คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้ ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามก็แพงและราคาขึ้นไปหมด ตั้งแต่สิ่งเล็กๆน้อย เช่น อาหารตามสั่งหนึ่งจาน ไปจนถึงสิ่งใหญ่ เช่น บ้าน หรือรถยนต์ ทุกอย่างก็แพงขึ้นเพราะเศรษฐกิจของโลกที่ตกต่ำแบบนี้ ทำให้การจับจ่ายซื้อของ หรือค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของผู้คนก็ยากมากขึ้นทุกที และอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ว่าใครก็ต้องพึ่งพาพลังงานชนิดนี้อยู่ตลอดและสม่ำเสมอไม่แพ้ การใช้น้ำและกระแสไฟฟ้าเลยก็คือ พลังงานน้ำมัน นั่นเอง ซึ่งทุกวันนี้ก็มีราคาที่แพงามากขึ้นทุกทีไม่ค่อยจะเห็นว่าราคาน้ำมันลดลงสักเท่าไหร่ส่วนมาก็จะเห็นว่ามีราคาเพิ่มขึ้นเท่านั้น ถึงแม้จะเป็นการขึ้นราคาทีละเล็กทีละน้อยก็ตาม เช่นขึ้นราคาครั้งละ 50 สตางค์ ถึง 1 – 2 บาท เป็นต้น แต่เมื่อรวมแล้วก็ถือว่าแพงเพราะคนเราจะเติมน้ำมันหนึ่งหลายลิตรต่อครั้ง ดังนั้นเมื่อเราอยู่ในสถานการณ์ที่น้ำมันราคาแพงแบบนี้และไม่รู้ว่าจะมีโอกาสที่ราคาน้ำมันจะลดลงหรือไม่นั้น สิ่งที่เราทุกคนน่าจะทำได้ คือ อยู่กับสถานการณ์แบบนี้อย่างไรให้ประหยัดมากที่สุด?
เมื่อตระหนักราคาน้ำมันแพงขึ้นเราคงทำอะไรไม่ได้กับราคาน้ำมันเพราะเราไม่ใช่ผู้ผลิตหรือเจ้าของบ่อน้ำมัน แต่ในฐานะที่เป็นผู้ใช้บริการและลูกค้าเราควรต้องเริ่มจากการปรับเปลี่ยนการใช้รถของเราแล้วหล่ะ เช่น ขับรถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมันเพื่อจะเซฟเงินในกระเป๋าให้มากที่สุด ถึงแม้จะทำให้ราคาน้ำมันลดลงได้แต่เราสามารถใช้น้ำมันให้น้อยลงได้ด้วยวอธีการใช้รถที่เปลี่ยนไป บทความนี้จะนำวิธีการใช้รถให้ประหยัดน้ำมาฝากกันค่ะ ซึ่งมีวิธีต่างๆดังนี้คือ เอาสิ่งไม่จำเป็นออกจากรถ , ดับเครื่องเมื่อจอดรถ , จำกัดความเร็วในการขับขี่อยู่ที่ 80 กม. /ต่อ ชม. , หลีกเลี่ยงการเร่งเครื่องบอยๆ , การเบรกก็มีผลต่อการกินน้ำมัน , ดูแลรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ , ตรวเช็คลมยาง , ตรวจเช็คเครื่องปรับอากาศ นี่คือวิธีที่นำมาฝากกันค่ะมาดูข้อมูลของแต่ละวิธีเพิ่มเติมกันค่ะ
เอาสิ่งไม่จำเป็นออกจากรถ
หลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่าการที่รถของเรามีน้ำหนักมากขึ้นก็จะสูญเสียพลังงานน้ำมันมากขึ้นไปด้วยในการขับเคลื่อนไป เปรียบเทียบเหมือนกับตัวของเรา ถ้าเราเดินโดยที่หิ้วของที่มีน้ำหนักมากๆเราต้องใช้แรงและพลังงานมากกว่าเดินตัวเปล่าหรือถือของเบาๆใช้มั้ย รถของเราก็เหมือนกันถ้าตัวรถมีน้ำหนักที่เบากกว่าก็ใช้พลังงานน้ำมันน้อยกว่า ดังนั้นให้คุณเช็คดูว่าคุณมีสิ่งของที่ไม่จำเป็นที่เก็บไว้ในรถหรือไม่ ให้พยายามปลดออกให้มากที่สุดเพื่อรถของคุณจะเบาลงและประหยัดน้ำมันมากขึ้น แต่ก็ไม่ใช่แค่สิ่งของเท่านั้นนะคะ การบรรทุกคนหรือผู้โดยสารก็เช่นกัน พยายามอย่าบรรทุกคนเยอะเกินไป หรือบ่อยๆ เพราะจะทำให้รถมีน้ำหนักมากและเสียพลังงานน้ำมันไปเยอะด้วยค่ะ
ดับเครื่องเมื่อจอดรถ
รู้หรือไม่ว่าการติดเครื่องยนต์ไว้เป็นเวลา 5 นาทีเราจะสูญเสียน้ำมันไป 100 ซีซี เลยนะคะ ลองคิดคำนวนดูว่าถ้าเราติดเครื่องยนต์ไว้นานกว่านั้นจะสูญเสียพลังงาน้ำมันไปเท่าไหร่กัน เพราะบางคนก็ติดเครื่องยนต์ไว้นานมากอาจจะ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมงก็มีค่ะ เช่น จอดรถเพื่อลงไปซื้อของ และอีกสถานการณืหนึ่งที่ผู้คนจอดรถติดเครื่องไว้นานก็คือช่วงที่รถติดนั่นเอง เพื่อไม่ให้สูญเสียพลังงานน้ำมันด้วยสถานการณืแบบนี้คุณควรหลีกเลี่ยงการขับรถในช่วงฝนกตกเพราะช่งนั้นรถจะติดมากๆและทำให้คุณเสียน้ำมันรถไปมากทำให้สิ้นเปลืองเงินค่ะ อีกช่วงเวลาที่คุณควระจะหลีกเลี่ยงการใช้รถก็คือ ช่วงเช้าและช่วงเย็นของวันธรรมดาวันทำงานนั่นเอง แต่คุณคงคิดว่าจะหลีกเลี่ยงได้อย่างไรก็คือโดยการปรับเปลี่ยนเวลาสักหน่อย คือช่วงเช้าก็ควรจะตื่นเช้าอีกสักนิดเพื่อหลี่กเลี่ยงรถติดเช่น เวลา 6 – 7 โมงเช้าค่ะ และ ช่วงเย็นก็อาจจะกลับช้าหรือเร็วกว่าช่วงที่รถติกมากๆ เช่นช่วงเวลา 5 – 6 โมงเย็น หรือ 1 ทุ่ม ค่ะ ดังนั้นถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบติดเครื่องยนต์รถไว้ตอนจอดรถก็ควรเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้แล้วค่ะเพื่อจะประหยัดเงินค่าน้ำมันได้มากขึ้นนะคะ
จำกัดความเร็วในการขับขี่อยู่ที่ 80 กม. / ชม
การขับรถที่ความเร็วที่ 60 – 80 กม. / ชม. คืออัตราความเร็วที่เหมาะสมที่สุดที่จะประหยัดน้ำมันรถได้มากที่สุด วันนี้จำนำการคำนวนการขับรถที่ความเร็วมากกว่า 80 กม. / ชม. มาให้ดูกัยค่ะว่าจะสิ้นเปลืองพลังงานน้ำมันไปมากกว่ากี่เปอร์เซ็นต์
- อัตราความเร็วที่ 95 กม. / ชม. จะสิ้นเหลืองพลังงานน้ำมันไปมากกว่า 15%
- อัตราความเร็วที่ 110 กม. / ชม จะสิ้นเปลืองพลังงานน้ำมันไปมากกว่า 29%
ดังนั้นการขับรถที่อัตราความเร็ว 80 กม. / ชม. ถือว่าดีที่สุดในการใช้รถในชีวิตประจำวันในเมืองที่คุณอาศัยอยู่ ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อขับรถในการเดินทางไกลต้องขับเร็วกว่านั้น แต่การเกินทางไกลก็ไม่ได้บ่อยครั้งเท่าไหร่ แต่การขับรถที่เร็วกว่า 80 กม. / ชม. ในทุกวันนั้นต่างหากที่สิ้นเปลืองค่ะ ข้อดีของการขับรถที่ความเร็วเหมาะสมนอกจากจะช่วยประหยัดน้ำมันแล้วยังช่วยให้การขับขี่ของคุณปลอดภัยลดอุบัติเหตุได้ด้วยนะคะ
หลีกเลี่ยงการเร่งเครื่องบ่อยๆ
อีกพฤติกรรมที่จะทำให้คุณสูญเสียพลังงานน้ำมันไปมากนั้นก็คือ การเร่งเครื่องยนต์บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็ระบบเครื่องยนต์แบบเกียร์ธรรมดา หรือเกียร์อัตโนมัติก็ตาม การเร่งเครื่องบ่อนั้นไม่ดีต่อเครื่องยนต์ด้วยและส่งผลต่อน้ำมันเครื่องด้วยค่ะ ควรขับรถแบบรักษาความเร็วคงที่หรือถ้าจะเร่งความเร็วให้พยายามเร่งเครื่องทีละนิดไม่เหยียบมืดทีเดียว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแบบนี้ยอกจากจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันแล้วยังช่วยให้ระบบเครื่องยนต์ไม่สึกหรอเร็วด้วยและไม่สิ้นเปลืองน้ำมันเครื่องด้วยค่ะ มีการคำนวนออกมาด้วยว่า การเร่งเครื่องยนต์สำหรับรถเกียร์ธรรมดาในขณะที่เกียร์ว่างนั้น 10 ครั้ง คุณจะสูญเสียพลังงานน้ำมันไป 15 ซีซี ถ้าเป็รรถที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมา เช่น รถตู้ รถปิคอัพ รถบรรทุก จะสิ้นเปลืองพลังงานน้ำมันไป 100 - 300 ซีซี ต่อการเร่งเครื่องยนต์ 10 ครั้ง
การเบรกก็มีผลต่กการกินน้ำมัน
การเบรกก็ทำให้คุณสูญเสียพลังงานน้ำมันด้วยนะรู้ยัง ซึ่งการเบรกนี้สัมพันธ์กับการเร่งเครื่อง เพราะเมื่อเราเบรกเราก็ต้องมีการเร่งเครื่องอีกครั้ง ดังนั้นยิ่งเบรกบ่อยเท่าไหร่ก็ต้องกลับมาเร่งเครื่องบ่อยเท่านั้น ดังนั้นเพื่อจะปรับเปลี่ยนการเบรกให้ลดน้อยลงก็คือ พยายามขับรถอย่างมีสติมองการณ์ไกลวิเคราะห์สถานการณ์บนท้องถนนที่อยู่ข้างหน้าอย่างดี และเปลี่ยนจากการเบรกมาเป็นการปล่อยคันเร่งแทนการทำอย่างนั้นทำให้รถไม่ช้าลงมากเกินไป จึงไม่จำเป็นต้องเหยียบคันเร่งแรงๆ แต่แค่กลับมาเหยียบคันเร่งเบาอีกครั้งก็พอ การทำอย่างนี้ช่วยให้คุณประหยัดน้ำมันได้ด้วยค่ะ
ดูแลรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ
การดูแลเครื่องยนต์อย่างดีอย่างสม่ำเสมอนั้นช่วยได้มากในการที่รถของคุณจะประหยัดน้ำมันมากขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถด้วย เริ่มต้นดูแลด้วยการตรวจเช็คสภาพรถตามกำหนดทุกปีเป็นประจำซึ่งช่วยให้เครื่องยนต์ยังอยู่ในสภาพที่ดีตลอดและเป็นการยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ได้อย่างดีด้วยค่ะ องค์ประกอบที่มีผลทำให้เครื่องยนต์ของคุณเสื่อมสภาพและกลายเป็นเครื่องยนต์ที่กินน้ำมัน คือ ไส้กรองอากาสตัน : ทำให้การเผาไหม้ของรถยนต์ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร น้ำมันหล่อลื่นเก่า : ขาดคุณสมบัติในการล่อลื่น ระบบระบายความร้อนบกพร่อง : ทำให้เครื่องยนต์ไม่ได้ทำงานในอุณหภูมิที่เหมาะสมแต่อาจจะร้อนเกินไป หัวเทียนเสื่อมสภาพ : ทำให้เชื้อเพลิงถูกเผาไหม้แบบไม่สมบูรณ์ การตรวจเช็คและดูแลรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอนี้ไม่ได้ช่วยแค่ประหยัดนำมันอย่างที่บอกไป แต่ช่วยให้การขับขี่ของคุณปลอดภัยและไม่เสียเวลาในการซ่อมบ่อยๆด้วยค่ะ
ตรวจเช็คลมยาง
ลมยางก็มีส่วนในการทำให้รถของคุณกินน้ำมัน หรือ ประหยัดน้ำมันได้ด้วย ถ้าลมยางอ่อนเกินไปก็จะวิ่งได้ไม่คล่องตัวเท่าที่ควรมีผลให้รถของคุณกินน้ำมันมากกว่าปกติได้ค่ะ ดังนั้นควรหมั่นเช็คลมยางและคอยเติมลมอยู่เสมอ แต่การเติมลมยางมากเกินไปไม่ได้ส่งผลต่อการกินน้ำมันรถแต่จะส่งผลต่อการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัยของล้อรถได้เพราะจะแข็งเกินไปและยางอาจจะระเบิด หรือ เรียกว่ายางแตกได้ ดังนั้นคุณควรที่จะเติมลมให้พอดีกับตัวรถของคุณนะคะ และการตวรจสอบสภพาของยากก็สำคัญ เช่น การเช็ครอยขีดข่วน ฉีกขาด และรอยรั่วต่างๆก็สำคัญค่ะ อายุการใช้งานของยางรถควรไม่เกิน 6 ปี ถ้าเกินกว่านั้นควรจะเปลี่ยนได้แล้วเพื่อความปลอดภัยและเพื่อการประหยัดน้ำมันด้วยค่ะ
ตรวจเช็คเครื่องปรับอากาศ
การตรวจเช็คเครื่องปรับอากาศก็ช่วยในการประหยัดน้ำมันได้ด้วยนะ เช่น เช็คปริมาณน้ำยาแอร์ ความสะอาดของเครื่องกรองอากาศ คอยด์ร้อนและคอยด์เย็น และไส้กรอง การตรวจเช็คเรื่องเหล่านี้ก็เพื่อให้ระบบปรับอุณภูมิต่างๆภายในตัวรถนั้นทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นปกติ ซึ่งจะส่งผลต่ออุณภูมิของเครื่องยนต์ด้วย ถ้าสิ่งเหล่านี้ทำงาบกพร่องก็อาจจะทำให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไปและทำงานหนักส่งผลให้เปลืองน้ำมันได้ค่ะ หรืออีกมุมหนึ่งถ้ามีการทำงานผิดปกติคืออุณภุมิต่ำเกินไปเย็นเกินไป แอร์ทำงานหนักเกินไปก็เปลืองน้ำมันได้อีกเป็นแบบนั้นก็ไม่ดีเช่นกันค่ะ
สรุป
วิธีเหล่านี้ที่นำมาฝากกันช่วยได้จริงให้คนฝช้รถยนต์สามารถนำมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้รถเพื่อจะได้ปรหยัดพลังงานน้ำมันมากขึ้นในสถานการณ์ที่ราคาน้ำมันแพงแบบนี้ แต่ที่นำมาฝากกันก็ยังไม่หมด เพราะจริงๆแล้วการประหยัดน้ำมันก็ยังมีหลากหลายวิธีอีกมากมายแต่เท่าที่นำมาฝากกันนี้ก็เป็นเรื่องหลักๆและสำคัญมากๆค่ะ ถ้าคุณลองเอาวิธีเหล่านี้ไปใช้รับรองว่าคุณจะมีเงินเหลือเพิ่มมากขึ้นแน่นอน และที่สำคัญการใช้รถของคุณก็จะปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังประหยีดเงินในส่วนของการซ่อมบำรุงรักษารถยนต์ด้วยค่ะ เช่น รถยนต์ของคุณจะไม่มีทางเสียหาย หรือต้องซ่อมใหญ่แน่นอนเพราะคุณดูแลอย่างดีทุกๆระบบค่ะ และอีกอย่างที่ต้องเปลี่ยนตามพฤติกรรมเหล่านี้ คือความคิดนะคะ เช่นต้องเปลี่ยนความใจร้อนในการขับรถเร็ว และการวางแผนเส้นก่อนการเดินทางขับรถไปไหนมาไหนด้วยค่ะซึ่งจะช่วยให้คุณใช้ชีวิตแบบเซฟเงินได้ในช่วงเศรษฐกิจแย่ๆแบบนี้ค่ะ
Thawanya
นอกจากการหยุดใช้รถแล้ว ก็ยังมีวิธีหลายวิธีที่จะช่วยให้เราประหยัดน้ำมันจากการใช้รถยนต์ของเราได้ ดีหน่อยที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าราคาน้ำมันจะถูกลง บทความนี้แนะนำเกี่ยวกับวิธีทำให้รถของเราวิ่งด้วยน้ำมันที่ถูกลงด้วย อย่างเช่นการเอาของที่ไม่จำเป็นออกจากรถหรือการวิ่งด้วยความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ช่วยได้มากเลยทีเดียวครับ
พงพัฒน์
การประหยัดน้ำมันรถมีวิธีหลายอย่างครับ ผมว่าสาวๆทั้งหลายน่าจะมาอ่านนะครับ การดูแลรักษาเครื่องยนตือย่างดีก็ช่วยประหยัดด้วยนะครับ บางช่วงน้ำมันแพงก็ต้องประหยัดแต่ผมว่าช่วงนี้ก็ไม่ถือว่าแพงมาก แต่ผมไม่ห่วงเรื่องนี้เพราะว่าผมประหยัดน้ำมันรถอยู่แล้วครับด้วยการดูแลรถอย่างดีทุกอย่างโดยเฉพาะเรื่องความสะอาดภายใน
Sarah
การประหยัดน้ำมันรถก็เท่ากับว่าประหยัดเงินไปด้วย เพราะเห็นแล้วเดี๋ยวนี้ทุกอย่างราคาแพงมากขึ้น บทความนี้ให้ประโยชน์ได้มากจริงๆเลย เราต้องคอยเช็ครถสักหน่อยแล้ว ไม่อย่างนั้นรถยนต์ได้เสียค่าน้ำมันเยอะแน่เพราะยิ่งใช้รถยนต์ไปทำงานอยู่บ่อยๆ และบทความนี้ช่วยทำให้รถปลอดภัยได้มากขึ้นอีก เป็นประโยชน์มากจริงๆ เราจะได้นำวิธีเหล่านี้ไปบอกเพื่อนๆเผื่อจะช่วยพวกเขาได้ประหยัดค่าน้ำมันด้วย
Nichapat
ที่จริงเป็นวิธีพื้นฐานที่คนขับรถส่วนใหญ่รู้อยู่แล้วว่าขับรถอย่างไรถึงจะประหยัดน้ำมัน ถึงกระนั้นก็มีไม่กี่อย่างที่คนขับรถจะทำตามได้ เพราะเวลาขับรถแล้วขับช้าๆก็ไม่ทันใจ เหยีย[เกิน 80ก.ม./ชม.แน่ๆ555 แต่เรื่องเช็คลมยาง เช็คน้ำมัน เช็คเครื่องปรับอากาศคงได้เช็คกันอยู่ ที่รู้ไม่ใช่เพราว่าะเราขับรถเองหรอกนะคะที่บ้านมีคนขับให้ค่ะ เป็นอย่างนี้เลย
มาร์ค
ประหยัดยังไง ก็จ่ายเงินมากอยู่ดีครับ ดูราคาน้ำมันตอนนี้สิครับ ลิตรละ เท่าไรเข้าไปแล้ว เมื่อสองเดือนก่อนดีใจนะครับคิดว่าราคาน้ำมันจะถูกแบบนั้นตลอด ที่ไหนได้แค่เดือนเดียวก็ขึ้นแถมขึ้นมามากด้วย ตอนนี้ ที่บ้านประหยัดน้ำมัน มาใช้รถเครื่องแทนแล้วละครับ รถยนต์จอดไว้ในโรงจอดรถเลยครับ อันนี้ประหยัดไปได้หลายบาทต่อเดือนเลยนะ
ปูลม
ถึงราคาน้ำมันจะแพง แต่ถ้าไม่ต้องเติมบ่อยมันก็เรียกว่าประหยัดนั่นแหละครับผม ดังนั้นทำตามวิธีต่างๆที่บทความนี้หน่ะดีแล้วช่วยประหยัดได้จริงๆ ครับ ผมเป็นช่างซ่อมรถนะ ผมจะบอกให้เรื่องสำคัญที่สุกคือ ลมยางครับ กับของหนักในรถครับ สองอย่างนี้จัดการได้ช่วยให้ประหยัดได้เยอะเลยนะครับ ขอฝากไว้จากใจช่างซ่อมตัวเล็กๆคนนึง
เอกเขนก
วิธีของผมคือถ้าผมขับรถไปซื้อของบริเวณใกล้ๆบ้าน ผมจะไม่เปิดแอร์ครับจะเปิดหน้าต่างแทน มันช่วยประหยัดน้ำมันได้เยอะนะครับ แล้วถ้าวันไหนที่ผมออกจากบ้านสายแล้วรู้สึกว่ารถติดวิธีหนึ่งก็คือผมจะขึ้นรถไฟฟ้าแทน นอกจากจะช่วยประหยัดน้ำมันแล้วก็ยังช่วยประหยัดเวลา แล้วก็ไม่ทำให้ผมรู้สึกเหนื่อยจนเกินไปด้วยครับเวลาไปทำงาน
อิงอร
ช่วงนี้ราคาน้ำมันเริ่มขึ้นแล้วจริงๆนั่นแหละเรารู้สึกว่ารถที่ใช้ขับในเมืองอ่ะกินน้ำมันมากเพราะว่ามันต้องจอดต้องเร่งเครื่องต้องเบรคอยู่ตลอด ยังจอดอยู่สี่แยกไฟแดงแล้วจะให้ดับเครื่องทุกรอบก็ไม่ได้คีย์อยู่ถ้าคันข้างหน้าเบรคเราก็ต้องเบรคตามคันข้างหน้าเด้งแล้วก็ต้องเร่งตามแต่ว่าทำอะไรไม่ได้หนีนะอย่างน้อยก็ต้องดูแลรักษาเครื่องยนต์ถนอมมันไว้ไม่ใช่เพราะน้ำมันแพงนะเพราะรถมันแพงต่างหาก
ภิญญาพัชญ์
เรื่องพวกที่บอกว่าเอาของไม่จำเป็นออกจากรถ หรือขับช้าๆ อันนี้เราทำได้คะ เพราะเราเป็นผู้หญิง เรื่องการดูแลรักษาเครื่องยนต์ เป็นเรื่องที่ผู้หญิงอย่างเราทำได้ยากคะ ไม่ทราบว่าต้องทำอะไรบ้าง แบบนี้คงต้องให้คุณสามีเป็นคนช่วยดูแลแล้วละคะ แต่ปัญหาคือเวลาใช่สามีทีไร มักจะไม่ค่อบชอบเรา ไม่รู้เป็นอะไรใช้ให้ทำอะไรแต่ละอย่าง ต้องอารมณ์เสียใส่เราด้วย
เบล
แม้แต่การเร่งเครื่องก็ช่วยให้เราสามารถประหยัดน้ำมันรถได้นะคะไม่เคยรู้มาก่อนเลย เพราะว่าตัวเองก็เป็นคนที่ใช้รถในการเดินทางไปทำงานอยู่แล้วค่ะ ซึ่งค่าน้ำมันรถก็แพงเหมือนกันในแต่ละเดือน อยากจะหาวิธีที่จะช่วยลดค่าน้ำมันรถในแต่ละเดือนอยู่เหมือนกันค่ะ ซึ่งบทความนี้ก็ได้อธิบายหลายวิธีและวิธีหนึ่งที่ฉันเห็นว่าคุ้มค่าก็คือ อย่าซิ่งมากค่ะ
ธนา
@เบล ไม่รู้ว่าคุณอยู่ที่ไหนมาจริงๆคนใช้รถประจำก็น่าจะรู้อยู่แล้ว การเร่งเครื่องโดยที่ไม่จำเป็นทำให้เราเสียน้ำมัน แต่ถ้าเราขับรถด้วยความเร็วเป็นระยะเวลานานเหมือนขับทางไกลแบบนี้ก็ประหยัดนะ แต่หมายถึงการขับรถช้าๆแล้วก็เร่งความเร็วไวๆแล้วก็กลับมาขับช้าอีกแล้วเร่งความเร็วอีก เวลาขับรถอยู่ในเมืองแล้วติดไฟแดงบ่อยๆแบบนั้นครับเปลืองน้ำมัน
ปรมัตถ์
ประหยัดน้ำมัน ด้วยการให้ผมขับที่ 80 กม/ชม. อย่างนั้นเหรอครับ แบบนี้ผมยอมจ่ายค่าน้ำมันเพิ่มดีกว่าครับ เพราว่าผมเดินทางออกต่างจังหวัดบ่อยๆแล้วก็ต้องไปให้ถึงที่หมายให้ไวที่สุดด้วย นี้ถ้าผมทำตามคำแนะนำนี่ มีหวัง โดน เรียกค่าเสียหายแน่นอนครับ ตอนนี้น้ำมันแพง ถ้าใครที่ไม่ค่อยใช้รถยนต์ก็ดีไปครับ ขับมอร์ไซค์ ถูกกว่าเยอะเลย
Toffy
ช่วงนี้คือประหยัดน้ำมันรถมากค่ะ เพราะว่า ไม่ได้ไปทำงานที่ทำงานแล้วทำงานที่บ้าน ก็เลยไม่ค่อยได้ใช้รถ ซื้อของเดี๋ยวนี้ก็สั่งออนไลน์ค่ะทั้งของแห้งของสด ไม่ค่อยได้ใช้รถจริงๆแต่ เงินก็ไม่ได้เหลือเท่าไหร่นะคะอาจจะเป็นเพราะว่าช่วงนี้ซื้อของมากักตุน วิธีประหยัดน้ำมันรถในบทความนี้ก็น่าสนใจนะบางวิธีไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าช่วยให้ประหยัดน้ำมันรถได้