เคยได้ยินหรือไม่ว่ายิ่งอายุน้อยก็ยิ่งมีความเสี่ยงน้อย สามารถลงทุนได้มากกว่าคนที่มีอายุเยอะและความเสี่ยงเยอะ ดังนั้นหากคุณต้องการคิดจะทำอะไรขึ้นมาสักอย่างเพื่อเป็นช่องทางทำมาหากิน การเริ่มต้นตั้งแต่อายุยังน้อยก็จะสามารถสร้างความได้เปรียบให้กับเราได้เป็นอย่างดี ดังนั้นวัยรุ่นในยุคปัจจุบันจึงหันมาให้ความสนใจในการสร้างธุรกิจเป็นของตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะการสร้างแบรนด์ตัวเองขึ้นมาเพื่อขายอะไรสักอย่าง

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วิธีสร้างแบรนด์ธุรกิจให้เติบโต สำหรับเจ้าของธุรกิจมือใหม่ ที่นี่

เปิดขั้นตอนและเทคนิคการสร้างแบรนด์ตัวเองอย่างไรให้ปัง

https://img.moneyduck.com/article_attachment/1675920866-team-business-people-stacking-hands.jpg

แน่นอนว่าการลงทุนทำธุรกิจนั้นเต็มไปด้วยความเสี่ยงแถมยังต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล ดังนั้นก่อนที่เราจะลงทุนทำอะไรเราจึงควรที่จะศึกษาให้ดี หากเราสามารถทำได้มันก็จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรามีความมั่งคั่งทางการเงินมากขึ้นกว่าเดิม แต่ในทางกลับกันหากเราไม่มีการศึกษาค้นคว้าให้ดีก่อนแล้วลงตลาดเลย มันก็มีโอกาสสูงเช่นเดียวกันที่จะไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังสนใจที่จะสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง วันนี้เราจะพาทุกคนมาดูขั้นตอนและเทคนิคกัน

เลือกสินค้า

การทำธุรกิจคือการขายอะไรสักอย่างไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการก็ตาม แต่ในปัจจุบันหากพูดถึงการทำธุรกิจหลายคนก็คงจะนึกถึงการขายสินค้ามากกว่าบริการ เนื่องจากเป็นการขายที่ค่อนข้างง่าย ไม่ต้องมีหน้าร้าน เปิดร้านบนอินเทอร์เน็ตก็ยังสามารถทำได้ แต่ก่อนที่เราจะขายสินค้าเราต้องดูตัวเองก่อนว่าเราต้องการที่จะทำอะไร เรามีความถนัดในด้านไหน หรือเรามีองค์ประกอบอื่นที่จะช่วยส่งเสริมในการสร้างแบรนด์ตัวเองอย่างไร

อย่างเช่นหากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการแต่งหน้าและพอจะมีชื่อเสียงบนโลกอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับการดูแลตัวเองอยู่บ้างการผลิตเครื่องสำอางก็นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ หรือหากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารการลองหาสินค้าประเภทอาหารมาขายก็จะช่วยให้คุณรู้สึกมีความสุขที่ได้ทำมัน แต่อย่างไรก็ตามการเลือกขายสินค้านั้นไม่ได้เลือกสินค้าแบบที่เราต้องการจะซื้อแต่อย่างใดแต่เราต้องดูว่าเราขายให้ใครและมันเป็นสินค้าที่คนเหล่านั้นต้องการจะซื้อมากน้อยแค่ไหนจึงจะประสบความสำเร็จ

ศึกษาตลาด

เป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากแต่หลายคนมักข้ามขั้นตอนนี้ไปเนื่องจากเป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างยุ่งยากและไม่สามารถหาคำตอบได้อย่างชัดเจนในช่วงเริ่มต้น ก่อนที่เราจะขายอะไรก็ตามเราต้องตอบคำถามให้ได้ว่าใครจะมาซื้อสินค้าของเรา เราควรกำหนดก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายที่จะเข้ามาซื้อของของเรานั้นเป็นใคร

อย่างเช่นเรามีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มเด็กมหาลัย อายุประมาณ 18 ถึง 22 ปี เน้นกลุ่มลูกค้าผู้หญิงเป็นหลัก เราก็ต้องไปศึกษาว่ากลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้ชื่นชอบอะไร หากเราขายสินค้าเกี่ยวกับประเภทเครื่องสำอางเราก็ต้องลงลึกอีกว่าอะไรที่กลุ่มเป้าหมายของเราชื่นชอบ ราคาที่ตั้งควรจะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่าย ยังไม่รวมไปถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายของเราอีกต่างหาก

นอกจากจะตั้งกลุ่มเป้าหมายแล้วเรายังต้องศึกษาตลาดอีกด้วยว่าตอนนี้สินค้าแบบที่เราต้องการจะขายนั้นมีทิศทางการตลาดเป็นอย่างไร กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลง ทำการศึกษาคู่แข่งที่มีการผลิตสินค้าในลักษณะใกล้เคียงกันหรือมีกลุ่มเป้าหมายเดียวกันเพื่อดูว่าพวกเขาใช้กลยุทธ์อย่างไรในการดึงดูดลูกค้าก็จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จมากขึ้นได้

สร้างเอกลักษณ์

การที่ลูกค้าจะมาเลือกซื้อสินค้าของเรานั้นบางครั้งมันก็ไม่ได้อยู่ที่คุณภาพเพียงแค่อย่างเดียว แต่มันขึ้นอยู่กับว่าสินค้าของเรามีเอกลักษณ์ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถจดจำได้มากน้อยแค่ไหน ยิ่งเป็นสินค้าประเภทเครื่องสำอางยิ่งเป็นสินค้าที่สร้างเอกลักษณ์ให้เกิดขึ้นได้ยาก เนื่องจากมีผู้หันมาสร้างแบรนด์เครื่องสำอางเป็นจำนวนมากและการออกแบบ รวมไปถึงสูตรส่วนผสมก็ยังใกล้เคียงกันอีกต่างหาก มันจึงเป็นโจทย์ที่ค่อนข้างท้าทายสำหรับเจ้าของแบรนด์

เราต้องเริ่มต้นการสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ของตัวเองตั้งแต่สินค้า บรรจุภัณฑ์ วิธีการทำการตลาด โดยเทคนิคที่คนมักจะเลือกใช้ในการสร้างเอกลักษณ์และความจดจำให้กับลูกค้าที่เห็นอยู่บ่อยครั้งก็คือการจ้างพรีเซ็นเตอร์หรือเหล่า Influencers มารีวิวสินค้าเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและความน่าจดจำ อย่างเช่นที่ในช่วงก่อนจะมีคนเรียกน้ำหอมแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งว่าเป็นน้ำหอมของดาราคนนั้นคนนี้เป็นต้น

ใส่ใจเทคนิคการตลาด

บนโลกใบนี้มีสินค้ามากมายที่วางจำหน่ายให้เราได้เลือกใช้ แต่เคยสังเกตหรือไม่ว่าหากเราใช้อะไรเราก็มักจะใช้สิ่งนั้นอยู่เป็นประจำมาโดยตลอดมันเป็นสิ่งที่เรียกว่า Brand Royalty ซึ่งการจะสร้าง Brand Royalty ได้นั้นจะต้องมีคุณภาพสินค้าที่ดีทำให้ลูกค้าอยากกลับมาซื้อซ้ำและอีกหนึ่งวิธีการก็คือการทำให้ลูกค้าเห็นผลิตภัณฑ์ของเราบ่อยๆ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ โดยทั้งหมดทั้งมวลนั้นจะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคการตลาด

ในปัจจุบันมีช่องทางการขายมากมายและมันก็ช่วยให้เทคนิคการตลาดสามารถยืดหยุ่นได้มากขึ้นกว่าเดิม อย่างเช่นหากกลุ่มลูกค้าของเรานั้นเป็นเด็กที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่การขายช่องทางออนไลน์ก็น่าจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเด็กมหาวิทยาลัยนั้นต้องเรียนหลักและไม่ค่อยมีเวลาออกไปซื้อของข้างนอก เช่นเดียวกับการประชาสัมพันธ์สินค้าที่เราอาจจะไม่ต้องถึงขั้นไปออกโฆษณาทีวีแต่จ้าง Influencers มหาวิทยาลัยมารีวิวหรือขายสินค้าก็ช่วยเรียกความสนใจให้กับเหล่ากลุ่มลูกค้าของเราได้แล้ว

ต้องยอมรับว่าการสร้างแบรนด์ตัวเองในทุกวันนี้เป็นเรื่องที่ประสบความสำเร็จได้ยากมากขึ้นกว่าเดิม เพราะอินเตอร์เน็ตช่วยให้เราสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น ซึ่งหมายความว่าคู่แข่งทางการตลาดก็จะเพิ่มขึ้นด้วย แต่หากเรามีการวางแผนให้ดีทั้งในแง่ของสินค้า การตลาด และการเงิน มันก็จะกลายมาเป็นอาชีพที่สร้างความมั่งคั่งให้กับเราได้แบบไม่รู้จบ

หากใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามผู้เชี่ยวชาญจาก Moneyduck ได้ฟรี ที่ลิงก์ด้านล่าง