แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอะไรก็ตามย่อมต้องมีการตลาด การตลาดก็คือกระบวนการของการสื่อสารคุณค่าของผลิตภัณฑ์หรือบริการไปยังลูกค้า ซึ่งบางครั้งการตลาดก็เข้ามาเกี่ยวข้องกับการขายบ้างในบางครั้งซึ่งการตลาดที่เข้าเกี่ยวข้องกับการขายก็จะมีกลยุทธ์ที่หลากหลายมากมาย เพื่อทำให้คนที่แวะเวียนเข้ามาช้อปปิ้งในร้านนั้นยอมที่จะควักเงินที่มีซื้อสินค้าออกไปจากร้าน ซี่งวันนี้เราจะพูดถึงกลยุทธ์ทางการตลาดของร้านเสื้อผ้าที่ทำให้คนที่แวะเวียนเข้ามาในร้านเสียเงินมากกว่าที่คิด ซึ่งบางสิ่งที่จะบอกต่อไปนี้ คุณอาจจจะนึกไม่ถึงด้วยซ้ำ
ป้ายโฆษณา sales ไม่มีอยู่จริง
คำว่า SALES ไม่ว่าจะเป็นร้านอะไรก็ตามที่มีคำว่า SALES จะตกเป็นเป้าสายตาจากนักช้อปทั้งหลายทันที เมื่อมีคำว่า SALES มันจะตัวช่วยในการตัดสินใจอีกอย่างหนึ่งในการเลือกซื้อสินค้าสิ่งนั้นที่อาจจะยังไม่จำเป็น หรือไม่ได้ตั้งใจอยากจะซื้อแต่เป็นเพราะพลังของคำว่า SALES ทำให้ตัดสินใจหยิบใส่ตะกร้าไปจ่ายตังกันมานักต่อนักกันแล้ว สำหรับลูกค้าที่เดินผ่านร้านเสื้อผ้าที่ขึ้นป้ายตัวอักษรสีแดงตัวใหญ่ๆเขียนว่า SALES สำหรับลูกค้าที่เห็นแบบนั้นอาจจะคิดว่านั้นคือเวลาทองในการจับจ่ายซื้อเสื้อผ้าในร้านนั้นแล้ว แต่จริงๆมันเป็นเรื่องตรงกันข้ามกันเลย มันคือเวลาทองที่แท้จริงของทาง้านสักมากว่า เพราะป้ายที่ทางร้านขึ้นให้เห็นนั้นเป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งที่ทำขึ้นมาให้เรียกร้องความสนใจให้คุณเดินเข้ามาในร้านและซื้อเสื้อผ้า SALES ซึ่งมักได้ผลทุกครั้ง แต่ความจริงสินค้าที่ขึ้นคำว่า SALES นั้นถูกเพิ่มราคาให้แพงกว่าปกติ แล้วลดราคาให้เท่ากับราคาจริงๆของตัวสินค้านั้น หรือบางทีมีการขึ้นป้าย up to 70% แต่พอเดินเข้าไปในร้านแล้วจะพบสินค้าที่ ลด 70% แค่ไม่กี่อย่างและเป็นสิ่งที่ไม่น่าสนใจแต่สิ่งที่น่าสนใจของทางร้านกับลดราคา 10% เท่านั้น ก็มีให้เห็นกันบ่อยไป
กลยุทธ์เรื่องไชต์เสื้อผ้า
กลยุทธ์ในเรื่องของไชต์เสื้อผ้าเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่จะทำให้คุณผู้หญิงทั้งหลายควักเงินซื้อง่ายขึ้นหรืออยากที่จะซื้อมากขึ้นเพราะความมั่นใจ ว่าถ้าหากตัวเองนั้นสามารถที่จะใส่เสื้อผ้าไชต์ S ได้แล้วนั้นจะเท่ากับตัวเองนั้นมีรูปร่างที่สวย หุ่นดี เซ็กซี่ แล้วที่ทำไหมอยู่บางทีซื้อใส่จากใส่แบรนด์นี้ซื้อไชต์ S สามารถใส่ได้แต่พอไปซื้อเสื้อใส่อีกแบรนด์นึงต้องซื้อไชต์ M ถึงจะใส่ได้นั้นก็เพราะกลยุทธ์เรื่องไชต์เสื้อผ้านั้นเองที่ไม่ด้ทำเป็นมารตฐานอย่างแท้จริงแต่ทำเพื่อเอาใจผู้หญิงนักช้อปปิ้งทั้งหลาย เพราะเรื่องของไชต์เสื้อผ้านั้นมันเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อจิตใจผู้หญิงได้เป็นอย่างดี จึงใช้ได้ จึงเป็นกลยุทธ์ที่มีหลายแบรนด์หยิบไปใช้กัน
การโฆษณาขายเสื้อผ้าด้วยคนดังไม่ได้รับรองถึงคุณภาพของเนื้อผ้า
มีการโฆษณาเสื้อผ้าหลายรูปแบบที่ใช้ดาราหรือคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งในรูปแบบพรีเช็นเตอร์ และรูปแบบในการผลิตสินค้า Limited Edition ที่ราคากับคุณภาพสินค้านั้นไม่ได้ใกล้เคียงกันเลย ถ้าพูดถึงในเรื่องของสินค้า Limited Edition คนซื้ออาจจะไม่ได้สนใจในเรื่องของคุณภาพสักเท่าไรแต่ที่ซื้ออาจจะเพราะมีคุณค่าทางจิตใจก็แล้วแต่ เรามาพูดแบบที่เห็นกันได้ชัดเลยดีกว่าเกี่ยวกับการที่ใช้คนดังโฆษณาเสื้อผ้าแต่ไม่ได้รับรองถึงคุณภาพเสื้อผ้า อย่างเช่น ในตลาดหรือในห้างเวลาเราเดินเลือกเสื้อผ้าตามราวผ้าเรามักจะสังเกตเห็นรูปภาพของเสื้อลักษณะนี้แบบนี้มีดาราคนนี้เคยสวมใส่ นั้นแหละเป็นสิ่งที่ทำให้เราอยากซื้อเสื้อผ้าตัวนั้นโดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องอื่นเลยแต่สิ่งที่เราเห็นนั้นมันไม่ได้การันตีถึงคุณภาพได้เลยไม่มีอะไรมายืนยันได้เลยว่าเสื้อผ้าในรูปภาพที่ดาราใส่นั้นมันเป็นคุณภาพเดียวกันกับเสื้อผ้าที่แขวนขายอยู่ต่อหน้าเรา และดูเหมือนกลยุทธ์นี้ก็มักจะใช้ได้ผลเพราะมีบางคนที่ซื้อเพราะเห็นแค่รูปภาพแต่ไม่ได้ใส่ใจคุณภาพของเสื้อผ้า
กลยุทธ์การขายเสื้อเหมือนลดล้างสต๊อก
วิธีการนี้ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งของร้านขายเสื้อผ้าที่มักนิยมทำกันเหมือนกับการตั้งป้าย SALES โดยการกองเสื้อผ้าเป็นภูเขาเอาไว้เหมือนมันไร้ค่า เหมือนจะลดราคาเสื้อกองนี้เพื่อล้างสต๊อกเพื่อทำการดึงดูดความสนใจของคนที่ผ่านไปผ่านมาให้เข้ามาเลือกดูเสื้อผ้าเพราะคิดว่าเสื้อผ้าพวกนี้ราคาถูกแน่ๆ แต่หารู้ไม่ว่านั้นเป็นการจงใจของทางร้านหรือก็คือเป็นกลยุทธ์ดึงดูดความสนใจที่ได้ผลพอๆกับป้าย SALES อีกวิธีหนึ่ง วิธีนี้เรียกว่าเป็นวิธีกึงจิตวิทยาอีกข้อที่จะทำให้คุณเสียง่ายขึ้นให้กับร้านขายเสื้อผ้า เพราะเมื่อคนที่สนใจเข้ามาคุ้ยเสื้อผ้าแล้วเจอเสื้อผ้าที่ถูกใจมันจะทำให้รู้สึกเหมือนเจอทองคำในกองขยะ และทำให้รีบวิ่งไปจ่ายเงินทันทีเพราะกลัวโดนแย่ง
กลยุทธ์การตั้งราคาเสื้อผ้าจากวัตถุดิบการผลิต
แน่นอนการตั้งราคาสินค้าไม่ว่าจะเป็น เสื้อ กางเกง รองเท้า กระเป๋า เครื่องแต่งกายต่างๆ ส่วนใหญ่ก็จะมาจากวัตถุดิบการผลิต อย่างที่เราเห็นในทุกวันนี้ที่แบรนด์ดังที่ได้รับความนิยมและมีราคาแพงๆส่วนใหญ่จะผลิตเครื่องแต่งกายจากเครื่องหนังและเครื่องหนังก็เป็นวัตถุดิบที่มีราคาแพงเป็นอะไรที่เข้าใจได้แต่ก็จะมีการผลิต เสื้อผ้าที่มาจากวัตถุดิบธรรมชาติและใยสังเคราะห์อยู่ด้วยซึ่งคนส่วนใหญ่นั้นมักจะไม่ทราบถึงราคาวัตถุดิบทั้งสองอย่างนั้นมีราคาที่ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่ แต่ร้านขายเสื้อผ้าส่วนใหญ่จะตั้งราคาเสื้อผ้าที่ผลิตมาจากใยสังเคราะห์ให้มีราคาที่แพงกว่าเสื้อผ้าที่ผลิตมาจากวัตถุดิบธรรมชาติ ซึ่งจริงๆแล้วทั้งสองอย่างไม่ได้มีราคาที่แตกต่างกันเลย
แฟชั่นที่เปลี่ยนไปอย่งรวดเร็ว
มาพูดถึงเรื่องของแฟชั่นและเทรนด์กัน ทั้งสองอย่างนี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และทั้งสองอย่างนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจเสื้อผ้านั้นดำเนินต่อไปได้ เพราะฉะนั้นแบรนด์ต่างๆจึงมักจะทำการสร้างแทรนด์หรือแฟชั่นใหม่ๆขึ้นให้เป็นกระแส เพื่อให้ได้รับความนิยมในกลุ่มลูกค้าเพื่อเพิ่มยอดขาย และมีเงินไหลเข้ามาตลอดเวลา ซึ่งการซื้อเสื้อผ้าตามกระแสแฟชั่น ก็เป็นสิ่งที่คนทั่วไปนั้นนิยมทำกัน ในสมัยก่อนหน้านี้เทรนด์ใหม่ๆแฟชั่นใหม่ๆจะเกิดขึ้น ปีละ 2 ครั้ง คือ Spring/Summer และ Autumn/Winter แต่ในปัจจุบันนั้นมีเทรนด์และแฟชั่นเกิดขึ้นเรียกได้ว่าแทบทุกสัดาห์
สรุป
ถ้าสังเกตจะเห็นกลยุทธ์เหล่านี้เป็นเรื่องจริงที่ทางร้านขายเสื้อผ้าส่วนใหญ่ทำไม่ว่าจะเป็ร้านเล็กร้านใหญ่ในห้างหรือข้างนอก ซึ่งเป็นการใช้จิตวิทยาสักส่วนใหญ่ ซึ่งทำให้เรานั้นเสียเงินง่ายขึ้น และหวังว่าสิ่งที่นำมาบอกในวันนี้จะทำให้นักช้อปสามารถช้อปปิ้งได้อย่างชาญฉลาดไม่ตกเป็นเป้าหมายของร้านขายเสื้อผ้าทั้งหลายได้ง่ายๆอีกต่อไป
Fah
เป็นอย่างนี้นี่เองค่ะถึงว่าร้านค้าได้กำไรเยอะจัง บอกว่าลดราคาลดราคาแต่ที่ไหนได้หลอกเราซะแล้ว บทความนี้ทำให้เราเห็นว่าร้านค้าเสื้อผ้าแฟชั่นมีเทคนิคกลยุทธ์มากมายในการหลอกล่อใจเราให้เราซื้อสินค้าของเขา ซึ่งเราก็ไม่รู้เลยค่ะว่าโดนกลยุทธ์ของเขาไปเรียบร้อยแล้ว จะได้เข้าใจถูกต้องสักทีว่าลดราคาไม่มีอยู่จริงค่ะ
แนนนี่
หนูนี่โดนประจำเลยเห็นป้ายเซลลืไม่ได้ต้องวิ่งเข้าใส่ แต่พอซื้อมาก็พึ่งจะรู้ตัวว่าจริงๆแล้วก็ไม่ได้ราคาถูกอะไรหรอกแล้วซื้อที่ลดราคาก็ไม่ได้ช่วยให้ประหยัดอะไรมากด้วย ไม่ซื้อเลยประหยัดกว่าแต่ก็นะมันเป็การตลาดที่ได้ผลดีจริงๆอะ ยิ่งเห็นเพื่อนซื้อเราก็พากันซื้อทั้งกลุ่มเลยร้านนั้นก็ยิ้มเลยแหละ พยายามหักห้ามใจนะแต่ก็ยากมันน่าซื้อจริงๆ
วายุ
การทำธุรกิจขายเสื้อผ้าเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่น่าสนใจเหมือนกันนะครับ เพราะว่าเสื้อผ้าสามารถเก็บไว้ได้นาน และยังสามารถจัดตั้งกลยุทธ์ตามตลาดที่เราขายด้วย ว่าจะใช้กลยุทธ์แบบไหนเพื่อดึงดูดใจคนที่เดินผ่านไปผ่านมา บทความนี้ทำให้เห็นว่ากลยุทธ์แบบไหนที่เราควรหลีกเลี่ยง เพื่อที่จะไม่ทำให้เงินในกระเป๋าของเราลดลงหรือขาดทุนครับ
Rawisuda
ไม่ทันละ หมดเงินไปเยอะกับเรื่องเสื้อผ้าเนี่ย อยากรู้จริงๆว่าใครเป็นคนคิดกลยุทธ์การขายเสื้อผ้าต่างๆนี้ ได้ผลจริงทุกวิธีค่ะ..คอนเฟิร์ม! 555 เราเพิ่งรู้จากบทความนี้นะเรื่องไซส์เสื้อผ้าอะ ปกติเราซื้อตามแบบที่ชอบและใส่ได้น่ะนะ เคยสงสัยเหมือนกันว่าทำไมแต่ละยี่ห้อทำไซส์ไม่เท่ากัน ตอนแรกคิดว่ามันเป็นที่ดีไซน์ของเสื้อผ้าแต่ที่จริงเป็นกลยุทธ์การขายอย่างนึงด้วย!
คีรติ
อ่าน เม้นของ เพื่อนๆแล้ว ก็ดีใจคะ นี่ไม่ใช่แค่เราที่ตกเป็นเหยื่อ ของร้านขายเสื้อผ้า ยังมีเพื่อนๆอีกหลายคน ที่ตกเป็นเหยื่อด้วยเหมือนกัน ซื้อเสื้อผ้าจากร้านออนไลน์นะ ตัวดีเลย ชอบเอารูปดาราหรือคนดังมาโชว์ แต่พอสั่งมาแล้ว มันคนละเรื่องเลย ผิดหวังทุกครั้งที่สั่งของ แต่ก็แปลกนะ ยิ่งผิดหวังก็ยังจะซื้ออยู่
น้องแนน
เหมาะกับสาวๆเลยบทความนี้ มั่นใจว่าสาวๆร้อยทั้งร้อยเจอกลยุทธ์เหล่านี้แล้วไปไม่รอด ไม่รอดตั้งแต่ป้ายเซลล์แล้วค่ะ ที่พูดได้อย่างนี้ก็เพราะเราก็คือคนนั้นที่ไปไม่รอดเหมือนกัน มันเหมือนมีพลังงานบางอย่างที่มาดึงดูดเราให้เข้าไปในร้านเสื้อผ้าที่มีป้ายเซลล์แบบไม่รู้ตัวเลยค่ะ ถอนตัวถอนใจก็ไม่ขึ้น ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ได้ลดราคาจริงๆหรอก
ฝน
เราก็รู้นะคะว่าคำว่าเซลล์มันไม่มีอยู่จริงแต่ว่าพอเห็นทีไรมันก็รู้สึกแบบ sale 30% sale 70% มันทำให้รู้สึกเหมือนว่าเราสามารถประหยัดเงินได้ตั้ง 30 70 เปอร์เซ็นต์แต่อันที่จริงแล้วเวลาซื้อเราก็ไม่ได้ซื้อแต่ของที่มันเสียหรอคะแล้วก็คืออันที่มันราคาเต็มด้วย ไม่รู้จะยับยั้งห้ามใจตัวเองยังไงดี เสื้อผ้าจนไม่มีที่จะใส่อยู่แล้ว แต่ก็ไม่หยุดซื้อไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันค่ะ
กิ่งกาญจน์
กลยุทธ์ในเรื่องของไชส์เสื้อผ้าอันนี้เราว่าไม่ค่อยจริงเท่าไหร่นะ ในความคิดของเราไซส์ไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่ที่จะทำให้เราตัดสินใจในการซื้อได้ เราว่ารูปแบบ คุณภาพการตัดเย็บ แล้วก็ราคาที่ถูก อันนี้เราว่าส่งผลกับการซื้อมากกว่าไซส์อีก ไม่ว่าเราจะไซส์อะไรถ้าใส่เสื้อผ้าตัวนั้นแล้วออกมาดูดีใครๆก็ซื้อทั้งนั้นแหละ
ปิ่นมณี
เรื่องของดาราที่เอามาเป็นคนโฆษณา อันนี้ใช่เลยคะ ไปเจอเสื้อผ้าบางอย่างนะ ดาราใส่กันแถมลงรูปโชว์ด้วยเลย แต่พอเราซื้อมากลับไม่ได้เรื่องเลย ยิ่งถ้าเป็นเสื้อผ้าที่ขายออนไลน์ด้วยแล้ว ไม่ค่อยจะตรงกับปกเท่าไรเลย ตอนที่ดูในเวบสวยมากๆ แต่พอเราซื้อมานะ มันยังไงๆไม่รู้ ใส่แล้วก็ดูแปลกๆ ไม่เห็นจะเหมือนที่ลงในเวบเลย จะคืนก็เสียดายค่าส่ง
น้ำหอม
อันนี้ฉันรู้นานแล้วค่ะว่าป้ายเซลล์ที่ติดตามโปรโมชั่นลดราคานั้นจริงๆแล้วไม่มีอยู่จริง เพียงแค่เป็นการตั้งราคาหลอกๆเพื่อให้เราเห็นว่ามีการเซลล์หรือลดราคาสูง ซึ่งใครใครที่คิดว่าเป็นราคาที่ลดแล้วก็จะติดกับแล้วก็ซื้อไปจนได้ค่ะ แต่สำหรับฉันแล้วทำอะไรฉันไม่ได้หรอกเพราะฉันจะซื้อแต่ของที่ฉันตั้งใจจะซื้อตั้งแต่แรกเท่านั้น
บัว
@แนนี่ งั้นเราก็เป็นโรคเดียวกันค่ะคือโรคเห็นป้าย sale ลดราคาเป็นไม่ได้เลยไม่รู้ทำไมเหมือนกันบางทีป้าย sale ลดราคาติดได้เร็วขึ้นมาในห้างว่าลดราคาเนี่ยเราอาจจะไม่ได้จำเป็นต้องใช้ก็ได้แต่อย่างน้อยไปดูสักหน่อยก็ดีและสรุปไปทีไรก็ต้องซื้อบางอย่างออกมาทุกทีที่ว่าการตลาดสำคัญล่ะค่ะยิ่งคนเห็นเยอะลูกค้าเห็นเยอะก็มีโอกาสซึ่งเยอะอย่างเช่นเราเองก็เป็นลูกค้าของการตลาดด้วยเหมือนกัน 555
Yuri
@แนนนี่ 5555 เป็นเหมือนแฟนผมเลยครับ ป้าย sale นี้แทบจะเป็นเหมือนแม่เหล็กดูดเลยนะเห็นไม่ได้ บางทีก็ไม่ได้ลดราคาอะไรมากหรอก ถึงจะลด ก็ลดจากสินค้าแบรนด์เนมที่มีราคาสูงมากอยู่แล้ว แบบชุดตัวนึงปกติราคาอยู่ที่ 5,000 บาท 50 เปอร์เซ็นต์ก็เหลือ 2,500 บาทก็ยังแพงอยู่ดีครับ เข้าใจเลยคนบ้าอะไรต้องใส่เสื้อผ้าแพงขนาดนั้น วันนี้ซื้อเสื้อผ้าตามตลาดครับตัวละ 99 ก็พอแล้ว