บ้านถือเป็นหลักประกันความมั่นคงในชีวิตของเรา เป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่มีความสำคัญมากๆ เพราะถ้าไม่มี เราก็ไม่มีที่อยู่อาศัย และมันคงไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่ ถ้าเราจะไม่มีพื้นที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง ที่สำคัญมันยังเป็นสินทรัพย์มูลค่าสูง ช่วยให้เราเอาตัวรอดจากช่วงเวลาขาดสภาพคล่องได้อีกด้วย สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่กำลังประสบปัญหาทางการเงิน แต่ว่ามีบ้านเป็นของตัว เราขอแนะนำให้ใช้บริการสินเชื่อบ้านแลกเงินเลย จะมีสินเชื่อบ้านแลกเงิน ธนาคาร ไหน อนุมัติ ง่ายไปดูกัน

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สินเชื่อบ้านแลกเงิน ที่นี่

แนะนำสินเชื่อบ้านแลกเงิน ธนาคาร ไหน อนุมัติ ง่ายม

แนะนำสินเชื่อบ้านแลกเงิน ธนาคาร ไหน อนุมัติ ง่ายม

สภาวะเศรษฐกิจเกิดเคืองแบบนี้ ส่งผลกระทบต่อคนธรรมดาอย่างเราๆ ไม่น้อยเหมือนกัน หลายคนอาจมองว่าตัวเองไม่ได้เป็นพ่อค้าแม่ค้า เศรษฐกิจฝืดเคืองไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับเรา แต่ความจริงแล้วมันส่งผลกระทบเป็นห่วงโซ่ เพราะในยุคนี้ทุกคนต่างทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศกันส่วนใหญ่ บริษัทขายของไม่ได้ พนักงานออฟฟิศก็โดนไปเต็มๆ เหมือนกัน แต่ถ้าทุกคนมีบ้าน ปัญหาเรื่องการเงินก็พอจะมีหนทางแก้ไขได้ เพราะมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินอย่างสินเชื่อบ้านแลกเงินนั่นเอง ก่อนจะไปดูกันว่าสินเชื่อบ้านแลกเงิน ที่ไหนดี เราขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสินเชื่อตัวนี้กันก่อนเลย

ทำความรู้จักกับสินเชื่อบ้านแลกเงิน

สินเชื่อบ้านแลกเงินเป็นสินเชื่ออเนกประสงค์ นั่นก็คือ เราไปขอกู้เงินกับธนาคารโดยใช้หลักทรัพย์อย่างบ้านของเราเป็นตัวค้ำประกัน สามารถใช้ได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ห้องแถว อาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียม ห้องชุด แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือต้องเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภาระหนี้สินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หรือหากพูดให้เข้าใจได้ง่ายก็คือมันเป็นบ้านที่เราไม่ต้องผ่อนธนาคารแล้วนั่นเอง

ความแตกต่างระหว่างสินเชื่อบ้านแลกเงิน และสินเชื่อบ้าน

สินเชื่อเป็นเรื่องที่น่าเวียนหัวสำหรับเพื่อนๆ ที่อาจจะไม่ได้คร่ำหวอดอยู่ในวงการทางการเงิน การจะสับสนระหว่างสินเชื่อบ้านแลกเงิน และสินเชื่อธรรมดาทั่วไปจึงเป็นเรื่องปกติ เราขอเริ่มต้นจากสินเชื่อที่เข้าใจง่ายที่สุดอย่างสินเชื่อบ้านกันก่อน มันเป็นสินเชื่อสำหรับคนที่อยากจะซื้อบ้านเป็นของตัวเอง แต่ว่ามีเงินไม่พอ ไม่ต้องไปขอสินเชื่อเพื่อนเอาเงินจากธนาคารมาจ่ายบ้านนั่นเอง หลังจากที่เราได้บ้านมาแล้ว เราก็ต้องทยอยผ่อนจ่ายหนี้สินให้กับทางธนาคารไปจนกว่าจะครบกำหนดสัญญา พอชำระหนี้สินหมดเรียบร้อยแล้ว บ้านก็จะเป็นของเราโดยสมบูรณ์

ในขณะที่สินเชื่อบ้านแลกเงินเป็นสินเชื่อที่เรามีบ้านเป็นของตัวเองอยู่แล้ว อาจจะเคยขอสินเชื่อบ้านมาก่อน และผ่อนหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันดีคืนดีเกิดปัญหาทางการเงินขึ้นมา อยากมีเงินมาหมุนจ่ายในชีวิตประจำวัน หรือจะเอาเงินไปลงทุนทำธุรกิจ เราก็สามารถใช้บ้านของเราเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อขอเงินจากธนาคารได้นั่นเอง เป็นเงินกู้ที่อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ สามารถผ่อนจ่ายได้ยาวนานถึง 20 ปีโดยประมาณ ดอกเบี้ยเป็นแบบลดต้นลดดอก ยิ่งผ่อนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งหนี้หมดไวเท่านั้น

อัพเดท 5 สินเชื่อบ้านแลกเงิน ธนาคาร ไหน อนุมัติ ง่าย

อัพเดท 5 สินเชื่อบ้านแลกเงิน ธนาคาร ไหน อนุมัติ ง่าย

สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาสินเชื่อบ้านแลกเงินอยู่ แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกธนาคารไหนดี เราได้รวบรวมข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับสินเชื่อตัวนี้ของแต่ละธนาคารมาให้ทุกคนได้พิจารณากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะมีธนาคารไหนบ้าง ไปดูกันเลย

สินเชื่อบ้านเพิ่มเงิน (Happy Home for Cash)

สินเชื่อจากธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮาส์ที่เปิดมาเพื่อให้บริการเรื่องบ้านโดยเฉพาะ มาพร้อมกับโปรโมชันโดดเด่นน่าสนใจ สามารถผ่อนได้ยาวนาน ช่วยลดภาระค่างวดแต่ละเดือนลงได้เยอะ

  • ดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมปีละ 5% ถึง 6.4%
  • วงเงิน ไม่เกิน 80% จากมูลค่าหลักประกัน ขั้นต่ำ 1 ล้านบาทขึ้นไป
  • ระยะเวลาผ่อนชำระ ผ่อนชำระได้ยาวนานสูงสุด 30 ปี รวมระยะเวลาการผ่อนชำระกับอายุของผู้กู้แล้วไม่เกิน 65 ปี

สินเชื่อ GSB บ้านเเลกเงิน

สินเชื่อจากธนาคารออมสินมาพร้อมกับดอกเบี้ยประหยัด เริ่มที่ 4.5% เท่านั้น สามารถเลือกได้ว่าจะทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินหรือไม่ ถ้าทำก็จะได้ดอกเบี้ยที่ประหยัดลงกว่าเดิม แถมยังมาพร้อมกับวงเงินจุกๆ ผ่อนกันไปยาวๆ แบบสบายๆ

  • ดอกเบี้ย กรณีทำประกันชีวิต เริ่มต้นที่ 4.56% เฉลี่ย 3 ปีแรก กรณีไม่ทำประกันชีวิต เริ่มต้นที่ 4.81% เฉลี่ย 3 ปีแรก
  • วงเงิน สูงสุดคนละ 10 ล้านบาท
  • ระยะเวลาผ่อนชำระ ผ่อนชำระยาวนานสูงสุด 30 ปี

สินเชื่ออเนกประสงค์ยูโอบี แคช ทู โฮม

สินเชื่อจากธนาคารยูโอบีที่มาพร้อมกับดอกเบี้ยพิเศษแบบรวมค่าธรรมเนียมแล้ว วงเงินสูงกว่าใครเพื่อน ทำให้สามารถเลือกผ่อนชำระได้อย่างยาวนาน ใครอยากได้เงินเยอะๆ ต้องเจ้านี้เลย

  • ดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยพร้อมค่าธรรมเนียม 5.39% ถึง 6.33%
  • วงเงิน วงเงินเริ่มต้นที่ 50,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท เป็นจำนวนเงินไม่เกิน 80% จากมูลค่าหลักประกัน
  • ระยะเวลาผ่อนชำระ ผ่อนชำระยาวนานสูงสุด 30 ปี

สินเชื่อบ้านกู้เงินด่วน Home Quick Cash

สินเชื่อจากธนาคารเกียรตินาคินภัทรที่มาพร้อมกับดอกเบี้ยสุดพิเศษ มอบวงเงินให้แบบจัดเต็ม สามารถเลือกได้ว่าจะผ่อนชำระยาวนานมากน้อยแค่ไหน

  • ดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยพร้อมค่าธรรมเนียม 5.15% ถึง 6.755%
  • วงเงิน เริ่มต้นที่ 500,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท เป็นจำนวนเงินไม่เกินกว่า 90% จากราคาประเมิน
  • ระยะเวลาผ่อนชำระ ผ่อนชำระยาวนานสูงสุด 20 ปี

สินเชื่อบ้านช่วยได้

สินเชื่อจากธนาคารกสิกรไทย เป็นตัวที่น่าสนใจมากๆ เพราะอัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดอายุสัญญา แถมยังเป็นธรรมดาดอกหนึ่งที่ค่อนข้างถูกอีกต่างหาก ให้วงเงินกู้สูงแบบไม่มีจำกัดจำนวน ขึ้นอยู่กับราคาหลักประกันของเราว่าประเมินออกมาได้เท่าไหร่

  • ดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ย 4.94% ตลอดทั้งอายุสัญญา
  • วงเงิน วงเงินสูงสุดไม่เกิน 90% จากราคาประเมิน
  • ระยะเวลาผ่อนชำระ ผ่อนชำระยาวนานสูงสุด 30 ปี เมื่อรวมกับอายุของผู้กู้แล้วต้องไม่เกินกว่า 70 ปี

รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสินเชื่อบ้านแลกเงิน

รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสินเชื่อบ้านแลกเงิน

ก่อนที่เพื่อนๆ จะตัดสินใจขอสินเชื่อบ้านแลกเงินกับธนาคารใดก็ตาม มีเรื่องที่ทุกคนควรรู้ก่อนตัดสินใจ เพราะนอกจากแค่ดอกเบี้ย วงเงิน และระยะเวลาการผ่อนชำระเท่านั้น แต่มันยังมีสิ่งต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น

โปรโมชัน

แต่ละธนาคารพยายามดึงดูดลูกค้าอย่างเราให้เข้าไปใช้บริการ ดังนั้น แน่นอนว่าพวกเขาย่อมมีโปรโมชันมาล่อความสนใจของเรา ถือว่าเป็นผลประโยชน์ที่ผู้บริโภคอย่างเราจะได้รับ แต่ละธนาคารก็จะมีการออกโปรแตกต่างกันออกไป และยังมีการปรับเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาอีกด้วย มีให้เลือกทั้งแบบทำประกัน และแบบไม่ทำประกัน เงื่อนไข และสิ่งที่เราจะได้รับนั้นเต็มไปหมดจนเพื่อนๆ หลายคนอาจปวดหัว แค่เปรียบเทียบโปรของธนาคารแต่ละตัวยังทำได้ยาก แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ยังแนะนำให้ทุกลองศึกษาโปรโมชันดูให้ดี เพื่อที่เราจะได้เจอกับสินเชื่อที่ตอบโจทย์ความต้องการของเราได้อย่างตรงจุดมากที่สุดนั่นเอง

ค่าใช้จ่าย

การขอสินเชื่อบ้านแลกเงิน ไม่ใช่แค่เราถือเอกสารไปธนาคารแล้วขอสินเชื่อได้เลย แต่ยังมีค่าใช้จ่ายมากมายที่จะตามมาอีกด้วย แต่ละธนาคารก็จะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานแตกต่างกันออกไป แต่หลักๆ แล้วจะมีค่าใช้จ่าย ดังนี้

  • ค่าจดจำนอง เป็นจำนวนเงิน 1% ของวงเงินกู้
  • ค่าอากรแสตมป์ เป็นจำนวนเงิน 0.05% ของวงเงินกู้
  • ค่าประเมินหลักทรัพย์
  • ค่าธรรมเนียมขอสินเชื่อ
  • ค่าประกันอัคคีภัย
  • ค่าประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อ แล้วแต่เงื่อนไข

ขั้นตอน

หลังจากที่เราตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกขอสินเชื่อโปรไหน กับธนาคารใดแล้ว ต่อมาก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการลงมือดำเนินการขอสินเชื่อนั่นเอง ให้เราคำนวนเวลาให้ดี เพราะแต่ละเจ้าก็มีระยะเวลาการอนุมัติที่ช้าเร็วไม่เท่ากัน บางแห่งอาจอนุมัติเร็วใน 1 สัปดาห์ บางแห่งก็อาจนานถึง 2 สัปดาห์เช่นกัน สิ่งสำคัญคือเราต้องเตรียมตัวให้พร้อม โดยเฉพาะเอกสาร เพราะมันจะช่วยให้การดำเนินการของเจ้าหน้าที่รวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม สำหรับขั้นตอนมีดังนี้

  1. การเตรียมเอกสาร เอกสารที่ใช้ในการสมัครสินเชื่อจะประกอบไปด้วยเอกสารสำหรับการยืนยันตัวตน อย่างเช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ หากมี และสำเนาทะเบียนบ้าน เอกสารสำหรับยืนยันรายได้ อย่างเช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน ออกไม่เกิน 1 เดือน หรือรายการเดินบัญชีย้อนหลังตั้งแต่ 3 - 6 เดือน เอกสารสำหรับยืนยันหลักทรัพย์ค้ำประกัน อย่างเช่น รูปถ่ายบ้าน สำเนาโฉนดที่ดิน
  2. ประเมินราคาบ้าน หลังจากที่เจ้าหน้าที่รับเอกสารเราไปพิจารณาแล้ว ก็จะมีการส่งพนักงานลงพื้นที่มาเพื่อประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ หรือบ้านของเรานั่นเอง เพื่อตรวจสอบว่ามีอยู่จริงไหม สภาพเป็นอย่างไร ขนาดใหญ่มากน้อยแค่ไหน
  3. พิจารณา หลังจากเจ้าหน้าที่นำข้อมูลการประเมินราคาบ้านเรากลับไป เอกสารก็จะถูกส่งไปที่ผู้มีอำนาจตัดสินใจว่าจะอนุมัติสินเชื่อให้กับเราไหม เพื่อพิจารณาภาพรวมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น หลักทรัพย์ค้ำประกัน ความสามารถในการผ่อนชำระ ประวัติบนเครดิตบูโร หากทุกอย่างครบถ้วนถูกต้องตามหลักเกณฑ์ เราก็จะได้รับการอนุมัติสินเชื่อภายในประมาณ 1 - 2 สัปดาห์ ธนาคารจะแจ้งว่าเราได้วงเงินได้เท่า เราไม่สามารถขอเพิ่มได้ แต่ขอปรับลดได้ ในกรณีที่เพื่อนๆ อยากได้เงินแค่พอใช้ ไม่อยากเป็นหนี้มาก
  4. จดจำนองและทำสัญญา หลังจากตกลงกันทุกอย่างลงตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย คือการทำสัญญาขอกู้ยืมเงิน จากนั้นก็ไปยังสำนักงานเขตที่ดินเพื่อจดจำนอง เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อัปเดตสินเชื่อบ้าน 2567 ที่นี่

สรุปแล้ว สินเชื่อบ้านแลกเงิน ธนาคาร ไหน อนุมัติ ง่าย ไหนดี คำตอบก็คือธนาคารที่ตอบโจทย์ความต้องการของเราได้นั่นเอง แต่ก็ขึ้นอยู่กับหลักทรัพย์ของเราด้วยเหมือนกัน จะได้วงเงินมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับมูลค่าบ้านของเรา ให้เราพิจารณส่วนของดอกเบี้ย หรือระยะเวลาการผ่อนชำระให้ลงตัวกับสถานะทางการเงินของเรา เพียงเท่านี้ เพื่อนๆ ก็สามารถเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นเงินสดได้แล้ว หากใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามผู้เชี่ยวชาญจาก MoneyDuck ได้ฟรี ที่ลิงก์ด้านล่าง