เชื่อว่าหลายคนคงเคยอ่านตามกระทู้ หรือสื่อโซเชียลต่าง ๆ เกี่ยวกับการลงทุนหุ้นว่าลงทุนหุ้นดีไหม ? คนที่ได้กำไรเขาทำอย่างไร แล้วมีใครเคยสูญเสียเงินจากการลงทุนไหมซึ่งจริง ๆ ต่างก็รู้กันดีว่าการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง แต่จะอยู่เฉย ๆ รอให้เงินที่มีงอกเงยเองคงเป็นไปไม่ได้ แต่จะดีกว่ามาไหมถ้ามาเริ่มทำการศึกษา หาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องหุ้นเพื่อให้เข้าใจก่อนลงทุนที่ในอนาคตอาจเพิ่มเงินในกระเป๋าของคุณได้อีกช่องทาง
หุ้น คืออะไร
หุ้น หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Stock คือสิ่งที่แสดงว่าความเป็นเจ้าของกิจการหนึ่ง ๆ ที่เราเข้าไปซื้อขายผ่านโบรกเกอร์ที่ให้บริการได้ง่าย ๆ โดยทั่วไปผู้คนมักคาดหวังกำไรจาก 2 ทาง ได้แก่ เงินปันผล (Dividend) และ ส่วนต่างราคา (Capital Gain) ของหุ้นนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม หุ้น คืออะไร ที่นี่
เทียบชัดการลงทุนเล่นหุ้นดีไหม?
ต่อมาจะให้คุณเห็นภาพเรื่องหุ้นมากขึ้นจากการเทียบความแตกต่างระหว่างข้อดีและข้อเสียข้อหุ้น ดังนี้
ข้อดี
- มีโอกาสที่ได้รับผลตอบแทนมากกว่ากลุ่มการลงทุนอื่น ๆ เช่น ดอกเบี้ยจากธนาคาร พันธบัตร หุ้นรวม หรือกองทุนต่าง ๆ
- เปิดบัญชีได้ง่าย ไม่เสียค่าใช้จ่าย เทรดได้ทันทีจากโบรกเกอร์ที่ได้รับการรับรองจากกลต.
- ปัจจุบันมีช่องทางออนไลน์ให้ใช้งานง่ายเหมาะกับไลฟ์สไตล์ลงุมนปัจจุบัน
- เริ่มลงทุนได้ง่าย ไม่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก
- หุ้นสามารถนำไปใช้ในการค่ำประกันเพื่อกู้ยืมไปใช้ประโยชน์อื่น ๆ ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีการขายหุ้นออกมา
ข้อเสีย
- ความเสี่ยงจากการผันผวนของราคาหุ้นที่อาจมีการขึ้นลงรุนแรงจนอาจสูญเสียเงินต้นจำนวนมากได้
- การลงทุนต้องใช้เวลาในการศึกษาและต้องคอยติดตามอัพเดตข่าวสารต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอเนื่องจากปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาหุ้นนั้นมีหลายปัจจัยรวมถึงปัจจัยภายนอก อาทิ การเมือง สงคราม เป็นต้น
- ผู้ถือหุ้นมีสิทธิ์น้อยกว่าเจ้าหนี้ซึ่งหากบริษัทมีหนี้สินที่ต้องชำระบริษัทจะจ่ายเงินชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ก่อนผู้ถือหุ้น
5 Step พื้นฐานการเล่นหุ้นที่มือใหม่ควรรู้
https://img.moneyduck.com/article_attachment/1672892291-Untitled%20%283%29.png
ทราบเบื้องต้นเกี่ยวกับการเล่นหุ้นกันไปแล้ว ต่อมาจะเป็น 5 ขั้นตอนพื้นฐานเอาใจมือใหม่ที่ควรรู้
-
เลือกพอร์ตที่ใช่
สำหรับใครที่สนใจจะเล่นหุ้นอันดับแรกก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการเลืกพอร์ตหุ้นและโบรกเกอร์ว่าเจ้าไหนซึ่งสิ่งที่ควรพิจารณาเพื่อเปรียบเทียบแต่ละเจ้า คือ ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายหุ้นที่จะอยู่ที่ราว 0.075-0.15% สำหรับช่องทางออนไลน์ แต่ถ้ามีผู้ดูแลจะมีค่าธรรมเนียมสูงกว่าประมาณ 0.18-0.25% และต้องไม่ลืมตรวจสอบว่าค่าธรรมเนียมขั้นต่ำเท่าไร่ ? รวมถึงควรอ่านบทวิเคราะห์ต่าง ๆ ก่อนลงทุน
-
ทดลองเล่นก่อนลงทุนจริง
เมื่อรู้จักพอร์ตแล้ว ลองเปรียบเทียบโบรกเกอร์ที่ชอบได้แล้วก็อยากให้ทดลองเล่นก่อนซึ่งในระบบเทรดจะมีระบบทดลองเล่นเพื่อให้ผู้เล่นได้เข้าใจระบบและรู้จักเกี่ยวกับหุ้นมากขึ้น
-
รู้จักศัพท์หุ้น
เมื่อเข้าไปเล่นระบบทดลองเล่นก็จะมีศัพท์หุ้นที่ให้รู้จักมากมาย อาทิ Ceiling / Floor ราคาเสนอซื้อและเสนอขายสูงสุุดต่ำสุด, Bid ราคาเสนอซื้อ, Offer ราคาเสนอขาย, Broker นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์, Yield: อัตราผลตอบแทน, Circuit Breaker การหยุดซื้อขายเป็นการชั่วคราว, IPO กิจการที่เข้าจดทะเบียนเพื่อซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น
-
ลงเล่นจริงและตั้ง Cut-Loss ให้เป็น
ต่อมาก็ถึงเวลาลงสนามจริงและไม่ว่าจะเลือกลงทุนหุ้นตัวไหนสิ่งที่ควรตั้งไว้เสมอคือจุด Stop Loss ของหุ้นแต่ละตัวเพื่อไม่ให้เราไหลและสูญเสียเงินมากเกินไป เช่น อาจจะตั้งไว้ที่ 10% 15% หรือ 20% ทั้งหมดนี้ต้องขึ้นอยู่ว่าเรารับความเสี่ยงของหุ้นแต่ละตัวในการขาดทุนได้มากน้อยเพียงใด
รวมถึงการทำกำไรเช่นเดียวกันเพราะบางครั้งเราปล่อยให้มันไหลไปเรื่อยเพราะคิดว่าจะขึ้นไปเรื่อย ๆ จนชะล่าใจจากจุดที่ได้กำไรกลายมาเป็นขาดทุน เรื่องหุ้นจึงอาจจะไม่ใช่แค่การวัดดวง
-
รู้จักปรับแผนและติดตามข่าวสาร
พอเห็นภาพการเล่นหุ้นไปจนถึงการ stop loss หรือ cut loss กันไปแล้ว สิ่งเหล่านี้จะเป็นบทเรียนที่ดีว่าทำไมเราเล่นแล้วขาดทุน หลายคนอาจจะมองว่าเราโชคไม่ดีหรือเปล่าซึ่งบางครั้งเราอาจจะเปลี่ยนโชคร้ายเป็นโชคดีก็ได้ ถ้าหากเรานำหุ้นตัวที่ cut loss มาวิเคราะห์ถึงปัจจัย หรือสาเหตุต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อให้เราได้นำไปปรับแผนวิธีการเล่นใหม่ รวมถึงพยายามติดตามอัพเดตหาความรู้ใหม่ ๆ เกี่ยวกับเรื่องหุ้นสม่ำเสมอ
มาถึงคำถามว่า เล่นหุ้นดีไหม ? ถ้าได้อ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบจะพบทั้งข้อดีและข้อเสียของหุ้นมากมายซึ่งในมุมมองของผู้เขียนก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดีในการวางแผนเพื่อลงทุน แต่เงินที่ลงทุนควรเป้นเงินเย็นและเป็นเงินที่เริ่มต้นในปริมาณที่เยอะก่อนเพื่อให้เราได้ทดลองเล่นและเข้าใจลักษณะของหุ้นแต่ละตัวจนสามารถปรับแผนและทำกำไรได้ในที่สุด แต่ทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงซึ่งไม่รับประกันว่าลงทุนแล้วจะได้กำไรทุกครั้ง
ดังนั้น หากอยากลงทุนควรศึกษาและมีความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่มากพอ หรือจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการลงทุนที่ MoneyDuck ก็ได้เช่นเดียวกัน รับรองว่าไม่ทำให้คุณผิดหวัง แถมยังทำให้คุณเข้าใจเรื่องหุ้นและการลงทุนได้ดียิ่งขึ้น
บอกเล่าความคิดเห็นและสิ่งที่คุณรู้ที่นี่