แต่ละคนก็มีวิธีและเทคนิคเพิ่มเงินเก็บในกระเป๋าให้มีมากขึ้นในแบบของตัวเอง ที่ได้มาจากการศึกษาเรียนรู้บ้าง และทำตามคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินที่ประสบความสำเร็จ และนำมาปรับให้เข้ากับสภาพของตัวเองเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น บางคนที่ทำได้ก็มีเงินเพิ่มในกระเป๋าจริงๆ ส่วนบางคนที่ทำไม่ได้ก็ต้องมาดูว่า ทำผิดวิธีหรือเปล่า? หรือว่าพลาดขั้นตอนอะไรบางอย่างไปมั้ย?
เช่น บางคนชอบซื้อของใช้ มาเก็บไว้เพราะเห็นว่าลดราคา และเห็นว่าสวยดี หรือซื้อมาเผื่อไว้อาจจะมีโอกาศได้ใช้ในวันข้างหน้า หรือซื้อเพราะของเก่าใช้มานานรู้สึกเบื่อ ถ้าคุณได้ทำการสำรวจตัวเองในเรื่องเล็กๆเหล่านี้ และพบว่าตัวเองเป็นแบบนี้จริงๆ นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้คุณเพิ่มเงินเก็บในกระเป๋าไม่สำเร็จซักที ในบทความนี้เรามีวิธีที่จะช่วยให้คุณมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอนค่ะ แต่จะทำอย่างไรนั้น ต้องอ่านต่อค่ะ
5 RS วิธีเพิ่มเงินในกระเป๋ามีอะไรบ้าง และน่าสนใจอย่างไร?
การเพิ่มเงินเก็บในกระเป๋า และในบัญชีธนาคาร ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้ารู้จักวิธี และมีวินัยกับตัวเอง และทำเป็นประจำ สม่ำเสมอ ยิ่งในทุกวันนี้เป็นสมัยที่ทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน ถ้าคุณไม่มีเงินคุณก็อยู่ไม่ได้ ถ้ามีเงินไม่พอใช้ก็ลำบาก มีแต่ความเครียด ความกังวล นอนไม่หลับ สุดท้ายก็ป่วย จริงๆ แล้วแต่ละคนก็คงต้องมีวิธีเพิ่มเงินเก็บให้ตัวเองอยู่แล้วใช่มั้ย เช่น การฝากเงินกับธนาคาร และลงทุนในธุรกิจที่ตัวเองถนัดไม่ว่าเป็นการเล่นหุ้น ซื้อกองทุน ซื้อสลากออมสิน ส่วนบางคนหารายได้พิเศษเพิ่มขึ้นจากการทำงานประจำ เช่น ขายของออนไลน์ ทำขนม หรือ ทำอาหารขาย และ ส่งตามออฟฟิศ ทั้งหมดนี้เป็นวิธีเพิ่มเงินให้กับตัวเอง แต่ส่วนที่จะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นรึเปล่านั้นก็ต้องมาดูกันอีกที เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุด ในการเก็บเงิน ไม่ใช่แค่ การหาเงิน แต่เป็น การใช้เงิน ต่างหาก คนที่เขาใช้เงินเป็น เขาจะ ใช้ของทุกอย่างที่ซื้อมาเป็นด้วย ฟังดูแล้ว น่าสนใจ ใช่มั้ย คนที่ประสบความสำเร็จในการเพิ่มเงินเก็บในกระเป๋า เขามีวิธีเพิ่มเงินเก็บ แบบ 5 RS ด้วย คือ Reduce, Reuse, Recycle, Repair, Reject แต่ละอย่างคืออะไร ต้องทำอย่างไร และน่าสนใจขนาดไหน บทความนี้จะให้รายละเอียดเป็นข้อๆไปนะคะ
1. Reduce ใช้งานจากสิ่งของให้คุ้มค่า และนานที่สุด
อันดับแรกในการเพิ่มเงินเก็บคือ Reduce หมายถึง การลดของที่จะทิ้งให้น้อยลง ลดการใช้ของสิ้นเปลือง หรือใช้ของให้ประหยัด คุ้มค่า และยาวนานที่สุด เดี๋ยวนี้การซื้อของซักชิ้นหนึ่งทำได้ง่ายมากๆ อยากได้อะไร ก็ไปตลาด ไปห้างสรรพสินค้า หรือจะสั่งทางออนไลน์ได้ง่ายมาก แถมยังเลือกได้ด้วยว่าจะจ่ายเงินก่อน หรือจ่ายทีหลัง จะจ่ายเงินสด หรือ จ่ายผ่านบัตรเครดิตก็ได้ ยิ่งสมัยนี้เป็นยุคของเทคโนโลยี มีการโฆษณา สินค้าได้อย่างน่าสนใจ ผ่านทาง ทีวี แอพฯ ต่างๆบนมือถือ ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน เราสามารถดูได้ สั่งได้ บางครั้งไม่ได้มีความจำเป็นอะไรเลย แต่มันสวยดี ก็เลยอยากซื้อ
เพราะฉะนั้นการเพิ่มเงินแบบ Reduce จะช่วยคุณให้คิดมากขึ้น ว่า การหาเงินเพิ่ม กับการประหยัดเงินอะไรทำได้ง่ายกว่ากัน คิดก่อนที่จะซื้อของใหม่แต่ละอย่างว่า ของเก่าที่มีอยู่ยังใช้ได้อยู่มั้ย ถ้ายังใช้ได้ก็ใช้ไปก่อน หรือยังมีอยู่ไหม ถ้ายังมีอยู่เราต้องใช้ของเก่าให้หมดก่อน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง ยาสีฟัน น้ำยาซักผ้า ฯ และของใช้ในครัว
2. Reuse ใช้สิ่งของที่มีซ้ำๆ บ่อยๆ ให้คุ้มค่า
หลักการของ Reuse คือ ถ้าคิดจะซื้อของใหม่มาแต่ละชิ้น เราต้องแน่ใจว่าจะใช้ให้บ่อยที่สุด และให้เกิดประโยชน์สูงสุด เราจะยืดอายุ การใช้งานให้นานที่สุด ใช้ซ้ำหลายๆ ครั้ง จริงๆ แล้วของใช้ในชีวิตประจำวันของเรามีหลายอย่างมากที่เราใช้บ่อยๆและใช้ทุกวัน เช่น รถยนต์ ซึ่งมีราคาสูงมาก ถ้าเราซื้อมาเอาไว้ประดับฐานะ และจอดเอาไว้เฉยๆ ราคาลดลงแน่นอน แถมเราต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นในการบำรุงรักษา เช่น ต้องเปลี่ยนยางใหม่ อะไหล่ใหม่ ต้องซ่อมเครื่องอีก แต่ถ้าเราซื้อมาเพราะมีความจำเป็น และใช้ทุกวันก็ถือว่าคุ้มค่า ส่วนเสื้อผ้า ถึงแม้ราคาจะไม่แพงมากเท่ากับรถยนต์ แต่ถ้าเราซื้อบ่อยๆ ใส่ไม่กี่ครั้งก็เบื่อหรือเพราะมันดูเก่า หรือล้าสมัย เราจะเปลี่ยนวิธีใหม่ได้มั้ย เช่น เลือกแบบที่ใส่ได้ตลอด ไม่ต้องตามแฟชั่น เก็บรักษาอย่างถูกวิธี จะทำให้เรามีเสื้อผ้าใหม่ทุกวัน ไม่ต้องซื้อบ่อยๆ ถ้าเราใช้สิ่งของที่ซื้อมาให้เกิดประโยชน์สูงสุดก็ถือได้ว่าเราเพิ่มเงินในกระเป๋าได้ตามหลักของการ Reuse.
3. Recycle นำของเก่า มาดัดแปลงใช้ใหม่
ความหมายของ Recycle ใครๆ ก็รู้จักดี และได้ยินกันมาตลอดใช่มั้ยคะว่ามันคือ การนำของที่เหลือใช้มาแปรรูป ใหม่เพื่อนำกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ซึ่งเรารู้กันดีอยู่แล้ว แต่บางครั้งมักจะหลงลืมไป เพราะชีวิตมันมีแต่ความเร่งรีบ และรักความสะดวกสบายจนเคยตัว เลยไม่ได้ใส่ใจเท่าที่ควร ดังนั้น หลักการเพิ่มเงินเก็บแบบRecycle จึงจำเป็นกับคนยุคนี้ เราลองมาดูกันว่า แต่ละวันเราใช้อะไรไปบ้างและอะไรที่สามารถนำกลับมา Recycle ได้บ้าง เช่น กระดาษ ไม่ว่าจะเป็นกระดาษ A4 และกระดาษทิชชู กระดาษแอนกประสงค์ ทุกอาชีพเราต่างต้องใช้กันทั้งนั้น แทนที่จะใช้แล้วทิ้งเราเปลี่ยนพฤติกรรม มาใช้ให้คุ้มค่าที่สุดกันดีมั้ย เพื่อจะได้ประหยัดค่าใช้จ่าย และเป็นการรักษาต้นไม้ได้ด้วย เมื่อจะต้องซื้อของใหม่ซักอย่างให้คิดดูก่อนว่า เราเอาของที่มีอยู่มาปรับแต่ง ประดิษฐ์ ให้เป็นของใหม่ได้มั้ย? เช่น กางเกง กระโปรง หรือเสื้อผ้า ที่ใส่มานานแล้ว ขาดแล้ว นำมาตัดเติม เสริมแต่งก็จะทำให้ได้เสื้อผ้าตัวใหม่ขึ้นมาทันที โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม.
4. Repair ซ่อมก่อน ค่อยคิดซื้อใหม่ทีหลัง
หลักการเพิ่มเงิน Repair คือมีของใช้อะไรในบ้านเสียเอามาซ่อมแซมใหม่ ให้อยู่ในสภาพที่ใช้ได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เสื่อผ้า อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ของใช้ในครัวเรือน ของใช้บางอย่างที่เราคิดว่ามันเสีย เพราะใช้ไม่ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องทิ้งแล้วซื้อใหม่เท่านั้น จริงๆแล้วของใช้ทุกอย่างมันมีกลไกลการทำงานของมัน และมันมีอุปกรณ์และอะไหล่ ที่สามารถ ซ่อมได้ หรือเอาชิ้นใหม่มา เปลี่ยนได้ ความรู้ในการซ่อมก็สามารถทำเองได้ แต่ถ้าเราทำไม่ได้ก็ส่งให้ทางร้านรับซ่อม หรือส่งศูนย์ซ่อมได้ ดีกว่าคิดแบบง่ายๆ ว่า ไม่ดีก็ทิ้ง ซื้อใหม่ดีกว่า ไม่ต้องเสียเวลา ซ่อมแล้วจะใช้ได้เหมือนเดิมหรือเปล่า ถ้าเราคิดแบบนี้กับของใช้ทุกอย่างในบ้าน หมายความว่าเมื่อมีของในบ้านเสียเราต้องซื้อใหม่ทั้งหมด รับรองได้ว่า ถึงแม้จะหาเงินได้มากแค่ไหนก็ตามเราอาจจะไม่มีเงินเก็บเพิ่มขึ้นแน่นอน.
5. Reject ไม่ซื้อของที่เป็นขยะและที่ไม่จำเป็น
การเพิ่มเงินแบบ Reject อาจจะทำได้ยากหน่อย เพราะเราต้องปฎิเสธที่จะไม่ซื้อสิ่งของที่เป็นขยะและทำลายทรัพยากรของโลกทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ในท้องตลาดบ้านเราสมัยนี้ สินค้าทุกอย่างที่วางขายทำให้ห้ามใจได้ยาก เพราะมันน่าซื้อ น่าใช้ น่าเป็นเจ้าของ ถึงแม้จะเอามาใช้ประโยชน์ไม่ได้ก็เอามาโชว์เพื่อความภูมิใจ ประดับบ้านเพื่อความสวยงาม และบ่งบอกฐานะ หรือถ้าไม่ซื้อก็จะทำให้เรากลายเป็นคนไม่ทันสมัย จริงๆ แล้วถ้าเราใส่ใจ เรื่องของการ Reject เราสามารถเลือกได้ว่า เราจะใช้อะไรก็ได้ ที่ ทำลายทรัพยากรให้น้อยที่สุด เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจาก พลาสติก โฟม ซึ่งใช้เวลาในการย่อยสลายนานมาก เราอาจจะเปลี่ยนนิสัยโดยการใช้ถุงผ้าทุกครั้งเมื่อไปซื้อของ เพื่อลดปริมาณขยะที่เกิดจากถุงพลาสติก ถึงแม้เราจะไม่เห็นถึงอันตรายที่เกิดขึ้นในตอนนี้ก็ตาม แต่ที่เห็นแน่นอนคือ เงินในกระเป๋าของเราจะหายไป
วิธีเก็บเงินในกระเป๋าแบบอื่นๆ
เมื่อพูดถึง การมีอิสระทางการเงิน ไม่มีใครปฎิเสธว่า ไม่ต้องการ ยิ่งเรามีอิสระทางการมากเท่าไหร่ ชีวิตของเราก็จะสะดวกสบาย มั่นคงมากขึ้นเท่านั้น แต่เพื่อจะไปถึงจุดนั้นได้ เราต้องรู้จักวิธีเพิ่มเงินเก็บให้กับตัวเองด้วย อย่างเช่น ต้องลดค่าใช้จ่ายก่อน เริ่มจากตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปให้หมด เหลือเอาไว้เฉพาะค่าใช้จ่ายที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น หลังจากนั้นก็ หารายได้เพิ่ม เช่น ทำงานทางอินเทอร์เน็ต การสร้าง Website ทำ Blog เพื่อโปรโมตสินค้า ทำธุรกิจขายตรง ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แบ่งที่ดินให้เช่า สร้างหอพัก คอนโด โรงแรม ลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้น กองทุนรวม ทองคำ การลงทุนแบบนี้ผู้ลงทุนต้องมีความรู้ ความเข้าใจในสิ่งที่จะลงทุนให้ดี และยอมรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในการลงทุนได้ด้วย นอกจากวิธี ลดรายจ่าย และ เพิ่มรายได้แล้ว ยังใช้วิธีง่ายๆแบบนี้ควบคู่ไปด้วยได้เช่น
- กำหนดเงินที่จะใช้ในแต่ละวัน
- ไม่ซื้อของตามอารมณ์
- แยกเงินที่จะเก็บเอาไว้ให้ต่างหาก
- ใช้บัตรเครดิตเท่าที่จำเป็น
- ทำบัญชี รายรับ-รายจ่าย
ถ้าใครสนใจเพิ่มเงินเก็บลองเอาวิธีเหล่านี้ไปใช้ก็ได้นะคะ
สรุป
แต่ละคนก็มีวิธี เพิ่มเงินเก็บในแบบของตัวเอง ทั้งฝากในธนาคาร และหารายได้เพิ่มโดยการลงทุน และทำงานเสริมจากงานประจำ สำหรับในยุคนี้เงินไม่เคยพอใช้ ไม่จะซื้ออะไรก็ต้องใช้เงิน จะคิดเพียงแค่หาเงินไม่พอซะแล้ว เราจะต้องรู้จักวิธี เพิ่มเงินแบบ 5 RS ด้วย แต่ถ้าใครสามารถทำตามได้ทุกขั้นตอนรับรองมีเงินเพิ่มเข้ามาในกระเป๋าแน่นอน
Rangsiman
Reuse นี่ทำบ่อยๆกับเสื้อผ้า ชอบเอาเสื้อผ้าที่ไม่ใช้มาดัดแปลงใหม่ ทำให้ไม่ต้องไปซื้อใหม่แพงๆ อีกอย่างชอบ Recycle ด้วย เช่นขวดพลาสติกก็สามารถที่จะเอาเป็นกระถางเพื่อปลูกผักสวนครัวกินได้ หรือไม่ก็เอาไว้เก็บผักไม่ให้ช้ำไว้ในตู้เย็น ทำให้ยืดอายุผักได้ยาวนาน โดยที่ไม่ต้องซื้อบ่อยๆ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะคะ
Wipada
ดีเหมือนกันนะคะ คืออย่างน้อยเราก็สามารถตรวจสอบการใช้ชีวิตของเรา แล้วทำให้เรารู้ว่ามีวิธีอะไรบ้างที่ช่วยให้การประหยัดอดออมสามารถทำได้ ในกิจกรรมหรือในกำลังมือของเราเอง สำหรับฉันแล้วการเก็บเงินก็เป็นเรื่องที่ยากเหมือนกันค่ะ แต่พอได้อ่านบทความนี้แล้วก็มีหนทางหรือว่ามีช่องทาง ที่จะสามารถเก็บเงินได้อยู่นะคะจะลองทำดูค่ะ
น้ำผึ้ง
ดีเหมือนกันนะคะมีวิธีที่จะช่วยให้เงินอยู่ในกระเป๋าได้นานขึ้น โดยเพียงแค่เราตรวจสอบเกี่ยวกับสิ่งที่เรามีอยู่ แล้วก่อนที่เราจะซื้ออะไรก็เพียงแต่เราต้องดูความคุ้มค่าระยะเวลาการใช้งานมานานไหม แล้วตรวจเช็คสิ่งที่เรามีอยู่ว่าจะสามารถใช้ต่อไปได้คุ้มค่าขนาดไหน วิธีการเหล่านี้ช่วยให้เราสามารถที่จะฝึกความเป็นระเบียบวินัยและประหยัดอดออมไปในตัวได้ด้วยค่ะ
บุษบากร
โดนใจมากค่ะทั้ง 5 วิธีเลย โดยเฉพาะ Reject ไม่ซื้อของที่เป็นขยะและที่ไม่จำเป็น" อ่านแล้วแทบสะอึก555 เมื่อออกไปข้างนอกเราจะพยายามคิดถึงข้อนี้ไว้ตลอด จะได้ไม่ซื้อของมาเก็บไว้ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าคงไม่ได้ใช้แค่ขอมีไว้ในครอบครองเท่านั้น เออ..รู้ทั้งรู้แล้วจะซื้อมาทำไม ความอยากได้มันรั้งใจคนชอบซื้อยากจริงๆค่ะ
แฉล้ม
เราชอบเรื่องที่ 5 มากคะ เรานี่ตรงเลยคะ เห็นของที่ถูก เราก็ซื้อเก็บไว้ก่อนเลนคะ คิดว่าเดียวคงได้ใช้ แต่ผ่านไปเป็นปีแล้วก็ยังไม่ได้เอามาใช้เลย สินค้าบางอย่างที่ซื้อมาก็พังไปตามอายุ ถ้าจะเอามาใช้ก็ใช้ไม่ได้ ต้องไปซื้อใหม่อยู่ดี เห็นแบบนี้แล้ว เราต้องปรับเปลี่ยนเรื่องนี้แล้วละ อย่างน้อยก็ไม่ใช่แค่เรื่องเงินอย่างเดียว แต่เพื่อความสะอาดในบ้านเราด้วย
เตชิน
ผมชอบทุกข้อเลยครับ คิดว่าหลายคนคงชอบเหมือนกัน วิธีต่างๆในบทความนี้เอามาใช้จริงๆได้เลย ถ้าทำได้ทั้ง 5 ข้อนี้รับรองเงินเหลือแน่ จริงแล้วเรื่องพวกนี้เราก็รู้นะแต่ไม่ค่อยทำกันเพราะลืมตัว อย่างแม่ผมอะทำทุกข้อเหล่านี้อยู่แล้ว เพราะแม่ผมสายประหยัดตัวจริงครับ ผมว่าจะลองเอามาใช้กับชีวิตผมบ้างแล้ว บทความนี้ก็เป็นสิ่งที่มาเตือนให้คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก็ดีเหมือนกัน
แพรรี่
Reject สำหรับเรายากสุดอ่ะ....เป็นคนติดใช้ถุงพลาสติกมาก เข้าใจนะว่าทำลายสิ่งเเวดล้อมแต่บางทีไปตลาดซื้อของสดมันทำให้กระเป๋าเราเปื้อนเลอะเทอะเเละเหม็น .... ใครบ้างซื้อเนื้อหมู เนื้อปลา แล้วใส่ถุงผ้า?? เราไม่ได้เลยต้องใส่ถุงพลาสติกค่ะ เพราะขี้เกียจมานั่งซักถุงผ้าบ่อยๆเสียเวลา น่าจะมีวิธีผลิตถุงพลาสติกที่ทำจากพืชบ้างก็ดีนะ จะได้ย่อยสลายกันง่ายๆบ้าง
ดา
วิธีที่แนะนำมาดีมากนะคะ แต่สิ่งสำคัญคือจะทำได้ไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับตัวของแต่ละคน เอาจริงๆเราว่าวินัยการเก็บเงินน่ะเป็นเรื่องที่ฝึกกันยากมาก เราเองกว่าจะฝึกวินัยการเก็บเงิน รู้จักประหยัดจากสิ่งของ ใช้ของซ้ำ รู้จักใช้ของให้คุ้มค่า ใช้เสื้อผ้าตัวเดิมบ่อยๆเป็นเรื่องยากเหมือนกัน มันต้องเปลี่ยนที่นิสัยแล้วก็วินัยการใช้ชีวิตเลยล่ะเดี๋ยวจะ เพิ่มเงินในกระเป๋าได้
ถิรเจต
ตั้งชื่อซะ คิดว่าเป็นรหัสเลยนะคะ ที่ไหนได้เป็นการใช้สิ่งของที่เรามีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุดนี่เอง ปกติแล้วเรามักซื้อของใช้ที่มียี้ห้อมากกว่าของไม่มียี้ห้อคะ เพราะอย่างน้อยของมียี้ห้ออาจจะแพงกว่า แต่การรับประกันก็มากตามไปด้วยคะ แล้วการใช้งานก็นานกว่าด้วย ไม่ต้องซื้อบ่อยๆคะ เพื่อนๆคงน่าจะโดนกันมาบ้างแล้วนะซื้อของถูกแต่ใช้ได้ไม่นานผลสุดท้ายราคาแพงกว่าของมียี้ห้ออีก
มิ้น
สำคัญเหมือนกันนะคะสำหรับตอนที่เราตัดสินใจจะเลือกใช้สิ่งของที่จะมาใช้ในชีวิตประจำวัน ถ้าเราเลือกสินค้าที่ค่อนข้างที่จะอยู่ด้วยนานก็จะช่วยให้เราประหยัดเงินไปด้วย เราคิดถึงว่าถ้าสินค้านั้นอายุสั้นหรือว่าปล่อยวางเราจำเป็นต้องเสียเงินที่จะซื้อสินค้านั้นอีก และขึ้นอยู่กับการใช้งานด้วยเราจำเป็นต้องทะนุถนอมสิ่งที่เราใช้เพื่อที่จะได้อยู่ไปนานๆด้วยค่ะ