ในความเป็นจริงการเป็นคนร่ำรวยก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะมีความสุขเสมอไป เพราะการมีทรัพย์สมบัติมากๆ หรือธุรกิจที่ใหญ่โต ก็จะมาพร้อมกับความเครียด และความกังวล แต่ความร่ำรวยที่บทความนี้จะนำมาให้คุณได้อ่านก็คือ ความร่ำรวยแบบปราศจากความเครียดความกังวล รวยแบบมีสติและความสงบจิตใจ รวยไปอย่างช้าๆ และมั่นคง การที่จะเป็นคนร่ำรวยแบบนี้ไม่ต้องเหนื่อยเกินไป แต่จะเป็นการเอาใจใส่กับเรื่องการเงินเล็กๆน้อยๆที่คุณอาจจะมองข้ามไป แต่บทความนี้จะทำให้คุณหันกลับมามองเรื่องเงินในชีวิตของคุณที่คุณเคยมองข้ามไปและเอาใจใส่กับเรื่องนั้นให้มากขึ้นเพื่อที่จะเหลือเงินเพิ่มขึ้น ถ้าคุณทำอย่างนั้นได้ในระยะยาวรับรองได้เลยว่าคุณจะเป็นคนหนึ่งที่ร่ำรวยได้โดยไม่ต้องไปไขว่คว้า ทะเยอทะยาน และทุ่มเท กับของใหญ่ๆจนเกินตัว แต่คุณจะเป็นคนที่มีเงินเพียงพอใช้จ่ายของตัวเองกับครอบครัว แถมยังเหลือเก็บไปจนถึงอนาคต และมีความสุขที่ได้ใช้เงินนั้นทำอะไรๆที่คุณชื่นชอบอีกด้วย
ตามหัวเรื่องนี้บทความนี้จะมาบอกนิสัยไม่ดีทางการเงินที่คุณต้องปรับเปลี่ยนเพื่อจะกลายเป็นคนร่ำรวยได้ทั้ง 8 นิสัยที่ไม่ดีนี้ที่ต้องเลิกทำคือ 1.จ่ายเงินล่าช้า 2.จ่ายเงินล่าช้าแล้วยังจ่ายเฉพาะขั้นต่ำอีก 3.กดเงินจากตู้ ATM ต่างธนาคารเป็นประจำ 4.มีเงินเท่าไหร่ใช้หมด 5.มีแผนออมเงิน แต่ก็ยังเอาเงินออมมาใช้ 6.ใช้เงินก่อน ออมทีหลัง 7. เป็นสมาชิกของบริการต่างๆที่ไม่จำเป็น 8.ไม่มีการวางแผนการซื้อประกัน นี่คือนิสัยที่ไม่ดีที่ขัดขวางการเงินของคุณให้ไม่ราบรื่นมาดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันค่ะ
1. จ่ายเงินล่าช้า
การจ่ายเงินล่าช้าที่จะพูดถึงนี้หมายรวมถึงการจ่ายบิลต่างๆ โดยเฉพาะบิลที่มีค่าปรับ และค่าติดตาม เพราะจะทำให้คุณสูญเสียเงินไปเปล่าทั้งที่ไม่จำเป็นแล้วถ้าคุณมีนิสัยแบบนี้อยู่เป็นประจำคุณก็จะพบว่าคุณเสียเงินไปในจำนวนที่มากเลยนะในปีปีหนึ่ง และผลเสียของการจ่ายบิลต่างๆล่าช้าก็คือ คุณจะมีประวัติที่ไม่ดีทางการเงินส่งผลให้เมื่อคุณจะทำธุรกรรมต่างๆทางการเงิน เช่น การขอสินเชื่อต่างๆ การกู้เงินซื้อบ้าน กู้เงินซื้อรถ และกู้เงินเรื่องอื่นๆยากมากขึ้น โดยเฉพาะบิลบัตรเครดิตถ้าคุณมี การชำระบิลบัตรเครดิตช้านั้นมีผลเสียอย่างมากที่มาถ่วงการเงินของคุณในหลายๆทางค่ะ ดังนั้งไม่ว่าบิลอะไรก็พยายามอย่าจ่ายล่าช้านะคะ แต่สำหรับบางคนที่เป็นคนขี้ลืมแบบสุดๆแก้ไม่หายก็ควรใช้บริการการชำระแบบตัดบัญชีอัตโนมัติก็จะช่วยได้มากนะคะ
2. จ่ายล่าช้าแล้วยังจ่ายเฉพาะขั้นต่ำอีก
ยกตัวอย่างสำหรับการจ่ายบิลบัตรเครดิตล่าช้ะกันนะคะ เพราะจะสามารถทำให้คุณเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น การชำระบิลบัตรเครดิตล่าช้าทำแน่นอนว่าทำให้คุณเสียค่าปรับและทำให้สิ้นเปลืองเงินไปแบบไม่จำเป็นแล้วก็ยังทำให้เสียชื่อเสียงทางการเงินไปด้วยอีกกระทงหนึ่ง แต่ผลเสียอีกอย่างหนึ่งที่บางคนทำเป็นนิสัยเลยก็คือ การจ่ายบิลบัตรเครดิตแค่ขั้นต่ำเท่านั้น เพราะคุณสมบัติของบัตรเครดิตที่สามารถให้ลูกค้าสามารถชำระขั้นต่ำได้ที่ 10% (แต่ก็ต้องไม่เกิน 500 – 1,000 บาท) ซึ่งดูเผินๆก็เหมือนเป็นช่องทางที่ทำให้คุณสบายตัวไป แต่จริงๆแล้วไม่เลย เพราะการจ่ายบิลบัตรเครดิตแค่ขั้นต่ำนั้นจะกลับจะทำให้คุณต้องจ่ายเงินในจำนวนมากขึ้นไปอีกถ้ามองไปในระยะยาวค่ะ เพราะยิ่งคุณมีนิสัยจ่ายบิลบัตรเครดิตขั้นต่ำมานานแค่ไหนก็แสดงว่าคุณมีดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่เยอะมากรอการชำระอยู่นั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น คุณมีเงินต้นที่ต้องชำระอยู่แค่ 10,000 กว่าบาทเท่านั้น แต่คุณกลับมีดอกเบี้ยที่รอการชำระอยู่ถึง 50,000 บาทเลยทีเดียว และเงินนี้ก็คือหนี้ที่ยังๆคุณก็ต้องหาทางชำระให้ได้แล้วคุณจะไม่สนใจก็ไม่ได้เพราะเมื่อเวลาหนึ่งคุณก็ต้องหันมาชำระหนี้ส่วนนี้จนได้ไม่อย่างนั้นคุณจะไม่สามารถใช้บัตรเครดิตได้อีกต่อไป เพราะสถาบันทางการเงินไม่ยอมปล่อยให้คุณสบายตัวไปนานเท่าไหร่หรอกค่ะ ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา ดินพอกหางหมู หรือ หนี้ก้อนโตในระยะยาวคุณควรจะพยายามชำระบิลบัตรเครดิตมากกว่าขั้นต่ำ หรือ ชำระเต็มจำนวนไปเลยจะดีกว่านะคะ
3. กดเงินจากตู้ ATM ต่างธนาคารเป็นประจำ
การกดเงินจากตู้ ATM ต่างธนาคารนั้นต้องเสียค่าธรรมเนียมประมาณ 10 – 15 บาท คุณอาจจะมาองว่าก็แค่เงินเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็อยากให้คุณมองไปในระยะยาวลองคิดคำนวณดูนะคะว่าถ้าวันหนึ่งคุณกดเงิน 2 ครั้งต่อวันจากตู้ ATM ต่างธนาคารและเสียค่าธรรมเนียมไปวันละ 30 บาท แล้วคิดดูว่าเดือนหนึ่งคุณเสียเงินไปเท่าไหร่ คิดแบบนี้นะคะ 30 บาท ต่อวัน X 30 วัน ต่อเดือน = 900 บาท เห็นมั้ยคะว่าไม่น้อยเลยนะ เพราะเงิน 900 บาทนี้คุณสามารถเอาไปใช้จ่ายสิ่งที่จำเป็นได้มากกว่านี้ หรือเอามาเป็นเงินออมก็ยังได้เลย ดังนั้นนิสัยไม่ดีนี้ควรเลิกได้แล้วค่ะ เพื่อจะได้มีเงินเหลือเพิ่มมากขึ้น
4. มีเงินเท่าไหร่ใช้หมด
ถ้าคุณมีนิสัยที่ไม่ดีในเรื่องเงิน เช่น ไม่มีการวางแผนการใช้จ่ายเงินเลย หรือใช้เงินแบบไม่มีเป้าหมาย การที่คุณมีเงินเท่าไหร่ก็ใช้หมดเป็นเรื่องง่ายมากๆ เพราะเงินเมื่ออยู่ในกระเป๋า และตัวคุณเองไปอยู่ในแหล่งช้อปปิ้งแล้วละก็ไม่ยากเลยที่คุณจะจ่ายเงินออกไปแบบไม่ทันคิดไม่ทันรู้ตัว ยิ่งถ้าในกระเป๋านั้นมีบัตรเครดิตอยู่ด้วยแล้วละก็ แค่นี้ก็จบกันเงินหมดกระเป๋าแน่แล้วยังเอาเงินล่วงหน้ามาใช้อีกด้วย การมีนิสัยแบบนี้ทำให้คุณไม่มีทางจะเป็นคนร่ำรวยได้เพราะนี่เป็นอุปสรรคอันยิ่งใหญ่เลยค่ะ ดังนั้นคุณควรกลับมาตรวจสอบตัวเองและเริ่มวางแผนการใช้เงินอย่างจริงจังได้แล้วก่อนจะเป็นหนี้หัวโตค่ะ
5. มีแผนออมเงิน แต่ก็ยังเอาเงินออมมาใช้
หลายคนที่มีนิสัยแบบนี้ มักจะหาข้ออ้างมาให้ตัวเองดูดี จริงอยู่ว่าเงินออมนั้นก็เป็นเงินของคุณ และการเอาออกมาใช้นั้นก็ไม่ได้เดือนร้อนอะไร แต่ในระยะยาวหล่ะ ถ้าคุณทำแบบนี้เป็นนิสัยสุดท้ายแล้วคุณก็จะไม่มีเงินเก็บในระยะยาวคุณก็จะพบว่าเดือดร้อนมันเป็นยังไง นิสัยไม่ดีแบบนี้ทำให้การวางแผนออมเงินของคุณไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จ จนบางทีคุณเอาเงินออมออกมาใช้จนไม่เหลือเลยก็ได้ ดังั้นเพื่อก้นิสัยที่ไม่ดีนี้คุณควรออมเงินอย่างมีเป้าหมายที่จะซื้ออะไรบางอย่างก็ได้ เช่น ออมเงินเพื่อซื้อบ้าน ออมเงินเพื่อซื้อรถ ออมเงินเพื่อซื้อทอง เป็นต้น ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่คุณมีเงินเก็บมากที่ซื้อได้ก็อาจจะไม่ซื้อก็ได้แต่การมีเป้าหมายแบบนี้ช่วยให้คุณออมเงินได้สำเร็จนะคะ
6. ใช้เงินก่อนออมเงินทีหลัง
คนที่มีนิสัยที่ไม่ดีแบบนี้เพราะไม่ยอมเปลี่ยนความคิดเก่าๆ อย่างเช่นมักจะคิดแบบนี้ คือ เมื่อได้เงินมาเท่าไหร่ก็เอาไปใช้ก่อน แล้วเหลือเท่าไหร่ก็ค่อยเอามาเป็นเงินออม แต่นั่นเป็นความคิดและนิสัยที่ไม่ดีทางการเงินเลยเพราะสุดท้ายแล้วคุณจะไม่เหลือเงินเก็บเลยแม้แต่บาทเดียวถ้าคุณคิดจะใช้เงินก่อนออมทีหลัง การเป็นคนร่ำรวยก็อยุ่ไกลเกินเอื้อมแล้วหล่ะ แต่เพื่อที่คุรจะเป็นคนร่ำรวยได้คุณต้องออมเงินทันทีเมื่อได้เงินเข้ามา และมีแผนอย่างชัดเจนว่าแต่ละเดือนได้เงินมาเท่าไหร่จะแบ่งไว้เพื่อออมเท่าไหร่ ต้องแบ่งเงินออมไว้เลยนะคะ แล้วส่วนที่เหลือก็ค่อยนำไปใช้จ่ายค่ะ
7. เป็นสมาชิกของบริการต่างๆที่ไม่จำเป็น
การเป็นสมาชิกของบริการอะไรบ้างที่ทำให้คุณเสียเงินโดยที่ไม่จำเป็น ยกตัวอย่างเช่น การเป็นสมาชิกฟิตเนสหรูๆ การเป็นสมาชิกเคเบิ้ลทีวี การเป็นสมาชิกร้านค้าต่างโดยเฉพาะร้านค้าเครื่องสำอางของคุณผู้หญิง ทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นและทำสิ้นเปลืองเงินไปเปล่าๆ เพราะบางครั้งคุณไม่จำเป็นต้องซื้อของบางอย่างแต่ด้วยความที่เป็นสมาชิกจึงถูกดึงดูดให้ไปซื้อของที่ลดราคาเฉพาะสมาชิกเท่านั้น หรือการเป็นสมาชิกเคเบิ้ลทีวีจริงๆก็ไม่จำเป็นเพราะบางทีคุณเองก็ไม้ได้อยูบ้านนั่งดูทีวีสักเท่าไหร่ ดังนั้นลองตรวจสอบตัวคุณเองดูว่ามีบริการไหนบ้างที่ไม่จำเป็นและสิ้นเปลืองเปล่าๆ ให้พยายามตัดทิ้งและยกเลิกไปซะ จะได้ไม่มาเป็นอุปสรรคขัดขวางความร่ำรวยของคุณ
8. ไม่มีการวางแผนการซื้อประกัน
การซื้อประกันเอาไว้ไม่ได้ทำให้คุณสิ้นเปลืองไปเปล่าๆนะคะ แต่กลับกันการที่คุณไม่มีการซื้อประกันไว้เลยต่างหากที่ทำให้คุณสิ้นเปลืองมากๆ ในระยะยาว และในระยะสั้นด้วย เพราะเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ การเจ็บป่วย ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ที่เกิดขึ้นการที่คุณไม่มีบริษัทประกันเข้ามาช่วยเหลือหรือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายคิดดูนะว่าคุณต้องเสียเงินของตัวเองไปมากแค่ไหน ดังนั้นคุณควรจะถามตัวเองว่า เมื่อขับรถจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุ? จะเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยหรือร้ายแรงก็ไม่สามารถรู้ได้จริงไหม? คุณไม่รู้ว่าจะเจ็บป่วยร้ายแรงเมื่อไหร่? คุณไม่รู้หรอกว่าค่ารักษาพยาบาลในเหตุการณ์ฉุกเฉินที่คุณจะต้องจ่ายนั้นเป็นเงินเท่าไหร่? เมื่อคุณเสียชีวิตคุณแน่ใจได้อย่างไรว่าคนในครอบครัวจะอยู่อย่างสบายไม่เดือดร้อน? สำหรับคำถามเหล่านี้รับรองได้เลยว่าคุณคงไม่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้แน่นอน ดังนั้นถ้าไม่สามารถตอบได้ การวางแผนทำประกันเอาไว้จึงช่วยคุณได้มากในการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินให้คุณและครอบครัวได้มีความสบายใจมากขึ้น ลองคิดดูว่าคุณกำลังเก้บออมเงินได้พอสมควรแต่ไม่มากเท่าไหร่แต่เกิดเหตุหารณ์ฉุกเฉินขึ้นมาแล้วคุณไม่มีประกันเลย ทำให้คุณต้องเอาเงินออมที่ยังไม่มากออกมาใช้จนหมดทำให้คุรไม่มีเงินเหลือแถมบางครั้งเงินออมที่มีก็ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายด้วยซ้ำ เพราะสมัยนี้ที่อะไรๆก็แพงมากขึ้นรวมไปถึงค่ารักษาพยาบาลด้วย ดังนั้นการทำประกันเอาไว้จึงเป็นทางเลือกที่ดีและนิสัยที่ดีที่คุณควรปรับเปลี่ยนเพื่อจะไม่มีอะไรมาขวางความร่ำรวยของคุณได้ ต้องจำคำนี้ไว้เลยว่า เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย คำนี้เอามาใช้ได้กับใครที่ไม่เคยคิดจะทำประกันเพราะกลัวเสียเงินเปล่าไปได้เลยเพราะเหมาะมากๆค่ะ
สรุป
ทั้ง 8 นิสัยที่ไม่ดีนี้ อาจจะเป็นนิสัยที่ดูเล็กน้อย แต่เมื่อคุณได้พิจารณาแล้วก็จะเห็นว่าทั้งหมดนี้เป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ได้ที่จะขัดขวางความร่ำรวยของคุณ ดังนั้นเพื่อที่คุณจะไม่มีอุปสรรคขัดขวางเอาไว้ขอให้เริ่มปรับเปลี่ยนและเลิกนิสัยที่ไม่ดีเหล่านี้ให้หมดไปจากชีวิตคุณให้เร็วที่สุด เพื่อนาคตที่ดีทางการเงินของคุณทั้งในตอนนี้และในระยะยาวที่ยังมาไม่ถึงค่ะ
อรรถสิทธิ์
ก่อนจะได้อ่านเรื่องนี้ผมคิดว่าการที่เราเก็บเงินไม่ค่อยได้นั้นมาจากการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเท่านั้น แต่มารู้ก็วันนี้ว่าไม่ช่แค่นั้นมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ทำให้เรายากจนลงไปได้ คราวนี้จะต้องจัดการวางแผนให้ละเอียดตามบทความนี้บอกซะแล้ว เร่ิมจากการวางแผนซื้อประกันเลยครับ ผมเองไม่มีประกันเลยจริงๆ ไม่เคยทำ พอมานึกดูเวลาป่วยก็ใช้เงินเยอะนะถ้ามีประกันคงดีมากเลย ไปสมัครดีกว่า
วัชราภรณ์
โดนใจมากเลยครับ 8 อย่างที่พูดมานั้นเข้าตัวผมหมดเลย โดยเฉพาะเอาเงินเก็บออมมาใช้ ไม่ค่อยได้คิดถึงความสำคัญของการนำเงินเก็บออมมาใช้จ่าย อดใจไม่ได้จริงๆครับที่จะใช้เงิน โดยเฉพาะอยากกินอยากเที่ยวอยากใช้ เพราะความอยากนี่แหละอดใจไม่ไหวทำให้ต้องใช้เงิน อย่างน้อยผมก็ได้รู้วิธีการสำรวจตัวเองเกี่ยวกับการใช้เงิน เพื่อจะได้มีเงินเหลือไว้ใช้บ้างในอนาคตครับ
สมหญิง
ยอมรับเลยค่ะว่าจะเป็นคนร่ำรวยจำเป็นต้องมีพฤติกรรมการใช้เงินที่ สนับสนุนให้มีเงินคงเหลือเงินเพิ่มขึ้นเท่านั้น ถ้ายังมีพฤติกรรมที่ทำให้เงินหมดลงหรือลดลงก็มีแต่ไม่มีทางรวยค่ะ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวนั้นมีอะไรบ้างบทความนี้ได้อธิบายเกี่ยวกับพฤติกรรมเสี่ยงดังกล่าวที่จะทำให้เราไม่มีทางรวยขึ้น ถ้าเราสามารถหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยงนะคะ
Tayika
หลักๆของการจะเป็นคนร่ำรวยได้ เอ่อ..เอาแค่มีเงินเก็บเพิ่มขึ้นก็พอ นั่นคือ การวางแผนการใช้เงินและการควบคุมตัวเองในการใช้จ่ายค่ะ ถ้าเรามีการวางแผนก่อนการใช้เงิน เราจะไม่ใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่ายและใช้จ่ายอย่างรอบคอบพร้อมกับแบ่งเงินไปออมไว้เพื่อนาคตด้วยค่ะ หากเราควบคุมตัวเองได้เราจะไม่เอาเงินที่ออมไว้มาใช้โดยไม่จำเป็นค่ะ
ฤทธ์
ใช่เลยครับ คนไทยไม่ค่อยชอบทำประกันกันครับ เพราะว่าอาจคิดว่าเสียเงินทิ้งครับ เลยไม่ค่อยทำกัน แต่ถ้าเรามองความเสี่ยงแล้ว การทำประกันสมควรที่เราจะทำที่สุดครับ ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาการที่เรามีประกันจะช่วยเราได้จริงๆเลยนะครับ ตอนที่เราประสบอุบัติเหตุ เราจะรู้เลยครับว่ามันมีค่าใช้จ่ายไม่ใช่แค่ค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น มันมีเยอะกว่านั้น ทำเถอะครับป้องกันความเสี่ยง
Tenten
ผมโดนเกือบทุกอย่างเลยครับ นิสัยไม่ดีเลยครับ แต่มันก็เลิกยากนะนิสัยไม่ดีเหล่านี้ก็เราติดจนเป็นนิสัยจนเคยชินไปแล้ว แต่ก็นั่นแหละใคร Move On ได้ก่อนคนนั้นก็รวยก่อนก็เท่านั้นเอง ใครยังจมปลักยังเลิกไม่ได้ก็ไม่รวยสักที ซึ่งผมคงไม่ค่อยอากรวยอะไรมากนักมั้งครับก็เลยไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองสักที แต่คงที่อยากรวยน่าจะ Move On ได้เร็วกว่า
ยุย
เราเองเมื่อก่อนก็เคยคิดนะคะว่าการกดเงินจากตู้ atm อาทิตย์ละครั้งเนี่ย แล้วก็เสียค่าธรรมเนียมไปข้างละ 10 บาท 20 บาทไม่เยอะเท่าไหร่บางอาทิตย์กว่าจะไปกดที่ตู้ ATM 2 ครั้ง แต่พอมารวมเงินแล้วบางทีเราเสียค่าธรรมเนียมไปเดือนละ 200 300 เลยก็มีเงิน 200 300 บาทนี้ใช้ทำอะไรได้เยอะแยะเลยนะคะเราว่าหลังจากนี้เราจะไม่ไปกดตู้จากเงิน ATM และจะเปลี่ยนมาใช้เป็นเงินใน wallet ดีกว่า
กระจกเงา
ใครที่ชอบโดนค่าธรรมเนียมเวลากดเงินต่างธนาคาร ตอนนี้มีข่าวว่าจะมีตู้ atm สีขาวแล้วนะ เป็นของธนาคารกสิกรกับธนาคารออมสินจับมือกัน ชื่อโครงการ “ATM สีขาว” จะกดเงินสดได้โดยที่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเลย และยังครอบคลุมไปถึงการโอนเงินระหว่างบัญชีที่ผูกกับบัตรของทั้งสองธนาคารนี้ด้วย พูดง่ายๆว่าไม่มีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม ทำให้เราสามารถประหยัดขึ้นได้
น้องนุช
สมควรแล้วละกับคนที่ประเภทว่าส่งเงินก็ช้า ช้ายังไม่พอยังไปส่งขั้นต่ำอีก สมควรแล้วที่เป็นหนี้แบบนี้ ไม่เคยจำเลยสิว่าการส่งขั้นต่ำดอกเบี้ยมันจะเพิ่มขึ้นอีก เราว่านะ ถ้าใช้เบตรเครดิตแล้วส่งแบบนี้ ไปยกเลิกการใช้งานเลยดีกว่า อย่าเอามาใช้เลย เดียวมันจะเป็นหนี้ที่เกิดจากดอกเบี้ยเอา ไว้ให้พร้อมก่อนแล้วค่อยไปทำใหม่ดีกว่า
วา
ไม่มีทางรวยหรอกครับถ้ามีเงินเท่าไหร่ใช้หมด นึกถึงคนที่มีเงินสิครับ เหมือนกับคนที่มีอำนาจจะใช้อำนาจเท่าไหร่ตัวเองก็คงชอบและมีความสุข แล้วถ้าตัวเองรู้สึกว่ามีเงินเท่าไหร่ใช้ไปหมดเลย ต้องคิดถึงนะครับว่าในอนาคตจะเอาเงินไปลงทุนและใช้อะไร แต่คนที่ไม่รวยเขาคงไม่คิดกันหรอกครับเกี่ยวกับถึงจุดนี้เพราะสุดท้ายแล้วก็มีเงินแล้วก็ใช้หมดไปแล้ว
Jeen
อ่านบทความมีแล้วจุกๆยังไงไม่รู้ค่ะ รู้สึกว่าโดนตัวเองทั้งนั้นเลย คิดว่าหลายคนคงมีปัญหาไม่ต่างจากเรานะเพราะว่าเพื่อนๆในกลุ่มในแก๊งเดียวกันก็มีปัญหาแบบนี้ การจัดสรรค่าใช้จ่ายหรือรายได้มันยากจริงๆ แต่อ่านบทความนี้แล้วก็เริ่มหันมาดูตัวเองว่ามีนิสัยแบบนี้จริงๆอายุเริ่มมากขึ้นสงสัยจะต้องเริ่มเปลี่ยนนิสัยแล้วล่ะค่ะ