ในยุคนี้ที่สภาพเศรษฐกิจเป็นปัญหาใหญ่ การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตก็เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากเพื่อทำให้คุณสามารถเก็บเงินได้บ้างไม่มากก็น้อย โดยเริ่มได้จากการปรับเปลี่ยนค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของคุณ คุณอาจจะนึกไม่ถึงว่าค่าใช้จ่ายที่คุณเห็นว่าเล็กๆน้อยๆในการใช้ชีวิตแต่ละวันถ้าลองลงมาดูรายละเอียดแล้วละก็ เป็นเงินจำนวนมากอยู่เหมือนกันนะ และถ้าคุณลองปรับเปลี่ยนโดยลดค่าใช้จ่ายลงหรือปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่างก็ทำให้ได้เงินคืนกลับมาได้มากเลย วันนี้จะยกตัวอย่างค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่คุณสามารถปรับเปลี่ยนและค่าใช้จ่ายลงไปได้มาให้ดูและทำตามกันมา 5 อย่าง ก็คือ ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง/ค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารการกิน/ค่าใช้จ่ายการใช้โทรศัพท์มือถือ/ค่าใช้จ่ายซื้อของใช้ส่วนตัว/ค่าใช้จ่ายซื้อของจำเป็นภายในบ้าน นี่แค่ตัวอย่างค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแค่ 5 อย่างเท่านั้นถ้าคุณลองปรับเปลี่ยนค่าใช้จ่ายเหล่านี้คุณก็จะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งจริงๆแล้วคุณอาจจะมีค่าใช้จ่ายในแต่ละวันมากกว่านี้อีกก็ได้ค่ะ แต่บทความนี้เรามาดู 5 สิ่งเหล่านี้กันก่อนนะคะว่าเราจะสามารถทำให้มันลดลงได้อย่างไรบ้าง?

ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

car expenses

car expenses

การเดินทางไปไหนมาไหนเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในชีวิตประจำวันมากๆ เพราะคุณต้องเดินทางไปทำงานอยู่ในทุกๆวัน การเดินทางนี้ก็รวมถึงการเดินทางไปท่องเที่ยวและการเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านด้วยนะคะถ้าคุณเป็นคนนึงที่ไปทำงานต่างบ้านต่างเมือง แต่เรามาเริ่มจากการประหยัดและลดค่าใช้จ่ายของการเดินทางไปทำงานกันก่อนค่ะ ถ้าคุณมีรถยนต์แน่นอนว่ารถยนต์ให้ความสะดวกสบายกับคุณแต่จะเป็นไปได้ไหมถ้าการไปทำงานในทุกวันของคุณจะเปลี่ยนเป็นการใช้รถสาธารณะแทน หรือถ้าคุณเองก็มีมอเตอร์ไซด์ และเปลี่ยนมาขี่มอเตอร์ไซด์ไปทำงานแทน ซึ่งช่วยให้คุณประหยัดค่าน้ำมันไปได้เป็นเท่าตัวเลยค่ะ เปรียบเทียบอย่างนี้นะคะ ถ้ารถยนต์ของคุณที่ต้องใช้งานทุกวันเพื่อเดินทางไปทำงานแล้วเติมน้ำมันสำหรับใช้รถในอาทิตย์หนึ่งไป 600-700 บาท แต่ถ้าคุณใช้รถมอเตอร์ใซด์คุณแค่ต้องเติมน้ำมันรถมอเตอร์ไซด์สำหรับอาทิตย์หนึ่งไปแค่ 100-200 บาทเท่านั้น เห็นมั้ยคะว่าประหยัดกว่าไปตั้งหลายร้อยเลยนะคะ แล้วถ้าคุณเดินทางไปทำงานโดยใช้รถสาธารณะ เช่น รถเมล์ก็ประหยัดเช่นกันอันนี้ผู้เขียนก็บอกแน่นอนไม่ได้ว่าจะประหยัดไปจำนวนกี่บาท เพราะค่าโดยสารก็แล้วแต่สถานที่ที่คุณอาศัยอยู่และที่ทำงานของคุณ แต่การเดินทางไปทำงานไปกลับคงอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 200-300 บาท ราคานี้รวมการใช้รถเมล์และมอเตอร์ไซด์รับจ้างด้วยนะคะ ยังไงก็ยังประหยัดกว่าการใช้รถยนต์แน่นอน ส่วนรถยนต์ที่คุณมีก็เอาไว้ใช้ในยามที่จำเป็น เช่น วันที่ฝนตกอะไรอย่างนี้แทนค่ะ หรือใช้ไปเที่ยวในวันหยุด

นอกจากการประหยัดค่าน้ำมันในแต่ละวันแล้ว และช่วยลดการสึกหรอของรถด้วยทำให้คุณประหยัดค่าซ่อมบำรุงไปได้มากเลยค่ะ นี่แค่การปรับเปลี่ยนเรื่องเดียวนะคะทำให้คุณเหลือเงินเพิ่มขึ้นตั้ง 400-500 ในแต่ละอาทิตย์เลยนะเนี่ย

ส่วนเรื่องการประยัดเงินค่าเดินทางไกล เช่นการเดินทางไปท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศคุณก็สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้โดยการวางแผนล่วงหน้าค่ะ เพื่อให้ได้ค่าตั๋วเครื่องบิน หรือที่พักในราคาที่ถูกกว่าการจองแบบกระทันหัน แต่นี่ก็ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายในแต่ละวันแต่ก็นำมาฝากเพื่อการปรับเปลี่ยนค่าใช้จ่ายเพื่อมีเงินเก็บที่มากขึ้นถ้าคุณสามารถปรับเปลี่ยนในหลายๆด้านได้ค่ะ

ค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารการกิน

food expenses

food expenses

ค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารการกินนี่รวมทุกอย่างนะคะ ไม่ว่าจะเป็นอาหารมื้อหลักสามมื้อ หรือเครื่องดื่มและขนมต่างๆด้วย คุณสามารถมีเงินเก็บเพิ่มได้จากการปรับเปลี่ยนและลดค่าใช้จ่ายของเหล่านี้ได้ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณไปทำงานคุณอาจจะเคยชินกับการกินอาหารที่ร้าน ไม่ว่าจะเป็นอาหารเช้า เที่ยว หรือเย็น แต่จะดีกว่ามากถ้าคุณตื่นเช้ามาทำอาหารเองที่บ้าน และทานอาหารเช้าที่บ้าน พกอาหารเที่ยงที่ทำเงอใสกล่องไปกินที่ทำงาน กลับบ้านให้เร็วเพื่อมาทานอาหารเย็นที่บ้าน แค่เท่านี้ก็ประหยัดไปได้มากเพราะการลงทุนทำอาหารที่บ้านสำหรับหนึ่งวันสามมื้อนำของในตู้เย็นที่ซื้อตุนไว้แบ่งออกมาใช้ก็อาจจะใช้เงินอยู่ที่ประมาณ 100 บาทเท่านั้น แต่ถ้าคุณออกไปกินที่ร้านทั้งสามมื้อ คุณอาจใช้เงิน 200-300 บาทเลยนะคะ

ส่วนเรื่องของเครื่องดื่มก็เช่นกัน ทุกวันนี้หลายคนใช้เงินหรือเสียเงินไปกับการดื่มกาแฟราคาแพง เป็นค่านิยมไปแล้ว แต่ถ้าคุณตัดค่านิยมออกไปได้คุณจะประหยัดมากโดยการชงกาแฟกินเองที่บ้านแล้วพกไปที่ทำงาน หรือ ชงในที่ทำงานก็ได้คุณก็แทบไม่ต้องเสียเงินเลย เปรียบเทียบกับการไปซื้อกาแฟสดที่ร้านซึ่งแก้วนึงก็ 50 บาทขึ้นไป แล้ววันหนึ่งคุณอาจจะดื่ม 2-3 ด้วยซ้ำ แค่ค่ากาแฟก็หลักร้อยแล้วถ้าคุณปรับเปลี่ยนตัดค่าใช้จ่ายตรงนี้ออกไปได้จะเหลือเงินเพิ่มแน่นอนค่ะ

ส่วนขนมก็เช่นกันให้พยายามซื้อที่อยากกินเท่านั้นถ้าไม่อยากกินจริงๆก็ไม่ต้องซื้อ หรือไม่ต้องย่างกรายเข้าไปที่ซุปเปอร์มาเก็ตได้เลยยิ่งดี

ค่าใช้จ่ายการใช้โทรศัพท์มือถือ

Stock Photo - young couple use phone happily with blue background

Stock Photo - young couple use phone happily with blue background

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งค่าใช้จ่ายที่ดูดเงินของคุณไปมากเลย ถึงแม้คุณจะจ่ายในตอนสิ้นเดือนก็เถอะ แต่ว่าเป็นการนับการใช้ในแต่ละวันนะคะ ถ้าคุณกาใช้โทรศัพท์มือถือรายเดือนอยู่ตอนนี้ เป็นไปได้ไหมที่คุณจะลดค่าใช้จ่ายลงจากการเลือกแพ็คเก็ตเน็ตเร็วๆเป็นแบบธรรมดา อาจจะทำให้ค่าโทรศัพท์รายเดือนลดลงจาก 499 เหลือแค่ 299 อะไรแบบนี้ได้ค่ะ ส่วนถ้าคุณต้องการอินเตอร์เน็ตก็ให้หันมาสนใจใช้ wifi จากสถานที่ต่างๆแทนไม่ว่าจะที่บ้าน ที่ทำงาน หรือตามร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้าแทนค่ะ แต่ถ้าคุณจำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตจริงๆเพราะคุณมักอยู่ในสถานที่ที่ไม่มี wifi ก็ให้พยายามอย่าใช้มากเกินไปจนเกินตามที่แพ็คเก็ตกำหนด หรือเมื่อชำระเงินรายเดือนพยายามชำระให้ตรงเวลาเพื่อไม่มีค่าปรับค่ะ

ซึ่งโดยส่วนตัวของผู้เขียนได้พบว่า การใช้โทรศัพท์มือถือด้วยการเติมเงินและสมัครแพ็คเก็ตเสริมเองประหยัดกว่าการใช้รายเดือนไปมากๆเลยนะคะ เพราะสามารถควบคุมการใช้จ่ายของเราได้ในทุกวัน หรือทุกอาทิตย์และปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพการณ์ ไม่มีการกำหนดตายตัวเหมือนกับการใช้รายเดือนค่ะ

ค่าใช้จ่ายซื้อของใช้ส่วนตัว

ค่าใช้จ่ายซื้อของใช้ส่วนตัว

ค่าใช้จ่ายการซื้อของใช้ส่วนตัวโดยเฉพาะคุณผู้หยิงนี่จะเยอะสิ่งเยอะอย่างมากกว่าคุณผู้ชายมากนัก โดยเฉพาะพวกเครื่องสำอาง จะดีกว่ามากถ้าลดลงมากบ้างและเลือกซื้อเฉพาะที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ หรือซื้อใหม่เมื่อของเก่าหมดแล้วจริๆ ไม่ต้องซื้อเผื่อเอาไว้นานๆ หรือขวดใหญ่ๆ เพราะคุณอาจจะใช้ไม่ทันวันหมดอายุแล้วสุดท้ายก็ต้องทิ้งไปตั้งครึ่งขวดอะไรแบบนี้ค่ะ มันน่าเสียดาย หรือการเลือกลองใช้เครื่องสำอางแบบใหม่โดยที่ยังไม่แน่ว่าตัวเองจะเหมาะหรือไม่ ก็ควรเลือกลองซื้อแบบเล็กๆก่อน ถ้าเคร่องสำอางนั้นไม่เหมาะกับคุณแล้วใช้ต่อไม่ได้จะได้ไม่เสียดายมาก และไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง หรืออะไรอย่างอื่น ก็ไม่ควรยึดติดกับของแบรนด์เนม ของที่ไม่ใช่แบรนด์ราคาประหยัดคุณภาพดีก็มีเยอะแยะ ลองเลือกซื้อเลือกหากันดูนะคะ ไม่ว่าจะเป็น โลชั่น ยาสระผม ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ครีมบำรุง ลิปสติก น้ำหอม ชุดชั้นใน เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า นี่รวมถึงของคุณผู้ชายด้วยนะคะ อีกอย่างหนึ่งที่ควรสังเกตเมื่อซื้อสิ่งเหล่านี้ คือ ควรมองโปรโมชั่นซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง การหาเพื่อนไปหาร ก็ช่วยให้ประหยัดได้ค่ะ

ค่าใช้จ่ายการซื้อของจำเป็นภายในบ้าน

ค่าใช้จ่ายการซื้อของจำเป็นภายในบ้าน

ค่าใช้จ่ายสำหรับของใช้ที่จำเป็นภายในบ้านก็มีหลายอย่างยิ่งถ้าบ้านนั้นอยู่กันหลายคนก็มีเยอะหน่อย ไม่ว่าจะเป็น ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาถูพื้น อุปกรณืการทำความสะอาดบ้านต่างๆ รวมถึงเครื่องครัว เครื่องปรุงอาหารต่างๆ การซื้อของเหล่านี้ส่วนมากจะซื้อนานๆครั้ง เช่นเดือนละครั้ง หรือสองสามเดือนซื้อครั้งนึง แต่คุณสามารถประหยัดได้โดยใช้งานมันอย่างประหยัดและระมัดระวังไม่ให้เกิดการเสียหายจะได้ไม่ต้องซื้อใหม่ก่อนเวลา และเมื่อเลือกซื้อของเหล่านี้คุณควรวางแผนทำรายการให้เรียบร้อย และเปรียบเทียบราคาในแต่ละสถานที่และยี่ห้อ เพื่อได้ของที่มีคุณภาพและประหยัดด้วย ยกตัวอย่างเช่น น้ำยาล้างจาน ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อยี่ห้อดังๆ สามารถซื้อยี่ห้อไม่ดังก็ได้ ใช้งานได้ดีเช่นกัน เมื่อคุณได้สิสรายการของใช้จำเป็นภายในบ้านมานั่งดู และเลือกซื้อยี่ห้อที่ประยัหเงินลงมา เมื่อรวมๆของหลายอย่างก็สามารถประหยัดเงินและเหลือเงินได้หลายร้อยบาทอยู่นะ และสามารถประหยัดด้วยวิธีเก็บขวดต่างไว้ได้ด้วย เช่นถ้าคุณเก็บขวดผลิตภัณฑ์ต่างๆไว้ การซื้อของครั้งต่อไปคุณสามารถเปลี่ยนมาซื้อแบบถุงเติมได้ซึ่งจะมีราคาที่ถูกกว่ามากค่ะ หรือถ้าเป็นพวกเครื่องดื่ม น้ำดื่ม คุณสามารถทำให้กลายเป็นเงินได้ด้วยการเก็บขวดพลาสติกไปขายเป็นของเก่าได้ด้วยค่ะ

และของใช้จำเป็นภายในบ้านก็จะมีสิ่งเหล่านี้ด้วย คือ เครื่องใช้ไฟฟ้า อปกรณืเทคโนโลยีต่างๆ การซื้อของเหล่านี้ก็ต้องเช็คดูการประหยัดไฟฟ้าด้วย และต้องหาข้อมูลก่อนการซื้ออยู่เสมอ

สรุป

สรุป

คุณคงเห็นแนวทางการที่คุณจะมีเงินเก็บเพิ่มได้แล้วนะคะ นี่ก็แค่ค่าใช้จ่ายที่สำคัญแค่ 5 อย่างเท่านั้นก็ช่วยให้แต่ละเดือนของคุณมีเงินเหลือเงินเก็บเพิ่มได้เยอะแล้ว แค่คุณเริ่มลงมือทำและยอมปรับเปลี่ยนแค่นั้นเองไม่ยากเลยนะคะ ที่สำคัญคุณต้องดูที่ความสามารถของคุณก่อนอย่าเอาตามอย่างคนอื่น หรือที่เรียกกันว่าค่านิยมในทุกวันนี้ เพราะถ้าคุณยึดติดกัยค่านิยมมากเกินไปคุณก็จะเสียเงินไปมากๆโดยใช่เหตุ แล้วจะมาเสียใจในภายหลังได้ แต่ถ้าคุณเริ่มเก็บเงินได้เพิ่มมากขึ้น คุณก็ค่อยมาเพิ่มค่านิยมหรือรสนิยมชั้นสูงเข้ามาในชีวิตทีละเล็กทีละน้อยก็ย่อมได้ ที่สำคัญคุณต้องเริ่มวางแผนค่าใช้จ่ายในแต่ละวันอย่างจริงจังและอย่ามองข้ามแม้จะเป็นค่าใช้จ่ายเล็กๆน้อย อย่างเช่นค่าขนม หรือค่ากาแฟช่วงบ่าย ก็ควรจะต้องคิดด้วยนะคะ แล้วเมื่อคุณมีเงินเก็บมากขึ้นคุณภาพชีวิตของคุณก็จะดีขึ้นตามมาแน่นอนแถมยังสามารถจะทำธุรกรรมทางการเงินได้มากขึ้นด้วย อย่าลืมนะคะเรื่องเงินเป็นเรื่องใหญ่ทุกอย่างแม้แต่เงินบาทเดียวต้องใช้ให้เป็นแล้วคุณจะเป็นเศรษฐีได้ไม่ยากเลยค่ะ