เมื่อสถานการณ์ในปัจจุบันค่อนข้างมีความผันผวนส่วนหนึ่งก็มาจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีที่เข้ามามีส่วน Disruption ซึ่งไม่เพียงส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน แต่ยังส่งผลต่ออำนาจการตัดสินใจของผู้คนที่เพิ่มขึ้นทำให้เริ่มหันมามองหาความยั่งยืนผ่านเทรนด์การลงทุนด้วยความต้องการที่จะบริหารความเสี่ยงต่ำ แต่เน้นให้ผลระยะยาวซึ่งเราจะนำคุณผู้อ่านไปร่วมค้นหาทางเลือกในการลงทุน ความเสี่ยงต่ำ อะไรดีในปี 2023 ที่จะช่วยลดความเสี่ยง สร้างความคุ้มค่าอย่างมั่งคั่งและยั่งยืน

4 ข้อควรรู้ก่อนการลงทุน

4 ข้อควรรู้ก่อนการลงทุน

สำหรับผู้ที่ไม่เคยลงทุนมาก่อน หรือผู้ที่เริ่มลงทุนแต่ยังมีความเข้าใจในตลาดการลงทุนได้ไม่มากนัก เราขอแนะนำให้ทำการทบทวนตนเองผ่าน 4 ข้อดังต่อไปนี้เพื่อประเมินความเหมาะสมให้ลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในการลงทุน

1. รู้จักตนเอง

ก่อนจะรู้เรื่องอื่น สิ่งที่ควรรู้คือเรื่องตนเอง โดยคุณจะต้องทำการประเมินความเสี่ยงในการลงทุนของตนเองก่อนเพื่อที่จะทราบถึงระดับความเสี่ยงของตนเองที่สามารถแบกรับได้ตามความเหมาะสมโดยควรตอบคำถามการประเมินตามความจริงเพื่อที่จะทราบถึงประเภทการลงทุนที่เหมาะกับตนเอง เช่น หากแบกรับความเสี่ยงได้สูงมากสามารถสูญเสียเงินได้มากกว่า 10 -25% ในการลงทุนก็เหมาะกับการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ หรือตราสารหนี้ต่าง ๆ เป็นต้น

2. รู้จักนโยบายการลงทุน

ต่อมาเมื่อทราบความเหมาะสมของประเภทในกการลงทุนที่เหมาะกับตนเองก็จะต้องมาคัดเลือกสิ่งที่สนใจว่ามีนโยบาย หรือเงื่อนไขอย่างไรเหมาะสมกับเราหรือไม่ เช่น หากสนใจหุ้นกู้ที่ให้ดอกเบี้ย 6% ต่อปีแต่ต้องถือไม่น้อยกว่า 5 ปีถึงจะถอนหุ้นได้ อันนี้อาจจะต้องพิจารณาถึงเงินที่นำไปลงทุนว่าหากนำไปลงทุนแล้วในช่วงระยะเวลา 5 ปีจะไม่มีผลกระทบต่อด้านการเงิน หรือไม่จำเป็นต้องรีบใช้เพราะมีเงินสำรองไว้หมุนเวียน

3. รู้จักวิธีซื้อขาย

เป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้เพราะเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนเริ่มการลงทุนที่ลงทุนไปแล้วมีวิธีการซื้อขายอย่างไร เช่น หากสนใจเทรดหุ้นบนกระดาน ก็จะมีการเริ่มต้นสมัครบัญชีที่อาจจะทำได้ด้วยตนเอง หรือติดต่อผ่านโบรกเกอร์ในการซื้อขาย รวมถึงวิธีการขายและเงื่อนไขการโอนเงินว่าหากขายหุ้นไปแล้วจะได้รับเงินภายในกี่วัน โดนหักภาษีไปกี่เปอร์เซ็นต์เพื่อช่วยให้การบริหารจัดการลงทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น

4. รู้จักข้อกฎหมาย

ทิ้งท้ายด้วยเรื่องที่หลายคนมองข้ามที่ทุกครั้งมักจะมีรายละเอียดบันทึกข้อตกลงระหว่างผู้ใช้งานและผู้ให้บริการร่วมกันซึ่งส่วนใหญ่จะตอบตกลงโดยไม่ได้อ่านเนื้อหาให้ละเอียดซึ่งอาจจะส่งผลเมื่อเกิดปัญหาภายหลัง ดังนั้นทุกครั้งก่อนจะตอบตกลง หรือยินยอมเกี่ยวกับการลงทุนใด ๆ ให้ทำการอ่านรายละเอียดหัวข้อต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจลงลายมือชื่อ เพราะเมื่อลงไปแล้วอาจจะเรียกร้องสิทธิ์ประโยชน์บางอย่างที่เรามองข้ามไปตั้งแต่เริ่มต้นไม่ได้

4 วิธีลงทุน ความเสี่ยงต่ำ อะไรดีในปี 2023

https://img.moneyduck.com/article_attachment/1685684761-golden-abacus-with-chinese-rmb-gold-coins-as-background%20%281%29.jpg

ต่อมาก็จะพาคุณผู้อ่านไปรู้จักกับ 4 ทางเลือกในการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำให้เหมาะกับการบริหารจัดการการเงินในยุคที่ตลาดผันผวนให้มีประสิทธิภาพอย่างมั่งคั่งและยั่งยืน

1. กองทุนตราสารหนี้

จะเป็นกองทุนตราสารหนี้ในรูปแบบต่าง ๆ ที่อาจจะออกโดยรัฐ หรือเอกชนซึ่งมีระดับความเสี่ยงต่ำในการลงทุนที่มักมาพร้อมดอกเบี้ยที่ให้ผลตอบแทนชัดเจนและสูงกว่าเงินฝากประจำ โดยมาพร้อมจุดเด่นที่ช่วยสร้างความมั่นคง บอกระดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ ต่าง ๆ ที่ทางกองทุนได้ทำการตรวจสอบตามการดำเนินในการลงทุนจึงเหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก

2. พันธบัตรรัฐบาล

ซึ่งจัดเป็นตราสารหรนี้ที่ออกด้วยหน่วยงานของรัฐบาลซึ่งผู้ที่จัดซื้อพันธบัตรจะมีฐานะเป็นเจ้าหนี้หน่วยงานของรัฐที่ค่อนข้างมีความเสี่ยงต่ำ ไม่เสี่ยงต่อการสุญเสียเงินต้นโดยจะกำหนดอายุพันธบัตรในการซื้อเป็นจำนวนหน่วยและระยะเวลา เช่น พันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปีอยู่ที่ โดยเฉลี่ยดอกเบี้ยที่จะได้รับประมาณ 0.55% ต่อปีและเราจะตต้องถือให้ครบจนครบอายุการจึงจะสามารถมาถอนพร้อมรับเดี้ยทั้งหมดได้ตามระยะเวลาที่กำหนด

3. กองทุนรวมผสม

จัดเป็นตราสารทุน หรือหุ้นต่าง ๆ ที่มีความเสี่ยงสูงกว่าตราสารหนี้ซึ่งเพิ่มโอกาสในการรับค่าตอบแทนมากขึ้น ที่นักลงทุนหลายท่านที่เล่นหุ้น หรืออนุพันธ์ต่าง ๆ มักจะนำเงินบางส่วนมากระจายความเสี่ยงไปกับกงอทุนรวมหุ้นที่อาจจะเพิ่มโอกาสและสร้างรายได้ให้แก่ผู้ที่ลงทุน

4. กองทุนรวมตลาดเงิน

จัดเป็นกองทุนที่มีนโยบายเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ที่มีอายุสั้นประมาณ 1-3 ปีที่มักจะให้ผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากประจำโดยจะให้ดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 1.1 % ต่อปีซึ่งค่อนข้างคุ้มค่าต่อการลงทุนในแบบคนงบน้อยและไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยงมาก

ส่องเทรนด์การลงทุนความเสี่ยงต่ำ ปี 2023

ส่องเทรนด์การลงทุนความเสี่ยงต่ำ ปี 2023

ทิ้งท้ายด้วยเทรนด์ที่เหมาะต่อการลงทุนในปี 2023 สำหรับคนที่เน้นการการลงทุนแบบความเสี่ยงต่ำ แต่ยังได้ผลตอบทนสูงกว่าเงินฝากที่อยากแนะนำว่าควรมีไว้ติดตัว

1. ตราสารหนี้ระยะสั้น

เนื่องจากตลาดมีความผันผวนค่อนข้างสูงและไม่แน่นอน การลงทุนระยะสั้นจึงอาจจะเพิ่มโอกาสและลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียเงินได้ดีกว่า

2. กองทุนรวมผสม

จะเหมาะกับคนที่แบกรับความเสี่ยงได้เพิ่มขึ้น แต่ไม่สูงมากซึ่งอาจเป็นอีกทางหนึ่งในการกระจายการลงทุนให้เหมาะสม หรือปรับพอร์ตให้เหมาะกับทุกสภาวะของตลาดการลงทุน

3. ธุรกิจ Healthcare หรือ Eco

ส่วนใครที่เน้นถือระยะยาว ไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยงมากนัก หรือไม่อยากติดตามข่าวสารต่าง ๆ มากมาย การเลือกลงทุนในกลุ่มธุรกิจสุขภาพ เสริมความสวยความและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอาจจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่ดีเพราะคนส่วนใหญ่ต่างมุ่งเน้นให้คนมีสุขภาพดีเพิ่มขึ้นและองค์กรเองก็ต้องการให้ธุรกิจก็เติบโตอย่างยั่งยืน

คงจะพอตอบได้แล้วว่า “ลงทุน ความเสี่ยงต่ำ อะไรดี” ในปี 2023 ก็คงหนีไม่พ้นกลุ่มการลงทุนที่มีระดับความเสี่ยงน้อยซึ่งได้แก่ กองทุนตราสารหนี้ พันธบัตรรัฐบาล กองทุนผสมและกองทุนรวมตลาดเงิน ที่อาจจะให้ผลตอบแทนไม่สูงเท่ากลุ่มหุ้น แต่ก็ได้มากกว่าการฝากเงินประจำที่ลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียเงินต้นจำนวนมาก แต่ทั้งนี้แม้จะมีความเสี่ยงน้อย แต่ทุกการลงทุนก็ย่อมมีความเสี่ยงจึงควรทำการประเมินตนเองก่อนว่าเหมาะกับการลงทุนแบบไหน รวมถึงนโยบาย หรือเงื่อนไขการลงทุนที่เราสนใจ รวมถึงวิธีการื้อขายและข้อกฎหมายที่เราควรรู้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการลงทุน

โดยถ้าหากไม่มั่นใจ ยังมีความรู้ความเข้าใจไม่ดีพอ หรือความประสบการณ์ก็สามารถทักเข้ามาขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางการเงินที่ MoneyDuck Thailand ได้แบบฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย! ที่จะพาคุณไปถึงเป้าหมายทางการเงิน