เมื่อธุรกรรมทางการเงินไม่ได้จำกัดเพียงแค่ออฟไลน์และการใช้เงินสดในปัจจุบันก็พบว่ามีแนวโน้มต่ำลงเนื่องจากสามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ง่าย สะดวกมากขึ้นซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ การเลือกใช้บัตรเดบิต ที่จะพาคุณผู้อ่านไปทำความเข้าใจว่าบัตรเดบิตคืออะไร พร้อมข้อดี และเทียบ 10 ค่าธรรมเนียม บัตรเดบิต 2023 แต่ละธนาคารให้ถือบัตรไว้ใช้กันแบบคุ้มค่า
บัตรเดบิต คืออะไร
บัตรเดบิต หรือ Debit Card จะเป็นบัตรที่ธนาคารออกให้ผู้ใช้งานบัตรซึ่งมักจะผูกไว้กับบัญชีเงินฝากที่สามารถนำไปใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ผ่าน ตู้เอทีเอ็ม (ATM) หรือระบบอิเลกทรอนิกส์ (Electronic) โดยมักจะนำไปใช้ในวัตถุประสงค์สำหรับการถอน โอน สอบถามยอด หรือชำระค่าสนิค้าและบริการต่าง ๆ โดยไม่ต้องใช้เงินสดซึ่งเหมาะกับยุคปัจจุบันที่ดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน
โดยสิ่งที่ควรสังเกตบัตรจะมีข้อความแสดง “Electronic Use Only” ซึ่งจะมีการอยู่ช่วงบริเวณบน - ล่างบัตร ส่วนอัตราค่าบริการจะไม่จ่ายค่าธรรมเนียมแรกเข้า แต่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายปี ทั้งนี้ จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและข้อกำหนดของแต่ละธนาคาร
ข้อดีของบัตรเดบิต
ต่อมาขอพูดถึง 3 ข้อดีของบัตรเดบิตที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามีประโยชน์มากกว่าที่คิด แถมยังช่วยให้ไม่มีหนี้ ดีต่อใจผู้ใช้งาน
- ไม่ต้องพกเงินสด แน่นอนว่าการมีบัตรเดบิตจะช่วยให้คุณไม่ต้องพกเงินสด แต่สามารถทำธุรกรรมแตะ โอน จ่ายได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะไปขึ้นรถไฟฟ้า ช้อปสินค้า หรือบริการต่าง ๆ ก็สามารถยื่นบัตรเพื่อทำรายการธุรกรรมทางการเงินได้ตลอดเวลา (แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับร้านค้าต่าง ๆ ว่ารับบัตรเดบิตหรือไม่)
- ช่วยจำกัดค่าใช้จ่าย ไม่ให้เราจ่ายเกินตัวเพราะบัตรเดบิตจะให้วงเงินเท่าที่เรามีอยู่ในบัญชีที่ผูกไว้เท่านั้น หากไม่มี ก็คือไม่ต้องจ่ายซึ่งต่างจากบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดที่หากไม่มีก็กดก่อนได้หากยังมีวงเงินในบัตรเหลือซึ่งจะนำไปสู่การสร้างหนี้อนาคต
- ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย เพราะเราสามารถใช้จ่ายได้ตามจำนวนเงินที่เรามี ไม่สามารถขอเงินเพิ่ม หรือกู้เงินมาใช้ก่อนเหมือนบัตรเครดิต หรือบัตรกดเงินสดซึ่งจะต้องผ่อนจ่ายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยซึ่งหากทบไปทบมานาน ๆ อาจจะส่งผลให้เป็นหนี้ซึ่งบางคนมีพฤติกรรมผ่อนจ่ายแบบขั้นต่ำทำให้ดอกเบี้ยทบไปทบมาไม่หมดสักที
เลือกจ่ายค่าธรรมเนียม บัตรเดบิต 2023 เจ้าไหนดี ?
ทิ้งท้ายด้วยทริคที่จะช่วยคุณในการเลือกจ่ายค่าธรรมเนียมสิทธิประโยชน์ของบัตรเดบิตซึ่งควรจะเลือกธนาคารไหน บัตรเดบิตแบบใดที่คุ้มค่าในปี 2023
-
ธนาคารกรุงศรี
- บัตรกรุงศรี เดบิต ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
- บัตรกรุงศรีเดบิต All ATMs 480 บาท/ 3 ปี เฉลี่ยปีละ 160 บาท
- บัตรกรุงศรี เดบิต 100 บาท
-
ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย
- บัตรเดบิตที่ผูกบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ Beat Savings 100 บาท
- บัตรเดบิต ซีไอเอ็มบีไทย 200 บาท
- บัตรเดบิตคู่กับบัญชีไม่มีสมุดคู่ฝาก (e-Saving) 300 บาท
-
ธนาคารซิตี้แบงก์
- บัตรซิตี้แบงก์เดบิต มาสเตอร์การ์ด 300 บาท(ลูกค้าที่มีบัญชีซิตี้โกลด์และซิตี้ ไพรออริตี้ จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปี) |
-
ธนาคารไอซีบีซี ไทย
- บัตรเดบิตวีซ่า (VISA) บัตรทอง 100 บาท
- บัตรเดบิตสองสกุลเงินยูเนี่ยนเพย์- ทีพีเอ็น (บัตรทอง) 100 บาท
-
ธนาคารกสิกรไทย
- บัตรเดบิตกสิกรไทย 200 บาท
- บัตรเดบิตแมงมุม 250 บาท
- บัตรเดบิตประจำจังหวัด 350 บาท
-
ธนาคารกรุงไทย
- บัตรเดบิตกรุงไทย ช้อปสมาร์ท คลาสสิค 200 บาท
- กรุงไทย บัตรเดบิตแมงมุม 150 บาท
-
ธนาคารไทยพาณิชย์
- บัตรเดบิต SCB M 200 บาท
- บัตรเดบิต เอส สมาร์ท 200 บาท
-
ธนาคารทหารไทย
- บัตรเดบิต TMB Superior All Free ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
- บัตรเดบิต ทีเอ็มบี ไลท์ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
-
ธนาคารกรุงเทพ
- บัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท ทีพีเอ็น แรบบิท 300 บาท
- บัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท ทีพีเอ็น ยูเนี่ยนเพย์ 300 บาท
-
ธนาคารออมสิน
- บัตรออมสิน เดบิต เบสิค GSB DEBIT BASIC ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
ทั้ง 10 ค่าธรรมเนียมสิทธิประโยชน์ของบัตรเดบิตของแต่ละธนาคารที่ได้กล่าวถึงข้างต้น จะมีทั้งฟรีค่าธรรเนียมแรกเข้า ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี หรือคิดค่าธรรมเนียมเพียงหลักร้อยต่อปีซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคารและสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับอาจแตกต่างกัน
การเลือกบัตรเดบิตจึงควรเลือกตามเงื่อนไขที่เหมาะสมกับตนเอง หากไม่ได้ใช้บ่อย กดเงินเกินจำนวนครั้งที่กำหนดการใช้บัตรเดบิตฟรีค่าธรรมเนียมอาจเป้นตัวเลือกหนึง่ที่น่าสนใจ แต่สำหรับใครที่อยากได้สิทธิพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติมก็อาจจะต้องจ่ายเพิ่มค่าธรรมเนียมรายปีซึ่งควรจะเปรียบเทียบกับหลาย ๆ ธนาคารเพื่อให้ได้บัตรเดบิตที่ดีที่สุดและเหมาะสำหรับคุณ
หากไม่รู้ว่าจะบัตรเดบิตเลือกอย่างไรดีให้คุ้มค่าสามารถทักเข้ามาขอ**รับคำปรึกษาได้ที่ MoneyDuck **ซึ่งเรามีผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมตอบทุกปัญหาด้านการเงิน ด้านหารลงทุนที่คุณสงสัย
บอกเล่าความคิดเห็นและสิ่งที่คุณรู้ที่นี่