บัตรเครดิตเป็นหนึ่งในสิ่งที่หลายคนขาดไม่ได้ในยุคนี้เพราะช่วยอำนวยความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอยคือสินค้าและบริการทั้งหลายได้แบบสะดวกสบายแถมยังมีสิทธิพิเศษมากมายที่ได้จากบัตรเครดิต แต่บัตรเครดิตไม่ได้มีแค่ข้อดี เพราะดอกเบี้ยบัตรเครดิตอยู่ในอัตราที่ส่งมาทำให้เราอาจเป็นหนี้มหาศาลถ้าหากไม่มีความรู้ความเข้าใจและจัดการให้ดีวันนี้เราจะพามาดูกันว่า การคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิตคิดยังไง ตามไปดูกัน

รู้จัก ดอกเบี้ยบัตรเครดิต

https://img.moneyduck.com/article_attachment/1667962764-graph-stack-coins-calculator-house-model-blueprint.jpg

ดอกเบี้ยบัตรเครดิตคือดอกเบี้ยที่จะถูกเรียกเก็บเมื่อผู้ใช้งานบัตรเครดิต ชำระหนี้ค่าสินค้าหรือบริการไม่เต็มจำนวนหรือล่าช้า หรือจ่ายขั้นต่ำซึ่งดอกเบี้ยทั่วไปจะอยู่ตั้งแต่ 16-20% เลยทีเดียว

ประเภทของ ดอกเบี้ยบัตรเครดิต

การคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิตจะคิดจาก 2 ส่วนนั้นก็คือ

  1. ยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมด คือยอดตั้งแต่วันที่เริ่มใช้ไปจนถึงวันที่สรุปยอดค่าใช้จ่ายในแต่ละงวด
  2. ยอดค้างชำระ คือยอดยอดตั้งแต่วันที่ชำระขั้นต่ำไปจนถึงวันสรุปยอดเดือนถัดไป

การคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิต คิดยังไง

ตัวอย่าง

วันที่ 1 ม.ค. นายเอ รูดบัตรเครดิตซื้อมือถือ ราคา 15,000 บาท ทางธนาคารจะทำการสรุปยอดค่าใช้จ่ายทุก ๆ วันที่ 25 ของเดือน และกำหนดวันชำระคืนทุก วันที่ 10 ของเดือนถัดไป โดยคิดดอกเบี้ย 20% ต่อปี เมื่อถึงกำหนดชำระ นายเอ เลือกขั้นต่ำ 10% คือ 1,500 บาท ในรอบบิลถัดไปวันที่ 25 ก.พ. จะคิดดอกเบี้ย ดังนี้

  1. ยอดรวม 15,000 บาท x 20% x 25 วัน / 365 = 205.47 บาท (1 ม.ค. – 25 ก.พ.)
  2. ยอดคงค้าง 9,000 บาท x 20% x 16 วัน / 365 = 118.35 บาท (10 ก.พ. – 25 มี.ค.)

ฉะนั้นในรอบบิลเดือนก.พ. นายเอ จะมียอดชำระ 13,823.82 บาท เมื่อถึงรอบบิลวันที่ 10 มี.ค. นายเอ ต้องการจะปิดยอดบัตรเครดิตนี้จะต้องชำระคืนในจำนวน 13,823.82 บาท

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วิธีคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิต ที่ถูกต้องคิดยังไง ที่นี่

3 รูปแบบ ที่ทำให้ดอกเบี้ยบัตรเครดิตบาน

  1. จ่ายเต็มจำนวน แต่จ่ายล่าช้า

เมื่อจ่ายเต็มจำนวนแต่จ่ายล่าช้าจากวันกำหนดนัดชำระหนี้แต่ถูกคิดดอกเบี้ยแบบ 2 ต่อตอนแรกก็คือดอกเบี้ยจากยอดทั้งหมดตั้งแต่วันที่ใช้บัตรและหลายสถาบันมีค่าติดตามเร่งรัดหนี้สินซึ่งอาจจะส่งผลต่อประวัติการชำระหนี้ด้วยซึ่งโดยทั่วไปแต่เฉลี่ยอยู่ที่ 100 บาทต่อบัญชี

คำนวณ : ยอดที่ต้องชำระ x อัตราดอกเบี้ย x จำนวนวันต่อรอบ / 365

  1. จ่ายตรงเวลา แต่จ่ายไม่เต็มจำนวน

จ่ายแค่ขั้นต่ำที่ 10% ของยอดหนี้ หรือ จ่ายน้อยกว่านั้น จะต้องโดนคิดดอกเบี้ยของยอดทั้งหมดตั้งแต่วันที่ใช้บัตร + ดอกเบี้ยของยอดที่ยังไม่ได้ชำระ หรือยอดคงค้าง และหลายสถาบันมีค่าติดตามเร่งรัดหนี้สินซึ่งอาจจะส่งผลต่อประวัติการชำระหนี้ด้วยซึ่งโดยทั่วไปแต่เฉลี่ยอยู่ที่ 100 บาทต่อบัญชี

คำนวณ : ยอดคงค้าง x อัตราดอกเบี้ย x จำนวนวันจากวันที่จ่ายขั้นต่ำ ถึงวันสรุปยอดบัญชีครั้งถัดไป / 365

https://img.moneyduck.com/article_attachment/1667962778-mortgage-house-loan-website-login-graphic-concept.jpg

สุดท้ายหากไม่จ่ายดอกเบี้ยก็จะคิดแบบข้อ 1 และข้อ 2 ทวีคูณขึ้นไปและลูกเรื่อยๆรวมทั้งยังมีค่าทวงถามนี้จากสถาบันการเงินและหากไม่ชำระหนี้บัตรเครดิตไปแล้วเวลานานๆอาจจะมีผลต่อประวัติการชำระหนี้ทำให้ยากต่อการทำธุรกรรมด้านการเงินต่อต่อไปในอนาคต

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 3 เรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยผ่อนบัตรเครดิต ที่นี่

หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้หลายคนคงพอจะทราบการคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิตกันแล้วสิ่งที่อยากจะบอกก็คือทุกครั้งที่รูดไปเท่าไหร่ก็ต้องจ่ายคืนเท่านั้นก็จะเป็นระยะปลอดดอกเบี้ยและไม่ต้องเสียประวัติการชำระหนี้บัตรเครดิตถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งที่อำนวยสะดวกให้ความคุ้มค่ากับการใช้จ่ายแต่ถ้าหากไม่สามารถจัดการชำระหนี้ได้ก็จะนับว่าเป็นตัวสร้างหนี้มหาศาลให้เราเลยทีเดียว หากใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามผู้เชี่ยวชาญจาก MoneyDuck ได้ฟรี ที่ลิงก์ด้านล่าง