้
ทะเบียนบ้าน และ สำเนาทะเบียนบ้าน
เป็นเอกสารที่จะแสดงที่อยู่ของเรา เพื่อให้ทางสถาบันการเงินได้ตรวจสอบถึงความน่าเชื่อถือของเราว่ามีที่อยู่เป็นหลักแหล่งจริง และสามารถติดตามได้หากกรณีเกิดมีการติดหนี้ เราก็ควรจะอัพเดทส่วนนี้ให้ใหม่อยู่เสมอ เพื่อให้ที่อยู่จริงของเราและอยู่ตามสำเนาทะเบียนบ้านนั้นตรงกันอยู่เสมอ หากเรามีความจำเป็นต้องอยู่คนละที่ ก็ขอให้เตรียมข้อมูลในส่วนนี้ไว้ด้วยเพราะมีความจำเป็นอย่างมากในการประกอบการพิจารณาของสถาบันการเงิน
สมุดเงินฝากบัญชีธนาคาร
หากว่าเรานั้นอยากจะสมัครบัตรเครดิต ก็ควรที่จะมีการอัพเดทสมุดบัญชีเงินฝากอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่ว่าเราจะสามารถใช้ข้อมูลในส่วนนี้ประกอบการสมัครบัตรเครดิตได้ รวมถึงการที่เรามีบัญชีเงินฝากนี้จะช่วยให้เราทำธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ กับทางสถาบันการเงินได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
รายการเดินบัญชีย้อนหลัง (Statement)
รายการเดินบัญชีย้อนหลัง (Statement) ถือเป็นเอกสารที่สำคัญมาก เพราะสถาบันการเงินจะมีการเรียกตรวจสอบเอกสารตัวนี้เสมอเมื่อเราทำการสมัครบัตรเครดิต ซึ่งการจะขอเอกสารตัวนี้นั้นทำได้ไม่ยาก เพียงแค่เราไปยังธนาคารที่เรามีการฝากเงินเข้าเป็นประจำหรือ จะเป็นบัญชีธนาคารที่บริษัทใช้จ่ายเงินเดือนเราก็ได้ แล้วก็ทำการขอเอกสารตัวนี้ โดยปกติแล้วเมื่อทำการขอเอกสารตัวนี้กับทางธนาคารก็จะได้รับภายใน 1 วัน โดยระยะเวลาที่เราขอย้อนหลังควรจะอยู่ที่ประมาณ 6 ถึง 12 เดือน (จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบัตรแต่ละใบและสถาบันการเงินเจ้าของบัตร) ความสำคัญของเอกสารตัวนี้คือ ใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาเรื่องแหล่งรายได้ของเรา
ช่องทางการ ทำบัตรเครดิตใหม่
สำหรับช่องทางในการสมัครก็มีอยู่หลายช่องทางด้วยกัน ดังนี้
สมัครผ่านทางออนไลน์ ทางหน้าเว็บไซต์ของธนาคารหรือผู้ให้บริการสินเชื่อเงินสด
ปัจจุบันนี้เกือบทุกธนาคารได้มีช่องทางในการให้ลูกค้าสามารถสมัครสินเชื่อเงินสดผ่านทางออนไลน์โดยให้ผู้สนใจไปกรอกข้อมูล ชื่อ นามสกุล โทรศัพท์มือถือและอีเมล ซึ่งจะให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมาเพื่อให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับสินเชื่อเงินสดเพิ่มเติม พร้อมกับขั้นตอนในการเตรียมเอกสารและยื่นเพื่อสมัคร ทางหน้าเว็บไซต์ของบางธนาคารจะมีแบบฟอร์มที่เป็นใบสมัครออนไลน์แบบฉบับเต็มที่ลูกค้าสามารถเลือกกรอกและส่งก่อนได้เลย เพื่อให้ขั้นตอนต่าง ๆ รวมถึงการอนุมัตินั้นรวดเร็วมากขึ้นอีก
สมัครทางไปรษณีย์
ผู้ประกอบการบัตรกดเงินสดบางแห่ง มีช่องทางในการให้ลูกค้าสามารถสมัครบัตรกดเงินสดได้ทางไปรษณีย์ สำหรับขั้นตอนการสมัครทางไปรษณีย์ก็ให้ทำตามขั้นตอนดังนี้
1.ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม พิมพ์เอกสารและกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน 2.เซ็นชื่อกำกับพร้อมกับแนบเอกสารการสมัครเพื่อพิจารณาอนุมัติ รับรองสำเนาถูกต้องที่เอกสารทุกฉบับ 3.ส่งเอกสารทั้งหมดไปยังที่อยู่ของบริษัทที่เราทำการสมัครบัตรกดเงินสด 4.หลังจากนั้นก็รอผลการอนุมัติบัตรกดเงินสดทาง SMS 5.เมื่อได้รับอนุมัติลูกค้ารอรับบัตรกดเงินสดทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ที่แจ้งในใบสมัคร
สมัครผ่านทาง Mobile Application
เกือบทุกสถาบันการเงินจะมีช่องทางในการให้ลูกค้าสามารถสมัครสินเชื่อเงินสดผ่านทาง Mobile Application ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่นิยมซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ผ่านทางแอพพลิเคชันบนมือถืออยู่แล้ว ซึ่งขั้นตอนในการสมัครสินเชื่อเงินสดผ่านทาง Mobile Application มีดังนี้
1.ดาวน์โหลดแอพพลิเคชันของผู้ให้บริการบัตรกดเงินสดผ่านทาง App Store (iOS) หรือ PlayStore (Android) 2.เลือกเมนูสมัครบัตรกดเงินสด 3.กรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบถ้วน 4.ตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง 5.กดส่งข้อมูล
สมัครโดยตรงที่ธนาคารหรือผู้ให้บริการสาขาใกล้บ้าน
ทำการดาวน์โหลดใบสมัครและกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน พร้อมทั้งเตรียมเอกสารที่ต้องยื่นเพื่อสมัครตามที่ธนาคารหรือผู้ให้บริการบัตรกดเงินสดกำหนด หลังจากนั้นให้นำทั้งใบสมัครและเอกสารทั้งหมดไปยื่นสมัครกับเจ้าหน้าที่โดยตรงที่ธนาคารสาขาใกล้บ้านหรือผู้ให้บริการบัตรกดเงินสดสาขาใกล้บ้าน หากคุณสมบัติและเอกสารครบถ้วน ธนาคารจะอนุมัติบัตรกดเงินสดให้ได้ทันที
สมัครกับบูธในงานมหกรรมการเงิน
เมื่อมีการจัดงานมหกรรมการเงินทุกครั้ง แต่ละธนาคารก็จะไปร่วมออกบูธในงานด้วย ลูกค้าที่สนใจขอเงินกู้ประเภทต่าง ๆ ก็มักจะรอสมัครในงานมหกรรมการเงินนี้เพื่อที่จะได้รับโปรโมชั่นต่าง ๆ ที่แต่ละธนาคารขนมาลดแลกแจกแถมให้ลูกค้าที่สนใจสมัครสินเชื่อเงินสดและบัตรกดเงินสดก็สามารถสมัครได้ที่งานมหกรรมการเงินเช่นเดียวกับสินเชื่อประเภทอื่น การสมัครสินเชื่อเงินสดที่งานมหกรรมการเงินจะมีข้อดี ก็คือ หากคุณสมบัติตรงและเอกสารครบจะได้รับบัตรกดเงินสดทันที
ค่าใช้จ่ายที่อาจจะต้องใช้ราคาประมาณเท่าไร
ค่าธรรมเนียมทำบัตรเครดิตกรณี หาย ชำรุด
- ธนาคารกสิกรไทย : 50 บาท/ครั้ง
- ธนาคารไทยพาณิชย์ : ไม่มีค่าใช้จ่าย
- ธนาคารกรุงเทพ : 200 บาท/ครั้ง
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา : 214 บาท/ครั้ง
- ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ : 214 บาท/ครั้ง
- ธนาคารธนชาติ : 200 บาท/ครั้ง
- ธนาคารออมสิน : 200 บาท/ครั้ง
- ธนาคารซิตี้แบงค์ : 200 บาท/ครั้ง
- ธนาคารยูโอบี : 200 บาท/ครั้ง
- ธนาคารซีไอเอ็มบี : 200 บาท/ครั้ง
- บัตรเคเครดิตทีซี : 200 บาท/ครั้ง
- บัตรเครดิตอิออน : 200 บาท/ครั้ง
- บัตรเครดิต เซ็นทรัล การ์ด : 200 บาท/ครั้ง
- บัตรเครดิตเทสโก้โลตัส : 200 บาท/ครั้ง
ดังนั้น เราจะเห็นว่าบัตรเครดิตนั้นก็ยังถือได้ว่ามีความจำเป็นในการช่วยอำนวยความสะดวก ให้การใช้จ่ายของเราง่ายขึ้นได้จริง จึงควรตรวจสอบเรื่องเอกสารและช่องทางในการสมัครไว้เพื่อความรวดเร็วในการได้มา แต่ผู้ใช้บัตรเครดิตก็ควรมีความระมัดระวังและรอบคอบในการใช้บัตรเครดิตอยู่เสมอ เพื่อป้องกันภัยที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้บัตรนั้นๆ และทันทีที่รู้ตัวว่าบัตรเครดิตของเราถูกโจรกรรมไป หรือว่ามีความเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรม ทำใหสูญหายหรือชำรุดก็ควรรีบโทรแจ้งอายัดบัตร แจ้งความ และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบโดยด่วน พร้อมทั้งขอคำปรึกษาเพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้นั่นเอง หากอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามผู้เชี่ยวชาญทางการเงินจาก MoneyDuck ได้ฟรี ที่ลิงค์ด้านล่าง
Solada
ขอบคุณค่ะที่ได้รู้คำตอบแล้วว่าทำไม จำเป็นต้องมีการทำบัตรเครดิตใหม่ด้วย บทความนี้ให้คำตอบที่จุใจมากเลยค่ะ เพิ่งรู้เหมือนกันค่ะว่าข้อมูลของบัตรเครดิตสามารถถูกขโมยจากคนอื่นได้ ทำให้เราต้องสมัครบริการของบัตรเครดิตเดิมใหม่ด้วย เพราะบางครั้งรู้สึกว่าทางธนาคารแจ้งมาให้ไปทำบัตรเครดิตใหม่ทำไมก็ไม่รู้ ได้รู้มากขึ้นเกี่ยวกับว่าจะทำบัตรเครดิตยังไงด้วยค่ะขอบคุณค่ะ
Cantana
เพิ่งรู้ว่าถ้าทำบัตรเครดิตใหม่ต้องเสียเงินด้วย!! โห... อย่างงี้ต้องระมัดระวังอย่างดีซะเเล้ว (ไม่อยากจะเสียเงิน) แต่บัตรเรากี่ปีกี่ชาติก็ยังไม่เคยหายเลย ขอบคุนสำหรับความรู้ดีๆในบทความนี้นะคะ เผื่่อว่าในอนาคตถ้าเราทำบัตรเครดิตหายจะได้รู้วิธีว่าจะต้องไปทำบัตรใหม่ยังงัย... มีขั้นตอนอะไรบ้าง เพราะชีวิตขาดบัตรเครดิตไม่ได้...
วายุ
เป็นแบบนี้เองหรอครับไม่ต้องมีบัตรเครดิตอยู่แล้ว มีกรณีที่เราจำเป็นต้องขอทำบัตรเครดิตใหม่ด้วย เพื่อที่จะสามารถให้เราใช้โปรโมชั่นของบัตรเครดิตหรือบัตรเครดิตต่อไป ความที่ทำให้ผมเห็นว่าทำไมมีสาเหตุอะไรที่เราจำเป็นต้องทำบัตรเครดิตใหม่ ซื้อทำไมทำใหม่แล้วเราก็มีผลเสียหายต่อวงเงินของเราเพราะถูกคนอื่นขโมยข้อมูลไปใช้นั้นเองครับ
วรณัน
ถ้าไม่อยากเตรียมเอกสารยุ่งยากอีกครั้งพยายามอย่าทำบัตรเครดิตหายกันค่ะ อืม..มันก็ไม่ใช่เพราะผู้ถือบัตรอย่างเดียวเนอะ ถ้าถูกคัดลอกข้อมูลหรือถูกปลอมแปลงเอกสารในการสมัครบัตรเครดิต ก็ต้องไปทำบัตรใหม่เหมือนกัน ผู้ถือบัตรคงทำได้ดีที่สุดคือดูแลรักษาบัตรเครดิตของตัวเองให้ดี ไม่ให้หายไปไหน หากใครหน้าไหนมันจะมาขโมยข้อมูลก็เกินความดูแลของเราแล้วล่ะค่ะ
โฟโมสต์
ไม่ได้แระแบบนี้ ต้องรักษาอย่างดี ไม่อยากเสียเงิน...แต่เราว่าไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่นะถ้าบัตรเราไม่ได้ทำหายแต่ถูกขโมยหรือ ถูกคัดลอกบัตรเครดิต ทำไมเราต้องเสียตังค์ทำใหม่ด้วยล่ะ... ธนาคารน่าจะไม่ต้องคิดค่าบัตรเลยนะ เพราะเราไม่ได้ตั้งใจจะทำหายซักหน่อย ไม่ใช่ความผิดของเราเลย คงต้องระวังให้มากขึ้นล่ะ ดีใจที่ได้มาอ่านเจอ...
ปิ่นแก้ว
ข่าวมีมาหลายรายแล้วที่โดนปลอมแปลงเอกสาร เพื่อเอาไปทำบัตรเครดิต แต่เราก้ไม่เข้าใจนะว่าทางธนาคารทำไมไม่ตรวจสอบให้ดีๆก่อนที่จะปล่อยอนุมัติ หรือว่ามันปลอมได้แบบแนบเนียนจนเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบได้เหรอ หรือเพียงแค่ธนาคาร ต้องการทำยอดลูกค้าเท่านั้น แต่ดีแล้วละ ถ้าเราระบุตัวตนเราได้ เราก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร
แก้วสีขาว
ถ้าใครโดนปลอมบัตร แนะนำให้รีบอายัดบัตรให้เร็วที่สุดและไปแจ้งความ ทางธนาคารที่ออกบัตรให้เราเค้าจะมีเอกสารให้เราว่าเราบัตรโดนปลอม ถ้ามีใบแจ้งชำระหนี้บัตรเครดิตมาที่เรา เราไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบชำระหนี้สินนั้น เพราะว่าเรามีหลักฐานและใบแจ้งความเก็บไว้ อาจจะต้องเสียเวลาและเสียเงินค่าทำบัตรใหม่เท่านั้น
กบนา
ขอบัตรเครดิตหายทีหรือว่าโดนขโมยทีทำไมยุ่งยากกว่าเยอะเลยนะผมยังไม่เคยทำบัตรเครดิตหายปกติที่ทำหายบ่อยที่สุดก็คือบัตร ATM ทำหายไป 2 ครั้งแต่ไปขอใหม่ไม่ค่อยยากเท่าไหร่โทรไปที่ Call Center แล้วก็ไปรับบัตรใหม่ที่สาขาของธนาคารใกล้บ้านเลยก็ได้แต่บัตรเครดิตทำหายทีเอกสารยุ่งยากเหมือนหนูไปขอสมัครใหม่เลย ไม่ทำหายดีกว่า
น้ำหนึ่ง
เป็นห่วงกังวลเหมือนกันนะคะในกรณีที่เราถูกขโมยบัตรเครดิตและถูกสวมรอยเอาไปใช้ ถึงแม้ว่าเราจะสามารถแจ้งอายัดหรือหยุดการใช้งานบัตรได้แต่ก็ยอดที่ถูกใช้ไปล่ะคะทำยังไงเราต้องมาคอยใช้คืนหรือเปล่า จริงๆแล้วไม่ต้องกลัวเกี่ยวกับเรื่องนี้นะครับเพราะว่าถ้าลายเซ็นไม่ตรงหรือว่ามีกล้องวงจรปิดที่จับภาพไว้ได้ เราก็สามารถเก็บไว้เป็นหลักฐานให้กับสารดูได้ค่ะเราไม่ต้องใช้หนี้แทน
พัดชา
เอกสารสำคัญแบบนี้ต้องเก็บรักษาให้ดีๆ ยิ่งเกี่ยวกับเรื่องเงินๆทองๆด้วยแล้วยิ่งต้องดูเลย บัตรหายถ้ายังไม่รีบแจ้งอายัด มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแอบนำไปใช้ ถึงแม้ว่าเราจะเซ็นชื่อ หลังบัตรของเราก็ตาม พวกที่ได้ไปไม่กลัวหลอกว่าจะโดนจับได้ เพราะเวลาเอาไปใช้งาน พนักงานที่รับบัตรพวกนี้ไม่ค่อยสนใจหลอกว่าบัตรเป็นของใคร จับรูดอย่างเดียว จริงๆ
Mater
@วายุ อ้าวเราเคยเข้าใจมาตลอดว่าถ้าสมัครบัตรเครดิตแล้วบัตรมีการเปลี่ยนโปรโมชั่นแล้วก็สามารถใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตใบเดิมได้นี้เท่ากับว่าถ้ามีการเปลี่ยนโปรโมชั่นสำคัญสำคัญหรือเงื่อนไขหลักของบัตรเราก็ต้องไปเปลี่ยนบัตรเครดิตใหม่ด้วยหรอคะอย่างนี้น่าจะเสียเวลาแย่เลย ถ้าเรา ไม่สามารถไปเปลี่ยนบัตรเครดิตได้แบบไปเปลี่ยนตัวบัตรที่ธนาคารได้มีวิธีอื่นอีกไหมคะเพราะส่วนตัวไม่อยากไปธนาคารเลย
แพรว
ถ้าเป็นในกรณีของเรา น่าจะเป็นการอายัติบัตรทอย่างเดียวเลยคะ ทำค่อนข้างที่จะบ่ิยมากๆเลยคะไอ้เจ้าบัตรเครดิตเนี๊ยะ แต่ ไม่ได้กายไปไหนหลอกนะคะ ส่วนใหญ่เอาออกมาใช้แล้วลืมคะว่าเอาไปเก็บไว้ที่ไหน อย่างครั้งก่อนก็ทำมาใหม่ เพราะหาของเก่าไม่เจอ ผลสุดท้ายได้บัตรใหม่มาก็เจอของเก่าคะ ใส่ไว้ที่รถยนต์ของสามีคะ คงเติมน้ำมันแล้วลืม
ARM
@แพรว ผมก็เหมือนกันครับ ที่เคยทำส่วนมากก็คืออายัดบัตร บางครั้งบัตรมีปัญหารูดไม่ได้ หรือไม่ก็ทำหายหาไม่เจอ ก็จะมีไม่กี่สาเหตุนี่แหละครับที่ผมเป็นบ่อย พอเอาบัตรไปให้ธนาคารดูก็ไม่ได้เป็นอะไรมากสักพักก็ใช้ได้ แต่พอเกิดปัญหาอะไรก็จะโทรไปอายัดก่อนเพื่อความปลอดภัย ก็เลยเปลี่ยนบัตรใหม่นี้ยังไม่เคยครับ ถ้าเป็นบัตรเดบิตเคยเปลี่ยนใหม่เหมือนกัน