การใช้เงินเกินตัวเกิดขึ้นได้กับคนทุกคน และเกิดขึ้นได้เรื่อยๆถึงแม้ว่าคุณอาจจะรู้ตัวแล้วก็ตามหรือเคยพยายามแก้ไขปรับปรุงนิสัยไม่ดีนี้แล้วก็สามารถกลับมาใช้เงินเกินตัวได้อีกถ้าเกิดไม่ระวัง และอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้คนทุกวันนี้มีนิสัยที่ไม่ดีในการใช้เกินตัวเพิ่มมากขึ้นก็เป็นเพราะว่า โลกแห่งการช้อปปิ้งได้ครอบคลุมไปทั่วทุกหนทุกแห่งแล้ว

เมื่อก่อนอาจจะเป็นเฉพาะผู้หญิงเท่านั้นที่คลั้งไคล้หลงไหลไปกับการช้อปปิ้ง แต่โลกทุกวันนี้เปลี่ยนไปผู้ชายก็กลายเป็นนักช้อปตัวยงได้เช่นกัน และการช้อปปิ้งสมัยนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปไหนให้เสียเวลา การช้อปปิ้งออนไลน์ได้มาอยู่ในมือของทุกคนง่ายแค่คลิกเดียวก็สามารถช้อปของที่ต้องการอยากซื้อได้ง่ายๆ ก็เหมือนการไปห้างสรรพสินค้าโดยที่มีจุดมุ่งหมายว่าจะซื้ออะไรกันแน่แค่ไปเดินเล่นๆแต่ก็ต้องได้เสียเงินจนได้ เช่นเดียวกับการท่องโลกการช้อปปิ้งออนไลน์บ่อยครั้งที่คุณไม่ได้อยากจะซื้ออะไรแต่การเข้าไปดูเรื่อยเปื่อยก็ส่งผลต่อความต้องการขึ้นมา

สุดท้ายก็ตัดสินใจซื้อของบางอย่างทั้งๆที่ไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำ และการโฆษณาที่ดึงดูดใจของสินค้าทุกวันนี้ก็เป็นอีกแรงกระตุ้นหนึ่งที่ทำให้คุณคงจะอดใจไว้ไม่ไหวอยากได้สินค้าชิ้นนั้นมาเป็นเจ้าของ และอาจจะติดกับดักราคาโปรโมชั่นด้วย

5 สัญญาณใช้เงินเกินตัว อาจก่อหนี้ในอนาคตโดยไม่รู้ตัว

5 สัญญาณใช้เงินเกินตัว อาจก่อหนี้ในอนาคตโดยไม่รู้ตัว

บทความนี้อยากมาบอกให้ทราบถึงสัญญาณเตือนที่จะทำให้คุณรู้ตัวว่ากำลังใช้เงินเกินตัวไปแล้วนะ ควรจะกลับมาปรับเปลี่ยนตัวเองได้แล้วก่อนจะมีปัญหาเรื่องเงินตามมา ซึ่งสัญญาณเตือนที่จะนำมาฝากกันวั้นนี้ก็มีอยู่ 5 สัญญาณเตือนดังนี้คือ ไม่มีเป้าหมายในการใช้เงิน/ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย/ผลัดวันประกันพรุ่งในการชำระหนี้/มีนิสัยช้อปปิ้งเพลิน/รูดบัตรเครดิตตลอด เรามาดูรายละเอียดของสัญญาณเตือนแต่ละอย่างกันค่ะ

ไม่มีเป้าหมายในการใช้เงิน ทำให้ใช้เงินเกินตัว

เหมือนกับการไปซื้อของที่ตลาดถ้าคุณตั้งใจไปซื้อของเพื่อจะทำแกงเขียงหวานไก่คุณก็คงมีเป้าหมายในใจแล้วว่าสิ่งที่ต้องซื้อเพื่อจะทำแกงเขียวหวานไก่มีอะไรบ้าง เช่น เครื่องแกงเขียวหวาน มะเขือ ไก่ กะทิ ใบโหระพา เป็นต้น แล้วเมื่อซื้อของที่ต้องการเสร็จแล้วคุณก็กลับบ้านมาลงมือทำอาหาร

เงินที่เตรียมไปซื้อของก็ไม่เกินงบที่ตั้งไว้อาจจะอยู่ที่ 200 บาท แต่ในทางกลับกันถ้าคุณยังไม่ได้คิดเมนูอาหารว่าเย็นนี้จะทำอะไรกินคุณก็จะไปตลาดแบบไม่มีจุดมุ่งหมายไม่มีเป้าหมาย เมื่อไปถึงตลาดคุณเห็นอะไรก็อยากซื้อไปหมดทำให้คุณอาจจะซื้อผักมาหลายอย่าง ซื้อทั้งไก่ ทั้งหมู และเสียเงินไปถึง 500 บาทได้ เพราะไม่มีเป้าหมายในการซื้อของตั้งแต่แรก

เรื่องนี้เปรียบเทียบได้กับการใช้เงินซื้อของอย่างอื่นด้วยเมื่อเราจะซื้อของอะไรไม่ว่าจะของใช้ที่จำเป็นคุณต้องทำรายการและคิดไว้ล่วงหน้าว่าจะซื้ออะไรเข้าบ้านบ้างและใจจดจ่อที่จะซื้อของสิ่งนั้นไม่เดินชมสินค้าไปเรื่อยเปื่อยเพื่อจะไม่เสียเงินไปเปล่าๆกับของที่ไม่จำเป็น ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ไม่มีเป้าหมายในการใช้เงินไม่มีการวางแผนและไม่รู้จักการเก็บเงินอย่างจริงๆจังๆ

และเมื่อเจอของที่อยากได้อะไรที่ถูกใจก็ซื้อโดยที่ไม่ได้คิดก่อนให้ดีๆ เช่น หลายคนมักคิดหาข้ออ้างเข้าข้างตัวเองว่าของชิ้นนั้นก็ราคาไม่แพงซื้อไปก็ไม่ได้เสียเงินอะไรมากเลยการคิดแบบนั้นทำให้คุณใช้จ่ายแบบไม่คิดและไม่ประหยัดความคิดแบบนั้นจึงไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักค่ะ แต่ต่างกันสำหรับคนที่มีเป้าหมายในการใช้เงินมีการวางแผนอย่างดีทำให้ไม่เป็นหนี้ การทำอย่างนี้ช่วยคุณให้มีเงินเหลือและเงินเก็บเพิ่มมากขึ้นได้ค่ะ

ใช้จ่ายตามใจ ไม่ยั้งคิด

จริงอยู่ที่บ้างครั้งคุณก็อาจจะต้องใช้เงินไปกับความสนุกสนานหรือเพื่อความบันเทิงบ้าง เพื่อให้รางวัลกับการทำงานหนักของคุณ แต่การใช้จ่ายแบบสุรุ่ยสุร่ายนั้นก็ไม่ควรทำบ่อยๆ หรือติดจนเป็นนิสัย เช่น การกินเลี้ยงเฮฮากับเพื่อนๆ การไปเดินซื้อของที่ไม่จำเป็นแต่แค่ชอบเท่านั้น การกินอาหารหรูๆราคาแพง เป็นต้น

สิ่งเหล่านี้คุณอาจะทำบ้างในบางครั้งเพื่อจะมีความสุขแต่ไม่ควรทำเป็นนิสัยหรือตามคนอื่นๆ บางครั้งเพื่อนๆของคุณอาจจะทำแบบนี้จนเป็นนิสัยแต่คุณต้องตระหนักให้ดีว่าการเงินของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เขาอาจจะมีการเงินที่ดีกว่าเราจึงทำได้ ที่สำคัญคุณต้องรู้ข้อจำกัดของตัวเองในฐานะการเงินของตัวเองว่าสามารถ ใช้จ่ายทั้งของที่จำเป็นและไม่จำเป็นได้มากน้อยเท่าไหร่เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาทางการเงินและกลายเป็นหนี้ในที่สุด

ดังนั้นถ้าคุณเริ่มมีการใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายแล้วแสดงว่านี่คือสัญญาณที่คุณต้องปรับเปลี่ยนแล้วล่ะ เพราะไม่ว่าคุณเองจะมีรายได้มาก หรือรายได้น้อยยังไงก็ตามแต่การใช้จ่ายเงินแบบสุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือยก็จะทำให้คุณประสบปัญหาทางการเงินได้ทั้งนั้น คุณจึงควรมีการวางแผนเพื่อควบคุมการใช้จ่ายเอาไว้ดีกว่าค่ะ

ผลัดวันประกันพรุ่งในการชำระหนี้

สัญญาณเตื่อนนี้มักจะเห็นได้อย่างชัดเจนมากๆ เมื่อใดที่คุณไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามเวลาที่กำหนดจนมีค่าปรับหรือ การติดตามทวงถามหนี้แล้วล่ะก็แสดงว่าการเงินของคุณมีปัญหาจากการที่ใช้จ่ายเกินตัวแน่ๆถึงได้ไม่มีเงินเหลือมาจ่ายในสิ่งที่จำเป็น และนี่จะเป็นผลเสียอย่างมาเพราะลำพังแค่มีหนี้ที่จะต้องจ่ายแล้วการจ่ายไม่ตรงเวลาก็ทำให้ดอกเบี้ยนั้นเพิ่มสูงมากขึ้นไปอีกและการชำระหนี้ให้หมดนั้นก็จะล่าช้าลงไปอีกด้วย

กลายเป็นว่าหนี้บางอย่างที่จะกลายเป็นหนี้ระยะสั้นก็กลับกลายเป็นหนี้ระยะยาวไปซะงั้น ดังนั้นสัญญาณเตือนการเลื่อนวันชำระหนี้นี้ก็สำคัญมากที่จะต้องพยายามไม่ให้เกิดขึ้น หรือถ้าเกิดขึ้นก็ต้องรีบจัดการแก้ไขโดยด่วน

มีนิสัยช้อปปิ้งเพลิน จนใช้เงินเกินตัว

ถ้าพูดถึงการช้อปปิ้งใครก็ชอบกันทั้งนั้น เพราะมันทั้งสนุกและได้สิ่งที่อยากได้ แต่การช้อปปิ้งจนเพลินจนลืมตัวก็จะทำให้คุณมีปัญหาทางการเงินได้โดยทีไม่รู้ตัวก็ได้ บางคนถึงกับเอาเงินในอนาคตมาใช้ เช่น การกู้ยืมเงินเพื่อมาช้อปปิ้ง หรือแม้กรัทั่งยืมเงินจาเพื่อนๆก่อนเพื่อซื้อของที่ตัวเองอยากได้

ถึงแม้นิสัยนี้จะไม่ได้แย่มาเท่าไหร่นัก แต่การทำเป็นประจำบ่อยเกินไปก็จะติดเป็นนิสัยได้ส่งผลต่อระเบียบวินัยทางการเงินที่มีปัญหา ดังนั้นเมื่อคุณเริ่มช้อปปิ้งโดยใช้เงินที่ไม่ใช่ของตัวเองขึ้นมาแล้วล่ะก็ แสดงว่าเป็นสัญญาณแล้วว่าคุณกำลังใช้เงินเกินตัว คุณจึงต้องจัดการกับนิสัยไม่ดีนี้และเริ่มเก็บออมเงินและลดการช้อปปิ้งลงไปให้มากที่สุด และคิดเสมอว่าซื้อแต่ของที่จำเป็นก่อนเท่านั้นก็พอ หรือถ้าอยากจะไปช้อปปิ้งก็ตั้งงบประมาณขึ้นมาให้แน่นอนเพื่อจะได้ไม่ช้อปปิ้งเพลินจนเกินลงจนเงินเก็บไม่เหลือแล้วยังต้องไปยืมคนอื่นอีก แบบนั้นใช้ไม่ได้ค่ะ

โดยเฉพาะคนที่มีบัตรเครดิตนั่นแหละตัวดีเพราะบัตรเครดิตเป็นตัวช่วยอย่างดีในการช้อปปิ้งเลยหล่ะ เพราะการจ่ายเงินซื้อของด้วยบัตรเครดิตแล้วคุณไม่สามารถชำระได้เต็มวงเงินคุณจะเป็นหนี้ดอกเบี้ยที่สูงมากพอสมควรเลยนะ คุณต้องมีการควบคุมตัวเองให้ดีและควบคุมการใช้เงินด้วยค่ะ ไม่ว่าคุณจะซื้อของเล็กหรือของใหญ่ราคาถูกหรือแพงก็ต้องคิดให้ดีรอบคอบจะได้ไม่เครียดทีหลังจากการที่ไม่มีเงินพอเพื่อสิ่งจำเป็นนะคะ

รูดบัตรเครดิตตลอด

เรื่องบัตรเครดิตก็ได้พูดไปบ้างแล้ว แต่ยังคงไม่หมดเพราะบัตรเครดิตเป็นที่นิยมจริงๆสำหรับการช้อปปิ้งซื้อของต่างๆไม่ว่าอะไรก็ตาม แต่การที่คนเรารูดบัตรเครดิตตลิดเมื่อซื้อของก็เป็นสัญญาณว่าคุณกำลังใชเงินเกินตัวและมีปัญหาทางการเงินอยู่เพราะคุณไม่มีเงินสดพกติดตัวเลยนั่นเอง ถึงแม้การใช้บัตรเครดิตจะสะดวกแค่ไหนแต่การที่คุณซื้อของเล็กๆน้อยๆก็ใช้บัตรเครดิต แสดงว่าคุณไม่มีเงินสดพอแม้จะซื้อของเล็กๆน้อยๆเลยจึงต้องใช้เงินล่วงหน้าจากบัตรเครดิตไปก่อนแบบนั้น

และเมื่อคุญซื้อของชิ้นใหญ่ราคาแพงผ่านทางัตรเครดิตแล้วเมื่อถึงเวลากำหนดไม่สามารถชำระได้ก็จะทำให้คุรตกอยู่ในฐานะคนเป็นหนี้บัตรเครดิตได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยค่ะ แล้วถ้าคุณยังไม่ยอมนิสัยการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น คุณก็จะเป็นหนี้ที่พอกพูนึ้นเรื่อยๆจนดิ้นไม่หลุดแบบนั้นหล่ะแย่เลย เพราะคุณจะเป็นหนี้บัตรเครดิตทั้งต้นทั้งดอกใช้หนี้ยังไงก็ใช้ไม่หมดถ้าคุณยังไม่เปลี่ยนแปลงการใช้จ่ายที่เกินตัวของคุณเองคุณจะมีปัญหาแน่ๆ และสิ่งที่ตามจากการมีปัญหาเรื่องเงินก็คือ ปัญหาสุขภาพ เห็นมั้ยคะว่าไม่คุ้มเลยนะ

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การเป็นหนี้ส่งผลกับชีวิตอย่างไร ที่นี่

ทุกวันนี้ดูเหมือนหลายคนจะเริ่มตื่นตัวมากขึ้นกับเรื่องเงินๆทองๆ และหลายคนก็หาวิธีและความรู้เพื่อจะปรับปรุงปรับเปลี่ยนการใช้เงินของตัวเองให้ประหยัดมีเงินเก็บมากขึ้น แต่ก็อย่างที่บอกไปถ้าคุณไม่ตรวจเช็สัญญาณเตือนหรือดูนิสัยทางการเงินของตัวเองอยู่เรื่อยๆก็อาจจะกลับไปใช้เงินแบบเกินตัวและขาดวินัยทางการเงินอีกก็ได้ ดังนั้นอยากถามตัวคุณเองอยู่เสมอกับ 5 สัญญาณเตือนที่นำมาฝากกันว่าคุณมีสัญญาณเตือนเรื่องไหนดังขึ้นมาแล้วบ้างในการใช้เงินของคุณตอนนี้ และอยากจะฝากคำถามเพิ่มเติมไปอีกตรงนี้ คือ

คุณมีเงินเหลือติดบัญชีบ้างไหม? / คุณสามารถชำระค่าบริการต่างๆที่จำเป็นตรงตามเวลาไหม? / คุณกู้ยืมเงินจากแหล่งเงินกู้หรือคนรู้จักอย่างต่ดเนื่องและเป็นประจำหรือไม่? / คุณมีรายได้ที่เพียงพอต่าค่าที่พักอาศัยของคุณไหม เช่นค่าเช่าบ้าน ผ่อนบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ เป็นต้น? / คุณให้ความนิยมของคนรอบข้างมีผลต่อการใช้จ่ายเงินของคุณหรือไม่? / คุณมีการควบคุมความต้องกอยากซื้อของที่คุณชอบบ้างหรือเปล่า? / คุณใช้จ่ายในเรื่องอาหารการกินมากเกินไปไหม? / คุณมีแผนการออมเงินบ้างรึเปล่า? ตุณมีตารางรายรับรายจ่ายบ้างไหม?

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 5 วิธีแก้นิสัย ‘ใช้เงินเกินตัว’ ที่นี่

ทั้งหมดนี้คือคำถามที่อยากจะนำนะให้คุณตรวจสอบตัวเองเพื่อจะเปลี่ยนการใช้เงินของคุณทันก่อนจะเกิดปัญหาใหญ่ทางการเงินที่จะทำให้ชีวิตคุณขาดความสุขได้ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นคนทำงานแบบไหนมีรายได้เท่าไหร่ คุณต้องไม่ลืมการเก็บเงินออมเงินว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าได้มาเท่าไหร่ใช้ให้หมดแบบนั้นชีวิตคุณจะลำบากได้ เป็นเรื่องสำคัญจริงๆ จัดสรรเงินส่วนต่างๆอย่างดี

ถ้าคุณทำดีแล้วคุณจะมีเงินส่วนที่จะใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเพื่อความสุขได้ด้วยนะคะแต่ก่อนอื่นก็ต้องประหยัดไปก่อนในตอนแรกๆ อาจจะต้องใช้ความพยายามมากหน่อยแต่ขอให้ทำได้นะคะ หากใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามผู้เชี่ยวชาญจาก MoneyDuck ได้ฟรี ที่ลิงก์ด้านล่าง