4 วิธีในการจัดการกับหนี้หลายก้อน

เราอยู่ในยุคที่ก่อ ‘หนี้’ ได้ง่ายมาก เพราะค่านิยมที่เปลี่ยนไป ทำให้คนรุ่นใหม่มีค่าใช้จ่ายที่เยอะตามตัว หรือตามวิธีที่อยากให้มีคนสนใจ เช่น ติดหรู อยู่แพง หรือ ใช้ของแบรนด์เนม สิ่งเหล่านี้ไม่ผิดเลย หากเป็นคนมีฐานะทางครอบครัวที่ดี รายได้เยอะ เรื่องการเงินก็คงจะไม่เป็นปัญหามากนัก แต่ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น คือ  บางครั้งเรากลับมีค่าใช้จ่ายที่กระเบียดกระเสียด รายได้ไม่มากนักเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่าย วิธีการเข้าสังคมแบบต่างๆ จึงอาจจะทำให้มีเงินไม่พอใช้ได้เช่นกัน และนำมาสู่การหยิบยืมจากที่อื่น

ไม่ว่าจะเป็น บัตรเครดิต กู้สินเชื่อ บัตรกดเงินสด หรืออีกมากมาย ท้ายที่สุดเมื่อชักหน้าไม่ถึงหลัง ผลที่รออยู่ก็คือ การเป็นหนี้เยอะ หรือ หนี้หลายก้อน!  แต่เนื่องจากแต่ละคนก็คงมีทางเลือกไม่เหมือนกัน เราจึงเข้าใจถึงความจำเป็นในส่วนนี้ และอยากชวนทุกคนมาดู เคล็ดลับดีๆ ช่วยปลดหนี้ที่พอกพูนต่างๆ หรือ หนี้หลายก้อนได้ ส่วนรายละเอียดนั้นจะเป็นอย่างไร ตามมาดูกันได้เลยใน 4 วิธีในการจัดการกับหนี้หลายก้อนอย่างเห็นผล!

เช็ครายได้และค่าใช้จ่ายของเรา

การที่เราจะรู้จักบริหารและวางแผนการใช้จ่ายของเราให้มีระเบียบ แบ่งเงินให้เป็นสัดส่วนตามความจำเป็นและกำหนดขอบเขตของการใช้จ่าย เพื่อที่มีเหลือเงินสำหรับปลดหนี้ให้ตัวเราได้ แนวทางปฏิบัติก็คือ  การเช็ครายได้และค่าใช้จ่ายของเรา โดย

• แบ่งเงินรายได้ออกเป็นส่วนต่างๆ ตามความจำเป็น ของตน เช่น เงินสำหรับใช้ในแต่ละเดือน , เงินสำหรับจ่ายหนี้สิน , เงินค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่นๆ , เงินใช้จ่ายยามฉุกเฉิน , ค่าเดินทางไปทำงาน หรือ เงินลงทุนเพื่อให้งอกเงย เป็นต้น ซึ่งในส่วนนี้ เราก็ต้องวางแผนให้ดีว่าเรามีความจำเป็นอะไรบ้าง เพื่อที่รายได้ที่เรามีนั้นเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายของเรา จากนั้นก็ทำตามวินัยเพื่อให้เป็นไปตามที่วางแผนไว้ต่อไป
• ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น หรือ ค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยออกไป  วิธีนี้จะทำให้เรามีเงินเพิ่มอย่างรวดเร็วและทำได้ทันที โดยเริ่มจากการประหยัด จดรายการค่าใช้จ่ายทั้งหมดว่า ตัวเราเองมีรายจ่ายจำเป็นในชีวิตประจำวัน อะไรบ้าง แล้วตัดรายการที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยออกไป เช่น งานสังสรรค์ , ช็อปปิ้งกับเพื่อน , การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ , บุหรี่ หรือ เที่ยวกลางคืน ถ้าเรามีการจัดการในส่วนนี้อย่างดี  ก็จะทำให้เงินเราเหลือมากขึ้น ไม่เป็นการสร้างหนี้เพิ่ม และสร้างวินัยทางการเงินในการคิดถึงความจำเป็นก่อนการใช้จ่ายให้อีกด้วย

ตรวจดูหนี้สินทั้งหมด

การที่เรารู้จักตรวจดูหนี้สินทั้งหมด จะช่วยให้รู้ว่า เรามีรายละเอียดของหนี้อะไรและอย่างไร เช่น เป็นหนี้ที่มาจากไหนบ้าง? แต่ละที่เป็นหนี้เยอะขนาดไหน? ดอกเบี้ยล่ะเป็นอย่างไร? วิธีนี้เราจะได้รู้ว่า ควรต้องหาเงินเท่าไหร่และจะมีวิธีจัดการอย่างไรจึงจะปลดหนี้ของเราได้หมดเร็วที่สุด แนวทางปฏิบัติก็คือ

• แยกว่าเป็นหนี้ในระบบหรือนอกระบบ. หากเป็นหนี้ในระบบหมด เช่น หนี้บัตรเครดิต หรือ หนี้เงินกู้สินเชื่อ จากธนาคารต่างๆ ก็ถือว่ายังดี แต่หากมีหนี้นอกระบบที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุเดือดของอัตราดอกเบี้ย เช่น ดอกเบี้ยรายวัน หรือ ดอกอาจทบต้นทบดอก หากเราหมุนเงินไม่ทันจ่ายจะแย่เอาได้ ทางที่ดีต้องก็รีบจัดการให้หมดโดยเร็ว หรือ ไม่เป็นหนี้นอกระบบเลยจะดีที่สุด
• แยกหนี้ดีและหนี้ไม่ดี. เมื่อเรารู้จักพฤติกรรมการใช้เงินของตนเองมากขึ้นแล้ว และรู้สาเหตุของการเกิดหนี้ ก่อนควรแก้ปัญหา โดยเริ่มจากแบ่งหนี้ออกเป็น 2 ส่วน หนี้ดี คือ หนี้ที่สร้างรายได้กลับมาให้เรา เช่น หนี้ที่เกิดจากการซื้อทรัพย์สินเพื่อปล่อยเช่า เรายังพอได้ค่าเช่ามาผ่อนทรัพย์สินต่อไป หรือ มูลค่ายังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หรือได้รับกำไรจากการขาย  แต่หนี้ไม่ดี  คือ หนี้ที่ไม่สร้างเงินกลับมาให้เรา หรือการใช้เงินซื้อสิ่งของเพื่อความสุขต่าง ๆ เช่น ซื้ออุปกรณ์ไอทีเครื่องใหม่ กินก่อนผ่อนทีหลัง หรือช้อปปิ้ง เป็นต้น เราก็ยังสามารถเก็บส่วนของหนี้ดีไว้ได้ แล้วขายหนี้ไม่ดี ทิ้งไปเพื่อเพิ่มรายได้ด้วย เช่น ขายเสื้อผ้าแบรนด์เป็นมือสอง , ขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้เรามีเงินมาใช้จ่ายในระยะสั้นได้ แต่ถ้าหนี้สินนั้นลุกลามใหญ่โตจริงๆ เราก็มานั่งคิดอีกทีได้ว่าจะขายทรัพย์สินที่เป็นส่วนของหนี้ดีเพื่อมาชำระหนี้ก้อนโตนั้นหรือไม่อีกด้วย
• การรวมหนี้ หรือการรีไฟแนนซ์. เมื่อมีหนี้เยอะหรือหนี้หลายก้อน ก็หมายถึงมีดอกเบี้ยจากหลายๆ ที่ด้วย ดังนั้นวิธีที่หลายๆ คนนิยมก็คือ การรีไฟแนนซ์ซะ แต่ก็ต้องเป็นหนี้ในระบบเท่านั้น โดยจะช่วยลดจำนวนดอกเบี้ยที่เราต้องเสียลง และรวบรวมหนี้ทั้งหมดมาไว้ที่ก้อนเดียวเพื่อจะผ่อนชำระให้หมดได้ แต่ไม่ควรใช้วิธีกู้เงินมาปลดหนี้ เพราะหากเงินที่กู้มาปลดหนี้ทั้งหมดของเราไม่ได้ ก็จะกลายเป็นเรามีหนี้เพิ่มขึ้นมาอีก 1 แห่งไปด้วยซึ่งแย่กว่าเดิม

เรียงลำดับดอกเบี้ย

เป้าหมายหลักของการปลดหนี้ด้วยวิธีนี้คือ การจ่ายหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน แล้วจึงจัดการกับหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยน้อยลงมาตามลำดับ จะช่วยให้เราประหยัดเงินค่าดอกเบี้ยลงได้อีก เรียงลำดับความสำคัญของหนี้สินด้วยอัตราดอกเบี้ยที่เราต้องเสีย และลดภาระจากดอกเบี้ยลง หรือ บางคนก็เลือกวิธี ปลดหนี้จากก้อนเล็กสุด เน้นจ่ายหนี้ที่มีเหลือยอดค้างชำระน้อยที่สุดก่อน เมื่อปลดหนี้ก้อนเล็กสำเร็จอาจจะช่วยเพิ่มกำลังใจให้ทยอยปลดหนี้ก้อนโตกว่าขึ้นไปเรื่อยๆได้ และหาวิธีช่วยอื่นๆ เช่น

• เลือกหนี้ก้อนที่จะโปะ ถ้าเรามีโอกาสได้เงินก้อนมา เช่น เงินโบนัส หัวใจสำคัญคือการต้องปิดหนี้ทีละรายการ อย่านำเงินไปกระจายเงินใส่หนี้หลาย ๆ ก้อน เพราะยิ่งเป็นเหมือนการเพิ่มภาระหนี้ต่อเดือนไปอีก หนี้ไม่ลดหรอก วิธีที่ฉลาด คือการเลือกหนี้ก้อนที่เป็น แบบลดต้นลดดอกก่อน เพราะจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยของเราต่อเดือน ให้ลดน้อยลงไปได้เร็วด้วย
• เข้าใจระยะเวลาชำระหนี้ อาจเริ่มโดย เขียนสรุปหนี้สินทั้งหมด ในกระดาษแผ่นเดียวกันไปเลย หรือวาดรูปก็ได้ จะได้เห็นภาพรวมว่าหนี้ของเราเป็นแบบไหน เช่น ในกรณีหนี้แบบระยะสั้นหรือแบบระยะยาว ถ้าส่วนใหญ่เป็นหนี้แบบระยะสั้น ที่ต้องผ่อนรายเดือนมากกว่ารายได้ อาจทำได้โดยไปขอปรับโครงสร้างหนี้ด้วยการขยายเวลาชำระหนี้ออกไปให้นานขึ้น จะได้มียอดผ่อนต่อเดือนลดลง จะมีเวลาการผ่อนที่แน่นอนขึ้น  ช่วยให้ใช้จ่ายคล่องขึ้นในระยะนึง แต่อาจตามมาด้วยการจ่ายดอกเบี้ยที่มาก จึงต้องรีบเคลียร์ให้เร็ว
• ขอคำปรึกษาจากเจ้าหนี้ เมื่อเราเผชิญหน้ากับปัญหา และไม่หนีหนี้ เจ้าหนี้ก็อยากได้รับเงินคืน ทำให้การไปขอคำปรึกษาจากเจ้าหนี้จะช่วยแก้ปัญหาและหาทางออกร่วมกันได้ แต่เราควรเตรียมตัวด้วยการหาข้อมูลหรืออธิบายแบบที่ต่อรองได้ เพื่อที่เราจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการเจรจา และนำมาวางแผนให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
• ชำระหนี้ให้ตรงเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการติดตามทวงถาม และถ้าการจ่ายของเราตรงตามกำหนด มีประวัติการจ่ายชำระดี ก็อาจจะได้รับการพิจารณาปรับลดดอกเบี้ย หรือสิทธิพิเศษอื่นๆ จากเจ้าหนี้ได้
• ชำระหนี้ให้มากกว่าจำนวนเงินขั้นต่ำ หากเราคำนวณแล้วพบว่าเรากำลังเลือกวิธีการชำระหนี้ขั้นต่ำอยู่ทุกใบคงเป็นสัญญาณไม่ดีแล้วล่ะ  แต่ถ้าพบว่ายังพอมีเงินเหลือพอสมควร ให้รีบนำเงินส่วนนั้นไปจ่ายชำระหนี้ให้มากกว่ายอดเรียกเก็บขั้นต่ำโดยเร็ว เพราะเงินที่จ่ายชำระส่วนนี้เพิ่มขึ้นก็จะทำให้ยอดเงินต้นลดลง แล้วพอดอกเบี้ยน้อยลง หนี้ของเราก็จะหมดไวขึ้นด้วยไงล่ะ

หยุดสร้างหนี้ใหม่และเพิ่มรายได้

ต้องยอมรับว่า การตัดสินใจ “หยุด” อาจจะไม่ง่ายเสมอไป ยิ่งสําหรับคนที่มีการใช้จ่ายที่ถือว่าสูงกว่ารายรับมากเป็นประจำ ถ้าทุกครั้งที่เงินไม่พอใช้ อาจจะคิดทันทีว่า “จะกู้ที่ไหนดี” หรือ “ยืมใครดี” นี่อาจเข้าข่ายการเสพติดการเป็นหนี้ ดังนั้นต้องแก้ปัญหาที่ หยุดก่อหนี้เพิ่ม! เพื่อหยุดวังวนการเป็นหนี้นี้เสียที โดยมีวิธีช่วยเราลงมือ คือ

• ลดรายจ่ายฟุ่มเฟือยที่มี หากเราสามารถปรับวิธีคิด เมื่อเงินไม่พอใช้ในแต่ละเดือน โดยหาวิธีลดรายจ่ายอื่น ๆ แทนการก่อหนี้เพิ่ม ก็จะปลดหนี้ได้เร็วขึ้น อาจทำได้โดยจดบันทึกรายรับ – รายจ่าย ดูบันทึกนั้น ว่ารายจ่ายอันไหน ที่สามารถตัดทิ้งออกไปได้ เช่น ค่ากาแฟ ค่าคาเฟ่ขนมหวาน หรือ สปา เป็นต้น
• ช่องทางสร้างรายได้เพิ่ม  ลองสํารวจดูว่า ช่วงเวลาอันใกล้นี้เรามีโอกาสที่จะได้รับเงินก้อนหรือไม่ แล้ววางแผนกันเงินก้อนนี้ โดยกันเอาไว้เพื่อสําหรับชําระหนี้ก่อน หรือถ้าไม่มีเงินก้อนจริงๆ ลองวิธีนำทรัพย์สินบางอย่างที่สามารถแปลงเป็นเงินได้ ไปขายบางส่วน แล้วนําเงินมาชําระหนี้ด้วยก็เป็นได้  หรือลองทางช่องทางทำงานที่มีรายได้เสริมเพิ่ม เพราะหากยังนิ่งนอนใจไปเรื่อยๆ ดอกเบี้ยของหนี้นั้นมีแต่เพิ่มขึ้นไป เราจึงต้องขยันเพิ่มขึ้นด้วยยังไงล่ะ
• หยุดสร้างหนี้ก้อนใหม่ ถ้าหากตัวเราตอนนี้ มีหนี้ก้อนเดิมที่ยังชำระไม่หมด มันก้คือยังเป็นภาระอยู่บนบ่า  ก็ควรที่จะไม่สร้างหนี้เพิ่มเติมเลยคงดีที่สุด นอกเสียจากว่า จะเป็นการนำหนี้ก้อนใหม่มาจ่ายหนี้ก้อนเก่าให้หมดไวขึ้น และหนี้ก้อนใหม่ก็จะต้องมีดอกเบี้ยที่ถูกกว่าอีกด้วย

ปิดหนี้ได้เร็ว และเอาตัวรอดจากหนี้หลายก้อนอย่างเห็นผล!

บางคนมีความฝัน อยากทำโน่นทำนี่ อยากทำงานน้อยลงหรือออกจากงานไปท่องโลกกว้าง แต่ทำไม่ได้สักที เพราะมี “หนี้” ท่วมหัวหลายก้อนนี่ล่ะ  จึงต้องหาวิธีจัดการที่เห็นผล ยิ่งถ้าเจอกับญญาณที่บ่งบอกว่า ตัวเรากําลังมีหลุมที่ฝังตัวเองอยู่ด้วยหนี้ ดูจะนิ่งนอนใจไม่ได้ใช่ไหมล่ะ หากดูเหมือนไม่มีทางชําระให้หมดได้ง่าย ๆ ทั้ง จ่ายขั้นต่ำต่อเดือนเกิน 40% ของรายได้ ,  เริ่มกู้หนี้มาเพื่อชําระหนี้ ก็อย่าเพิ่งท้อใจกันไป เพราะหากอยากมีอิสรภาพทางการเงินเหมือนคนอื่น มีหนี้สินน้อยลง ก็ทำได้โดยจัดการกับหนี้หลายก้อนอย่างมีแบบแผน

หากสนใจเทคนิคปลดหนี้ที่ว่า ทั้งที่ต้องเจอดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทุกวัน สิ่งแรกที่เราควรทําคือ การหยุดสร้างหนี้ และตั้งสติให้ดี เพราะไม่งั้นอาจทําให้ตัวเราจมลงไปในหลุมลึกกว่าเดิมได้. หรือแนวคิดอย่างนึง ที่ทำให้หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการต่อสู้กับปัญหาหนี้สินหลายก้อน ก็คือ ถ้ามีหนี้แล้วจะออมเพิ่มไม่ได้เลย พอมีรายได้เข้ามา ก็ต้องรีบนำไปชำระหนี้ทันที เพื่อจะได้หมดหนี้เร็ว ๆ หมุนวนเข้ากระเป๋าซ้าย จ่ายออกทางกระเป๋าขวาอยู่นาน แต่สุดท้ายหนี้ยังไม่หมดไป มีแต่คุณภาพชีวิตแย่ลงกว่าเดิม ทำให้รู้ว่า การแก้หนี้แบบวิธีเก่าๆอาจไม่ได้ผล เราจึงอยากให้สนใจมาลอง 4 วิธีใหม่ๆ ในการจัดการกับหนี้หลายก้อน ซึ่งเป็นแนวทางปลดหนี้ ที่ได้ผลจริง คือ การเช็ครายได้และค่าใช้จ่ายของเรา , ตรวจดูหนี้สินทั้งหมด , เรียงลำดับดอกเบี้ย และหยุดสร้างหนี้ใหม่และเพิ่มรายได้

สุดท้ายนี้ หากใครกำลังสู้กับหนี้หลายก้อนอยู่ ก็อยากให้ลองทบทวนดู อีกสักครั้งว่า ตัวเราเวลานี้กำลังรู้สึกหนักอกหนักใจกับหนี้ก้อนไหนมากที่สุด และอยากปลดให้พ้นตัวเร็วที่สุด ถ้าคิดได้แล้วว่าเป็นหนี้ยอดไหน ก็รีบหาเงินจ่ายหนี้ก้อนนั้นได้เลยโดยเรียงลำดับจากดอกเบี้ยแบบทบต้นทบดอกก็ได้ อาจเริ่มผ่อนจ่ายหนี้ก้อนเล็กก่อน ด้วยเงินมากกว่าที่ควรจะเป็น เพื่อช่วยให้หนี้หมดได้เร็วขึ้น ส่วนหนี้ก้อนอื่นๆ ก็เรียงลำดับกระเป๋า จ่ายขั้นต่ำต่อไปเรื่อยๆ  แต่โดยสรุปแล้ว การปลดหนี้หลายก้อนที่สำคัญ ก็ต้องเริ่มที่ตัวเราเองนี่แหละ ที่ต้องปรับความคิด ปรับพฤติกรรมการใช้เงินของเรา ให้เหมาะสมกับรายได้ที่เรามีที่สุด และไม่ว่าจะเลือกใช้เทคนิคไหน ต่างก็ต้องใช้เวลา มีวินัยและอดทน  พร้อมรู้จักวางแผนการใช้จ่ายเงินให้ดี เพื่อไม่ให้กลับไปติด ‘บ่วง’ ของหนี้หลายก้อน ซ้ำแล้วซ้ำอีกนั่นเอง!