จากหัวข้อนี้ทำให้ใครหลายคนคงกำลังคิดว่าจะเป็นไปได้จริงหรือ? ขอบอกก่อนเลยนะคะว่าอย่าดูถูกเงินจำนวนน้อยๆที่คุณได้รับเด็ดขาด เพราะการที่คุณจะมีเงินเยอะขึ้นมาได้นั้นก็เริ่มต้นมาจากการเห็นคุณค่าเงินเล็กๆน้อยทั้งนั้น ถ้าเราไม่เห็นค่าเงินเล็กๆน้อยแล้วเราจะมีเงินที่เยอะขึ้นได้อย่างไร? ไม่ว่ารายรับรายเดือนรายปีของคุณทุกคนนั้นจะได้รับมากว่า 10,000 บาท หรือน้อยกว่านี้ก็ตาม คุณสามารถที่จะมีเงินเก็บในหลักล้านได้ มันเป็นไปได้ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป แต่คุณต้องทำตามวิธีที่จำนำมาฝากกันวันนี้ค่ะ ซึ่งตัวผู้เขียนเองนั้นได้ฟังมาจาประสบการณ์ที่น่าสนใจของคนทำงานประจำบางคน ที่เขาสามารถมีเงินเก็บหลักล้านได้ด้วยเงินเดือนเดือนละเพียงแค่ 10,000 บาทเท่านั้น ซึ่งวิธีที่ทำให้เขาเหล่านั้นสามารถทำได้ก็มีดังนี้ค่ะ คือ มีเป้าหมายและการวางแผน/มีวินัยและความอดทน/มีการลงทุนแม้มีความเสี่ยง/แบ่งเงินที่ได้รับเป็นสี่ส่วน เรามาดูรายละเอียดของวิธีการทั้ง 4 วิธีนี้ไปด้วยกันนะคะ

มีเป้าหมายและการวางแผน

มีเป้าหมายและการวางแผน

มีเป้าหมายและการวางแผน

จากการฟังประสบการณ์ของคนที่เขาได้ทำสำเร็จในการมีเงินเก็บหลักล้านด้วยเงินเดือนแค่ 10,000 บาทมานั้น วิธีแรกนี่สำคัญมาก และต้องเป็นสิ่งที่มาก่อนวิธีอื่นๆ คือ ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าเราต้องการจะเก็บเงินไปเพื่ออะไร คำตอบของคำถามนี้นี่แหละที่จะเป็นแรงผลักดันให้คุณสามารถเก็บเงินไปเรื่อยๆได้อย่างต่อเนื่อง เช่น เก็บเงินเพื่อครอบครัว เก็บเงินเพื่ออนาคตที่สบายในวัยเกษียณ เก็บเงินเพื่อค่าใช้จ่ายดูแลสุขภาพเมื่อเจ็บป่วย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ นั่นจะเป็นแรงที่ทำให้คุณทำมันไปด้สำเร็จ ต่อมาเมื่อคุณมีเป้าหมายแล้วก็มาเริ่มวางแผนว่า คุณได้รับเงินต่อเดือนเท่าไหร่? และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นที่ต้องจ่ายออกไปจริงๆมีเท่าไหร่? เมื่อคิเรื่องนี้แล้วก็สามารถแบ่งเงินออกมาได้แล้วเป็นสองส่วน ส่วนที่ต้องจ่าย และ ส่วนที่ต้องเก็บ พยายามเหลือเก็บให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และทำควบคู่ไปกับการประหยัด มีแนวคิดสั้นๆมาฝากดังนี้ค่ะ เมื่อได้รับเงินมาให้เก็บก่อนใช้ อย่าใช้ก่อนเก็บ แนวความคิดแบบนี้จะช่วยได้มากให้คุณการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยหรือซื้อสิ่งไม่จำเป็นออกไป คือคุณจะไม่คิดว่าต้องซื้ออะไร เมื่อไม่คิดอย่างนี้ก็อาจจะทำให้คุณไม่ต้องซื้ออะไรเลยจริงๆก็ได้ เพราะคุณมีสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้อยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องซื้ออะไร แต่บางครั้งที่คุณต้องซื้อของนู่นนี่นั่นก็เป็นเพราะว่ามันเป็นแค่ความต้องการที่คุณคิดขึ้นมาเท่านั้นซึ่งที่จริงแล้วไม่ได้จำเป็นต้องซื้อเลย นี่ก็คือสองเสต็ปแรกที่ทำให้การเริ่มต้นเก็บเงินของคุณเป็นไปได้ดี

มีวินัยและความอดทน

มีวินัยและความอดทน

เมื่อคุณมีเป้าหมายและมีการวางแผนแล้วว่าต้องการเก็บเงินไปเพื่ออะไรและจะเก็บเท่าไหร่ต่อเดือน ยกตัวอย่างเช่นคุณต้องการจะเก็บเงิน 5,000 บาทต่อเดือน เมื่อคุณวางแผนแบบน้แล้วก็ต้องมีวินัยกับตัวเองมากๆ คือในทุกๆเดือนคุณต้องเก็บเงินให้ได้ 5,000 บาท พยายามเก็บไม่ให้น้อยกว่า 5,000 ให้ได้ อย่าพยายามมีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติมเข้ามาเพื่อให้เป้าหมายการเก็บเงินเดือนละ 5,000 บาทของคุณคงที่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ในระยะเวลา 5-10 ปีต่อจากนี้ และการที่จะทำแบบนี้ในระยะเวลายาวนานได้นั้นคุณต้องมีความอดทนอย่างมาก อดทนเพื่อควบคุมการใช้จ่ายโดยควบคุมความต้องการของตัวเองที่อยากได้นู่ได้นี่ อยากินนู่นกินนี่ ต้องอดทนมากๆจริง พยายามใช้ชีวิตให้พอเพียงและประหยัดแต่ก็ไม่ได้ถึงกับประหยัดมากเกินจนคุณขาดความสุขนะคะ บางครั้งคุณก็ต้องใช้จ่ายบางอย่างบางเรื่องบ้างเพื่อตอบแทนการทำงานหนักของตัวเองและเติมความสุขให้กับตัวเองค่ะ

มีการลงทุนแม้มีความเสี่ยง

มีการลงทุนแม้มีความเสี่ยง

เมื่อคุณวางแผนแล้วว่าจะเก็บเงินเดือนละ 5,000 บาท ต่อไปเรื่อยๆในระยะเวลา 5-10 ปี แต่เมื่อคำนวณดูแล้วอาจจะไม่ถึงหลักล้าน แล้วจะให้มันถึงได้อย่างไรหล่ะ? ก็ทำตามหัวข้อนี้ไงคะ คือเอาเงินเก็บบางส่วนมาลงทุนบ้าง แต่การลงทุนต้องมีการศึกษาหาความรู้ให้มากๆก่อนเพื่อคุณจะไม่สูญเสียเงินเก็บที่มีอยู่ อาจจะเริ่มการลงทุนที่ไม่ต้องใช้เงินเยอะก่อน ลงทุนเริ่มต้นน้อยๆก่อน คุณจะสามารถหาข้อมูลและปรึกษาเรื่องเหล่านี้ได้ที่สถาบันการเงินหรือธนาคารต่างๆ เช่นการลงทุนในกองทุนรวม เป็นต้น ซึ่งการลงทุนในกองทุนรวมก็เป็นที่นิยมอย่างมาก และคุณสามารถลงทุนไม่ต้องเยอะก็ได้ แต่ทุกๆการลงทุนก็ย่อมมีความเสี่ยงคุณต้องทำใจยอมรับไว้ด้วยนะคะ ซึ่งการลงเพื่อให้เงินเก็บเติบโตเร็วขึ้นก็หลายช่องทางด้วยกัน เช่น การฝากเงินแบบเงินฝากประจำ การลงทุนในกองทุนรวมประเภทต่าง การเล่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์หรือตลาดอื่นๆ

แบ่งเงินที่ได้รับเป็นสี่ส่วน

Stock Photo - Growing plant step with coins money

Stock Photo - Growing plant step with coins money

เมื่อคุณเริ่มมีการลงทุนในกองทุนรวมแล้ว คุณคงเป็นคนหนึ่งที่มีความร็ด้านการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น คุณอาจเริ่มมองหาการลงทุนอื่นๆเพิ่มขึ้น และมีการจัดสรรเงินของคุณอย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากประสบการณ์ที่ได้รู้มา นอกจากการแบ่งเงินเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเพื่อเก็บ ส่วนหนึ่งเพื่อค่าใช้จ่ายสิ่งจำเป็นแล้ว ก็เริ่มมีการลงทุนเพื่อการเติบโตของเงินเก็บ ก็อาจจะเริ่มมีการแบ่งเงินเป็นสี่ส่วน ดังนี้ เงินส่วนหนึ่งเพื่อฝากประจำ/เงินส่วนหนึ่งเพื่อตราสารหนี้/เงินส่วนหนึ่งเพื่อลงทุนหุ้น/เงินส่วนหนึ่งเพื่อเงินฉุกเฉิน เรามาดูรายละเอียดของเงินส่วนต่างๆสี่ส่วนนี้กันค่ะ

ฝากประจำ

การลงทุนด้วยการฝากเงินแบบ เงินฝากประจำก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เงินเก็บของคุณเติบโตขึ้นมา รวดเร็วกว่าการฝากเนแบบออมทรัพย์ทั่วๆไป เพราะได้ดอกเบี้ยที่สูงกว่าแน่นอนกว่า แต่คุณต้องมีวินัยมากกว่าด้วย เพราะการฝากเงินแบบเงินฝากประจำ คือ การฝากเงินในจำนวนเท่ากันทุกเดือนอย่างต่อเนื่องในระยะเวลาที่ตกลงกันไม่ว่าจะเป็น 6 เดือน 12 เดือน เป็นต้น และไม่สามารถถอนออกมาใช้ได้ วิธีนี้ก็จะช่วยให้การเก็บเงินของคุณราบรื่นดีขึ้นเพราะไม่สามารถถอนออกมาได้ ฝึกความอดทนฝึกวินัยในตัวคุณด้วยนะคะการฝากเงินแบบเงินฝากประจำเนี่ย แต่ก็ต้องมีการหาข้อมูลให้ดีๆก่อนนะคะ เพราะแต่ละธนาคารก็มีข้อตกลงและเงื่อนไขที่แตกต่างกันไปและอัตราดอกเบี้ยก็แตกต่างกันด้วยค่ะ

ตราสารหนี้

ตราสารหนี้ก็คือการลงทุนในกองทุนรวมประเภทหนึ่ง ซึ่งมีความเสี่ยงที่น้อยถึงขั้นต่ำเลยก็ว่าได้ และมักจะมีระยะเวลาที่ไม่มากไม่น้อยเกินไปพอรับได้ คือ ประมาณ 1-2 ปี ตราสารหนี้เป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนสม่ำเสมอแต่ไม่สูงมากแค่ก็มีความปลอดภัยไม่เสี่ยงมากต่อการขาดทุนซึ่งตราสารหนี้ก็มีให้เลือกลงทุนสองแบบ คือ ซื้อมาลงทุนเอง หรือลงทุนในกองทุนรวม แต่ก็ยังมีอีกหลากหลายทางเลือกในการลงทุนตราสารหนี้ค่ะ ยังไงคุณสามารถสอบถามหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเจ้าหน้าที่ธนาคารต่างๆนะคะ

ลงทุนหุ้น

นี่ก็เป็นการลงทุนอีกทางเลือกนึงที่คุณเองก็คงคุ้นหูกันอยู่แล้ว และตลาดหุ้นนี้ก็เป็นสิ่งรกๆที่นักลงทุนมักจะคิดถึง แต่ในฐานะที่คุณไม่ใช่นักลงทุน หรือนักธุรกิจ ก็สามารถลงทุนหุ้นได้เพราะเดี๋ยวนี้มีหลากหลายประเภทให้คุณได้เลือกลงทุน แต่การลงทุนหุ้นนั้นก็จะมีความเสี่ยงที่สูงไม่น้อยเหมือนกัน การเริ่มต้นลงทุนหุ้นคุณก็ต้องขอคำปรึกษาให้ดีจากสถาบันการเงิน ซึ่งส่วนมากนั้นก็จะต้องมีการเปิดบัญชีที่เริ่มต้นด้วยเงิน 20,000 บาท และมีบัญชีหุ้นให้คุณเลือกอยู่ 3 ประเภท คือ บัญชีวางเงินล่วงหน้า/บัญชีเงินสด/บัญชีกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์หรือบัญชีมาร์จิ้น แต่ก็ต้องจำไว้ว่าการลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง โดยเฉพาะการเล่นหุ้นคุณจึงต้องมีการวางแผนและมีความรู้ก่อนค่ะ

เงินฉุกเฉิน

นี่ก็เป็นการลงทุนเช่นเดยวกัน แต่คุณจะไม่ได้รับความเสี่ยงเลย เงินส่วนน้จะเป็นเงินเก็นนั้นเอง เป็นเงินเก็บที่คุณใช้ความอดทนความมีวินัยเพื่อเก็บเงินก้อนนี้ไว้เพื่อสถานการณ์ฉุกเฉินใดๆก็ตามที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เรื่องอุบัติเหตุ เรื่องสุขภาพ เรื่องภัยพิบัติ และอื่นๆ เงินฉุกเฉินนี้จะช่วยคุณได้มาก ซึ่งแผนการเก็บเงินฉุกเฉินถือว่าเป็นทางเลือกที่ฉลาด เพราะเราไม่รู้ว่าชีวิตเราจะพบเจออุปสรรคอะไรขึ้นมาบ้าง แต่ถ้าคุณมีเงินส่วนนี้คุณจะสามารถพยุงตัวคุณเองได้ไม่ว่าจะเจอสถานการณ์อะไรถ่าโถมเข้ามาก็ตาม เพราะชีวิตคือความไม่แน่นอน และแนะนำให้เก็บเงินฉุกเฉินก้อนนี้ไว้ในบัญชีออมทรัพย์ที่คุรสามารถถอนออกมาใช้ได้อย่างรวดเร็วสมชื่อที่เรียกว่าเงินฉุกเฉิน เพราะจะถูกเอามาใช้ในช่วงเวลาที่ฉุกเฉินนั่นเอง

สรุป

สรุป

จากข้อมูลที่นำมาฝากกัน การที่คุณจะมีเงินเก็บหลักล้านนั้นสามารถเป็นไปได้ เพียงแค่คุณต้องมีเป้าหมาย การวางแผน บวกกับความอดทนมีวินัย และมีการลงทุนเพื่อเพิ่มการเติบโตของเงินเก็บของคุณแม้จะมีความเสี่ยงแต่การมีความรู้จะสามารถช่วยคุณได้มากค่ะ เข้าใจได้ว่าในปัจจุบันนี้รายรับนั้นค่อนข้างหายากและรายจ่ายก็มากเหลือเกินบางครั้งก็เป็นรายจ่ายที่เกิดจากความต้องการเท่านั้นเพราะสมัยนี้มีสินค้าออกมาใหม่มากมายที่ดึงดูดความสนใจของเรายิ่งถ้ามีเงินในกระเป๋าอยู่แล้วก็ยิ่งยากที่จะห้ามใจไม่ซื้อไม่ดู ทำให้หลายคนประสบปัญหาการเป็นหนี้สินและเมือตกอยู่ในสถานะหนี้แล้วก็จะเก็บเงินได้ยากมากกว่าคนที่ไม่มีหนี้ ดังนั้นการรู้จักการใช้เงินให้เป็นเป็นเรื่องสำคัญมากห้ามละเลยเด็ดขาด พยายามอย่าหาข้ออ้างมาเป็นรายจ่ายแต่ให้หาข้ออ้างมาเพื่อจะไม่จ่ายอะไรเลยดีกว่าต่อให้คุณอยู่ในที่ที่ค่าครองชีพสูงหรือต่ำก็จะไม่มีผลถ้าคุณเห็นคุณค่าของเงินและใช้ชีวิตอย่าพอเพียงไม่ฟุ่มเฟือยไม่ติดหรู เทคนิควิธีการเก็บเงินนี้คุณสามารถเอาไปปรับใช้ได้ไม่ว่าคุณจะมีรายรับแต่ละเดือนมากกว่ากรือน้อยกว่า 10,000 บาทก็ตามนะคะ และเมื่อลองมาคิดดูค่าใช้จ่ายในแต่ละวันคุณสามารถลดลงและประหยัดมากขึ้นโดยการปรับเปลี่ยนได้หลายอย่างอยู่นะลองคิดกันดูค่ะ ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่าเดินทาง อย่าคิดว่าเล็กน้อยถ้าลดลงได้ก็เป็นเงินทั้งนั้นค่ะ จำไว้ว่าอย่าดูถูกเงินน้อยที่คุณจะได้รับ ไม่ว่าจะเป็นเงินหนึ่งร้อยบาท หรือน้อยว่านั้น ถ้าคุณเก็แม้กระทั่งเงินเล็กน้อยนั้นมันอาจจะเป็นเงินก้อนใหญ่ให้คุณในอนาคตได้เลยหล่ะ เพราะเงินก้อนใหญ่ก็มาจากเศษเงินเล็กๆน้อยในชีวิตประจำวันของคุณนะคะ