พูดถึงการท่องเที่ยว ใครบ้างที่ไม่ชอบ? เมื่อมีโอกาสก็รีบฉวยเอาไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ เพราะการไปเที่ยวถือได้ว่าเป็นการชาร์จแบตเตอรี่ให้กับตัวเอง ผ่อนคลายความเครียด ให้รางวัลกับตัวเองหรือครอบครัว หาประสบการณ์ใหม่ๆ และเป็นการเปิดหูเปิดตา

แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะไปเที่ยวได้ตามที่ตั้งใจเอาไว้ ส่วนใหญ่เป็นเพราะสภาพเศษฐกิจ การวางแผนไปเที่ยวอาจจะเป็นไปได้ยาก หรืออาจจะเป็นเพียงความฝันเท่านั้น  แต่ถ้าเรามีความต้องการจริงๆ และเป็นความใฝ่ฝัน อยากทำตามฝัน ก็สามารถทำได้และฝันก็จะเป็นจริงได้ ถ้าเราไม่ละความพยายาม แต่ความพยายามนั้นต้องมีขั้นมีตอน   และทำอย่างเป็นระบบ ถึงแม้จะมีงบน้อยสามารถทำได้

บทความนี้เรามีวิธีบางอย่างที่อาจจะช่วยคุณไปเที่ยวได้จริงตามที่ฝันเอาไว้ได้ด้วย 5 วิธี (1) การจัดตั้งงบประมาณ (2) เก็บเงินเพื่อการท่องโดยเฉพาะ  (3) มองหาแผนการท่องเที่ยวที่ประหยัด (4) วางแผนจ่ายก่อนแล้วผ่อนที่หลัง และสุดท้ายนั้นก็ (5) เต็มที่กับการเที่ยวในทริปให้สุดๆ ไปเลย แต่เราจะทำตามขั้นตอนต่างเหล่านี้ได้อย่างไร และจะไปเที่ยวได้จริงๆมั้ย ลองอ่านไปพร้อมกันทีละขั้นตอนเลยค่ะ

1. จัดตั้งงบประมาณ

1. จัดตั้งงบประมาณ

ขั้นตอนแรกๆ ที่จะทำให้ฝันเป็นจริงได้ต้องมีการ การกำหนดเป้าหมาย เช่น จะไปเที่ยวประเทศไหน เมืองอะไร ช่วงเวลาไหน แล้วก็เริ่มศึกษาหาข้อมูลจาก การรีวิว สถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะไป คนเหล่านั้นเขาไปกันยังไร ไปกันเองหรือว่าไปกับบริษัททัวร์  พกเงินไปกันคนละประมาณเท่าไหร่

เมื่อได้เป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว เราเริ่มลงมือจัดตั้งงบประมาณ เมืองที่เราจะไปจะต้องใช้เงินสำหรับการเดินทางเท่าไหร่ ตั้งแต่ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ  ค่าเดินทางระหว่างการท่องเที่ยว มีบริษัททัวร์พาเที่ยวราคาประหยัดมั้ย ถ้าเราดูแล้วแพงเกินไปเราน่าจะเดินทางไปเองเลย  โดยเริ่มค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดจากเว็บไซต์ของสายการบินต่างๆ เช็คราคาโปรโมชั่น ช่วงไหนที่มีราคาถูกที่สุด แต่ถ้าช่วงที่เราจะไปไม่มีโปรโมชั่น เราอาจจะมองหาสายการบินต้นทุนต่ำเป็นทางเลือกที่จะช่วยให้การไปเที่ยวของเราเป็นจริงได้ ในช่วงที่เที่ยวในแต่ละเมืองเราจะดินทางแบบไหนที่ราคาถูกที่สุด สามารถหาข้อมูลล่วงหน้าก่อนไปได้และลองคำนวณเป็นวันๆไปว่าระหว่างช่วงเวลาที่เที่ยวอยู่นั้นต้องใช้เงินค่าเดินทางเฉลี่ยวันละเท่าไหร่?

ส่วนงบประมาณในเรื่องที่พัก ถ้าเน้นความประหยัด อาจจะชวนเพื่อนไปด้วยกัน แชร์ค่าห้องกันได้   เรื่องอาหารการกินก็เหมือนกัน เราต้องหาข้อมูลค่าครองชีพของเมืองนั้นเป็นอย่างไร ราคาอาหารต่อมื้อราคาเท่าไหร่ ค่าน้ำ หรือเครื่องดื่มราคาเป็นยังงัย  ถ้าจะกินที่ร้านอาหารทุกมื้อเราจะไหวมั้ย เราจะตั้งงบประมาณเท่าไหร่ จะเน้นกินแบบง่ายๆ อะไรก็ได้ หรือว่าอยากไปกินอาหารอร่อยๆ ที่ขึ้นชื่อของเมืองนั้นๆ

เมื่อเราเริ่มตั้งงบประมาณ ทั้งค่าตั๋วเครื่องบินค่าที่พัก ค่าอาหาร เราจะเริ่มได้ข้อมูลค่าใช้จ่ายหรืองบประมาณคร่าวๆ ในการไปเที่ยวครั้งนี้ได้แล้ว ขั้นตอนต่อไป เริ่มเก็บเงินเพื่อการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ

2. เก็บเงินเพื่อการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ

2. เก็บเงินเพื่อการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ

การวางแผนเก็บเงินเพื่อเที่ยวโดยเฉพาะ เราต้องรู้ก่อนว่าเราจะเอาเงินจากไหนเพื่อเก็บ ส่วนใหญ่แต่ละคนก็มีเทคนิคที่ต่างกันออกไป ทั้งนิสัยและวินัยในการเก็บออมเงินด้วย  เมื่อเราจำนวนงบประมาณการเที่ยวครั้งนี้คร่าวๆ แล้ว เริ่มวางแผนเก็บเงินทุกเดือนเราคำนวนดูว่าเราสามารถเก็บเงินได้เดือนละเท่าไหร่สำหรับการเที่ยว

รายจ่ายในแต่ละเดือนมีอะไรบ้าง หักลบกลบหนี้แล้วแต่ละเดือนเหลือเงินเท่าไหร่ ต้องเก็บเผื่อเอาไว้ตอนฉุกเฉินด้วย ไม่ควรจะเก็บเงินทั้งหมดเพื่อไปเที่ยว แต่ควรจะแบ่งเป็นส่วนๆอาจจะแบ่งเงินสำหรับไปเที่ยวเอาไว้ต่างหาก ซัก 10% ของเงินเดือน เมื่อรู้ว่าจะเก็บได้เดือนละเท่าไหร่ เริ่มเก็บเงินส่วนนี้เข้าบัญชีสำหรับการท่องเที่ยวโดยฝากเป็นบัญชีเงินฝากประจำที่จะทำให้ถอนออกมาใช้ก่อนถึงเวลากำหนดไม่ได้  ถือได้ว่าเป็นการบังคับตัวเอง และทำให้แผนการท่องเที่ยวในฝันเป็นไปได้จริง

แต่เมื่อคำนวนค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนแล้ว อาจจะทำให้เป้าหมายเป็นไปได้ช้า เราต้องมาพิจารณารายจ่ายของเราใหม่ว่า ส่วนใหญ่แล้วในแต่ละวันเราจ่ายไปกับอะไรบ้าง จะประหยัดส่วนไหนได้อีกหรือจำเป็นต้องหารายได้เพิ่ม ถ้าจำเป็นการหารายได้เสริมจะทำให้เป้าหมายไปถึงเร็วขึ้นเพื่อมีแรงกระตุ้นที่ดี เลือกงานที่เราถนัด และชอบก็จะช่วยได้เยอะเลยทีเดียว

3. มองหาแผนการท่องเที่ยวที่ประหยัด

3. มองหาแผนการท่องเที่ยวที่ประหยัด

พอได้วิธีเก็บเงินเพื่อการเที่ยวที่ชัดเจนแล้ว เราสามารถเริ่มวางแผนการท่องเที่ยวในแบบที่ประหยัด ต้องทำอย่างละเอียด แต่ต้องยืดหยุ่นด้วย

เช่น การวางแผนการเดินทางว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนในประเทศหรือต่างประเทศ  จะไปเที่ยวชมสถานที่อะไรบ้าง เช็ควันเวลา เปิด-ปิด และราคาเข้าชมให้ชัดเจนเมื่อไปถึงจะได้ไม่เสียเวลา ไปกี่วัน ช่วงเวลาที่เราจะไปเป็นวันหยุดยาวมั้ย ซึ่งช่วงนั้นส่วนใหญ่ราคาไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบิน โรงแรม จะแพงกว่าช่วงอื่นๆ  เราอาจจะปลี่ยนแผนการเดินทางเป็นก่อนหรือหลังวันหยุดยาวก็จะได้ประหยัดไปได้อีก

การเดินทางวิธีไหน ถ้าในประเทศขับรถไปเองหรือ ใช้รถประจำทาง มีใครไปด้วยบ้าง การมีเพื่อนไปด้วยก็สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และประหยัดค่าที่พักได้ ส่วนบางคนเลือกการเดินทางกลางคืนเพราะจะได้ประหยัดค่าที่พักได้ หรือถ้ามีเวลามากหน่อยอาจจะเลือกการเดินทางในราคาถูกแต่ใช้เวลานานหน่อย ถ้าจะไปเที่ยวต่างประเทศหาตั๋วเครื่องบินในราคาถูกได้จากสายการบินต้นทุนต่ำ อาจจะเป็นการจองล่วงหน้าข้ามปี ถ้าเราไม่รีบร้อน ก็จองไว้ จะได้มีเวลาเก็บเงินเพิ่มอีกเพราะการจองล่วงหน้ามีโอกาสที่จะได้ตั๋วเครื่องบินในราคาประหยัดและคุ้มค่าที่สุด บางที่อาจจะจองตั๋วเครื่องบินก่อน แล้วค่อยๆ จองอย่างอื่นทีหลัง

ส่วนเรื่องที่พัก เดี๋ยวนี้มีหลายช่องทางในการหาที่พักแบบราราถูก อาจจะซื้อแพ็คเกจตั๋วเครื่องบินรวมที่พัก จองผ่าน Airbnb เพื่อเช่าห้องพักกับเจ้าของห้องโดยตรง พัก Hostel หรือโฮมเสตย์ ถ้าไปนานติดต่อที่พักแบบ serviced apartment เพราะส่วนใหญ่ราคาจะถูกกว่าการเช่าโรงแรม บางที่มีห้องครัวให้ด้วยเราสามารถทำอาหารกินได้ประหยัดค่าอาหารได้อีก ถ้ามีเวลาค่อยๆ เตรียมแผนการเที่ยวล่วงหน้าที่ละขั้นตอนการท่องเที่ยวแบบประหยัด ก็จะทำให้การท่องเที่ยวในฝันเป็นจริงได้ เพียงแต่ต้องขนยันในการหาข้อมูลหน่อยๆ

4. วางแผนจองก่อนแล้วผ่อนทีหลัง

4. วางแผนจองก่อนแล้วผ่อนทีหลัง

สมัยนี้การจองที่พัก สามารถเลือกแบบจ่ายทีหลังได้ เราอาจจะจองเอาไว้ก่อน แต่จ่ายเงินตอนเข้าพักจริงหรือจ่ายล่วงหน้าบางส่วนหรือจ่ายก่อนวันเดินทาง การเลือกจองก่อนและจ่ายทีหลังจะช่วยเราเปลี่ยนแผนได้ง่ายขึ้นถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงกระทันหัน แต่ต้องดูรายละเอียดและเงื่อนไขของที่พักแต่ละแห่งให้ชัดเจนด้วยว่า การจ่ายก่อนและจ่ายทีหลัง ราคาแตกต่างกันมากมั้ย  จองแล้วสามารถยกเลิกได้มั้ย เสียค่าธรรมเนียมในการยกเลิกหรือเปล่า

หมั่นเข้าไปดูราคาที่พักใน  Agoda เรื่อยๆ ถ้าเราเจอราคาที่ถูกกว่าก็ยกเลิกแล้วจองใหม่ได้ ดูราคาด้วยว่าวันที่เราจองกับวันที่เข้าพักจริงยังราคาเดิมอยู่หรือเปล่า เพราะบางโรงแรมอาจจะอ้างว่าอัตราแลกเปลี่ยนในขณะนั้นก็ได้ ถ้าจ่ายก่อนราคาถูกกว่าก็น่าจะจ่ายเงินไปเลยจะได้ไม่ต้องกังวลกับอัตราแลกเปลี่ยนที่ขึ้นๆ ลงๆ เมื่อเราจองที่พักแล้วจะอุ่นใจมากกว่าว่าเมื่อไปถึงแล้วเรามีที่พักแน่นอน

5. เต็มที่กับการท่องเที่ยว

5. เต็มที่กับการท่องเที่ยว

จะไปเที่ยวทั้งทีเราควรจะสนุกให้เต็มที่ใช่มั้ย เพราะก่อนที่จะถึงเวลาไปเที่ยวเราได้เตรียมการล่วงหน้าเอาไว้ทุกอย่างแล้ว ทั้งเลือกสถานที่ท่องเที่ยว วิธีการเดินทาง ที่พัก อาหาร เพื่อนร่วมเดินนี้สำคัญมาก เพราะถ้าไม่ใช่คนที่รู้ใจหรือเป็นคนเรื่องมาก เจ้าระเบียบ และมีความชอบแตกต่างกัน ต่อให้สถานที่จะสวยงามแค่ไหน บรรยากาศดีเท่าไหร่ ความสนุกจะหมดไปทันที การไปเที่ยวที่สนุกและเต็มที่ต้องไม่มีการขัดแย้งกัน ต้องไปไหนไปกัน ต้องกล้าลองสิ่งใหม่ๆ ไม่ยึดติดกับความคิดเดิมๆของตัวเอง และต้องไม่ทำตัวเป็นภาระคนอื่น ถ้ามีเพื่อนร่วมทางที่เข้าใจกัน ชอบเหมือนกันรับรองทริปนั้นสนุกได้เต็มที่แน่ เราต้องคิดให้ดีก่อนว่า เราจะชวนใครไปเที่ยวกับเรา

แล้วเราต้องเคลียร์งานให้เรียบร้อยก่อนจะได้ไม่มีใครโทรตาม  เมื่อเราจัดการทุกอย่างครบทุกขั้นตอนแล้ว และพร้อมทุกอย่างเมื่อถึงวันเดินทางเราต้องทำตัวเองให้พร้อมทั้งร่างกาย และจิตใจ เพื่อจะมีความสุขอย่างเต็ม สมกับการรอคอย  โดยที่จะไม่เอาเรื่องงานหรือความเครียดต่างๆ ไปด้วย

เมื่อไปถึงสถานที่ท่องเที่ยว บางครั้งไม่จำเป็นต้องทำตามแผนที่วางไว้เสมอก็ได้ เพราะแผนการมักจะถูกควบคุมด้วยเวลา บางครั้งเราไม่สามารถควบคุมเวลา หรือสถานการณ์ล่วงหน้าได้ ถ้าเรารู้จักยืดหยุ่นเราจะสนุกกับการเที่ยวในทริปนั้นได้อย่างเต็มที่ การเที่ยวให้สนุก และเต็มที่บางทีไม่จำเป็นต้องตามคนอื่น เพราะความชอบของคนเราต่างกัน คนอื่นอาจจะชอบแต่เราอาจจะไม่ชอบก็ได้ เรื่องอาหารก็เหมื่อนกันเราไม่จำเป็นต้องยึดติดว่า ไปบ้านเมืองเขาต้องกินอาหารของเขาเท่านั้น การไปเที่ยวให้สนุกเราต้องเปิดโอกาสให้กับตัวเองได้มีประสบการณ์ใหม่ๆ บ้าง

สรุป

สรุป

การไปเที่ยวถือได้ว่าเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดต่อจิตใจ เพราะเป็นช่วงเวลาที่เราได้ผ่อนคลายจริงๆ  ได้เปิดหูเปิดตา ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้กินอาหารแปลกๆ เจอสถานที่สวยๆ บรรยากาศดีๆ เหมือนได้อยู่อีกโลกหนึ่ง เพราะเราไม่ต้องถูกควบคุมด้วยเวลา ความกดดัน ความเร่งรีบ ใครได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวก็ถือได้ว่า ได้เติมไฟให้กับตัวเอง ในชีวิตหนึ่งเราควรจะหาโอกาสไปเที่ยวบ้าง เพื่อให้รางวัลกับตัวเอง

ถ้าเรามัวแต่คิดว่า การไปเที่ยวทำให้เสียเวลา เสียเงิน เราก็จะพลาดไปอีกหลายๆอย่าง เงินเรามีโอกาสหาได้ แต่ถ้าเราแก่เกินไปอาจจะไปเที่ยวไม่ไหวแล้ว การไปเที่ยวก็ไม่ได้หมายความว่า ต้องใช้เงินเยอะๆ เสมอไป การเที่ยวแบบประหยัด ก็สามารถทำได้ สมัยนี้ธุรกิจการท่องเที่ยวมีการแข่งขันกันมากขึ้น ทำให้เรามีโอกาสได้เลือกว่าจะเที่ยวที่ไหน ราคาเท่าไหร่ เพราะมีสายการบินราคาถูกเพิ่มขึ้นมาเป็นทางเลือกของเรา เพียงแต่เราต้องมีการจัดการ วางแผนเรื่องเงิน ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหาร และเลือกเพื่อนที่จะร่วมเดินทางกับเราดีๆ การไปเที่ยวก็ไม่ใช่ป็นแค่เรื่องในฝันอีกต่อไป